หน้าหลัก ข่าวไซต์
รีวิว BitMEX: จุดเด่นและข้อมูลกระดานเทรดคริปโต

BitMEX: รีวิวแบบละเอียดของแพลตฟอร์มเทรดคริปโตและฟีเจอร์ที่น่าสนใจ (2025)

BitMEX เป็นกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ได้รับความสนใจจากทั้งมือใหม่และมือโปร แต่ก่อนจะลงลึกในรายละเอียด ควรเข้าใจก่อนว่าที่นี่ไม่ใช่แพลตฟอร์มที่เหมาะกับทุกคน ในสายตาผู้เริ่มต้น อินเทอร์เฟซและฟีเจอร์อาจดูซับซ้อน แต่หากเข้าใจแนวทางใช้งานแล้ว BitMEX ก็กลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังได้ ส่วนคนที่มีประสบการณ์จะยิ่งเปิดขอบเขตใหม่ ๆ ในการเทรด โดยเฉพาะการเทรดมาร์จิ้น

BitMEX โดดเด่นด้วยการเทรดมาร์จิ้นที่มีเลเวอเรจสูงถึง 100x ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่อาจกลายเป็นหลุมพรางได้เช่นกัน หากไม่เข้าใจระบบดีพอ คุณอาจเจอความเสี่ยงสูง ดังนั้น ต้องรู้จักจัดการเงินทุนอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ BitMEX ยังให้บริการ Spot และ Staking ซึ่งตอบโจทย์นักเทรดที่มองหารูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย ความปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนตั้ง แล้วเงินทุนของเราจะปลอดภัยแค่ไหน? เราจะเจาะลึกทีละประเด็น

บทความนี้จะพาคุณศึกษาขั้นตอนตั้งแต่เริ่มสมัครและยืนยันตัวตน ไปจนถึงการฝาก-ถอน และการเทรดแรกบน BitMEX ประเด็นสำคัญอย่าง ค่าธรรมเนียม การเลือกคู่เทรด เราได้สรุปไว้ให้อ่านง่าย ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการเทียบ BitMEX กับแพลตฟอร์มอื่นเพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ครบถ้วน

การเทรดคริปโตอาจฟังดูยากในตอนแรก แต่ถ้าคุณเตรียมพร้อมให้ดี จะพบว่ามันเป็นกิจกรรมที่ทั้งท้าทายและสามารถจัดการได้ เรามาเจาะดูศักยภาพของ BitMEX ไปพร้อม ๆ กันเลย!



BitMEX คืออะไร และทำงานอย่างไร?

เคยสงสัยไหมว่าทำไมนักเทรดบางคนถึงมีกำไรแม้ในช่วงที่ตลาดผันผวน? BitMEX (Bitcoin Mercantile Exchange) คือแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่แค่การซื้อขายคริปโตทั่วไป แต่ยังเปิดโอกาสในด้าน “อนุพันธ์” (Derivatives) เพื่อเสริมศักยภาพการเทรดมากขึ้น เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2014 เดิมทีเจาะกลุ่มเทรดเดอร์ชำนาญ แต่ตอนนี้ขยายขอบเขตการใช้งานได้กว้างขวางขึ้น อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จบนแพลตฟอร์มนี้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในความเสี่ยงและการตัดสินใจอย่างมีสติ

