โปรแกรมพันธมิตร AMarkets: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเทรดเดอร์และพาร์ทเนอร์ (2025)

โปรแกรมพันธมิตร AMarkets เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์และเว็บมาสเตอร์ทั่วโลกสร้างรายได้แบบพาสซีฟ โดยร่วมมือกับหนึ่งในโบรกเกอร์ Forex ระดับสากลที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2007 AMarkets พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีชื่อเสียง ในช่วงเวลากว่า 16 ปี บริษัทได้ขยายเครือข่ายเป็น พันธมิตรกว่า 3,000 ราย และมีเทรดเดอร์มากกว่า 1,000,000 บัญชี ซึ่งจ่ายค่าตอบแทนให้พาร์ทเนอร์รวมกว่า $50 ล้าน ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของ AMarkets และชื่อเสียงที่แข็งแกร่งในวงการพันธมิตร

นอกจากนี้ AMarkets ยังได้รับรางวัลระดับสากลมากมาย เช่น “Best Affiliate Programme 2023” จากเวที PAN Finance Awards รวมถึงได้รับคะแนนรีวิวที่ยอดเยี่ยม: Trustpilot ของ AMarkets อยู่ที่ 4.8 เต็ม 5 และมีค่า NPS (Net Promoter Score) อยู่ที่ 74 สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม (42) สะท้อนความไว้วางใจที่ทั้งลูกค้าเทรดและพันธมิตรมอบให้ อีกทั้ง AMarkets เป็นโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต (จดทะเบียนในเกาะ Mwali และเป็นสมาชิก The Financial Commission) ทำให้ลูกค้าได้รับการคุ้มครองสูงถึง €20,000 ต่อเคส ข้อดีนี้ส่งผลถึงพันธมิตรโดยตรง เพราะการเชิญลูกค้าเข้าโบรกเกอร์ที่ถูกกำกับดูแลและมีชื่อเสียง จะทำให้คุณดึงดูดลูกค้าได้ง่ายขึ้นอย่างมาก

ทำไมโปรแกรมพันธมิตรของ AMarkets ถึงน่าสนใจขนาดนี้? ประการแรก พวกเขามีอัตราค่าคอมมิชชันสูง และมีรูปแบบความร่วมมือที่หลากหลาย ประการที่สอง พันธมิตรได้รับการสนับสนุนเต็มที่ ตั้งแต่สื่อโฆษณาฟรี ไปจนถึงทีมซัพพอร์ตและฝ่ายเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง ประการที่สาม มีเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทนที่ดีมาก (รวมถึงการถอนรายได้แบบรายวันโดยไม่มีค่าธรรมเนียม) นอกจากนี้ ยังมีเสียงยืนยันจากพาร์ทเนอร์ที่ทำเงินได้หลักพันดอลลาร์ต่อเดือนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีปัญหาล่าช้าในการถอนเงิน บทความนี้จะอธิบายตั้งแต่ต้นจนจบ

โปรแกรมพันธมิตร AMarkets คืออะไร?

โปรแกรมพันธมิตรของ AMarkets เป็นระบบที่บริษัทจะจ่ายค่าคอมมิชชันให้คุณ (พันธมิตร) หากคุณนำลูกค้าใหม่มาสู่โบรกเกอร์ กล่าวง่าย ๆ คือ คุณโปรโมต AMarkets (ให้เพื่อน, ผู้ติดตาม, หรือคนสนใจเทรด) เมื่อพวกเขาลงทะเบียนผ่านลิงก์ของคุณและเริ่มเป็นลูกค้าตัวจริง คุณจะได้รับรายได้จากการเทรดหรือเงินฝากของพวกเขา ซึ่งขึ้นอยู่กับโมเดลความร่วมมือที่เลือก โบรกเกอร์ยังมีระบบหลายชั้น (Multi-level) ช่วยให้คุณได้รับรายได้เพิ่มเติมจากพาร์ทเนอร์ที่คุณแนะนำเข้าระบบด้วย (เรียกว่า Sub-affiliates) ยิ่งคุณขยายเครือข่ายได้มาก รายได้ยิ่งเพิ่มพูนแบบทวีคูณ

ใคร ๆ ก็เป็นพาร์ทเนอร์ AMarkets ได้ หากคุณสนใจจะทำตลาดให้บริการเทรด ไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์ที่มีผู้ติดตามอยู่แล้ว แนะนำโบรกเกอร์ให้กับคนที่มาศึกษาการเทรด หรือเป็นเจ้าของเว็บไซต์/บล็อกด้านการเงิน เป็นนัก Arbitrage Traffic หรือที่ปรึกษาการลงทุน หรือแม้แต่ YouTuber สายหารายได้ออนไลน์ ฯลฯ

ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตพิเศษหรือเปิดบริษัทเพื่อเริ่มต้น สมัครกับโบรกเกอร์แล้วเริ่มได้เลย แตกต่างจากลูกค้าที่จะเทรดจริง พันธมิตรส่วนใหญ่ไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน (KYC) เต็มรูปแบบ เว้นแต่คุณต้องการถอนเงินผ่านบัญชีธนาคารหรือบัตร ซึ่งอาจต้องมีการยืนยันตามกฎเรื่องความปลอดภัย หมายความว่าคุณสามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียเวลากับขั้นตอนเอกสารมากมาย

จุดสำคัญคือการทำงานแบบ Win-Win: คุณมีรายได้ โบรกเกอร์ได้ลูกค้าใหม่ ลูกค้าเองก็เทรดกับโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ เนื่องจาก AMarkets ต้องการดึงลูกค้าใหม่เข้ามา พวกเขาจึงให้ความสำคัญในการสนับสนุนพันธมิตร จึงเห็นได้ว่าเงื่อนไขต่าง ๆ ถูกออกแบบมาอย่างดีและปรับปรุงตลอดเวลา เราจะไปดูกันว่าโมเดลค่าคอมมิชชันที่ AMarkets มีให้เป็นอย่างไร และคำนวณรายได้ได้อย่างไร

