IQCent: บทรีวิวโบรกเกอร์แบบเจาะลึกสำหรับการเทรดไบนารี่ออปชันและ CFD (ครบทุกประเด็น) ปี 2025
เจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับ IQCent—แพลตฟอร์มการเทรดสำหรับไบนารี่ออปชันและ CFD เราจะมาวิเคราะห์ฟีเจอร์และศักยภาพของ IQCent ตั้งแต่รายละเอียดบัญชี โบนัส โปรโมชั่น จนถึงรีวิวจริงจากเทรดเดอร์ นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบ IQCent กับคู่แข่ง (Pocket Option, Olymp Trade, Quotex, Binomo) เพื่อดูว่าโบรกเกอร์รายนี้มีจุดเด่นอย่างไร เนื้อหานี้จะช่วยให้คุณประเมินความน่าเชื่อถือ ทั้งข้อดีและข้อเสีย เพื่อพิจารณาว่าควรเริ่มเทรดกับที่นี่ดีหรือไม่
สารบัญ
- ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ IQCent
- ประเภทบัญชีใน IQCent
- แพลตฟอร์มการเทรดและเครื่องมือใน IQCent
- โบนัส โปรโมชั่น และแคมเปญใน IQCent
- วิธีการฝากและถอนเงิน
- ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและการให้ความรู้
- รีวิวจากเทรดเดอร์ตัวจริงเกี่ยวกับ IQCent
- IQCent เทียบกับโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชันรายอื่น
- FAQ เกี่ยวกับ IQCent
- ข้อสรุป: ควรเลือก IQCent ดีไหม?
ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ IQCent
IQCent เป็นโบรกเกอร์นอกชายฝั่งที่ให้บริการไบนารี่ออปชันและ CFD ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน บริษัทจดทะเบียนในหมู่เกาะมาร์แชลล์ในนาม Wave Makers LTD (ที่อยู่: Ajeltake Road, Majuro Island, MH96960)
โบรกเกอร์นี้ดึงดูดเทรดเดอร์ด้วยการนำเสนอสินทรัพย์หลากหลาย—สกุลเงิน Forex คริปโต ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ ไบนารี่ออปชัน และสัญญา CFD—บนแพลตฟอร์มเว็บที่พัฒนาขึ้นเอง ชื่อ “IQCent” สื่อถึงการเทรดสไตล์เซ็นต์ ที่ให้ผู้ใช้เทรดด้วยจำนวนเงินจิ๋วได้ โดยขั้นต่ำของบางเครื่องมืออาจต่ำถึง $0.01 (หรือ $1 สำหรับไบนารี่ออปชันหลายรายการ)
บริษัทดำเนินงานทั่วโลก รับลูกค้าจากหลากหลายภูมิภาค (ยกเว้นบางประเทศที่มีข้อจำกัดด้านกฎหมาย) และรองรับหลายภาษา (อังกฤษ รัสเซีย สเปน อาหรับ โปรตุเกส อินโดนีเซีย ฯลฯ) แสดงถึงแนวทางที่มุ่งไปยังตลาดโลกมากกว่าการเจาะจงประเทศใดประเทศหนึ่ง
การกำกับดูแลและใบอนุญาต
ประเด็นสำคัญที่สุดคือการที่ IQCent ขาดการกำกับดูแลที่เข้มงวด โบรกเกอร์จดทะเบียนในต่างประเทศและอ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ International Financial Market Relations Regulation Center (IFMRRC)—องค์กรเอกชนที่ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ และไม่เป็นที่ยอมรับในวงกว้างในตลาดการเงิน กล่าวคือ IQCent ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถืออย่าง CySEC, FCA, ASIC ฯลฯ ทำให้เงินลูกค้าไม่อยู่ภายใต้หลักประกันอย่างเป็นระบบ นักวิเคราะห์อิสระจึงแสดงความกังวลในลักษณะว่า “IQCent ไม่ใช่โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่ได้มาตรฐาน”
โดยสรุป เทรดเดอร์ควรทราบว่าการเทรดกับโบรกเกอร์นอกชายฝั่งย่อมมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี IQCent ดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2017 และยังคงให้บริการถึงปี 2024 ดังนั้นจึงไม่ใช่โครงการที่เกิดขึ้นชั่วครู่แล้วหายไป แต่ก็ยังมีสถานะ “ไร้การกำกับดูแลเข้มงวด” เป็นปัญหาหลัก
ชื่อเสียงและความไว้วางใจ
เพราะไม่มีใบอนุญาตที่เชื่อถือได้ มุมมองของชุมชนเทรดเดอร์ที่มีต่อ IQCent จึงค่อนข้างหลากหลาย ด้านหนึ่ง โบรกเกอร์โฆษณาเงื่อนไขที่น่าดึงดูด (ซึ่งจะกล่าวถึงด้านล่าง) และมีการโปรโมตอย่างมาก ดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ อีกด้านหนึ่ง เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และลูกค้าบางรายตั้งข้อกังขาในความซื่อสัตย์ของแพลตฟอร์ม มีการร้องเรียนจำนวนหนึ่งเรื่องปัญหาการถอนเงิน—บางคนถึงกับเรียก IQCent ว่าเป็น “สแกม”
