รีวิวเชิงลึก Binarium: ระบบไบนารีออปชั่น ความเห็นจากผู้ใช้ & การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง (2025)

Binarium เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายไบนารีออปชั่นที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2012 โดยทางบริษัทระบุว่าตนเองเป็นโบรกเกอร์ไบนารีแบบคลาสสิกที่มุ่งเน้นกลุ่มผู้เริ่มต้นเทรด ในบทความนี้เราจะเจาะลึกคุณสมบัติของ Binarium พิจารณาข้อดี-ข้อเสีย สำรวจประสบการณ์ผู้ใช้งานจริง และนำไปเทียบกับโบรกเกอร์ไบนารีชื่อดังอื่นๆ เช่น Pocket Option, Binolla, และ Quotex.

Binarium คืออะไร? สรุปข้อมูลเบื้องต้น

Binarium เป็นโบรกเกอร์ไบนารีออปชั่นที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 อย่างเป็นทางการ ชื่อแบรนด์นี้บริหารโดย Binarium Ltd ซึ่งจดทะเบียนในเขต Offshore (เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์) โดยอ้างว่ามีสำนักงานอยู่ในริกา เคียฟ ไนคอสเซีย และเมืองอื่นๆ

แพลตฟอร์มนี้เจาะกลุ่มเทรดเดอร์ที่พูดภาษารัสเซียและตลาดระดับสากล โดดเด่นด้วยส่วนติดต่อผู้ใช้ที่เข้าใจง่าย สำหรับเทรดสัญญา High/Low บนสินทรัพย์การเงินหลายประเภท ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่า Binarium คือ “โบรกเกอร์ที่ไม่ถูกกำกับดูแล” จึงเกิดข้อสงสัยในด้านความน่าเชื่อถือ แต่ด้วยจุดขายเรื่องเงินฝากขั้นต่ำเพียง $5 และแพลตฟอร์มที่ไม่ซับซ้อน ก็ยังคงดึงดูดมือใหม่ได้มาก

ข้อมูลสำคัญของ Binarium:

• ปีที่ก่อตั้ง: 2012
• ใบอนุญาต: ไม่มี (จดทะเบียน Offshore และไม่ได้รับการกำกับดูแลทางการเงิน)
• แพลตฟอร์มเทรด: เว็บแอปที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง + แอปมือถือ
• เงินฝากขั้นต่ำ: $5 (หรือเทียบเท่าในสกุลเงินอื่น)
• มูลค่าเทรดขั้นต่ำ: $1 ต่อออเดอร์
• อัตราผลตอบแทน: สูงสุดประมาณ 90% หากทำนายได้ถูกต้อง (ขึ้นกับสินทรัพย์และภาวะตลาด)
• สินทรัพย์: คู่สกุลเงิน, คริปโต, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี (รวมกว่า 100 เครื่องมือเทรด)
• บัญชีเดโม: มีให้ พร้อมวงเงินเสมือน $10,000 สำหรับฝึกเทรดได้โดยไม่เสี่ยง
• โบนัส: โบนัสฝากเงินสำหรับลูกค้าใหม่ (สูงสุด 100% ตามโปรโมชั่น), tradeback (cashback) สำหรับแต่ละประเภทบัญชี, ออปชั่นลดความเสี่ยง และทัวร์นาเมนต์แข่งขัน
• บริการสนับสนุน: แชท 24/7 และอีเมลหลากหลายภาษา (รัสเซีย อังกฤษ สเปน ฯลฯ) รวมถึงการติดต่อทางโทรศัพท์

รายละเอียดเชิงลึกของแต่ละประเด็นจะนำเสนอในหัวข้อถัดไป

แพลตฟอร์มการเทรด Binarium

แพลตฟอร์ม Binarium เป็นระบบเว็บแอปที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง สำหรับเทรดไบนารีออปชั่นโดยไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ การใช้งานค่อนข้างตรงไปตรงมาสำหรับผู้เริ่มต้น: กราฟสินทรัพย์จะอยู่กลางจอ ส่วนฝั่งขวาเป็นเมนูตั้งค่าเทรด (จำนวนเงิน, เวลาหมดอายุ, เลือกทิศทาง Up/Down) และซ้ายมือเป็นรายการสินทรัพย์พร้อมเมนูต่างๆ ฟังก์ชันบนแพลตฟอร์มถือว่าเพียงพอ มีทั้งประเภทกราฟ (Line, Candlestick, Bar เป็นต้น), อินดิเคเตอร์วิเคราะห์ทางเทคนิค 12 รายการ บวกฟีเจอร์ประวัติการเทรด และอื่นๆ

จุดเด่นของแพลตฟอร์ม:

• รองรับทั้งเว็บ & มือถือ: เทรดเดอร์สามารถซื้อขายผ่านเว็บเบราว์เซอร์บนคอมพิวเตอร์ หรือดาวน์โหลดแอปมือถือ (Android/iOS) ซึ่งฟีเจอร์ส่วนใหญ่ยังคงครบครัน รวมถึงเครื่องมือวิเคราะห์ในกราฟ ทำให้ติดตามตลาดได้สะดวกทุกที่
• ความเร็วและประสิทธิภาพ: ออเดอร์มักถูกดำเนินการเกือบจะทันที ซึ่งสำคัญต่อการเทรดระยะสั้น แพลตฟอร์มเสถียรแม้ช่วงตลาดผันผวน (มีผู้ใช้บางรายยกย่องเรื่องการทำงานลื่นไหลและทีมสนับสนุนที่ให้บริการได้ดี)
• เครื่องมือวิเคราะห์: อินดิเคเตอร์ยอดนิยม (เช่น SMA, RSI, Stochastic, ATR และอื่นๆ) และ Oscillator สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค คุณสามารถเปิดกราฟหลายสินทรัพย์พร้อมกันได้สูงสุด 4 กราฟ เพื่อเปรียบเทียบ รวมถึงมีการอัปเดตราคาตลาดเรียลไทม์และปฏิทินเศรษฐกิจอยู่ในเว็บไซต์
• ประเภทสัญญาเทรด: Binarium เน้นไบนารีออปชั่นรูปแบบ High/Low เป็นหลัก โดยมีช่วงระยะเวลาหมดอายุที่หลากหลาย ตั้งแต่ไม่กี่นาที (ขั้นต่ำประมาณ 5 นาที) ไปจนถึงระยะยาว 3 เดือน ซึ่งรองรับได้ทั้งเทรดระยะสั้นที่อิงข่าว และการถือออเดอร์ตามเทรนด์ระยะยาว
• Social Trading: แพลตฟอร์มมีบริการคัดลอกการเทรด (Copy-Trading) โดยผู้เริ่มต้นสามารถกดตามเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ แต่ไม่ใช่ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เพียงตั้งค่าตามสัญญาณหรือเทรดที่เลือกเอง ทั้งนี้ต้องมีเงินฝากอย่างน้อย $10 จึงจะเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้
• ศูนย์การเรียนรู้ (Educational Center): Binarium มีแหล่งข้อมูลการสอนที่ค่อนข้างครบ ทั้งวิดีโอสาธิตพื้นฐาน วิธีใช้งานแพลตฟอร์ม กลยุทธ์การเทรด รวมถึงบทความคำศัพท์ (Glossary) คำถามที่พบบ่อย (FAQ) และฟอรัมชุมชนที่เปิดให้ผู้ใช้พูดคุยแบ่งปันไอเดีย โดยรองรับถึง 18 ภาษา ศูนย์ข้อมูลที่ครอบคลุมนี้ถือเป็นจุดแข็งของ Binarium ที่มักถูกยกมาเป็นข้อดีสำหรับมือใหม่