เงื่อนไขและโมเดลค่าตอบแทนของ AMarkets

โปรแกรมพันธมิตรของ AMarkets รองรับ 2 โมเดลหลัก ทำให้พันธมิตรปรับใช้กลยุทธ์ได้อย่างยืดหยุ่น ได้แก่ “Agent” (Revenue Share) และ “Webmaster” (CPA + CPL) ทั้งสองรูปแบบจ่ายสูงสำหรับลูกค้าที่แอคทีฟ แต่แตกต่างกันในแง่ของโครงสร้างรายได้—อาจคำนวณจากเปอร์เซ็นต์ของรายได้โบรกเกอร์/ปริมาณการเทรด หรือจ่ายแบบคงที่ (Fix) สำหรับการนำลูกค้าลงทะเบียนและฝากเงิน โดยคุณสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะกับแหล่งทราฟฟิกของคุณ (หรืออาจผสมกันได้ แต่ส่วนใหญ่เริ่มด้วยอย่างใดอย่างหนึ่ง)

โมเดล “Agent” (Revenue Share)

นี่คล้ายกับระบบ IB (Introducing Broker) แบบคลาสสิก คุณจะได้รับส่วนแบ่งจากรายได้ที่โบรกเกอร์ได้จากการเทรดของลูกค้าซึ่งคุณแนะนำ หมายความว่าคุณจะมีค่าคอมมิชชันต่อเนื่องทุกครั้งที่ลูกค้าเทรด ใน AMarkets อัตราค่าตอบแทนค่อนข้างสูง คุณได้รับส่วนแบ่งจากรายได้โบรกเกอร์ได้ถึง 60% หรือเทียบประมาณ $15 ต่อ 1 ล็อตที่ลูกค้าเทรด ค่าคอมฯ จะถูกคำนวณจากปริมาณการเทรด (สเปรด คอมมิชชัน) ไม่ว่าลูกค้าจะได้กำไรหรือขาดทุน

จุดเด่นของโมเดล Revenue Share ที่ AMarkets:

อัตราการจ่ายสูง

พันธมิตรอาจได้รับสูงถึง 60% ของรายได้โบรกเกอร์ ซึ่งเทียบได้กับ ~$15 ต่อ 1 ล็อต หากเทียบกับคู่แข่งบางเจ้าที่เสนอ 55% หรือ 70% (แต่จำกัดเฉพาะบางสินค้า) อัตราของ AMarkets ยังถือว่าแข่งขันได้ดี และเหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณเทรดสูง

คำนวณรายได้รายวัน

ระบบจะคำนวณค่าคอมมิชชันทุกวัน ตามปริมาณเทรดของลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง คุณสามารถถอนรายได้นั้นได้ทุกวัน ไม่มีการค้างไว้ในบัญชีพันธมิตรนาน ๆ ซึ่งแตกต่างจากโบรกเกอร์บางเจ้าที่จ่ายค่าพันธมิตรเดือนละครั้ง ใน AMarkets คุณมีอิสระที่จะถอนเงินบ่อยเท่าที่ต้องการ

โครงสร้างหลายระดับ (Multi-Level)

เมื่อคุณเชิญพาร์ทเนอร์คนอื่นให้มาร่วมเป็น Agent หรือ Webmaster คุณจะได้รับ 15% จากรายได้ของพาร์ทเนอร์ (สายสอง) และ 5% จากพาร์ทเนอร์ที่สายสองชวนมาอีกต่อ (สายสาม) ยกตัวอย่าง คุณเชิญ John มาเป็นพาร์ทเนอร์ และ John สร้างรายได้ $1,000 ต่อเดือน คุณจะได้ 15% = $150 ถ้า John ชวน Peter มาอีก และ Peter ได้ $500 John จะได้ 15% ของ $500 = $75 และคุณจะได้ 5% ของ $500 = $25

โครงสร้าง 3 ระดับของ AMarkets นับว่าค่อนข้างได้เปรียบ บางเจ้าก็มีหลายชั้นเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยโปร่งใสหรือจ่ายเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่า AMarkets กำหนด 15% และ 5% แบบชัดเจน นับว่าเป็นดีลที่น่าสนใจ

ไม่มีเพดานรายได้

คุณจะทำเงินได้ไม่จำกัด แม้ลูกค้าที่ชวนมามีวอลุ่มเทรดสูงเป็นพิเศษ ก็ไม่มีการตัดลดเปอร์เซ็นต์ ภายใต้เงื่อนไขปกติของ AMarkets คุณจะรับรายได้ต่อไปเรื่อย ๆ บวกกับได้ค่าตอบแทนเพิ่มจากสาย 2 และสาย 3 สามารถสร้างรายได้ทวีคูณได้หากคุณสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่ใหญ่ขึ้น

นอกจากนี้ AMarkets ยังรับภาระค่าธรรมเนียมการถอนทั้งหมด หมายถึงพันธมิตรจะได้รับเงินเต็ม 100% ถ้าคุณถอนผ่าน Neteller และมีค่าธรรมเนียม 2% โบรกเกอร์จะเป็นผู้รับผิดชอบตรงนั้นเอง นับเป็นนโยบายการจ่ายเงินที่ค่อนข้างเป็นมิตรและน่าเชื่อถือ

โมเดล “Webmaster” (CPA + CPL)

รูปแบบนี้เหมาะสำหรับเจ้าของเว็บไซต์, สาย Media Buyer หรือผู้ทำการตลาดที่อยากได้ค่าตอบแทนแบบ “จ่ายตามประสิทธิภาพ” ของการลงทะเบียน หรือฝากเงินครั้งแรก โดย AMarkets มีระบบ CPL + CPA แบบผสม