อย่างไรก็ตาม ก็มีรีวิวเชิงบวกจากผู้ที่สามารถทำกำไรและถอนเงินได้จริง กล่าวชมความสะดวกในการใช้งานและเกณฑ์เข้าเทรดต่ำ ส่วนจะเชื่อฝ่ายไหนมากน้อยอย่างไร เราจะเจาะลึกรีวิวจริงด้านล่าง แต่เบื้องต้นนี้คือข้อเท็จจริงเรื่องเงื่อนไขการเทรด
สรุปจุดเด่นของ IQCent โดยย่อ:
- ปีที่ก่อตั้ง: 2017
- สถานะจดทะเบียน: หมู่เกาะมาร์แชลล์ (Offshore) / การกำกับดูแล: ไม่มี (ไม่ได้รับใบอนุญาตหลักใดๆ)
- เครื่องมือเทรด: ไบนารี่ออปชัน (จ่ายสูงสุดถึง 98%) และ CFD บนคู่สกุลเงิน Forex สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี คริปโต
- แพลตฟอร์ม: พัฒนาเอง ใช้งานบนเว็บ + มี TradingView ฝังในระบบ / แอปมือถือ: ไม่มี (ใช้เว็บเบราว์เซอร์บนสมาร์ตโฟนแทน)
- ฝากขั้นต่ำ: $10 (ถือว่าต่ำมาก)
- ขนาดการเทรดขั้นต่ำ: $0.01 สำหรับบางสินทรัพย์แบบไบนารี่ออปชัน (หรือ $1 ในอีกหลายรายการ) สำหรับ CFD สามารถเทรดขนาดสัญญาย่อยได้
- ประเภทบัญชี: Bronze, Silver, Gold (กำหนดยอดฝากต่างกัน + โบนัสต่างกัน—ดูรายละเอียดด้านล่าง)
- โบนัสเงินฝาก: ตั้งแต่ 20% จนถึง 200% (ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินฝากและโปรโมชั่น)
- บัญชีเดโม: มีให้ (เงินเสมือน $10,000) แต่บางครั้งต้องติดต่อฝ่ายสนับสนุนเพื่อเปิดใช้
- จุดเด่นพิเศษ: Copy Trading (คัดลอกการเทรดผู้อื่น), “Double Up” (เพิ่มขนาดออเดอร์เท่าตัว), “Rollover” (ขยายเวลาหมดอายุ), “Cancel”/“Sell Out” (ปิดดีลล่วงหน้า), Risk-Free Trades สำหรับลูกค้าใหม่
- การฝาก/ถอน: บัตรธนาคาร (Visa/MasterCard), โอนเงินผ่านธนาคาร, คริปโต (Bitcoin, Ethereum, Tether ฯลฯ), อีวอลเล็ตบางชนิด
- ค่าธรรมเนียม: ฟรีค่าคอมมิชชันสำหรับการฝาก (แต่จะหัก 5% ถ้าฝากผ่านบัตร), หัก 20% จากการถอนเงินต้นในหลายกรณี (รายละเอียดจะกล่าวในหัวข้อถอนเงิน), ค่ารักษาบัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหว $10/เดือนหลังไม่เทรดเกิน 30 วัน, สเปรด CFD เริ่ม ~0.7 pip ไม่มีค่าคอมมิชชันตรงในการเทรดไบนารี่ออปชัน
- ฝ่ายสนับสนุน: แชทสด 24/7 (รวมถึงวีดีโอแชท) อีเมล รองรับหลายภาษา (อังกฤษ รัสเซีย ฯลฯ)
- คู่แข่งที่ใกล้เคียง: โบรกเกอร์ไบนารี่ออฟชันที่ดำเนินงานนอกชายฝั่งเช่น Pocket Option, Olymp Trade, Quotex, Binomo รวมไปถึง VideForex, BinaryCent และ RaceOption (ซึ่งบางเจ้าก็อยู่ในเครือเดียวกับ IQCent)
ประเภทบัญชีใน IQCent
โบรกเกอร์มีบัญชีหลายระดับพร้อมสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน แบ่งหลักๆ เป็น Bronze, Silver, และ Gold ซึ่งกำหนดเงินฝากขั้นต่ำ โบนัส และฟีเจอร์พิเศษไว้ต่างกัน รายละเอียดเปรียบเทียบตามตารางด้านล่าง:
ประเภทบัญชี | ฝากขั้นต่ำ | โบนัสเงินฝาก | สิทธิประโยชน์ |
---|---|---|---|
Bronze | $10 – $249 | +20% |
|
Silver | $250 – $999 | +50% |
|
Gold | $1000 ขึ้นไป | +100% |
|
(หมายเหตุ: บางแหล่งข้อมูลกล่าวถึงบัญชี VIP ที่ ~$50,000+ พร้อมเงื่อนไขพิเศษ แต่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการจะระบุแค่ 3 ประเภทหลัก)
รายละเอียดแต่ละประเภทบัญชี
ผู้เริ่มต้นส่วนใหญ่จะเลือก Bronze เพราะฝากขั้นต่ำเพียง $10 และได้ฟีเจอร์สำคัญทั้งหมด เช่น การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง Copy Trading และโบนัส 20% สำหรับ Silver ซึ่งเริ่มต้นที่ $250 จะได้โบนัสสูงถึง 50% พร้อม “เทรดไร้ความเสี่ยง” 3 ครั้ง (ถ้าขาดทุน IQCent จะคืนเงินในรูปโบนัส) นอกจากนี้ยังมี Master Class (คลาสสอนออนไลน์) เพื่อเสริมความรู้ในการเทรด