โดยสรุป อินเทอร์เฟซของ Binarium ถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย แต่ก็มีเครื่องมือวิเคราะห์เพียงพอสำหรับเทรดเดอร์ระดับต้นจนถึงกลาง อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นเทรดเดอร์ขั้นสูงที่ต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติม (เช่น การเชื่อมต่อกับ MetaTrader 4/5 หรือการปรับแต่ง Indicator แบบเจาะลึก) คุณอาจมองว่าแพลตฟอร์มนี้ยังจำกัดการใช้งานอยู่ สำหรับการเทรดไบนารีออปชั่นแบบทั่วไป ฟังก์ชันในปัจจุบันก็ถือว่าเพียงพอ แต่หากต้องการเทรด CFD หรือ Forex พร้อมเลเวอเรจ Binarium ไม่ตอบโจทย์

สินทรัพย์ & เงื่อนไขการเทรดบน Binarium

ประเภทสินทรัพย์ที่มี

Binarium เปิดให้เทรดสินทรัพย์มากกว่า 100 รายการ ครอบคลุมตลาดการเงินหลัก ดังนี้:

• คู่สกุลเงิน (Forex): ประมาณ 20 คู่ ส่วนใหญ่เป็นคู่เงินหลักและคู่ Cross เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY เป็นต้น หากมียอดฝากสูง (ตั้งแต่ $1,000 ขึ้นไป) อาจเห็นคู่สกุลเงินเพิ่มเติมได้ถึง ~55 คู่
• คริปโตเคอร์เรนซี: มีไม่กี่ตัว เช่น BTC, ETH, LTC, XRP จับคู่กับสกุลเงิน Fiat อย่าง BTC/USD หรือ BTC/EUR รวมประมาณ 3–4 คู่ ซึ่งน้อยกว่าโบรกเกอร์บางเจ้า
• สินค้าโภคภัณฑ์: ทองคำ, เงิน, น้ำมัน, กาแฟ, น้ำตาล, ข้าวสาลี, แพลตตินัม เป็นต้น (ส่วนใหญ่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์หลัก)
• ดัชนีหุ้น: ดัชนีสำคัญระดับโลก เช่น S&P 500, Nasdaq, DAX, FTSE 100 เป็นต้น
• หุ้น (Stocks): บริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Apple, Amazon, IBM, Microsoft ฯลฯ แม้จำนวนไม่ได้กว้างขวางมาก แต่มีแบรนด์ใหญ่ครบถ้วน

ตัวเลขโดยประมาณอยู่ที่ 100–150 สินทรัพย์ (ซึ่งอาจเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับโบรกเกอร์ไบนารี แต่ก็ยังน้อยกว่าบางแพลตฟอร์มที่มีตัวเลือกเยอะกว่า อาทิ Quotex ที่มีสินทรัพย์เฉพาะด้านเพิ่มขึ้น

อัตราผลตอบแทน (Option Payout)

เมื่อคาดการณ์ทิศทางถูกต้อง Binarium จะจ่ายกำไรคงที่เป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินที่ลงทุน โดยอัตราสูงสุดบนสินทรัพย์ยอดนิยมอาจถึง 80–90% หมายความว่าหากลงทุน $10 คุณอาจได้คืน $18–19 (รวมทุน) หากจบแบบ In-The-Money อัตรา 80–90% ถือว่าใกล้เคียงมาตรฐานในตลาดไบนารี แต่บางโบรกเกอร์อาจให้มากกว่านี้

ตัวอย่างเช่น Quotex โฆษณาว่าจ่ายได้สูงสุด 95% ส่วน Pocket Option ราว 92% และ Binolla ก็ราว 92% เช่นกัน ดังนั้น Binarium จึงค่อนข้างเป็นรอง หากดูที่เพดานกำไรสูงสุดจริงๆ นอกจากนี้ อัตราจ่ายจะเปลี่ยนตามช่วงเวลาและความผันผวน บางครั้งอาจต่ำกว่านี้ (60% ในช่วงตลาดนิ่ง) หรือขยับไปถึงราว 90% ในช่วงข่าวสำคัญ

ช่วงเวลาหมดอายุ (Expiration)

Binarium ให้เลือกเวลาหมดอายุได้ตั้งแต่ 5 นาที จนถึง 3 เดือน และเหมือนจะไม่มีออปชั่นช่วงสั้นมากพิเศษ (30 วินาที หรือ 1 นาที) ซึ่งต่างจาก Pocket Option ที่มีสัญญาเร็วสุด 5 วินาที เหมาะกับสายเทรดสั้นมาก (Scalping) ขณะที่ Binarium ยืนพื้นเป็นช่วง 5 นาทีขึ้นไป เหมาะทั้งสาย Intraday และถือลากยาว