คุณสมบัติหลักของ Webmaster:

CPL (Cost per Lead)

คุณจะได้รับเงินคงที่ทุกครั้งที่มีผู้สมัครสมาชิกผ่านลิงก์ แล้ว “ยืนยันตัวตน” โดยยืนยันอีเมล โทรศัพท์ และเอกสารตามที่กำหนด ใน AMarkets ค่าตอบแทนส่วนนี้อาจอยู่ระหว่าง $5–$20 ต่อ 1 Lead หมายความว่าแม้ผู้ใช้จะยังไม่ได้เริ่มเทรด คุณก็ได้ค่าคอมฯ ตรงนี้ก่อนแล้ว

CPA / CPS (Cost per Acquisition / Sale)

เมื่อผู้ใช้ที่คุณแนะนำทำการฝากเงินครั้งแรกและเริ่มเทรด คุณจะได้ค่าคอมฯ เพิ่มอีกส่วนหนึ่ง สูงสุดถึง $500 ต่อลูกค้า 1 ราย พอรวม CPL กับ CPA แล้วอาจได้สูงถึง ~$520 ต่อผู้ใช้ 1 คน ถือว่ามีมูลค่าพอสมควร

แม้อาจมีโบรกเกอร์บางเจ้าที่โฆษณา CPA สูงถึง $1,100 สำหรับการฝากเงินครั้งใหญ่ แต่ AMarkets ก็ยังค่อนข้างแข่งขันได้ดี และเงื่อนไขการฝากเงินเริ่มต้นมักจะไม่สูงมาก บางคนมองว่าชุด CPL + CPA ของ AMarkets มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการตลาดหลากหลายรูปแบบ

ปรับใช้ได้กับทราฟฟิกหลายประเภท

โมเดลไฮบริดนี้ช่วยรองรับรูปแบบทราฟฟิกที่หลากหลาย หากคุณมีจำนวนคลิกสมัครเยอะแต่คนฝากน้อย คุณก็ยังได้ CPL ส่วนหนึ่ง ถ้ากลุ่มเป้าหมายพร้อมฝากเงินจำนวนมากก็ได้ CPA ก้อนโต ซึ่งทำให้ AMarkets สร้างแรงจูงใจให้คุณพาลูกค้าที่มีคุณภาพจริง และมีอัตราฝากสูง โดยตั้งเรต CPA ค่อนข้างเอื้อเฟื้อ

ระยะ Hold

เหมือนโปรแกรม CPA ส่วนใหญ่ AMarkets จะมีช่วง Hold หรือระยะตรวจสอบคุณภาพลีดก่อนจ่ายออก – ประมาณ 30 วันสำหรับ CPL และ 90 วันสำหรับ CPA (โดยเฉพาะสมาชิกใหม่ที่ยังไม่มีประวัติ) เพื่อป้องกันการทุจริตหรือลีดปลอม แต่หลังจากผ่านการยืนยันและคุณสร้างสถิติที่ดี ก็สามารถถอนเงินได้ทุกวัน ไม่มีดีเลย์เพิ่มเติม

บางโบรกเกอร์อาจอ้างว่าไม่มี Hold แต่โดยปกติก็ยังมีการตรวจสอบภายในอยู่ดี โดยรวม 30–90 วันของ AMarkets จึงถือว่ามาตรฐาน และบางครั้งสามารถลดระยะเวลาสำหรับพาร์ทเนอร์เก่าได้ด้วยหากพิสูจน์แล้วว่าทราฟฟิกมีคุณภาพ

ข้อจำกัดตามภูมิภาค

ไม่ใช่ทุกประเทศจะเข้าร่วมโมเดล CPA ได้ เพราะ AMarkets เปิดรับบางประเทศเท่านั้น (ตุรกี อินโดนีเซีย มาเลเซีย แอฟริกาใต้ ไนจีเรีย อินเดีย CIS ฯลฯ) และบางประเทศไม่เปิดรับ (เช่น สหรัฐฯ หรือบางประเทศในยุโรป) คุณสามารถสอบถามข้อมูลล่าสุดจากผู้จัดการหรือดูในเว็บไซต์ แต่โดยรวม AMarkets ครอบคลุมกว้างกว่า 150 ประเทศ ดังนั้นคุณอาจรันแคมเปญพร้อมกันหลายพื้นที่ โดยใช้สื่อโฆษณาที่มีหลายภาษาให้เลือก

สรุปคือ AMarkets ให้อิสระในการเลือกโมเดลระหว่าง RevShare (“Agent”) ที่เน้นรายได้ต่อเนื่องยาว ๆ กับ CPA + CPL (“Webmaster”) ที่คืนทุนเร็วผ่านการจ่ายค่าคอมมิชชันก้อนเดียว พันธมิตรหลายคนเริ่มจาก CPA เพื่อหาเงินตั้งต้น แล้วค่อยขยับไป RevShare เพื่อสร้างรายได้สม่ำเสมอจากลูกค้าที่เทรดยาว

ข้อดีของโปรแกรมพันธมิตร AMarkets

ทำไมพันธมิตรจำนวนมากถึงเลือก AMarkets? ด้านล่างนี้คือจุดเด่นสำคัญที่ทำให้โปรแกรมนี้โดดเด่นในตลาดแข่งขัน:

ค่าคอมมิชชันสูง ไม่มีเพดาน

ดังที่กล่าวไป AMarkets จ่ายค่าคอมฯ อยู่ในระดับสูง ทั้ง RevShare ถึง 60% หรือ CPA ต่อคนสูงถึง $500 แถมไม่มีการกำหนดรายได้สูงสุด ใครส่งทราฟฟิกมากเท่าไหร่ก็ทำเงินได้เต็มที่ ตัวอย่างเช่น AMarkets เคยจ่ายเงินให้พันธมิตรหลายสิบล้านดอลลาร์ และพร้อมจ่ายต่อไปอีก