เว็บไซต์ทางการของ BitMex

จุดเด่นหลักของ BitMEX

  • เทรดมาร์จิ้น: ใช้เลเวอเรจได้สูงสุดถึง 100x สำหรับ Bitcoin และสูงสุด 50x สำหรับเหรียญอื่น ๆ ควรจำไว้ว่ายิ่งเลเวอเรจสูง โอกาสกำไรก็สูงตาม แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นมหาศาล
  • ตราสารอนุพันธ์หลากหลาย: มีทั้ง Perpetual Swap, Futures และ Options ทำให้วางกลยุทธ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเก็งกำไรระยะสั้นหรือลงทุนระยะยาว
  • การชำระเงินด้วย Bitcoin: ไม่ว่าจะเทรดเหรียญไหน สุดท้ายจะคิดคำนวณผลกำไร-ขาดทุนด้วย Bitcoin ถือว่าตอบโจทย์ผู้ที่ให้ความสำคัญกับ BTC เป็นหลัก
  • โฟกัสเฉพาะคริปโต: ไม่มีการซื้อขายด้วยเงิน Fiat ทำให้เหมาะกับผู้มีประสบการณ์ แต่มือใหม่อาจต้องปรับตัวมากขึ้น

BitMEX ทำงานอย่างไร?

BitMEX เน้นไปที่อนุพันธ์ หากคาดว่าราคาบิตคอยน์จะขึ้นก็เปิด Long ถ้าคิดว่าจะลงก็เปิด Short ส่วนเลเวอเรจจะช่วยขยายขนาดสัญญาที่เทรดได้ แต่ต้องระวัง หากตลาดวิ่งสวนทางอย่างรุนแรง อาจถูก Liquidation และเสียเงินลงทุนทั้งหมด

แพลตฟอร์มมีคำสั่งซื้อขายหลายแบบ เช่น Market, Limit, Stop เป็นต้น กรณี Limit Order จะกำหนดราคาที่ต้องการซื้อ/ขาย ส่วน Market Order จะจับคู่ทันทีตามราคาตลาด สำหรับมือใหม่ แนะนำให้ลอง TestNet ซึ่งเป็นโหมดทดลองที่ใช้เงินปลอมในการฝึกเทรด เสมือนเป็น “สนามซ้อม” ให้คุณคุ้นเคยก่อนลงเงินจริง

แพลตฟอร์ม BitMex ที่ปรับแต่งได้

ข้อดีและข้อจำกัดของ BitMEX

  • ข้อดี:
    • เลเวอเรจสูง เปิดโอกาสกำไรจำนวนมาก หากบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
    • เครื่องมือระดับมืออาชีพ เช่น อนุพันธ์หลากหลายชนิด
    • Maker ได้ Rebate ช่วยลดต้นทุนค่าธรรมเนียม
  • ข้อเสีย:
    • ไม่มีบริการ Fiat ทำให้มือใหม่อาจลำบากในการเข้าถึง
    • อินเทอร์เฟซมีความซับซ้อน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยการเทรดอนุพันธ์
    • เลเวอเรจสูงนำมาซึ่งความเสี่ยงขาดทุนหนัก

BitMEX ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือของมือโปรเท่านั้น แต่เหมือนรถซูเปอร์คาร์ ที่ใครขับเป็นและเข้าใจเครื่องยนต์ก็จะใช้ประโยชน์ได้คุ้มค่า หากคุณยังเป็นมือใหม่ แนะนำให้ลองขับในสนามซ้อม (TestNet) ทดสอบฟังก์ชัน การลงสนามจริงแบบค่อยเป็นค่อยไปจะสร้างความมั่นใจและลดโอกาสทำพลาดได้

โครงสร้างค่าธรรมเนียมของ BitMEX: สิ่งที่ต้องรู้

ค่าธรรมเนียมคือปัจจัยสำคัญในการคำนวณกำไร-ขาดทุนของการเทรดคริปโต BitMEX ใช้โมเดล Maker-Taker ถ้าคุณสร้างสภาพคล่อง (Maker) คุณจะได้รับ Rebate แต่ถ้าคุณเทรดทันที (Taker) จะเสียค่าธรรมเนียม ลองมาดูรายละเอียดว่าระบบนี้ทำงานอย่างไร

ค่าธรรมเนียมตลาด Spot

  • Maker: ได้รับ Rebate 0.025% เพื่อจูงใจให้สร้างสภาพคล่อง คิดเสียว่าเป็น ‘ค่าเสียเวลาช่วยตลาด’
  • Taker: เสีย 0.075% เพราะเป็นการเข้ามาเทรดด้วยราคาในตลาดปัจจุบัน เหมือนคุณซื้อความสะดวกรวดเร็ว