ค่าธรรมเนียม (Fees) & สเปรด (Spreads)

เหมือนโบรกเกอร์ไบนารีทั่วไป Binarium ไม่เก็บค่าคอมมิชชั่นตรงในการเทรด เพราะผลตอบแทนหักมาจาก Payout อยู่แล้ว (ค่าตอบแทนน้อยกว่า 100% ทำให้สถิติฝั่งเทรดเดอร์เสียเปรียบเล็กน้อย) นอกจากนี้ ไม่มีสเปรดแยกสำหรับสัญญาไบนารี ถ้าเทรดชนะจะได้กำไรตามเปอร์เซ็นต์ ถ้าแพ้ก็เสียเงินลงทุน ไม่มีการกล่าวถึง “ค่าธรรมเนียมไม่เคลื่อนไหว” (Inactivity Fee) ในเงื่อนไข จึงอาจสรุปว่าไม่มี

เลเวอเรจ (Leverage)

เพราะ Binarium ให้บริการแต่ไบนารีออปชั่นแบบเดิมๆ เลเวอเรจจึงไม่เกี่ยวข้อง แต่ละครั้งที่เทรดคือการลงทุนด้วยเงินคงที่ (Fixed Bet) ไม่มีการใช้มาร์จิ้นหรือยกระดับความเสี่ยง เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการ Leverage แต่ก็ทำให้ผลกำไรต่อเทรดไม่สามารถคูณหลายเท่าได้

สกุลเงินหลักของบัญชี

เมื่อเปิดบัญชี Binarium คุณสามารถเลือกสกุลเงินหลักได้ ทั้ง USD, EUR, รูเบิลรัสเซีย (RUB), ฮรีฟเนียยูเครน (UAH) หรือสกุลคริปโต (Bitcoin, Litecoin) เพื่อความสะดวกไม่ต้องเปลี่ยนสกุลเงินซ้ำ

สรุปแล้ว Binarium ออกแบบเงื่อนไขการเทรดให้เข้าใจง่ายและเริ่มต้นด้วยเงินน้อย (ฝากขั้นต่ำต่ำ ไม่มีค่าคอม) แต่อัตราผลตอบแทนไม่ถึงจุดสูงสุด และจำนวนสินทรัพย์อาจไม่มากเมื่อเทียบกับที่อื่น หากคุณเทรดระยะสั้นทั่วไปหรือเน้นข่าวเป็นหลักก็พอใช้ได้ แต่ถ้าต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นหรือฟีเจอร์ขั้นสูง Binarium อาจยังไม่ครบ

ประเภทบัญชีและโปรแกรมความภักดีของ Binarium

Binarium มีบัญชีจริง (Live Account) อยู่ 3 ประเภท คือ Standard, Premium และ VIP โดยทั้งหมดสามารถเทรดบนแพลตฟอร์มและเข้าถึงสินทรัพย์ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต่างคือโบนัส, อัตรา tradeback (cashback) และสิทธิพิเศษต่างๆ มาดูกันเลย:

• Standard Account: บัญชีมาตรฐาน เปิดได้ด้วยเงินเพียง $5 ให้เงื่อนไขการเทรดพื้นฐาน มี tradeback 5% (เป็นการคืนเงินส่วนหนึ่งตามปริมาณเทรด) แต่มีข้อจำกัดในการถอน เช่น จำกัดจำนวนคำสั่งถอน 2 ครั้งต่อวัน และเพดานการถอนรายเดือนประมาณ $2,500 เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ทุนน้อย
• Premium Account: ต้องฝากตั้งแต่ $500 ขึ้นไป Tradeback ก็ยัง 5% แต่จะได้เข้าถึง “Trading Room” ส่วนตัวที่มีชุมชนและผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา พร้อมรับสัญญาณการเทรดรายวัน (สูงสุด 30 สัญญาณต่อวัน) และสิทธิถอนเงินที่ยืดหยุ่นมากขึ้น (เงื่อนไขการถอนสูงกว่าหรือเร็วกว่า) เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เริ่มจริงจังและฝากเงินจำนวนมาก
• VIP Account: สถานะสำหรับลูกค้ารายใหญ่ที่ฝากตั้งแต่ $10,000 ขึ้นไป สิทธิพิเศษเพิ่มเติมคือ tradeback 15% ซึ่งสูงกว่าอีกสองประเภทมาก นอกจากนี้ มีสิทธิ์เข้าถึง Trading Room อย่างเต็มที่ เปิดออเดอร์พร้อมกันไม่จำกัด (บัญชีอื่นอาจจำกัดจำนวน) และไม่มีลิมิตในการถอนเงิน (ถอนได้ตามต้องการ) โดยทั่วไป VIP ได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษจากทีมงานด้วย เหมาะสำหรับสายเทรดปริมาณมากหรือนักลงทุนที่จริงจัง

บัญชีเดโม (Demo Account)

Binarium มีบัญชีทดลอง แบบฟรี ที่ให้วงเงินเสมือน $10,000 โดยเปิดให้ทุกคนใช้ได้หลังลงทะเบียน (หรือเข้าถึงบางส่วนโดยไม่ต้องลงทะเบียนเต็มรูปแบบ) บัญชีเดโมนี้ไม่จำกัดเวลา ผู้เริ่มต้นสามารถฝึกเทรดโดยไม่เสี่ยงเงินจริง หรือผู้มีประสบการณ์ก็ใช้ทดสอบกลยุทธ์ได้อย่างอิสระ

โบนัส & โปรโมชั่น

Binarium มีแคมเปญโบนัสหลายแบบ เพื่อดึงดูดลูกค้า:

• Deposit Bonus. มักมีโบนัสต้อนรับสำหรับการฝากครั้งแรก (อาจสูงสุดถึง 100% ภายใต้เงื่อนไข) และการฝากครั้งถัดไปอาจมีโบนัสเล็กน้อยหรือแจกผ่านโค้ดโปรโมชั่น เช่น ฝาก $50 ได้โบนัส 50% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นที่ประกาศในหน้าบัญชี
• Risk-Free Trades. บางครั้ง Binarium เสนอออปชั่น “เทรดโดยไม่เสี่ยง” (หากเทรดเสีย บริษัทจะคืนเงินให้) มักแนบมากับแพ็กเกจโบนัสฝากเงินบางช่วง เช่น ฝากมากๆ แล้วได้สิทธิเทรดไม่เสี่ยง 1-2 ครั้ง
• Cashback (Tradeback). Binarium จะคืนเงินส่วนหนึ่งจากปริมาณการเทรดในแต่ละสัปดาห์: Standard/Premium ได้ 5%, VIP ได้ 15% โดยคืนเป็นเงินเข้าบัญชี (ถอนออกได้) ช่วยลดแรงกระแทกจากการขาดทุน หากคุณเทรดปริมาณมาก
• Tournaments. Binarium จัดทัวร์นาเมนต์แข่งเทรดระหว่างผู้ใช้ ซึ่งมีทั้งแบบฟรี (ใช้บัญชีเดโม แต่ได้เงินรางวัลจริง) และแบบเสียค่าสมัคร (มีรางวัลใหญ่กว่า) ผู้ชนะจะได้รับเงินจริงเข้าบัญชี บางครั้งทัวร์นาเมนต์ฟรีก็แจกรางวัลหลักร้อยดอลลาร์ เหมาะเป็นสนามฝึกฝนและเพิ่มความสนุก
• Promo Codes & ดีลพิเศษ. โบรกเกอร์บางครั้งออกโค้ดโบนัสพิเศษช่วงเทศกาล (เช่น ปีใหม่ ครบรอบบริษัท) หรือกิจกรรมอื่นๆ ตรวจสอบได้ในโซเชียลมีเดียของ Binarium หรือหน้าหมวด “Bonuses” ในเว็บไซต์

แต่อย่าลืมว่า โบนัสจากโบรกเกอร์มักมีเงื่อนไขการเทรด (Trading Turnover) ค่อนข้างสูง เช่น อาจต้องทำยอดเทรด 40 เท่าของโบนัสก่อนถึงจะถอนเงินได้ Binarium ก็เช่นกัน หากไม่ต้องการติดเงื่อนไขหรือเทรดมากพอ แนะนำให้ปฏิเสธโบนัสจะดีกว่า

การฝาก & ถอนเงินใน Binarium

ช่องทางการชำระเงิน (Payment Methods)

Binarium รองรับวิธีฝาก/ถอนเงินหลายรูปแบบ ครอบคลุมผู้ใช้หลายประเทศ:

• บัตรธนาคาร: Visa, Mastercard (รวมถึง MIR สำหรับบัญชีสกุลเงินรูเบิล) ฝากเงินเข้าได้ทันที
• e-wallets: Neteller, Qiwi, WebMoney, YooMoney เป็นต้น โดยเฉพาะ Qiwi และ YooMoney เป็นที่นิยมในกลุ่มประเทศ CIS
• คริปโตเคอร์เรนซี: Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Ripple และอื่นๆ ระบบจะคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์
• โอนเงินผ่านธนาคาร (Wire Transfer): ใช้ในกรณีฝาก/ถอนจำนวนมาก แต่เวลารออาจยาวนานกว่าวิธีอื่น

คุณสามารถตั้งค่าสกุลเงินบัญชีหลักเป็น USD, EUR, RUB, UAH หรือ Crypto ที่เลือก เมื่อฝากด้วยสกุลอื่น ระบบจะแลกเปลี่ยนให้อัตโนมัติ

ค่าธรรมเนียมฝาก/ถอน

Binarium ไม่เก็บค่าธรรมเนียมในการฝากเงิน — ยอดเงินจะเข้าบัญชีเต็มจำนวน และทางโบรกเกอร์ระบุว่า “เราชดเชยค่าธรรมเนียมที่เกิดจากระบบชำระเงินภายนอก” ส่วนการถอนก็ไม่มีค่าธรรมเนียมเช่นกัน หากเทรดเดอร์มียอดเทรดหมุนเวียนถึงตามกำหนด (เช่น เทรดอย่างน้อย 2 เท่าของเงินฝาก) แต่หากคุณฝากแล้วถอนเลยโดยเทรดน้อยมาก อาจเจอค่าธรรมเนียม 10% หรือค่าธรรมเนียมตามระบบโอนนั้นๆ ด้วยเหตุผลด้านป้องกันการฟอกเงิน

ความเร็วในการถอน

ตามเงื่อนไขทางการ Binarium ระบุว่าจะดำเนินการถอนภายใน 1 ชั่วโมง หากเป็นบัญชีที่ยืนยันตัวตนแล้ว แต่ในทางปฏิบัติ บางครั้งอาจกินเวลาประมาณ 1–3 วันทำการ ขึ้นอยู่กับปริมาณคำขอและวิธีถอน หากเป็น e-wallet มักจะเร็วกว่ามาก (ไม่กี่ชั่วโมง) แต่บัตรเครดิต/เดบิตอาจรอ 1–2 วัน (บางครั้งสูงสุด 5 วันขึ้นกับธนาคาร) อีกทั้งต้องผ่านการยืนยันตัวตนก่อน จึงควรส่งเอกสารให้ครบตั้งแต่เริ่มต้น

เพดานการถอน

บัญชี Standard ถูกจำกัดการถอนรายเดือน ~ $2,500 ขณะที่ Premium/VIP มีข้อจำกัดที่น้อยกว่า หรือแทบไม่มีเลย ยอดถอนขั้นต่ำคือ $5 เท่ากับเงินฝากขั้นต่ำซึ่งค่อนข้างสะดวก บางโบรกเกอร์ตั้งขั้นต่ำไว้ที่ $10–50

คำร้องเรียนเกี่ยวกับการถอน

แม้เงื่อนไขทางการจะฟังดูดี แต่รีวิวผู้ใช้กลับสะท้อนปัญหาเรื่องการถอนค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่น มีคนโพสต์ในเว็บไซต์รีวิวว่า “พอจะถอนกำไร โบรกเกอร์บล็อกบัญชี ขอฝากเงินเพิ่มหรือยืนยันตัวตนใหม่ ทำให้ถอนเงินไม่ได้” บ้างก็บอกถูกดึงเวลาไปเรื่อยๆ นานหลายสัปดาห์ หรือถูกอ้างว่าละเมิดกฎ จนไม่สามารถถอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีออกมาได้ ซึ่งทำให้ผู้เทรดจำนวนมากมองว่าเป็นสัญญาณอันตราย บางรายต้องใช้วิธี Chargeback กับธนาคารหรือบริษัทบัตรเครดิตเพื่อเรียกเงินคืน ข้อร้องเรียนเหล่านี้สอดคล้องกัน จึงชี้ให้เห็นว่าเรื่องถอนเงินคือ “จุดเสี่ยง” สำคัญของ Binarium