ส่วน Gold สำหรับผู้ที่ต้องการฝากตั้งแต่ $1000 ขึ้นไป เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เทรดปริมาณมาก นอกจากได้โบนัสสูงสุด 100% ยังมี “Personal Success Manager” คอยช่วยเหลือในด้านการใช้งานและกลยุทธ์ ทุกบัญชียังสามารถติดต่อขอบัญชีเดโม (มูลค่าเสมือน $10k) ได้ บางครั้งต้องให้ฝ่ายสนับสนุนช่วยเปิด
อย่างไรก็ดี ข้อกำหนดการถอนยังเหมือนกันทุกบัญชี—ไม่มีบัญชีไหนหลุดจากเงื่อนไขเรื่องค่าธรรมเนียมหรือเทิร์นโอเวอร์เมื่อรับโบนัส (ซึ่งจะกล่าวในภายหลัง) แต่บัญชีระดับสูงจะได้ลดความเสี่ยงด้วยเทรดไร้ความเสี่ยง และมีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้นด้วยโบนัสที่สูงกว่า เทรดเดอร์อาจเริ่มจาก Bronze แล้วค่อยอัปเกรดเป็น Silver หรือ Gold หากเงินฝากเพิ่มขึ้น จะได้ประโยชน์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
แพลตฟอร์มการเทรดและเครื่องมือใน IQCent
IQCent พัฒนาแพลตฟอร์มการเทรดผ่านเว็บของตนเอง ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ใดๆ สามารถเข้าถึงได้ผ่านเบราว์เซอร์ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ อินเทอร์เฟซดูทันสมัยและเข้าใจง่าย: กราฟจะแสดงอยู่ตรงกลาง ส่วนช่องใส่จำนวนเงินและเลือกทิศทางการเทรด (สำหรับไบนารี่ออปชัน) หรือการตั้งค่า CFD จะอยู่ด้านขวา รีวิวหลายคนบอกว่ามือใหม่ใช้งานได้สะดวก: “การเปิดออเดอร์ตรงไปตรงมา อินเทอร์เฟซเป็นมิตร”
กราฟ TradingView
หนึ่งในข้อได้เปรียบของ IQCent คือมีกราฟ TradingView ฝังอยู่ภายใน แปลว่าคุณเข้าถึงอินดิเคเตอร์ด้านเทคนิคกว่า 100 ตัว และมีเครื่องมือวาดต่างๆ (เช่น เส้นเทรนด์, แนวรับแนวต้าน, รูปทรง) รวมถึงรูปแบบกราฟและช่วงเวลาที่หลากหลาย (5 วินาทีจนถึง 1 วัน) โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชันหลายเจ้ามักมีอินดิเคเตอร์ไม่ครบเท่า TradingView ดังนั้นความสามารถนี้จึงถือว่าเหนือกว่าด้านการวิเคราะห์ตลาดแบบเจาะลึก คุณสามารถวิเคราะห์โดยไม่ต้องสลับออกจาก IQCent
โหมดเทรดไบนารี่ออปชัน
IQCent รองรับรูปแบบไบนารี่ออปชันที่หลากหลายตามระยะเวลาหมดอายุ: แบบเทอร์โบ (5 วินาทีถึง 5 นาที), อินทราเดย์ (ภายในวันเทรด) และระยะยาว (สูงสุด 30 วัน) คุณสามารถเลือกตั้งค่า “Fixed Time” เพื่อกำหนดอายุสัญญาที่ตายตัว หรือปิดโหมดนั้นเพื่อให้ระบบนับถอยหลังเวลาต่อเนื่องแทน
ข้อดีคือคุณอาจเปิดออเดอร์สั้นมากๆ 5 วินาทีก็ได้ เหมาะสำหรับนักสเกลปหรือเทรดข่าว หรือเลือกถือออปชันยาวหลายสัปดาห์ IQCent โฆษณาอัตราการจ่ายสูงสุดถึง 98% ซึ่งถือว่าสูงมาก ในขณะที่โบรกเกอร์อื่นมักอยู่ที่ 80–95% แม้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นจะทำให้คุณได้กำไรต่อออเดอร์มากขึ้น แต่อย่าลืมว่าความเสี่ยงก็สูงตาม
การเทรด CFD/Forex
นอกจากไบนารี่ออปชัน IQCent ยังรองรับการเทรดแบบ CFD หมายความว่าคุณสามารถเปิดโพซิชั่น Buy/Sell โดยไม่มีเวลาหมดอายุเช่นไบนารี ใช้เครื่องมือเดียวกันกับที่มีในไบนารีแต่สลับโหมดมาเป็น CFD (Contract for Difference) และใช้เลเวอเรจได้สูงสุดถึง 1:100 ในคู่สกุลเงินบางตัว
CFD จะเทรดผ่านแพลตฟอร์มเดียวกัน: เปลี่ยนเป็นโหมด CFD คุณสามารถวางคำสั่ง Market หรือ Pending ตั้ง Stop-Loss/Take-Profit และถือโพซิชั่นได้ยาวตามต้องการ (แต่มีค่า Swap ข้ามคืน ราว 0.07% ของขนาดออเดอร์ต่อวัน) สเปรดในคู่หลักเริ่มที่ประมาณ 0.7 pip ถือว่าใกล้เคียงโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ทั่วไปบางเจ้า
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าบางคริปโต CFD อาจมีค่าธรรมเนียมกำไร 5% ด้วยความผันผวนที่สูง แต่การมีทั้งไบนารี่ออปชันและ CFD อยู่ในแพลตฟอร์มเดียว ก็เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์มีความยืดหยุ่นสูงขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะออปชันที่มีเวลาหมดอายุสั้น และยังสามารถใช้เลเวอเรจในการเทรดแบบดั้งเดิมได้
ฟีเจอร์พิเศษ:
- Copy Trading – หนึ่งในไฮไลต์ของ IQCent เหมาะกับมือใหม่ที่อยากได้รายได้แบบกึ่งอัตโนมัติ แพลตฟอร์มจะมีการจัดอันดับเทรดเดอร์ที่ทำผลงานดี และคุณสามารถคัดลอกออเดอร์ของพวกเขาได้ทันที เพียงเลือกเทรดเดอร์ที่สนใจ ระบุเงินลงทุน แล้วระบบจะเปิดออเดอร์ตามเทรดเดอร์คนนั้นแบบเรียลไทม์ แม้จะเป็นวิธีที่สะดวก แต่ก็มีความเสี่ยง เพราะผลงานในอดีตไม่ได้การันตีอนาคต และคุณกำลังฝากเงินในมือคนอื่น รีวิวหลายคนบอกว่าฟีเจอร์นี้ใช้งานได้จริง แต่ควรเลือกเทรดเดอร์อย่างรอบคอบ และหยุดก๊อปปี้หากผลงานแย่เกินไป
- Double Up – ฟีเจอร์ที่ให้คุณกดเพิ่มขนาดออเดอร์ไบนารีปัจจุบันเป็น 2 เท่า โบรกเกอร์จะเปิดออเดอร์ใหม่ที่มีเงื่อนไขเดียวกัน (สินทรัพย์ ทิศทาง ระยะเวลาหมดอายุ) ทำให้ทั้งกำไรและขาดทุนมีโอกาสคูณสอง เหมาะถ้าคุณมั่นใจว่าราคาไปในทิศทางถูกต้อง แต่อย่าใช้สุ่มสี่สุ่มห้า เพราะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
- Rollover (Extension) – ฟีเจอร์เลื่อนเวลาหมดอายุของออเดอร์ไบนารีออกไป ถ้าคุณคิดว่าราคาอาจต้องการเวลามากขึ้นที่จะกลับมาเป็นกำไร คุณอาจใช้ Rollover ได้ครั้งหนึ่ง ปกติจะขยายเวลาจากเดิม 100% หากมีการทำซ้ำอาจเพิ่ม 30% อีกตามเงื่อนไข บางครั้งโบรกเกอร์จะคิดค่าธรรมเนียมหรือกำหนดให้เพิ่มจำนวนเงินลงทุนเพื่อใช้ Rollover (ควรตรวจสอบเงื่อนไข)
- Sell-Out (Early Closure) – อนุญาตให้ปิดออเดอร์ไบนารีก่อนหมดอายุ หากออเดอร์อยู่ในสถานะ “In the Money” คุณสามารถล็อกกำไรล่วงหน้าเพื่อป้องกันความผันผวน อย่างไรก็ตาม ถ้าออเดอร์ติดลบ การปิดก่อนกำหนดอาจไม่คุ้ม หรือบางกรณีปิดไม่ได้เลย ฟีเจอร์นี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการรับกำไรก่อนตลาดผันผวน
- Risk-Free Trades – สำหรับบัญชี Silver/Gold เป็นข้อเสนอแรกเข้า ปกติจะประกัน 3 เทรดแรก ถ้าขาดทุน โบรกเกอร์จะชดเชยเป็นโบนัส ช่วยลดความเสี่ยงเริ่มต้น แต่โบนัสก็จะติดเงื่อนไขเทิร์นโอเวอร์ก่อนถอน
- Personal Manager และการฝึกอบรม – บัญชี Gold ได้ “Success Manager” ส่วนตัวคอยให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์ การใช้ฟีเจอร์ต่างๆ แพลตฟอร์มยังมี “Master Class” สำหรับเรียนรู้กลยุทธ์การเทรด การวิเคราะห์เทคนิค ฯลฯ เพื่อช่วยให้ลูกค้าพัฒนาความสามารถและสร้างความประทับใจ
ไม่มี MetaTrader และไม่มีแอปมือถืออย่างเป็นทางการ
IQCent ไม่รองรับ MetaTrader 4/5 หรือโปรแกรมเทรดภายนอกอื่นๆ ทั้งการเทรดไบนารี่ออปชันกับ MetaTrader ก็ไม่ค่อยแพร่หลายอยู่แล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังไม่มีแอปบน iOS หรือ Android (ข้อมูลถึงปี 2024)
หลายโบรกเกอร์มีแอปแยกให้ดาวน์โหลด แต่ IQCent ให้ใช้เว็บเวอร์ชันบนสมาร์ตโฟนแทน แม้จะใช้งานได้ แต่อาจวิเคราะห์กราฟได้ลำบากกว่าเพราะหน้าจอเล็ก บางเว็บไซต์กล่าวถึง APK “IQCent app” จากแหล่งบุคคลที่สาม แต่ไม่มีลิงก์อย่างเป็นทางการจากตัวโบรกเกอร์เอง ควรระวังเรื่องความปลอดภัย
สินทรัพย์และตลาดที่เทรดได้
IQCent มีรายการสินทรัพย์เทรดอยู่ในระดับกลางๆ ประมาณ 100+ รายการ แบ่งออกเป็น:
- Forex (คู่สกุลเงิน) – คู่หลัก (EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY ฯลฯ) คู่รองและคู่แปลกบางส่วน รวมแล้วหลายสิบคู่
- Cryptocurrencies – Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Ripple, Bitcoin Cash เป็นต้น โดยเทรดได้ทั้งแบบ CFD (มีเลเวอเรจ) และไบนารี่ออปชัน (ระยะสั้น) ตลาดคริปโตมักเปิด 24/7 รวมวันหยุด
- ดัชนี (Indices) – ดัชนีตลาดหุ้นหลักๆ ของโลก (S&P 500, Nasdaq, Dow Jones, DAX, FTSE, Nikkei ฯลฯ) ให้คุณเก็งกำไรทิศทางภาพรวมของตลาด
- สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) – ทองคำ เงิน น้ำมัน และบางครั้งอาจมีสินค้าเกษตรอย่างข้าวสาลีหรือกาแฟ
- หุ้น (Stocks) – (มีจำกัด) IQCent ระบุว่าสามารถเทรดหุ้นได้ แต่แทบไม่มีรายการหุ้นเฉพาะเจาะจง บ้างบอกว่าเน้นดัชนีและคริปโตมากกว่า จึงอาจมีหุ้นไม่มาก