หากเทียบกับโบรกเกอร์ใหญ่เจ้าหนึ่งที่อาจเคลมว่าจ่ายรวมกว่า $500 ล้าน หรือมี RevShare สูงบางส่วน สิ่งสำคัญคือ “จ่ายจริง จ่ายเร็ว และจ่ายตรง” หรือไม่ ซึ่ง AMarkets มักจะได้รับรีวิวด้านบวกจากพันธมิตร ว่าไม่มีปัญหาล่าช้า อีกทั้งโบรกเกอร์ยังรับผิดชอบค่าธรรมเนียมการถอน ทำให้คุณได้เงินเต็มเมื่อต้องการถอน

ถอนเงินได้ทุกวัน และมีหลายช่องทาง

พันธมิตร AMarkets สามารถถอนค่าคอมมิชชันได้บ่อยเท่าที่ต้องการ หากยอดถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ โดยขั้นต่ำค่อนข้างต่ำมาก — เช่น $20 สำหรับ e-wallet หรือ 100 รูเบิลสำหรับบัตรธนาคาร คุณสามารถเลือกวิธีรับเงินได้หลากหลาย ทั้งบัตรธนาคาร (Visa/MasterCard, Mir), e-wallet (Neteller, Skrill, Perfect Money, QIWI), คริปโต (Bitcoin, Ethereum, USDT) และอื่น ๆ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ โบรกเกอร์จะเป็นผู้จ่ายให้ ทำให้คุณเข้าถึงรายได้ของตัวเองได้ทันที รวมถึงมีผู้ที่เลือกนำรายได้บางส่วนไปหมุนลงโฆษณาต่อเพื่อขยายทราฟฟิก

ระบบหลายชั้น (Multi-Level Referral)

แม้ว่าโบรกเกอร์หลายรายจะมีโปรแกรมพันธมิตร แต่ไม่กี่เจ้าที่ให้โมเดลหลายชั้นแบบสมบูรณ์ AMarkets มี 3 ชั้น คุณได้รับ 15% จากรายได้ชั้นสอง และ 5% ชั้นสาม ซึ่งเอื้อต่อการสร้างเครือข่ายพันธมิตร หากคุณทำบล็อกหรือสอนเกี่ยวกับ Affiliate Marketing ในสาย Forex ก็เชิญนักเรียนสมัครผ่านลิงก์ของคุณได้เลย คุณจะได้ส่วนแบ่งเพิ่มเติมโดยไม่ต้องทำงานเพิ่มมากนัก

โบรกเกอร์บางรายก็มีหลายชั้นเหมือนกัน เช่น TeleTrade เคลมสูงสุด 80% ของเครือข่าย หรือ Grand Capital ให้ 10% และ 7% กับชั้นสองและสาม แต่ AMarkets ให้ 15% กับ 5% ซึ่งก็ถือว่าคุ้ม อีกทั้งระดับแรกเองก็จ่ายสูงอยู่แล้ว พาร์ทเนอร์หลายคนยืนยันว่าโมเดลนี้ใช้งานได้จริงและเป็นรายได้เสริมแบบยั่งยืน

เครื่องมือการตลาดฟรีและซัพพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมง

พาร์ทเนอร์ของ AMarkets ทุกคนจะเข้าถึงคลังสื่อโปรโมต เช่น แลนดิ้งเพจ แบนเนอร์ วิดเจ็ต ลิงก์พันธมิตรของหน้าต่าง ๆ รวมถึงดีไซน์พิเศษที่โบรกเกอร์สามารถจัดทำให้ได้ แถมยังมีโปรโมชั่นหรือกิจกรรมที่ทำร่วมกันเพื่อจูงใจลูกค้าที่คุณแนะนำ (เช่น การชิงโชค หรือโครงการโบนัส) ซึ่งช่วยรักษาฐานลูกค้าให้คุณ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถแบ่งคอมมิชชั่นกับลูกค้าในรูปแบบ Rebate เพื่อให้ลูกค้าได้ส่วนลดสเปรด เพิ่มปริมาณการเทรดได้อีก ทุกอย่างนี้ฟรี รวมถึงคุณจะได้ผู้จัดการบัญชีดูแลโดยตรง (Personal Manager) พร้อมตอบคำถาม 24/7 พันธมิตรหลายคนประทับใจว่า “ระบบซัพพอร์ตและเทคนิคของ AMarkets ดีมาก” โดยเฉพาะมือใหม่ที่อาจต้องการคำแนะนำ—AMarkets จัดสัมมนาออนไลน์เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการโปรโมตและแนวทางปรับปรุง Traffic ให้คุ้มค่า

ครอบคลุมตลาดทั่วโลก และรองรับหลายภาษา

AMarkets เป็นแบรนด์ระดับสากลจริง ๆ มีผู้ใช้งานทั่วหลายทวีป เว็บไซต์หลักและสื่อพันธมิตรมีให้ใช้กว่า 10 ภาษา (อังกฤษ สเปน โปรตุเกส อินโดนีเซีย มาเลย์ ตุรกี อาหรับ ยูเครน ฯลฯ) ทำให้คุณทำตลาดได้ในวงกว้าง

โบรกเกอร์ยังให้แลนดิ้งเพจแบบโลคัล (Localized) โบรชัวร์ แบนเนอร์ และซัพพอร์ตหลายภาษา สมมุติคุณอยู่ยุโรปแต่จะเจาะอินโดนีเซียหรือไนจีเรียก็ได้ เพราะเทรด Forex กำลังโตมากในภูมิภาคเกิดใหม่ โอกาสจึงเปิดกว้างอย่างมหาศาล