Binarium กับการกำกับดูแล & ความปลอดภัย

ใบอนุญาตกำกับดูแล (Regulation) — Binarium ไม่ได้ถือใบอนุญาตจากหน่วยงานทางการเงินใดๆ (CySEC, FCA, ธนาคารกลางรัสเซีย ฯลฯ) แถมมีรายงานการเตือนจาก CySEC (ไซปรัส) ในปี 2022 ว่าบริษัท Binarium Ltd ไม่ได้รับอนุญาตให้ให้บริการลงทุนภายในยุโรป จึงถือว่าดำเนินการอย่าง “ผิดกฎหมาย” ในมุมมองบางประเทศ

เนื่องจากไม่มีใครคอยกำกับดูแล จึงไม่มีหลักประกันว่าบริษัทจะปลอดภัย เงินฝากลูกค้าอาจไม่มีระบบคุ้มครองใดๆ หากเกิดปัญหา

ประวัติการดำเนินงาน & ชื่อเสียง — แม้ Binarium จะอยู่มานาน (ตั้งแต่ 2012) ซึ่งถือว่านานสำหรับโบรกเกอร์ไบนารี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีความโปร่งใส บางบริษัทก็หลบเลี่ยงการปิดตัวได้ หรืออาจแอบดำเนินการนอกการควบคุมเป็นเวลานานจนกว่าจะถูกฟ้องร้อง

รีวิวโดยสื่อการเงินหลายแห่งจัดให้ Binarium เป็นโบรกเกอร์ที่ “ไม่น่าเชื่อถือ” เนื่องจากหลักฐานว่ามีปัญหาการถอนและโดนเตือนจากหน่วยงานกำกับดูแล แหล่งข้อมูลบางแห่งระบุว่าโบรกเกอร์นี้อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังด้านกฎหมายของบางประเทศ

ความปลอดภัยของเงินทุน (Fund Security) — บริษัทอ้างว่าถือเงินลูกค้าในบัญชีแยกต่างหาก (Segregated Account) แต่ไม่มีใครตรวจสอบได้จริงเพราะขาดการตรวจสอบบัญชีอิสระ ด้านเทคนิค เว็บไซต์ใช้ SSL เพื่อรักษาความปลอดภัยข้อมูล แต่ประเด็นความเสี่ยงทางการเงินยังคงอยู่ หาก Binarium ปิดตัว เทรดเดอร์อาจไม่มีช่องทางเรียกร้องความเสียหาย

ความโปร่งใสในการดำเนินงาน — ไม่มีรายงานทางการเงินสาธารณะ ไม่มีข้อมูลผู้บริหารระดับสูง และออฟฟิศตั้งอยู่ในเขต Offshore ทำให้ตรวจสอบยาก WikiFX หรือ Traders Union ให้คะแนนความน่าเชื่อถือต่ำ CySEC เคยออกคำเตือนเกี่ยวกับบริษัทนี้

สรุปด้านความน่าเชื่อถือ: การเลือกเทรดกับ Binarium มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากไม่มีใบอนุญาตกำกับและมีเสียงผู้ใช้กังวลเรื่องการถอนเงิน หากจะลองใช้งาน ควรเริ่มด้วยจำนวนเงินเล็กน้อย และถอนทดลองดูก่อนตัดสินใจฝากเพิ่ม รวมถึงเตรียมตัวรับความเสี่ยงของไบนารีออปชั่นซึ่งเดิมทีมีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว

มุมมองจริงจากเทรดเดอร์เกี่ยวกับ Binarium

เพื่อให้เห็นภาพครบ ต้องดูว่าผู้ใช้งานจริงพูดถึง Binarium อย่างไร รีวิวออนไลน์ค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ชมเชยไปจนถึงวิจารณ์อย่างรุนแรง เรามาสรุปเทรนด์สำคัญ:

คะแนนรีวิวบนเว็บไซต์อิสระ

โดยรวมแล้ว Binarium ได้คะแนนต่ำบนเว็บไซต์รีวิวใหญ่ๆ:

• Otzovik (เว็บรีวิวภาษารัสเซีย): คะแนนเฉลี่ยราว 1.9 จาก 5 (มีรีวิวประมาณ 140 รายการ) และมีเพียง 21% ที่แนะนำโบรกเกอร์นี้ บ่งบอกความพึงพอใจต่ำ บางความคิดเห็นบอกว่ามีรีวิวเชิงบวกที่อาจเป็น “หน้าม้า”
• Trustpilot (เว็บรีวิวสากล): คะแนนล่าสุดที่อ้างถึงอยู่ราว 1.7 จาก 5 (รีวิว 20+ รายการ) บ้างก็อ้างตัวเลข 2/5 มีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการถอนเงินไม่ได้ เหมือนกัน
• Reviews.io: พบรีวิวเชิงลบจำนวนมาก กล่าวหาว่าเป็น “โบรกเกอร์ที่ไม่ซื่อสัตย์” หลายคนเสียเงินไปและบางรายได้คืนผ่าน Chargeback เท่านั้น
• เทียบกับคู่แข่งใหม่อย่าง Binolla: มีคะแนนรีวิวดีกว่า (Sitejabber ได้ 4.1/5 จาก 44 รีวิว) แม้อาจมีการตลาดแฝง แต่ความแตกต่างก็ค่อนข้างชัดเจน

รีวิวด้านบวก

มีผู้ใช้บางส่วนให้คะแนนดี ชื่นชมแพลตฟอร์มที่ใช้ง่าย การฝากเงินที่รวดเร็ว และบัญชีเดโมที่เป็นประโยชน์ บางคนยืนยันว่า “ถอนเงินได้จริง ไม่มีปัญหา”