จำนวนสินทรัพย์ที่ไม่ถือว่าเยอะมาก
ประมาณ 100 รายการถือว่าไม่เยอะและไม่ได้น้อยเกินไป Quotex มีประมาณ 100, Pocket Option ราว 50–100 ส่วน Olymp Trade กับ Binomo มักมีราว 30–40 โดยรวม IQCent จึงไม่ขาดแคลนเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น เพียงแต่ไม่มีหุ้นเฉพาะจำนวนมาก หากคุณต้องการเทรดเฉพาะหุ้นเป็นหลัก อาจไม่เพียงพอ แต่สำหรับไบนารี่ออปชันในตลาดหลักๆ ถือว่าใช้ได้
สภาพคล่องและราคาเสนอ (Quotes)
โบรกเกอร์ใช้ระบบ OTC (Over-the-Counter) โดยตัวโบรกเกอร์เองเป็นคู่สัญญาของลูกค้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติในตลาดไบนารี่ออปชัน คำถามคือราคาเสนออ้างอิงน่าเชื่อถือแค่ไหน IQCent ระบุว่าใช้ “ผู้ให้บริการสภาพคล่องระดับโลก” และส่งราคาแบบเรียลไทม์ แต่ไม่มีหน่วยงานภายนอกมารับรองอย่างเป็นทางการ รีวิวส่วนใหญ่มักไม่ได้ร้องเรียนว่ามีการดัดแปลงราคาอย่างโจ่งแจ้ง อย่างไรก็ดี หากคุณเทรดระยะสั้นมาก ควรเทียบราคากับแหล่งอื่น (เช่น TradingView) เพื่อความอุ่นใจ
การเทรดวันหยุดสุดสัปดาห์
เพราะ IQCent เสนอสินทรัพย์คริปโตและคู่ OTC ทำให้เทรดได้ตลอดทั้งสัปดาห์ แม้ตลาดฟอเร็กซ์และหุ้นจะปิดเสาร์-อาทิตย์ คุณยังสามารถเทรดคริปโตหรือ “OTC assets” ที่จำลองราคากันได้ โบรกเกอร์โปรโมตว่า “เทรดได้ 7 วันไม่มีหยุด” เหมาะกับบางคนที่ว่างแค่เสาร์-อาทิตย์ หรืออยากฝึกฝนไม่ขาดตอน
เลเวอเรจ
การเทรด CFD ใน IQCent ได้เลเวอเรจสูงสุด 1:100 หมายความว่าด้วยเงิน $100 คุณเปิดโพซิชั่นได้ถึง $10,000 ซึ่งทั้งโอกาสกำไรและขาดทุนจะขยายตาม บางคู่สกุลเงินและทองอาจให้ถึง 1:100 ขณะที่ดัชนีหรือน้ำมันอาจจำกัดที่ 1:50 ส่วนคริปโตมักอยู่ราว 1:5 หรือ 1:10 เพราะผันผวนสูง โบรกเกอร์ตั้งเลเวอเรจไว้ให้โดยอัตโนมัติ ไม่ได้ปรับเองมากนัก สำหรับไบนารี่ออปชันจะไม่มีการใช้เลเวอเรจ
โดยสรุป IQCent มีตลาดให้เทรดหลากหลายพอตัว อาจมากกว่าบางเจ้าที่มีเฉพาะไบนารีอย่างเดียว แต่ถ้าคุณต้องการเน้นหุ้นจำนวนมากหรือเครื่องมือเฉพาะทาง อาจยังไม่ตอบโจทย์
โบนัส โปรโมชั่น และแคมเปญใน IQCent
IQCent มีจุดขายคือการทำการตลาดเชิงรุกด้วยโบนัสและแคมเปญต่างๆ แจกทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง:
โบนัสเงินฝาก (Welcome Bonus)
เมื่อฝากครั้งแรก IQCent จะมอบโบนัสตั้งแต่ 20% จนถึง 200% ของยอดฝาก ขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน:
- Bronze ($10+) – ประมาณ 20% โบนัส
- Silver ($250+) – สูงสุด 50% โบนัส
- Gold ($1000+) – สูงสุด 100% โบนัส
ช่วงเทศกาลหรือโปรฯ พิเศษ (Black Friday, Cyber Monday ฯลฯ) อาจเพิ่มเป็น 200–250% ซึ่งเท่ากับคุณได้ทุนเพิ่มอีก 2–3 เท่า เช่น ฝาก $1000 ได้โบนัสเพิ่ม $2000 ทั้งนี้ โบนัสย่อมติดเงื่อนไขการเทิร์นโอเวอร์ก่อนถอน (ส่วนใหญ่จะต้องเทรดให้ได้ 3 เท่าของยอดโบนัสหรือมากกว่านั้น)
มีผู้ใช้งานบางส่วนบอกว่าถึงเทิร์นโอเวอร์ครบแล้ว ก็ยังเจอปัญหาถอนเงินลำบาก หรือถูกหักค่าธรรมเนียม สำหรับมือใหม่อาจเลือกไม่รับโบนัสสูงๆ เพื่อให้เงื่อนไขถอนเงินไม่ซับซ้อนก็ได้
โค้ดโปรโมชัน (Promo Codes)
IQCent และพาร์ทเนอร์ต่างๆ มักแจกโค้ดโปรโมชันให้โบนัสเงินฝากสูงขึ้น เช่น รหัส “BINARYTRADING” อาจให้โบนัส 150% ซึ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามช่วงเวลา มักพบตามฟอรั่มหรือเว็บพันธมิตร ปกติกรอกโค้ดขณะสมัครหรือฝากครั้งแรก
การแข่งขันเทรด (Trader Contest)
IQCent จัดแข่งทุกสัปดาห์ โดยจะมีผู้ชนะหลายอันดับ (บางที่บอก 20 อันดับ) ชิงรางวัลรวมมูลค่าถึง $20,000 หรือต่อคนอาจได้ $20k แตกต่างกันไปตามประกาศล่าสุด จุดหลักคือวัดกันที่ปริมาณเทรดหรือกำไรสูงสุดของสัปดาห์ ผู้เทรดทุกคนมีสิทธิ์เข้าร่วมอัตโนมัติเมื่อทำการเทรด อย่างไรก็ตาม ไม่ควรเร่งเทรดเกินตัวเพื่อไล่ล่ารางวัล ควรมองว่าเป็นของแถมมากกว่า