โปร่งใสและน่าเชื่อถือ

AMarkets เปิดเผยข้อมูลเงื่อนไขพันธมิตรอย่างละเอียด รวมถึงจัดกิจกรรมอยู่เสมอ เช่น แข่งขันพาร์ทเนอร์ อัตราพิเศษชั่วคราว หรือเครื่องมือโปรโมตใหม่ ๆ ล่าสุดปี 2022 โบรกเกอร์ยกเว้นค่าธรรมเนียมการถอนเงินให้พันธมิตรทั้งหมด (0%) และยังได้รับรางวัล “Best Affiliate Program” ในปี 2023

ความโปร่งใสระดับนี้ทำให้พันธมิตรมั่นใจ ฟอรั่มและเว็บไซต์รีวิวต่างยืนยันว่าจ่ายจริง ตามกำหนด ปลอดภัย บางรีวิวกล่าวว่า “แม้ใช้ค่าเริ่มต้น คุณก็ทำรายได้ดี... <...> ไม่เคยได้ต่ำกว่า $2,000 ต่อเดือน ถ้าอยากได้รายได้มั่นคง AMarkets คือที่ที่ควรอยู่!” อีกคนเล่าว่า “ทุกอย่างทำอย่างมืออาชีพ กระดานสถิติเรียลไทม์ ใช้งานง่าย รับทราฟฟิกได้หลายช่องทาง และสามารถเทรดเองในระบบเดียวกันได้” ดังนั้นจึงยืนยันความน่าเชื่อถือชัดเจน

โดยรวม โปรแกรมพันธมิตร AMarkets ผสมผสานทั้งประสบการณ์กว่า 16 ปี เงื่อนไขการจ่ายค่าคอมฯ สูง แบรนด์มีชื่อเสียง และเครื่องมือสำหรับพันธมิตรที่ครบครัน เหมาะกับผู้ที่มีกลุ่มผู้สนใจเทรด หรือมีวิธีสรรหาลูกค้าที่ต้องการโบรกเกอร์คุณภาพดีเพื่อเทรดอย่างต่อเนื่อง

วิธีเป็นพันธมิตร AMarkets: คู่มือทีละขั้นตอน

เข้าร่วมได้ฟรี 100% หากคุณต้องการสร้างรายได้กับ AMarkets ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ต่อไปนี้:

ขั้นตอนที่ 1 – ลงทะเบียนเป็นพาร์ทเนอร์

ไปที่ เว็บไซต์หลักของ AMarkets และมองหาส่วน “Become a Partner” (หรือตรงไปยังหน้าพันธมิตร) จะมีตัวเลือกให้คุณระหว่าง “Agent” (RevShare) หรือ “Webmaster” (CPA) ให้เลือกโมเดลที่คุณต้องการ แล้วกด “Register” จากนั้นจะปรากฏฟอร์มให้กรอกข้อมูล

ขั้นตอนที่ 2 – กรอกข้อมูลในฟอร์ม

ใส่รายละเอียดที่จำเป็น เช่น ชื่อ-นามสกุล อีเมล เบอร์โทร ประเทศที่อยู่ ตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย และระบุช่องทางติดต่อ (Telegram ฯลฯ) สำหรับคุยกับผู้จัดการพาร์ทเนอร์ คุณอาจอธิบายสั้น ๆ ด้วยว่าจะโปรโมตทางไหน (เช่น “ผมมีบล็อกสายการเงิน คนเข้าประมาณ 10k ต่อเดือน” หรือ “ผมจะยิงแอดผ่าน FB”) ไม่จำเป็นต้องแปะหลักฐานตัวเลขสถิติ แค่เพื่อให้ผู้จัดการแนะนำโมเดลหรือวิธีทำงานได้เหมาะสม

ขั้นตอนที่ 3 – ยืนยันการสมัคร

หลังส่งฟอร์มแล้ว คุณจะได้เข้าสู่แดชบอร์ดพันธมิตร (Affiliate Room) ทันที แต่ถ้าคุณต้องการเทรดบน AMarkets เองด้วย อาจต้องผ่าน KYC เต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ในฐานะพันธมิตรโดยเฉพาะ (ไม่เทรด) ส่วนใหญ่ไม่ต้องยืนยันตัวตนมาก ก็สามารถเริ่มโปรโมตได้ทันที

ขั้นตอนที่ 4 – ขอรับลิงก์พันธมิตรและสื่อโปรโมต

ระบบจะกำหนด Partner ID เฉพาะของคุณ คุณสามารถสร้างลิงก์พันธมิตรโดยเลือกว่าอยากให้ลิงก์พาไปหน้าหลัก หน้าสมัคร หรือหน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ AMarkets แล้วแนบ Partner ID ส่วน “Marketing Materials” จะมีแบนเนอร์ในขนาดต่าง ๆ วิดเจ็ต อักษร โลโก้ แลนดิ้งเพจ ฯลฯ ให้เลือกใช้ตามช่องทางทราฟฟิกของคุณ เช่น ใส่ HTML แบนเนอร์ในเว็บไซต์ แปะลิงก์พันธมิตรใน Telegram หรือใส่โค้ดโปรโมต (ถ้ามี) ในคำบรรยาย YouTube

ขั้นตอนที่ 5 – ดึงดูดลูกค้า

คุณสามารถโปรโมตลิงก์พันธมิตรหรือสื่อโฆษณาตามช่องทางที่คุณมี เช่น เขียนบทความอธิบายข้อดีของโบรกเกอร์ แชร์สัญญาณการเทรดหรือการวิเคราะห์ตลาดพร้อมบอกว่าต้องสมัครบัญชีกับ AMarkets ผ่านลิงก์คุณ จัดทำวิดีโอสอนเทรดแล้วกระตุ้นให้เปิดบัญชีผ่านลิงก์ affiliate หรือยิงโฆษณาบน Google Ads, Facebook Ads ส่งคนไปยังหน้าแลนดิ้งที่มี ID ของคุณ สิ่งที่สำคัญคือทราฟฟิกต้องเป็นคนจริงที่สนใจเทรด ห้ามใช้สแปม, Doorway, บอท, หรือจ่ายเงินล่อให้คนมาสมัครเท่านั้น รวมถึงห้ามใช้แบรนด์บิดดิ้ง (ประมูลคำ “AMarkets” โดยตรงบน Google) โบรกเกอร์มีระบบตรวจจับ Fraud และทีม Compliance คอยตรวจสอบอยู่