ค่าธรรมเนียมตลาด Derivatives

  • Maker: รับ Rebate 0.01% จากการตั้งคำสั่งล่วงหน้า ช่วยให้ตลาดมีสภาพคล่องมากขึ้น
  • Taker: เสีย 0.05% สำหรับคำสั่งที่จับคู่ทันที ถือเป็นค่าธรรมเนียมมาตรฐานสำหรับความสะดวกในการเทรด

อย่างไรก็ตาม อัตราค่าธรรมเนียมเหล่านี้อาจปรับเปลี่ยนตามประเภทสัญญาและปริมาณเทรด ทั้งนี้ BitMEX มีการอัปเดตเงื่อนไขเป็นระยะ ถ้าคุณเทรดปริมาณมาก อาจได้สิทธิพิเศษในกลุ่ม VIP ที่ช่วยลดค่าธรรมเนียมได้อีก

วิธีประหยัดค่าธรรมเนียม

ผู้ใช้ BitMEX สามารถลดต้นทุนได้ด้วยหลายวิธี เช่น:

  • Staking BMEX Token: ถ้าถือและ Stake โทเค็น BMEX คุณอาจได้ส่วนลดค่าธรรมเนียม ขึ้นกับจำนวนที่ Stake เช่น มีนักเทรดบางคนบอกว่าสามารถลดค่าใช้จ่ายได้เกือบ 20% ผ่านฟีเจอร์นี้
  • โปรแกรม VIP: สำหรับใครเทรดโวลุ่มสูง อาจได้สิทธิพิเศษอย่างค่าธรรมเนียมถูกลง เครื่องมือขั้นสูง ฯลฯ
  • Maker Incentive Program: โปรแกรมจูงใจให้วางคำสั่ง Maker โดยอาจมีโบนัสรายเดือน หากคุณตั้งคำสั่งทำให้ตลาดมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น

เทคนิคต่าง ๆ สามารถใช้ร่วมกันได้ เช่น คุณอาจ Stake BMEX และเข้าร่วมโปรแกรม Maker พร้อมกัน เพื่อลดต้นทุนโดยรวม

ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ

BitMEX ไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงิน แต่ถ้าเป็นการถอน Bitcoin คุณต้องจ่ายค่าเครือข่าย (Network Fee) ซึ่งขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของบล็อกเชน ณ ขณะนั้น ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วไปในโลกคริปโต

การเข้าใจโครงสร้างค่าธรรมเนียม จะช่วยให้คุณวางแผนเทรดได้ดีขึ้น สำหรับนักเทรดที่มีความถี่สูง การประหยัดเล็กน้อยต่อการเทรดอาจกลายเป็นกำไรที่จับต้องได้เมื่อมองภาพรวม

BitMEX มีความปลอดภัยแค่ไหน?

ในโลกของการเทรดคริปโต เรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง BitMEX เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2014 และมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงสำหรับผู้ใช้อย่างเข้มงวด มาลองดูว่ามีอะไรบ้าง

ระบบจัดเก็บเงินหลายชั้น (Multi-Signature Cold Wallet)

BitMEX เก็บเงินส่วนใหญ่อยู่ใน Cold Wallet ที่ใช้การเซ็นหลายชุด เปรียบเหมือนตู้เซฟที่ต้องใช้กุญแจหลายดอกเปิดพร้อมกัน วิธีนี้ลดโอกาสถูกแฮกอย่างมาก เพราะการโจมตีเพียงจุดเดียวไม่พอ

การจัดการกุญแจเข้ารหัส

คีย์เข้ารหัสหลายส่วนจะถูกเก็บไว้แยกกัน ถึงแม้บางส่วนโดนเจาะ ระบบก็ยังไม่ถูกเจาะทั้งหมด เหมือนจิ๊กซอว์ที่คุณต้องได้ทุกชิ้นถึงจะต่อรูปภาพได้สมบูรณ์

ความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

BitMEX ใช้เทคโนโลยีของ Amazon Web Services (AWS) และมีการควบคุมการเข้าถึงหลายชั้น แม้ระบบแพลตฟอร์มจะแข็งแกร่ง แต่ผู้ใช้อย่างเราก็ต้องระวังตัวเองด้วย ทั้งเรื่องรหัสผ่าน การใช้งาน 2FA ฯลฯ

ยืนยันตัวตนแบบสองขั้น (2FA)

เป็นวิธีป้องกันขั้นพื้นฐาน แต่มีประสิทธิภาพสูง แม้คนอื่นจะรู้รหัสผ่านคุณ แต่เขาก็ยังต้องใช้โค้ดจากมือถือหรืออุปกรณ์อื่นมาเข้าระบบอีกขั้น BitMEX แนะนำให้เปิด 2FA เพื่อเสริมความปลอดภัย

การตั้งค่าความปลอดภัยใน BitMex

ตรวจสอบความปลอดภัยและแจ้งเตือน

BitMEX ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยสม่ำเสมอ เหมือนรถยนต์ที่ตรวจสภาพตามระยะ เพื่อป้องกันปัญหาใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนเมื่อบัญชีคุณมีการล็อกอินหรือกิจกรรมที่ผิดปกติ เพื่อให้คุณดำเนินการป้องกันได้ทัน

เหรียญและคู่เทรดที่มีบน BitMEX

แต่เดิม BitMEX เน้นการเทรดตราสารอนุพันธ์เป็นหลัก แต่ขณะนี้ได้ขยายมาสู่การเทรด Spot ด้วย ทำให้เทรดเดอร์หลากหลายระดับสามารถใช้ได้ ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ มาดูว่ามีเหรียญอะไรบ้าง และจะนำไปใช้งานอย่างไรให้คุ้มค่า

BitMEX รองรับเหรียญอะไรบ้าง?

BitMEX มีเหรียญคริปโตให้เลือกหลายตัว ตั้งแต่เหรียญยอดนิยมไปจนถึงโปรเจกต์ DeFi และ NFT ที่กำลังมาแรง:

  • Bitcoin (XBT): เหรียญหลักที่เป็นจุดตั้งต้นของวงการคริปโต
  • Ethereum (ETH): แพลตฟอร์มชั้นนำด้าน DeFi และสัญญาอัจฉริยะ
  • Tether (USDT): เหรียญ Stablecoin ที่ช่วยลดความผันผวนในตลาด
  • APECoin (APE): โทเค็นสำหรับโลก NFT และสินทรัพย์ดิจิทัล
  • Uniswap (UNI): เหรียญหลักของกระดานเทรดแบบกระจายศูนย์ (DEX)
  • Polygon (MATIC): โซลูชันสำหรับการขยายขนาดเครือข่าย Ethereum
  • Chainlink (LINK): เทคโนโลยีที่เชื่อมข้อมูลในโลกจริงเข้าสู่บล็อกเชน
  • Axie Infinity (AXS): โทเค็นยอดนิยมในวงการเกม NFT
  • Tron (TRX): บล็อกเชนที่โดดเด่นเรื่องความเร็วในการทำธุรกรรม
  • Cardano (ADA): โครงการบล็อกเชนที่มีแนวทางพัฒนาตามหลักวิชาการ
  • Polkadot (DOT): แพลตฟอร์มที่ช่วยให้บล็อกเชนต่าง ๆ ติดต่อกันได้
  • Tezos (XTZ): บล็อกเชนที่อัปเดตตัวเองได้โดยไม่ต้อง Fork ใหม่

การมีสินทรัพย์หลากหลายช่วยให้เทรดเดอร์วางกลยุทธ์ได้ยืดหยุ่น ทั้งแนวอนุรักษ์นิยมและทดลองกับเหรียญใหม่ ๆ