ในฟอรัม GuruTrade มีคนบอกว่า “Binarium เป็นโบรกเกอร์ไบนารีที่ดี เงื่อนไขไม่ซับซ้อน แพลตฟอร์มเสถียร เจ้าหน้าที่สนับสนุนรวดเร็ว” บ้างก็ชอบว่ามีซัพพอร์ตภาษารัสเซียตลอดเวลา ไม่โทรตามตื้อให้ฝากเงินเหมือนโบรกเกอร์บางราย

อีกส่วนที่คนชมคือบัญชีเดโม $10,000 ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่ฝึกฝน และทัวร์นาเมนต์แข่งเทรด (ฟรีหรือเสียค่าสมัคร) ที่มีเงินรางวัลจริง ก็ถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ

รีวิวด้านลบ

อย่างไรก็ตาม รีวิวเชิงลบมีจำนวนมากกว่ามาก ประเด็นสำคัญที่เจอเป็นประจำ:

• ปัญหาการถอนเงิน: คือหัวข้อหลัก ผู้ใช้หลายคนบอกว่าทุกอย่างราบรื่นจนกระทั่งขอถอนกำไรก้อนใหญ่ แล้วบัญชีถูกบล็อก หรือโดนขอเอกสารเพิ่มเติมไม่สิ้นสุด บ้างถูกขอฝากเงินเพิ่มเพื่อ “ปลดล็อก” ระบบถอน ซึ่งเป็นสัญญาณที่มักถูกมองว่าหลอกลวง บางคนรอเงินนานเป็นเดือนก็ไม่ได้ บางรายจึงต้องทำ Chargeback ผ่านธนาคารหรือบริษัทบัตร
• Quotes ถูกบิดเบือน: มีข้อกล่าวหาว่า Binarium “ปรับกราฟ” ทำให้ราคาปิดออกมาแพ้ แต่บนกราฟของเจ้าอื่นไม่เกิดขึ้น หรือบางช่วงที่ตลาดผันผวน แพลตฟอร์มเกิดขัดข้องจนเทรดเดอร์เสียโอกาส หลักฐานเป็นความคิดเห็นของผู้ใช้ แต่พิสูจน์ได้ยาก
• เงื่อนไขโบนัส: ผู้ใช้บางรายไม่พอใจที่ได้รับโบนัสโดยไม่ได้กดรับเอง หรือไม่ทราบว่าต้องทำเทรดจำนวนมากก่อนถอน ตัวโบรกเกอร์อาจใส่โบนัสให้โดยอัตโนมัติจนเกิดปัญหาในการถอนภายหลัง
• การสนับสนุนลูกค้า: บางคนบ่นว่าพอถามเรื่องทั่วไป เจ้าหน้าที่ตอบไว แต่ถ้าเกี่ยวกับถอนเงินล่าช้า กลับถูกบ่ายเบี่ยงหรือได้รับคำตอบซ้ำๆ ว่า “อยู่ระหว่างดำเนินการ”

อนึ่ง ตลาดไบนารีออปชั่นเองก็เสี่ยงสูง คนแพ้มากเป็นเรื่องปกติ แต่จำนวนข้อร้องเรียนเรื่องถอนเงินของ Binarium นั้นสะดุดตา เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นอย่าง Pocket Option หรือ Quotex ซึ่งอาจมีปัญหาบ้างแต่ดูไม่รุนแรงเท่านี้ บางคนสรุปว่า “ฝากเล่นนิดๆ หน่อยๆ ถอนได้ไม่ยาก แต่ถ้ากำไรเยอะ โอกาสเจอปัญหาสูง”

บทสรุปจากรีวิวผู้ใช้

ชื่อเสียงของ Binarium ในหมู่เทรดเดอร์ออกไปในเชิงลบมากกว่าบวก สะท้อนทั้งเรื่องถอนเงินล่าช้า/ไม่จ่าย และถูกหน่วยงานทางการบางแห่งเตือน หลักฐานเชิงประจักษ์เหล่านี้ทำให้ความไว้วางใจต่อแพลตฟอร์มลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ยังมีฐานลูกค้าส่วนหนึ่งที่ใช้งานโดยไม่มีปัญหา อาจเพราะเทรดเงินน้อยหรือยังไม่ได้ถอนกำไรก้อนใหญ่

เปรียบเทียบ Binarium กับโบรกเกอร์อื่น (Pocket Option, Binolla, Quotex)

ตลาดไบนารีออปชั่นมีผู้ให้บริการจำนวนไม่น้อย และ Binarium ต้องเผชิญการแข่งขันสูง ลองเทียบกับโบรกเกอร์ชื่อดังอย่าง Pocket Option, Binolla, และ Quotex ในประเด็นหลัก โดยสรุปในตารางด้านล่าง:

หมายเหตุ: โบรกเกอร์เหล่านี้ล้วนไม่มีใบกำกับดูแลที่เป็นทางการ ตัวเลขผลตอบแทนสูงสุดจะแปรผันตามสินทรัพย์ และเงินฝากขั้นต่ำอาจแตกต่างตามประเทศ

Binarium vs. Pocket Option

Pocket Option เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ไบนารีที่เติบโตเร็วตั้งแต่ปี 2017 ดึงดูดผู้ใช้กว่าแสนรายทั่วโลก:

• สินทรัพย์และประเภทออปชั่น: Pocket Option มีสินทรัพย์หลากหลาย (100+ รายการ) และช่วงเวลาหมดอายุสั้นมาก (เริ่มต้น 5 วินาที) ตรงข้ามกับ Binarium ที่สั้นสุดอยู่ราว 5 นาที Pocket Option จึงโดนใจเทรดเดอร์สาย Scalping
• อัตราผลตอบแทน: Pocket Option ให้สูงสุดราว 90–92% ขณะที่ Binarium ประมาณ 80–90% ทั้งคู่ฝากขั้นต่ำแค่ $5 เท่ากัน แต่ Pocket Option ไม่จำกัดการถอนรายเดือน (Binarium จำกัด $2,500/เดือนสำหรับบัญชี Standard)
• แพลตฟอร์ม & ฟีเจอร์: ทั้งสองเป็นเว็บแพลตฟอร์มใช้ง่าย แต่ Pocket Option โดดเด่นเรื่อง “Social Trading” เช่น Live Chat, Leaderboard, Copy Trading ส่วน Binarium ก็มี Copy-Trading แต่ไม่เน้นโซเชียลเท่า Pocket Option อีกทั้ง PO มีแอปสำหรับ Windows โดยเฉพาะ ส่วน Binarium มีเฉพาะเว็บและมือถือ
• โบนัส & โปรโมชั่น: ทั้งคู่แจกโบนัสฝากเงิน Pocket Option ให้ราว 50% ในครั้งแรก ขณะที่ Binarium อาจให้สูงถึง 100% แต่ก็แลกกับเทิร์นโอเวอร์สูงๆ เช่นกัน
• ความเชื่อมั่นผู้ใช้: แม้ Pocket Option จะไม่มีใบอนุญาตเช่นกัน แต่ดูมีปัญหาร้องเรียนการถอนน้อยกว่า Binarium และยังไม่เคยถูกเตือนโดยหน่วยงานใหญ่ ชุมชนเทรดเดอร์ส่วนใหญ่มองว่ามีความน่าเชื่อถือกว่าระดับหนึ่ง