ลอตเตอรี่และของรางวัล
นอกจากเงินรางวัล IQCent ยังเคยจัดกิจกรรมแจกรางวัลเป็นอุปกรณ์ไอที เช่น Apple Watch, iPhone 14 Pro, iPad Pro, iMac M1 24” เป็นต้น เงื่อนไขคือต้องฝากเงิน $250 ขึ้นไปแล้วเข้าร่วมลุ้นจับสลาก ซึ่งเป็นกิจกรรมเสริมสำหรับคนที่ฝากเงินระดับนั้นอยู่แล้ว
Risk-Free Trades
ดังที่กล่าวไว้ บัญชี Silver/Gold จะได้เทรดไร้ความเสี่ยงสูงสุด 3 ครั้ง ช่วยลดความเสี่ยงช่วงแรก หากแพ้ โบรกเกอร์จะคืนเงินในรูปโบนัส แต่สุดท้ายก็ยังติดเงื่อนไขเทิร์นโอเวอร์ตามปกติ
โปรแกรมแนะนำเพื่อน (Referral Program)
IQCent มีโปรแกรมพาร์ทเนอร์ ได้ค่าคอมมิชชัน 20% จากยอดฝากของเพื่อนคุณ เช่น ถ้าเพื่อนฝาก $100 คุณได้รับ $20 ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ทั่วไป จึงมีคนทำคอนเทนต์โปรโมต IQCent ผ่านโซเชียลหรือฟอรั่มเป็นช่องทางหารายได้เสริม
เปรียบเทียบโบนัสและทัวร์นาเมนต์ของคู่แข่ง
Pocket Option เองก็มีทัวร์นาเมนต์ แต่เงินรางวัลรวมมักเล็กกว่า ($1k–$5k) และโบนัสฝากราว 50% ขณะที่ Olymp Trade และ Binomo ปัจจุบันจะเน้นด้านการเรียนการสอนและโปรแกรมสะสมแต้มมากกว่าโบนัสฝาก เนื่องด้วยข้อกำกับในบางประเทศ ส่วน Quotex ให้โบนัสราว 30–50% จึงเห็นว่า IQCent นั้น “มือเติบ” กว่าเรื่องโบนัสหรือรางวัล อย่างไรก็ดี โบนัสไม่ใช่ “เงินฟรี” เพราะทั้งหมดมีเงื่อนไขการเทรด (Wagering) นั่นเอง
วิธีการฝากและถอนเงิน
IQCent รองรับการฝากหลายช่องทาง: บัตรธนาคาร (Visa/MasterCard), โอนเงินผ่านธนาคาร, คริปโตเคอร์เรนซี (BTC, ETH, LTC, USDT, XRP ฯลฯ) โบรกเกอร์นี้พยายามโปรโมตให้ใช้คริปโตเยอะๆ เพราะรวดเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ ส่วนอีวอลเล็ตอย่าง Skrill หรือ Neteller ยังไม่ค่อยเห็นระบุชัดเจน คุณสามารถใช้เหรียญ Stablecoin อย่าง USDT แทนได้
ฝากขั้นต่ำ $10 (หากเป็นคริปโต) หรือ $20 (หากใช้บัตร) เงินจะเข้าบัญชีทันทีส่วนใหญ่ ยกเว้นโอนเงินผ่านธนาคารที่อาจรอ 1–3 วัน
หมายเหตุ: หากฝากผ่านบัตรเครดิต/เดบิต มีค่าธรรมเนียม 5% เช่น ฝาก $100 จะได้สุทธิ $95 ในบัญชี โบรกเกอร์บางเจ้าจะช่วยแบกรับค่าธรรมเนียมเอง แต่ IQCent มาเรียกเก็บจากผู้ใช้แทน เหมือนต้องการจูงใจให้ใช้คริปโตมากกว่าบัตร (เพราะค่าโอนบนบล็อกเชนอาจถูกกว่า 5%)
ขั้นตอนสมัครและฝากเงินทำได้เร็ว IQCent มักไม่ขอเอกสารยืนยันตัวตนทันที แค่ลงอีเมล ตั้งยูสเซอร์เนม รหัสผ่าน แต่เวลาถอนเงิน อาจต้องผ่านขั้นตอน KYC เช่น ส่งสำเนาบัตรพาสปอร์ต สำเนาบัตรเครดิต ฯลฯ แม้บางคนบอกว่าถอนเงินได้เลยโดยไม่ส่งเอกสาร แต่ควรเตรียมไว้เผื่อ
การถอนเงิน
คุณสามารถถอนเงินผ่านช่องทางเดียวกับที่ฝาก เช่น บัตรธนาคารหรือกระเป๋าคริปโต หรือโอนผ่านธนาคาร (ขั้นต่ำ $20 ถือว่าต่ำพอสมควร) IQCent ประกาศโฆษณาว่า “เราประมวลผลคำขอถอนภายในหนึ่งชั่วโมง” แต่ในความเป็นจริง หลังอนุมัติ อาจต้องรอ 1–3 วันทำการสำหรับยอดที่จะเข้าบัตรหรือบัญชีธนาคาร ส่วนคริปโตอาจเร็วกว่า โดยเฉพาะหากเป็นจำนวนไม่ใหญ่
ค่าธรรมเนียมถอน 20% – ข้อควรระวังสำคัญ หนึ่งในประเด็นที่ถกเถียงที่สุดเกี่ยวกับ IQCent คือ เมื่อคุณถอนเงิน โบรกเกอร์มักจะหัก 20% ของจำนวนที่ถอน ตามนโยบาย ยกเว้นคุณจะเทรดถึงเทิร์นโอเวอร์ตามที่กำหนด (มักคือ 3 เท่าของเงินฝาก หรือมากกว่านั้น โดยเฉพาะถ้ารับโบนัส) เทรดเดอร์หลายคนยืนยันว่าถึงแม้ไม่ได้รับโบนัสก็ยังโดนหัก 20% อยู่ดี เช่น ผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งกล่าวว่า “โบรกเกอร์ไม่ยอมให้ผมถอนเงิน แถมเรียกเก็บ 20% แบบไม่ยุติธรรม”
IQCent อ้างว่านี่เป็นมาตรการป้องกันการฟอกเงิน และเพื่อไม่ให้มีการฝาก-ถอนทันทีโดยไม่เทรด แต่ในมุมมองของเทรดเดอร์ นี่เป็นข้อจำกัดที่ “รุนแรง” กว่าโบรกเกอร์อื่นมาก (ทั่วไปอาจมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยหรือไม่มีเลย) ทำให้หลายคนมองว่านี่คือวิธี “บังคับ” ให้เทรดต่อหรือทิ้งเงินไว้กับโบรกเกอร์ หากคุณเลือกเทรดกับ IQCent ต้องยอมรับความเสี่ยงว่าอาจสูญ 20% เมื่อถอน (หรือพยายามเทรดจนกว่าจะถึงเทิร์นโอเวอร์) แต่บางรีวิวยังบอกว่าถึงเทรดครบแล้วก็ยังหลบเลี่ยงค่าธรรมเนียมไม่ได้