ขั้นตอนที่ 6 – ติดตามผลและปรับปรุง

ในแดชบอร์ด คุณจะเห็นจำนวนคลิก, การสมัคร, การฝากเงิน, และค่าคอมมิชชันที่ได้รับแบบเรียลไทม์ คุณจะได้ทราบว่าช่องทางไหนมี Conversion สูง ลูกค้าเทรดเยอะหรือไม่ จึงปรับกลยุทธ์โฆษณาได้ หากเจอบทความที่มีคนอ่านเยอะแต่ไม่ค่อยฝาก อาจปรับบทความให้น่าดึงดูดขึ้น มี Call-to-Action ชัดเจน หรือหากโฆษณาช่องทางหนึ่งไม่เวิร์ก ก็ลองเปลี่ยน Targeting หรือรูปแบบคอนเทนต์

ขั้นตอนที่ 7 – รับเงิน

เมื่อมีลูกค้าฝากเงินหรือเทรด รายได้ของคุณจะปรากฏในแดชบอร์ด คุณสามารถกดถอนในเมนู “Payments” แล้วเลือกช่องทางถอน (บัตรธนาคาร, e-wallet, คริปโต ฯลฯ) กรอกจำนวนเงินและข้อมูลที่จำเป็น กระบวนการถอนเงินใช้เวลาไม่นาน (ภายใน 1 วันทำการ ส่วนใหญ่เร็วกว่านั้น) ระวังขั้นต่ำการถอน เช่น $20 สำหรับ WebMoney หรือ Skrill, 100 รูเบิลสำหรับบัตรธนาคารในรัสเซีย หรือราว $20 สำหรับคริปโต โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ

บางพันธมิตรเก็บรายได้บางส่วนไว้ในบัญชีพันธมิตร แล้ว นำเงินไปเทรดกับ AMarkets เอง ด้วย เพราะหนึ่งบัญชีทำได้ทั้งสองอย่าง มีรีวิวว่าการเปลี่ยนหน้าต่างจากโหมด “Affiliate” เป็น “Trading” ทำได้อย่างรวดเร็ว “2 in 1” ช่วยให้คุณทดสอบโบรกเกอร์ได้ด้วยตัวเองก่อนที่จะโปรโมตคนอื่น

ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณก็เริ่มดึงดูดลูกค้ารายแรกและสร้างรายได้ได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง กระบวนการไม่ซับซ้อน คล้ายกับการสมัครในเครือข่าย CPA ทั่วไป แต่ข้อดีคือคุณได้ทำงานตรงกับโบรกเกอร์ ไม่ต้องผ่านตัวกลาง ทำให้เงื่อนไขดีกว่าและซัพพอร์ตตรงกว่า

เปรียบเทียบโปรแกรมพันธมิตร AMarkets กับคู่แข่ง

เพื่อดูจุดเด่นของ AMarkets อย่างชัดเจน เราลองเทียบสั้น ๆ กับโบรกเกอร์ชื่อดังอีก 3 เจ้า: FXPro, TeleTrade และ Grand Capital ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีโปรแกรมพันธมิตรของตนเองเช่นกัน ตารางด้านล่างสรุปข้อมูลเปรียบเทียบหลัก ๆ:

ข้อสรุปการเปรียบเทียบ: AMarkets อยู่ในระดับเดียวกับโปรแกรมชั้นนำในอุตสาหกรรม ถึงแม้ Grand Capital อาจเคลม RevShare สูงสุด 70% ในบางสินค้า แต่ก็ยังขาดโมเดลไฮบริด CPA + RevShare แบบที่ AMarkets มี FXPro ให้ CPA สูงสุดถึง $1,100 แต่ต้องการเงินฝากที่สูง และบางครั้งบังคับให้พาร์ทเนอร์เป็นลูกค้าเทรดเองด้วย TeleTrade มีหลายชั้นและโมเดลคล้าย ๆ CPA ไฮบริด แต่โครงสร้างชั้นของ AMarkets นั้นเข้าใจง่ายและจ่ายรายวันได้หลังพ้นระยะ Hold รีวิวหลายคนบอกว่า AMarkets มีความโดดเด่นเรื่องซัพพอร์ตและความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม

สรุปคือ AMarkets รวมข้อดีของคู่แข่งไว้ครบ: RevShare สูงเทียบ Grand Capital, CPA ก็ดีไม่แพ้ FXPro, แถมระบบ 3 ระดับแบบ TeleTrade และการดูแลอย่างมืออาชีพ การเลือก AMarkets จึงเปิดทางให้คุณมีตัวเลือกการสร้างรายได้ที่ครบในที่เดียว

รีวิวจริงจากพาร์ทเนอร์ AMarkets

ด้านล่างเป็น ข้อความสั้น ๆ จากพาร์ทเนอร์จริงของ AMarkets ที่แบ่งปันประสบการณ์ โดยแหล่งข้อมูลมาจากเว็บอิสระและสะท้อนความเห็นของผู้ใช้จริง

“แนะนำเลยสำหรับใครมองหาโบรกเกอร์พันธมิตรที่ไว้ใจได้ รับทราฟฟิกได้หลายประเภท ที่ดีคือเข้าถึงการเทรดจริงจากหน้า Partner Profile แบบ 2-in-1: ลองใช้สินค้าที่เราจะโปรโมตด้วยตัวเอง”