สรุป: Pocket Option มีสินทรัพย์ที่หลากหลายกว่า อัตราผลตอบแทนสูงกว่า และฟีเจอร์ชุมชนที่แข็งแกร่งกว่า เหนือกว่า Binarium ในหลายด้าน ขณะที่ Binarium เด่นตรงการฝากขั้นต่ำแค่ $5 และศูนย์การเรียนรู้ขนาดใหญ่ แต่ภาพรวม Pocket Option ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับเทรดเดอร์สายไบนารี

Binarium vs. Binolla

Binolla ถือเป็นผู้เล่นใหม่ในวงการ “ไบนารี/ดิจิทัลออปชั่น” (ปี 2023) แต่กำลังมาแรงอย่างมาก:

• เทคโนโลยี & แพลตฟอร์ม: Binolla ออกแบบแพลตฟอร์มให้ทันสมัย ใช้งานง่าย และประมวลผลได้เร็ว ประเภทสินทรัพย์และรูปแบบการเทรด High/Low คล้าย Binarium ส่วนการจ่ายผลตอบแทนสูงสุดอาจแตะ 92–95% (ขึ้นกับเงื่อนไข) ซึ่งใกล้เคียงหรือมากกว่า Binarium
• เงื่อนไขเริ่มต้น: Binolla กำหนดฝากขั้นต่ำ $10 (สูงกว่า Binarium ที่ $5 เล็กน้อย) ส่วนมูลค่าเทรดขั้นต่ำยังคงอยู่ที่ $1 ระบบชำระเงินก็คล้ายกัน มีทั้งบัตร, e-wallet, คริปโต แต่ Binolla เน้นเชื่อมโยงกับคริปโตมากกว่า เช่น Binance Pay
• จุดขาย: Binolla ให้ความสำคัญกับผู้เริ่มต้น ทั้งบทเรียน สัญญาณการเทรด ผู้จัดการบัญชีส่วนตัว (ในบางระดับ) และโฆษณาเรื่องถอนเงินได้อย่างรวดเร็ว จากรีวิวเบื้องต้นก็พูดในทางดี แม้ว่าบริษัทจะเป็น Offshore เช่นกัน
• รีวิว & ความเชื่อถือ: เนื่องจาก Binolla ยังใหม่ รีวิวในแหล่งใหญ่ๆ ส่วนใหญ่เป็นบวก เช่น Reviews.io บอกว่า “เป็นโบรกเกอร์ที่เหมาะกับมือใหม่ ฝากขั้นต่ำ $10 ถอนเงินไว” Sitejabber ให้ 4.1/5 แต่ด้วยความใหม่ อาจต้องดูกันยาวๆ ว่าจะมีปัญหาหรือไม่ ในขณะที่ Binarium มีประวัติรีวิวลบยาวนาน

สรุป: ทั้งสองมีบริการไบนารีที่คล้ายกัน Binolla ดูทันสมัยและมีฟีเจอร์ลูกเล่นมากกว่า รวมถึงรีวิวเชิงบวกในระยะแรก ทำให้หลายคนมองว่าน่าสนใจกว่า Binarium โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงปัญหาการถอนเงินที่ Binarium เผชิญ อย่างไรก็ตาม Binolla เองก็ยังขาดประวัติยาวนาน จึงต้องติดตามต่อไป

Binarium vs. Quotex

Quotex อีกหนึ่งแบรนด์สำคัญในวงการไบนารี/ดิจิทัลออปชั่น เปิดตัวช่วงปี 2019:

• แพลตฟอร์ม & เครื่องมือ: Quotex มีเว็บเทอร์มินัลที่หลายคนชื่นชมว่าทันสมัย โหลดเร็ว มีสินทรัพย์กว่า 400 รายการซึ่งมากกว่า Binarium ช่วงเวลาหมดอายุเริ่มตั้งแต่ 5 วินาทีจนถึง 4 ชั่วโมง ครอบคลุมทั้งสายสั้นและระยะกลาง ส่วน Binarium อยู่ที่ 5 นาทีถึง 3 เดือน มีอินดิเคเตอร์กว่า 15 ตัว จึงมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่หลากหลาย
• อัตราผลตอบแทน & เงื่อนไข: Quotex โด่งดังเรื่องจ่ายสูงสุดถึง 95% ถือเป็นระดับท็อปของตลาด ส่วน Binarium จะค่อนข้างต่ำกว่า (80–90%) ขณะที่ฝากขั้นต่ำของ Quotex อยู่ที่ $10 แต่ถือว่าก็ไม่สูงนัก
• จุดเด่นเฉพาะ: Quotex เน้นประสิทธิภาพความเร็วของแพลตฟอร์มและสินทรัพย์จำนวนมาก ไม่มีฟีเจอร์ Social เท่าบริษัทอื่น แต่มีเครื่องมือสัญญาณการเทรดให้ในระบบ ส่วน Binarium จะมีทัวร์นาเมนต์และ Copy-Trading
• ชื่อเสียง & ความเชื่อมั่น: แม้ Quotex ยังเป็น Offshore เช่นกัน แต่ได้รับความนิยมสูงในหมู่นักเทรดไบนารี และยังไม่เคยมีประเด็นเตือนจากหน่วยงานทางการเหมือนกรณี Binarium มีคะแนนรีวิว Trustpilot ค่อนข้างดี (4.5–4.9/5) แม้อาจมีการตลาดช่วยก็ตาม