คู่เทรดยอดนิยม

ตัวอย่างคู่เทรดที่แพลตฟอร์มรองรับ:

  • XBT/USDT: คู่หลักในการซื้อขาย Bitcoin ผ่าน Stablecoin
  • ETH/USDT: คู่คลาสสิกสำหรับคนที่ต้องการเทรด Ethereum
  • APE/USDT: เพื่อการลงทุนหรือเก็งกำไรในโลก NFT
  • UNI/USDT: สำหรับสาย DeFi โดยเฉพาะ
  • MATIC/USDT: เหมาะกับผู้ต้องการค่าธรรมเนียมต่ำและความเร็ว
  • LINK/USDT: เหมาะสำหรับกลยุทธ์ที่เน้นข้อมูล
  • AXS/USDT: ถูกใจคอเกมที่อยากลงทุน
  • ADA/USDT: ทางเลือกสำหรับคนเชื่อมั่นวิจัยของ Cardano
  • ETH/XBT: เทรด Ethereum กับ Bitcoin เพื่อปรับพอร์ตตามตลาด

นอกจากนี้ยังมีการอัปเดตเหรียญและคู่เทรดใหม่ ๆ ตามกระแสตลาดอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คุณปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตลอด

การเทรดบน BitMEX

BitMEX แบ่งออกเป็น 2 หมวดใหญ่: Spot สำหรับคนที่ต้องการถือครองเหรียญจริง และ Derivatives ที่เน้นเลเวอเรจสูง ต้องระวังไว้ว่า BitMEX ใช้งานได้เฉพาะคริปโต หากต้องการนำเงิน Fiat เข้า คุณจำเป็นต้องแลกเป็นคริปโตมาก่อน



วิธีสมัคร BitMEX: คู่มือแบบง่าย

สมัครใช้งาน BitMEX ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ควรระวังรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง ต่อไปนี้คือขั้นตอนที่ควรทำและวิธีรักษาความปลอดภัยบัญชี

ขั้นตอนที่ 1: ไปที่เว็บไซต์ทางการ

คลิกที่ https://bitmex.com/app/register โดยแนะนำให้ใช้เบราว์เซอร์รุ่นใหม่อย่าง Chrome, Firefox หรือ Opera หากกังวลว่าเว็บปลอม ให้พิมพ์ URL ด้วยตนเอง

ขั้นตอนที่ 2: กรอกข้อมูล

คุณจะพบฟอร์มสำหรับ:

  • อีเมล: ใช้อีเมลที่คุณเช็กประจำ เพื่อรับข่าวสารและสำหรับล็อกอิน
  • รหัสผ่าน: ตั้งให้ซับซ้อน ผสมตัวอักษรใหญ่เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์เพื่อยากต่อการคาดเดา
  • ประเทศที่พำนัก: เลือกประเทศของคุณ หากอยู่ในประเทศที่จำกัดการใช้งาน อาจมีข้อจำกัดเพิ่มเติม
  • ชื่อ-นามสกุล: ใส่ตามเอกสารทางการ เพราะอาจต้องใช้ในการยืนยันตัวตน

อ่านเงื่อนไขการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวให้ครบ จากนั้นกดยืนยัน

แบบฟอร์มลงทะเบียนใน BitMex

ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันอีเมล

หลังสมัคร จะมีอีเมลยืนยันส่งไปหาคุณ ให้ตรวจสอบกล่องอีเมลหรือสแปม จากนั้นกดลิงก์ “Verify My Email Address” เพื่อเปิดใช้งานบัญชี หากไม่ได้รับอีเมล ให้กดขอส่งอีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 4: ตั้งค่าบัญชีเพิ่มเติม

เมื่อเปิดใช้งานแล้ว ล็อกอินเข้าแพลตฟอร์มและไปที่การตั้งค่าบัญชี เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว เผื่อคุณต้องการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมในภายหลัง

รักษาความปลอดภัยบัญชีอย่างไร?