ความเห็น: ผู้ใช้เน้นเรื่องความน่าเชื่อถือและรูปแบบทราฟฟิกที่หลากหลาย บวกกับความสะดวกในการเทรดและพันธมิตรในบัญชีเดียวกัน ช่วยให้เช็กบริการจริงได้ก่อนโปรโมต

“AMarkets ทำให้ดูสถิติได้ง่ายมาก... ความโปร่งใสนี้ช่วยให้ผมเห็นยอดเงินสวย ๆ ตลอด เดือนหนึ่งได้ 2–4 พันดอลลาร์ ไม่คิดจะเปลี่ยนไปที่อื่นเลย”

ความเห็น: เน้นด้าน Dashboard ที่ให้ข้อมูลครบ และรายได้ระดับ $2,000–4,000 ต่อเดือนเป็นแรงจูงใจให้ทำต่อเนื่อง

“ผมทำงานกับ AMarkets มาพักใหญ่ ๆ ไม่เคยต่ำกว่า $2k ต่อเดือน แค่ต้องขยันหาคนเข้ามาให้ได้เรื่อย ๆ ถ้าอยากมีรายได้สม่ำเสมอที่นี่ตอบโจทย์สุด ๆ”

ความเห็น: ย้ำเรื่องรายได้หลักพันเหรียญขึ้นไปต่อเดือน หากทำงานโปรโมตต่อเนื่อง เห็นได้ว่ารายได้มั่นคงทำได้จริง

“อยู่มาประมาณ 3 เดือน... CPA นี่ทำเงินดีมาก และไม่เคยล่าช้าในการจ่ายเลย มีช่องทางให้เลือกถอนเยอะ สะดวกมาก”

ความเห็น: ผู้ใช้รายนี้ยังใหม่ แต่พอใจกับโมเดล CPA และกระบวนการจ่ายเร็วที่ไม่มีปัญหา ความหลากหลายของวิธีถอนก็เป็นจุดดี

สรุปโดยรวม รีวิวเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า AMarkets ให้ความสำคัญกับพันธมิตรอย่างแท้จริง ทั้งในแง่ผลตอบแทน (รายได้สูง จ่ายไว) เครื่องมือทางเทคนิค (แดชบอร์ดและสื่อโปรโมต) และทีมงาน (ผู้จัดการให้คำแนะนำ) แน่นอนว่าผลลัพธ์จะขึ้นกับความสามารถคุณเองด้วย แต่ AMarkets ก็มีโครงสร้างพร้อมให้คุณก้าวไปได้ไกล

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับโปรแกรมพันธมิตร AMarkets

ถาม: จำเป็นต้องมีเว็บไซต์หรือมีผู้ติดตามเยอะ ๆ เพื่อเข้าร่วมโปรแกรมพันธมิตร AMarkets หรือไม่?
ตอบ: การมีเว็บไซต์หรือผู้ติดตามจะช่วยได้ แต่ไม่ใช่เงื่อนไขบังคับ คุณสมัครได้แม้ไม่มีเว็บไซต์ สิ่งสำคัญคือมีแผนว่าจะหาลูกค้าอย่างไร มือใหม่อาจเริ่มจากแนะนำเพื่อนเทรดเดอร์ หรือโพสต์ลิงก์ในกลุ่มเฉพาะทาง การมีเว็บ/บล็อก/ช่องส่วนตัวจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่คุณสามารถใช้โฆษณาแบบ Contextual หรือโซเชียลแทนก็ได้ โปรดระวังไม่ใช้วิธีสแปม โดเมย์อัตโนมัติ หรือจ้างคนสมัคร ฯลฯ ถ้าไม่แน่ใจให้คุยกับผู้จัดการก่อน

ถาม: โปรแกรมนี้รองรับประเทศ (Markets) ใดบ้าง?
ตอบ: AMarkets เปิดรับลูกค้ากว่า 150 ประเทศ โซนยอดนิยมมี ตุรกี อินโด มาเลเซีย อินเดีย กลุ่ม CIS และหลายพื้นที่ในแอฟริกา แต่บางประเทศถูกจำกัด (เช่น สหรัฐอเมริกา และบางแห่งในยุโรป) สามารถตรวจสอบรายชื่ออัปเดตกับทีมซัพพอร์ต นอกจากนั้น คุณก็สามารถหาลูกค้าได้แทบทุกที่ทั่วโลก พร้อมสื่อประชาสัมพันธ์หลายภาษา

ถาม: ใช้โมเดล CPA และ Revenue Share พร้อมกันได้ไหม?
ตอบ: ตอนสมัครใหม่ คุณอาจเลือก “Agent” (RevShare) หรือ “Webmaster” (CPA/CPL) ก่อน แต่สามารถตั้งบัญชี 2 แบบ หรือขอใช้โมเดลผสมกับผู้จัดการก็ได้ พันธมิตรบางคนส่งทราฟฟิกจำนวนมากที่คัดคุณภาพยาก ก็ใช้ CPA เพื่อคืนทุนเร็ว ส่วนทราฟฟิกคุณภาพสูง (กลุ่มเทรดเดอร์จริง) ก็ใส่ RevShare เพื่อสร้างรายได้ยาว ๆ ทุกอย่างขึ้นกับแหล่งทราฟฟิกและกลยุทธ์คุณ ถ้าปริมาณมาก AMarkets ก็อาจให้เงื่อนไขพิเศษได้

ถาม: ถ้าลูกค้าที่แนะนำหยุดเทรดหรือขาดทุนหนักล่ะ?
ตอบ: สำหรับ RevShare ถ้าลูกค้าเลิกเทรด คุณก็ไม่ได้ค่าคอมฯ เพิ่ม (ไม่มีการปรับลบยอดย้อนหลัง) ถ้าคนคนนั้นกลับมาเทรดเมื่อไรก็ได้ค่าคอมฯ ต่อ ส่วนกำไร/ขาดทุนของลูกค้าไม่กระทบค่าคอมฯ เพราะคุณได้จากสเปรดและค่าธรรมเนียม ไม่ใช่จากกำไรของลูกค้า ส่วน CPA ถ้าลูกค้าไม่ฝากหรือไม่เทรดถึงเกณฑ์ จะไม่ได้ CPA แต่ถ้ามี CPL ก็ยังได้คอมฯ ตรงนั้น สำหรับการโกง เช่น สมัครหลอกหรือสมัครเอง โบรกเกอร์จะตรวจสอบและไม่จ่าย