สรุป: Quotex ถือว่าเหนือกว่าในหลายด้าน — ทั้งความเร็ว การจ่ายสูง และสินทรัพย์มาก แถมชื่อเสียงด้านการถอนเงินก็ดีกว่า Binarium ข้อได้เปรียบของ Binarium มีแค่ฝากขั้นต่ำ $5 หรือเนื้อหาการศึกษาเยอะ แต่โดยภาพรวม Quotex คือตัวเลือกที่แข็งแกร่งกว่าในกลุ่มเดียวกัน

ข้อสังเกตโดยรวม

เมื่อเทียบกับคู่แข่ง Binarium จะเสียเปรียบในหลายมิติ:

• ความเชื่อมั่น & ความน่าเชื่อถือ: แม้ทั้งหมดจะไม่มีใบอนุญาตทางการ แต่ Binarium ถูกหน่วยงานบางแห่งเตือน และมีประวัติร้องเรียนถอนเงินมากกว่าค่ายอื่น
• อัตราผลตอบแทน & เงื่อนไขเทรด: Binarium อยู่ช่วง 80–90% ขณะที่ Pocket Option, Quotex, Binolla ทำได้ถึง 92–95% บางรายก็มีสินทรัพย์เยอะกว่า
• ฟีเจอร์ & ประสบการณ์ใช้งาน: แต่ละโบรกเกอร์มีจุดแข็งเฉพาะ Binarium มีจุดเด่นตรงคลังความรู้ แต่ Pocket Option โดดเด่นด้าน Social, Quotex เด่นเรื่องสินทรัพย์เยอะ/ค่าตอบแทนสูง, Binolla ก็ใหม่และเน้นเทคโนโลยี ทันสมัย
• เงินฝากขั้นต่ำ: Binarium อาจได้เปรียบเพราะตั้งขั้นต่ำ $5 ส่วน Quotex/Binolla อยู่ที่ $10
• ความเสี่ยงด้านใบอนุญาต: ทุกเจ้ามีสถานะ Offshore แต่ Binarium โดน CySEC เตือนตรงๆ

ดังนั้น หากพิจารณาเฉพาะมุมตลาดไบนารี Binarium ไม่ใช่ตัวเลือกโดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่งรุ่นใหม่หรือที่นิยมในขณะนี้

บทสรุป: Binarium น่าสนใจหรือไม่?

Binarium เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ไบนารีที่เปิดมานาน มีแพลตฟอร์มเข้าใจง่าย และเงินฝากขั้นต่ำเพียง $5 พร้อมคลังความรู้ขนาดใหญ่ ซึ่งอาจดึงดูดผู้เริ่มต้น และยังมีบัญชีเดโม $10,000 ที่ให้ฝึกฝนโดยไม่เสี่ยงเงินทุนจริง

แต่เมื่อสำรวจข้อมูลเชิงลึกและรีวิวผู้ใช้ พบว่ามีข้อเสียสำคัญเรื่อง “ไม่มีใบกำกับดูแล” และ “ปัญหาการถอนเงิน” ที่ปรากฏให้เห็นบ่อย หลายคนวิจารณ์รุนแรงถึงขั้นเรียกว่า “หลอกลวง” หรือไม่ก็ชี้ว่า Binarium มีพฤติกรรมไม่โปร่งใสในการจ่ายเงิน นอกจากนี้ หากเทียบกับโบรกเกอร์คู่แข่ง ก็มีแพลตฟอร์มหรือเงื่อนไขที่ดีกว่า (เช่น อัตราผลตอบแทนสูงกว่า ฟังก์ชันการใช้งานมากกว่า หรือข้อร้องเรียนน้อยกว่า) เช่น Pocket Option, Quotex, หรือ Binolla

โดยสรุป เราประเมิน Binarium ว่า:

• ประสบการณ์ผู้ใช้: อยู่มานาน มีคนใช้งานจริง แต่เสียงบ่นถอนเงินค้างเป็นจำนวนมาก
• มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: เว็บไซต์จัดอันดับอย่าง Traders Union, BrokerChooser ให้คะแนนต่ำ อ้างอิงคำเตือน CySEC
• สถานะใบอนุญาต: ขาดการกำกับดูแล ออฟฟิศอยู่ Offshore เคยโดน CySEC เตือน
• ภาพรวมความน่าเชื่อถือ: มีข้อกังขาสูงในหมู่นักลงทุน และรีวิวส่วนใหญ่เป็นด้านลบ

ข้อแนะนำ: หากคุณยังสนใจลอง Binarium ควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินเล็กน้อย ทดสอบถอนเงินเล็กน้อยก่อน และพิจารณาให้ดีหากจะรับโบนัส เพราะมีเงื่อนไขเทรดสูง อาจทำให้ติดปัญหาตอนถอน ส่วนใครไม่ต้องการความเสี่ยงสูงจากโบรกเกอร์ Offshore ที่มีปัญหาถอนเงิน ควรพิจารณาตัวเลือกอื่นอย่าง Pocket Option, Quotex, หรือ Binolla ซึ่งมีภาพลักษณ์และรีวิวผู้ใช้ในเชิงบวกมากกว่า

สุดท้าย หากต้องการความปลอดภัยจากโบรกเกอร์ที่ถูกกำกับดูแลจริงๆ ในตลาดไบนารีอาจหาได้ยาก เพราะหลายประเทศเข้มงวดหรือห้ามการซื้อขายไบนารีแล้ว แต่อาจเลือกเทรดออปชั่นในรูปแบบ CFDs กับโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับใบอนุญาต (แต่ต้องตรวจสอบว่ามีบริการออปชั่นหรือไม่)

ทั้งหมดนี้คือมุมมองที่เราพยายามนำเสนออย่างซื่อตรง เพื่อให้คุณตัดสินใจอย่างมีข้อมูล โปรดจำไว้เสมอว่า การเทรดออนไลน์มีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาหาความรู้ให้เพียงพอ และใช้ทุนที่ยอมรับการสูญเสียได้ ขอให้โชคดีในการเทรด!

Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com