อาจเป็นกลยุทธ์ที่ดีถ้าจะฝากเงินจำนวนน้อยๆ เพื่อทดลองถอนดูก่อน หรือเทรดด้วยทุนเล็ก เพราะการแบกภาระค่าถอน 20% นั้นถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับ Pocket Option, Olymp Trade หรือโบรกเกอร์อื่นที่มักไม่มีการเรียกเก็บในระดับนี้
วงเงินถอนและความถี่การถอน
IQCent บอกว่าสามารถถอนเงินได้ทุกวัน แต่การถอนบ่อยครั้งด้วยจำนวนเล็กอาจไม่คุ้มเพราะโดนหัก 20% ทุกครั้ง คุณต้องถอนขั้นต่ำ $20 มีบางกระทู้บอกว่าหากถอนไม่ถึง ~$1000 อาจได้รับอนุมัติอัตโนมัติ แต่หากจำนวนมากกว่านั้นอาจมีการตรวจสอบเพิ่มเติม
ส่วนกำไรที่เกิดจากโบนัส บริษัทย่อมมีสิทธิ์ยกเลิกโบนัสเมื่อถึงเวลาถอน (ตามกฎว่า “โบรกเกอร์อาจยกเลิกโบนัสเมื่อมีการถอน”) ซึ่งเป็นปกติของโบนัสโบรกเกอร์หลายราย ถ้าคุณฝาก $500 รับโบนัส $250 ทำกำไรแล้วถอน ก็ต้องเผื่อใจว่าโบนัสนั้นอาจถูกตัดออกไป
ปัญหาในการถอน
มีลูกค้าจำนวนหนึ่งรายงานปัญหาในการถอนยอดใหญ่ IQCent บางครั้งอาจบล็อกบัญชีหรือเรียกร้องให้ “ฝากเพิ่ม” เพื่อยืนยันตัวตน (รูปแบบหลอกลวงที่เจอบ่อย) ตัวอย่างเช่น มีผู้ใช้เล่าว่าถอนเงินไม่ได้จนกว่าจะจ่าย “ภาษี” 20% ให้บริษัทก่อน ซึ่งผู้เสียหายมองว่านี่คือสัญญาณหลอกลวง
คนที่ถอนได้สำเร็จส่วนใหญ่จะเป็นจำนวนไม่มาก เช่น $100–$200 ผ่านกระเป๋าคริปโต อาจไม่มีปัญหาอะไรมาก บางคนสันนิษฐานว่า IQCent ปล่อยให้ถอนเล็กๆ ได้ง่าย แต่หากเป็นยอดใหญ่จะโดนกีดกัน คำแนะนำคือ “อย่าฝากเงินก้อนใหญ่” และ “ถ้าได้กำไร ควรถอนเป็นระยะ”
บทสรุปเกี่ยวกับการฝาก-ถอน: แม้การฝากเงิน IQCent จะสะดวกโดยเฉพาะผ่านคริปโต แต่ค่าธรรมเนียมถอน 20% และปัญหาการถอน เป็นความเสี่ยงสำคัญที่คุณควรพิจารณา เปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงหรือมีใบอนุญาตดีๆ อาจปลอดภัยกว่า
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและการให้ความรู้
IQCent โปรโมตว่ามีฝ่ายดูแลลูกค้าตลอด 24/7 หลายช่องทาง: แชทสดบนหน้าเว็บไซต์ (ตอบโต้รวดเร็ว) อีเมล แบบฟอร์มติดต่อ และจุดเด่นคือ “วีดีโอแชท” ที่คุณเห็นเจ้าหน้าที่ตัวเป็นๆ พูดคุยกับคุณ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น จากรีวิวพบว่า เจ้าหน้าที่ยินดีช่วยตอบคำถามทั่วไปเรื่องฝาก โบนัส หรือข้อมูลเบื้องต้นได้รวดเร็ว
การรองรับหลายภาษา
ตัวเว็บ IQCent แปลเป็นหลายภาษา และฝ่ายสนับสนุนส่วนใหญ่ก็น่าจะช่วยได้อย่างน้อยภาษาอังกฤษ รัสเซีย สเปน (บางสื่อบอกว่ารองรับจีนด้วย) ในเวอร์ชันรัสเซีย IQCent.trade ก็ระบุว่ามีบริการรัสเซีย 24/7 โบรกเกอร์นอกชายฝั่งบางเจ้ามีภาษาจำกัด แต่เจ้านี้ค่อนข้างครอบคลุม
ประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ
จากการทดสอบแชทบนหน้าเว็บ พบว่าเจ้าหน้าที่ตอบกลับภายใน 1–2 นาที สำหรับคำถามทั่วไป (เช่น วิธีฝาก เงื่อนไขโบนัส) จะมีสคริปต์ตอบให้พร้อม แต่ถ้าเป็นประเด็นลึก เช่น ทำไมถึงมีค่าถอน 20% หรือทำไมโบรกเกอร์ไม่มีใบอนุญาต ทางเจ้าหน้าที่จะตอบเลี่ยงๆ แล้วเชิญชวนให้มองเรื่องโบนัสแทน ดูเหมือนถูกฝึกมาให้ดึงลูกค้าไว้เป็นหลัก แต่ถ้าเป็นปัญหาการใช้งานระบบ พนักงานก็ค่อนข้างช่วยได้
การให้ความรู้กับลูกค้า
บนเว็บไซต์มี FAQ กับ “Guides” อธิบายวิธีเปิดบัญชี วิธีเทรดเบื้องต้น กลยุทธ์สำหรับมือใหม่ ตลอดจนศัพท์พื้นฐาน ถือว่าพอเป็นไกด์เริ่มต้น แต่ไม่ได้ละเอียดเทียบเท่า Olymp Trade หรือบางเจ้าที่มีศูนย์การเรียนมากมาย ถ้าคุณฝากเงินระดับ Silver/Gold ก็จะได้คลาส Master Class ออนไลน์เพิ่มเติม
บริการเสริม