ถาม: สามารถทำรายได้เท่าไรต่อเดือนกับโปรแกรมพันธมิตร AMarkets?
ตอบ: ไม่มีเพดานที่ตายตัว ขึ้นกับปริมาณและคุณภาพทราฟฟิก หากคุณหาลูกค้าคุณภาพเยอะ รายได้อาจสูงมาก ตัวอย่างเช่น ลูกค้าแอคทีฟไม่กี่รายอาจทำให้คุณได้หลักร้อยดอลลาร์ หรือถ้าคุณหาคนฝาก 50 ราย รายละ $500 แบบ CPA ก็ได้ $25,000 ในครั้งเดียว หากลูกค้า 100 คนเทรดเฉลี่ย 1 lot/day คุณอาจได้ $15 x 100 lots = $1,500/วัน (สมมุติ) ทั้งนี้ AMarkets จ่ายเงินให้พาร์ทเนอร์รวมแล้วกว่า $50 ล้าน และมีพาร์ทเนอร์รายใหญ่รับเงินหลักหกหลักต่อปี คุณอาจเริ่มต้นจากหลักร้อยแล้วค่อยขยาย

ถาม: AMarkets มีสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มสำหรับพันธมิตรหรือไม่?
ตอบ: มีบ่อยครั้ง AMarkets มีกิจกรรมแข่งขัน เช่น ใครดึงลูกค้าได้มากในไตรมาสหนึ่งก็ได้รับรางวัล (อุปกรณ์, โบนัส ฯลฯ) หรือปรับอัตราจ่ายเพิ่มให้ถ้าคุณทำผลงานดี บางครั้งมีประกาศผ่านฟีดข่าวพาร์ทเนอร์ นอกจากนี้ยังมีซัพพอร์ตระดับ Priority เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร หรือดีลแบบ Custom สำหรับคนทำปริมาณสูง ถ้าคุณทำเป็นทีมใหญ่หรือเปิดศูนย์เทรนนิ่งได้ก็อาจเจรจา “Regional Representative” หรือ “White Label” ซึ่งเกินกว่ารูปแบบพันธมิตรทั่ว ๆ ไป แต่ภาพรวมตัวโปรแกรมก็เพียงพอแล้ว—จ่ายสูง ไม่มีค่าถอน มีสื่อการตลาดครบ และถ้าคุณทำยอดได้มาก ก็อาจคุยข้อตกลงพิเศษได้

ถาม: นอกจากแนะนำลูกค้าเทรด สามารถแนะนำพันธมิตรคนอื่นเข้า AMarkets ได้ไหม?
ตอบ: ได้แน่นอน ระบบ 3 ชั้นของ AMarkets ถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้ คุณแชร์ลิงก์เชิญพันธมิตรให้สมัคร ถ้าพวกเขาทำรายได้ ก็เป็นสายสองของคุณ ซึ่งคุณจะได้ 15% จากรายได้ของพวกเขา ถ้าพวกเขาชวนคนอื่นอีก ก็สายสาม คุณจะได้ 5% เหมาะมากสำหรับคนที่ทำบล็อกหรือเพจเกี่ยวกับการหารายได้ออนไลน์ เพราะทุกคนที่สมัครผ่านคุณ คุณจะมีรายได้เพิ่ม โดยไม่กระทบเงื่อนไขพื้นฐานของพวกเขา

ข้อสรุป

โปรแกรมพันธมิตร AMarkets เป็นโอกาสที่น่าสนใจ ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัยและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ทั้งเว็บมาสเตอร์มือใหม่หรือ IB ที่มีประสบการณ์ก็ทำงานได้ง่าย ในระบบเดียว คุณสามารถรับค่าคอมฯ ก้อนโตจาก CPA รวมถึง RevShare ต่อเนื่องจากปริมาณเทรดของลูกค้า และค่าตอบแทนเพิ่มจากพาร์ทเนอร์ชั้นสองและสาม AMarkets ให้ความสำคัญกับพันธมิตรจริง ๆ มีรางวัลจากเวทีในอุตสาหกรรมมายืนยัน (เช่น Best Affiliate Broker) รวมถึงรีวิวจากผู้ใช้งานจริง

เมื่อพิจารณาโดยรวม AMarkets อยู่ในระดับเทียบเท่าโบรกเกอร์ชั้นนำทั้งเรื่องค่าคอมฯ, การถอนเงินรายวันไร้ค่าธรรมเนียม, เครื่องมือสนับสนุน และชื่อเสียงที่ช่วยให้ดึงลูกค้าใหม่ได้ง่าย โบรกเกอร์ใช้เวลากว่าทศวรรษในการสร้างความเชื่อมั่นและมีบริการหลากหลาย ทำให้เป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการทำการตลาดสาย Affiliate ของคุณ

หากคุณทำตามแนวทางในรีวิวฉบับสมบูรณ์นี้ คุณก็พร้อมจะเริ่มต้นและขยายความร่วมมือกับ AMarkets ได้สำเร็จ สิ่งสำคัญคือเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ทำการตลาดอย่างโปร่งใส และใช้ทรัพยากรที่มีให้เต็มที่ (โปรโมชั่น, การฝึกอบรม, สถิติ) หากวางแผนถูกต้อง โปรแกรมพันธมิตร AMarkets ก็จะกลายเป็นช่องทางรายได้ที่มั่นคงและเติบโตได้ในระยะยาว

Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com