โบรกเกอร์ประชาสัมพันธ์ว่ามีปฏิทินเศรษฐกิจและสัญญาณเทรดบางรูปแบบ (อาจผ่าน SMS หรือหน้าเว็บ) มีแหล่งข่าวว่า TradersUnion เคยลงบทความเกี่ยวกับสัญญาณ IQCent แต่ไม่มีการยืนยันความแม่นยำ เป็นบริการที่ควรประเมินอย่างมีวิจารณญาณ
การจัดการข้อร้องเรียน
หากเกิดข้อพิพาทจริง (เช่น ถอนเงินล่าช้า) การไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลระดับสากลทำให้ผู้เสียหายร้องเรียนยาก IQCent ไม่อยู่ใต้กฎหมายในยุโรปหรือหน่วยงานที่มีอำนาจจริง อ้างแต่ IFMRRC ที่ไม่ชัดเจน ลูกค้าจึงมักต้องต่อรองกับทางซัพพอร์ตเอง ซึ่งหากเป็นปัญหาใหญ่อาจแก้ไขยาก
สรุป: ฝ่ายสนับสนุน IQCent ตอบเร็ว และมีเครื่องมือสื่อสารหลากหลาย แต่เนื้อหาที่ช่วยได้มักเป็นเรื่องทั่วไป หากคุณติดปัญหาเชิงนโยบาย เช่น ค่าธรรมเนียม 20% ก็อาจไม่สามารถแก้ไขได้ แพลตฟอร์มมีเนื้อหาสอนเบื้องต้นให้ แต่มือใหม่อาจต้องหาความรู้เพิ่มเติมเอง
รีวิวจากเทรดเดอร์ตัวจริงเกี่ยวกับ IQCent
เวลาประเมินโบรกเกอร์ ควรดูรีวิวจากผู้ใช้จริง โดยเฉพาะด้านการถอนเงิน เรารวบรวมความคิดเห็นจากหลายแหล่ง (Reddit, Trustpilot, ForexPeaceArmy, Sitejabber, Slashdot, YouTube) พบว่ามีทั้งคำชมและคำด่า ดังนี้:
⭐ รีวิวด้านบวก
มีเทรดเดอร์บางส่วนชอบที่ IQCent ฝากขั้นต่ำน้อยและให้อัตราจ่ายที่สูง เช่น ใน Sitejabber เรตเฉลี่ยประมาณ 3.8/5 มีบางคนบอกว่า “ผมชอบที่เริ่มฝากเพียง $20 ในบัญชี Bronze เริ่มต้นเทรดด้วย $50 ดูค่อนข้างปลอดภัยสำหรับมือใหม่ แพลตฟอร์มใช้ง่าย และเคยถอนกำไรเล็กๆ ผ่านคริปโตได้จริง” บ้างก็บอกว่าระบบ Copy Trading ช่วยให้ทำกำไรได้ถ้าเลือกเทรดเดอร์เก่งๆ ส่วนใหญ่ผู้ที่ให้รีวิวบวกมักเป็นมือใหม่ที่มองว่าแพลตฟอร์มเริ่มต้นง่าย
อีกกลุ่มชมว่าโบนัสสูง “โบรกเกอร์เพิ่มทุนให้เท่าตัว ทำให้มีมาร์จิ้นเทรดมากขึ้น” บ้างเคยถอนเงินเล็กน้อย ($100-$200) แล้วได้รับเงินจริง ไม่มีปัญหา
⚠️ รีวิวด้านลบ
น่าเสียดายที่มีจำนวนไม่น้อยที่รีวิวด้านลบ โดยเฉพาะเรื่องถอนเงินก้อนใหญ่ Reddit มีคนเขียนว่า “IQCent โกงชัดๆ ไม่ยอมจ่ายเงิน หาเหตุผลแปลกๆ ก่อนบล็อกบัญชี” หรือ “นี่เป็นแพลตฟอร์มที่หลอกลวงมากที่สุด ผมมองว่า ผมถูกโกงที่นี่ พวกเขาไม่คืนเงิน ยังจะเก็บค่าถอน 20% อีก กลุ่มโจรดีๆ นี่เอง”
ForexPeaceArmy ก็ให้คะแนน IQCent ว่าเป็น “SCAM” พร้อมรีวิว 1 ดาวหลายรายการ หลักๆ คือปัญหาการถอนและเงื่อนไขพิสดาร บางคนบอกว่าถูกผู้จัดการกดดันให้ “ฝากเพิ่ม” เพื่อปลดล็อกถอนเงิน เป็นรูปแบบหลอกลวงที่เคยมีมาก่อนแล้วในวงการ
😐 รีวิวกลางๆ
กลุ่มนี้พยายามสรุปภาพรวมโดยบอกว่าข้อดีคือเข้าถึงง่าย มีฟีเจอร์คัดลอกและโบนัสจูงใจ แต่ความเสี่ยงสูงมาก พวกเขาเปรียบเทียบเหมือน “คาสิโน” ที่โอกาสได้เงินก็มี แต่ไม่เหมาะกับใส่ทุนใหญ่ๆ บางคนบอกว่า “ผมใช้ IQCent สำหรับเทรดเร็วๆ แบบเสี่ยงสูง เล่นขำๆ เคยถอนจำนวนเล็กได้ หลังโดนหักไป 20% ก็เหมือนจ่ายค่าสนุก”
สรุปคะแนนจากเว็บไซต์ใหญ่:
- Trustpilot: ไม่มีโปรไฟล์ IQCent อย่างเป็นทางการชัดเจน มีรีวิวเชิงลบบางส่วนระบุว่าหลอกลวง
- ForexPeaceArmy: 1/5 ดาว “IQCent เป็นสแกม” มีหลายคนเคยโดนยึดเงิน
- Sitejabber: 3.8/5 (รีวิวราว 15 คน) ออกแนวกลางค่อนข้างดี อาจมีอิทธิพลจาก Affiliate
- Slashdot: 4.6/5 (35 รีวิว) ค่อนข้างสูง มีแนวโน้มเป็นบทความโปรโมต
- ThatSucks (BinaryOptionsThatSuck.com): เคยรีวิวเชิงลบ โจมตีเรื่องไม่มีใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมแพง
- YouTube: หลากหลายมาก วิดีโอโปรโมตส่วนใหญ่มาจาก Affiliate ส่วนวิดีโอ “แฉ” ก็ตีแผ่ว่าไม่ยอมจ่ายเงิน
บทสรุปรีวิวโดยรวม: IQCent ไม่ได้มีชื่อเสียงที่แข็งแกร่งนักในสังคมนักเทรด ส่วนใหญ่ตั้งข้อสงสัยเรื่องถอนเงิน แต่ก็มีคนที่เทรดแล้วถอนออกได้ โดยเฉพาะยอดไม่มาก ทั้งนี้ถ้าใครจะลองใช้งาน แนะนำให้ลงทุนอย่างระมัดระวัง เริ่มด้วยเงินน้อย และทดสอบถอนก่อน ตลอดจนพิจารณาว่าเราโอเคกับค่าธรรมเนียม 20% หรือไม่
บทวิจารณ์และความคิดเห็น