  • เปิด 2FA: ทำผ่านเมนู Security เพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นตอน
  • ใช้รหัสผ่านเฉพาะ: อย่าใช้รหัสผ่านเดียวกับเว็บอื่นและควรเปลี่ยนเป็นระยะ
  • อัปเดตข้อมูลติดต่อ: เช่น อีเมลหรือเบอร์โทรศัทพ์ ควรตรวจสอบให้ถูกต้องเพื่อป้องกันปัญหาลืมรหัสผ่าน

การยืนยันตัวตน (KYC) บน BitMEX: ทำไมถึงสำคัญ?

ถ้าอยากเทรดบน BitMEX การยืนยันตัวตน (KYC) เป็นขั้นตอนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กระบวนการนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎหมายระดับสากล แล้วทำไม KYC จึงสำคัญขนาดนี้? มาดูกัน

ทำไม BitMEX ถึงบังคับใช้ KYC?

  • ปฏิบัติตามกฎหมาย: BitMEX จำเป็นต้องยึดหลักเกณฑ์สากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและป้องกันปัญหาที่อาจทำให้ถูกปิดกั้นการให้บริการ
  • ป้องกันกิจกรรมผิดกฎหมาย: การยืนยันตัวตนช่วยป้องกันการฟอกเงินและสนับสนุนการก่อการร้าย ทำให้แพลตฟอร์มปลอดภัยขึ้น
  • เพิ่มความปลอดภัย: การที่ทุกบัญชีผ่านการยืนยันตัวย่อมลดโอกาสที่จะมีบัญชีหลอกลวง

ขั้นตอนการยืนยัน

คุณสามารถทำ KYC ผ่านหน้าเว็บหรือแอป BitMEX มีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้:

  1. ข้อมูลส่วนตัว: กรอกชื่อ วันเกิด และประเทศพำนัก ซึ่งระบบจะตรวจสอบกับเอกสาร
  2. อัปโหลดเอกสาร: เช่น ภาพถ่ายบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และหลักฐานที่อยู่ (เช่น บิลค่าน้ำค่าไฟ)
  3. ยืนยันวิดีโอ: อาจต้องถ่ายวิดีโอใบหน้าสั้น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณคือเจ้าของเอกสารตัวจริง
  4. แบบสอบถาม: บางกรณีต้องตอบคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์เทรดและแหล่งที่มาของเงินทุน

โดยทั่วไปใช้เวลาตรวจสอบตั้งแต่ไม่กี่ชั่วโมงจนถึงสองสามวัน ถ้าคิวเยอะอาจใช้เวลานาน เมื่อผ่าน KYC คุณจะได้รับแจ้งเตือนและปลดล็อกทุกฟีเจอร์ในแพลตฟอร์ม

ถ้าไม่ยืนยันจะเป็นอย่างไร?

  • จำกัดการใช้งาน: เปิดสถานะใหม่หรือแก้ไขการเทรดเดิมไม่ได้
  • ถอนเงินไม่ได้: ตั้งแต่ปลายปี 2020 เป็นต้นมา ผู้ที่ไม่ผ่าน KYC จะถูกจำกัดสิทธิในการถอนเงิน

สรุปแล้ว หากต้องการใช้งาน BitMEX อย่างเต็มรูปแบบ ไม่มีทางเลี่ยงนอกจากทำ KYC ให้เสร็จสมบูรณ์

วิธีฝากและถอนเงินบน BitMEX

ขั้นตอนในการฝากและถอนบน BitMEX อาจดูง่าย แต่ก็ต้องใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจทำให้สูญเงิน เรามาดูกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง

การฝากเงิน (Deposit) บน BitMEX

  1. ไปที่แท็บ “Deposit”: เข้าสู่ระบบและเลือก “Account” แล้วคลิก “Deposit”
  2. เลือกสกุลเงิน: ปกติ BitMEX รองรับ Bitcoin (XBT) และเหรียญ Stablecoin อย่าง USDT
  3. สร้างที่อยู่กระเป๋า: ระบบจะให้ที่อยู่สำหรับโอนเงิน จงตรวจสอบความถูกต้องเสมอ
  4. โอนเหรียญ: ใช้กระเป๋าภายนอกหรือกระดานอื่นส่งเหรียญมายังที่อยู่นี้ อย่าพิมพ์ที่อยู่ผิดเด็ดขาด

เมื่อทำการโอนแล้ว ต้องรอบล็อกเชนยืนยันไม่กี่ครั้งกว่าจะเงินเข้าบัญชี ซึ่งอาจกินเวลาตั้งแต่ไม่กี่นาทีถึงหลักชั่วโมง

การถอนเงิน (Withdraw) จาก BitMEX

  1. ไปที่ “Withdraw”: อยู่ในเมนู “Account” เหมือนกับการฝาก
  2. ใส่ข้อมูลการถอน: ระบุที่อยู่กระเป๋าปลายทางและจำนวนที่ต้องการถอน ตรวจสอบซ้ำ ๆ เพื่อป้องกันการพิมพ์ผิด
  3. ยืนยันคำสั่งถอน: หากรายละเอียดถูกต้อง กด “Submit” เพื่อส่งคำขอถอน

BitMEX จะประมวลผลคำขอถอนวันละครั้งตอน 13:00 UTC ถ้าคุณกดถอนก่อนเวลานี้จะได้รับการดำเนินการในวันเดียวกัน ต้องรู้ว่ามีค่าเครือข่าย (Network Fee) ตามความหนาแน่นของบล็อกเชน

ค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน

  • ฝากเงิน: BitMEX ไม่คิดค่าธรรมเนียม แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเน็ตเวิร์กตามปกติของคนโอน
  • ถอนเงิน: คิดเฉพาะค่าธรรมเนียมเครือข่ายตามสภาวะในขณะนั้น

ก่อนทำธุรกรรม ควรเช็กค่าธรรมเนียมเน็ตเวิร์กล่าสุด เพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

เคล็ดลับความปลอดภัย

  • ตรวจสอบที่อยู่: ใส่ที่อยู่กระเป๋าให้ถูกต้อง ผิดเพียงตัวเดียวก็ทำให้เงินหายได้
  • เปิด 2FA: ช่วยให้บัญชีคุณปลอดภัยมากขึ้น
  • ระวังฟิชชิ่ง: อย่ากรอกข้อมูลส่วนตัวหรือคีย์สำคัญในเว็บหรือช่องทางใด ๆ นอกจากเว็บทางการ BitMEX เท่านั้น

ฟีเจอร์เด่นของ BitMEX: จุดที่น่าสนใจ

เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2014, BitMEX ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่แข็งแกร่งด้านอนุพันธ์ ฟีเจอร์หลากหลายเหมาะทั้งมือใหม่ที่อยากลอง และมืออาชีพที่ต้องการเครื่องมือเทรดขั้นสูง เรามาเจาะลึกว่ามีอะไรบ้าง

แพลตฟอร์มการซื้อขาย Spot ของ BitMex

มีตราสารการเทรดหลากหลาย

  • Perpetual Swaps: ไม่มีวันหมดอายุ ถือสถานะได้นานเท่าที่ต้องการ โดยมี Funding Rate ปรับราคาตามตลาด
  • Futures Contract: ซื้อขายตามกำหนดระยะเวลา ตอบโจทย์คนที่ต้องการล็อกราคา หรือใช้ป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวน

สภาพคล่องสูง และค่าธรรมเนียมโปร่งใส

BitMEX มีปริมาณเทรดสูง ทำให้สภาพคล่องเพียงพอ แม้ในช่วงตลาดผันผวน คำสั่งก็สามารถดำเนินได้รวดเร็ว โดยใช้โมเดล Maker-Taker เพื่อกระตุ้นสภาพคล่อง: Maker ได้ Rebate ส่วน Taker จ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราที่ชัดเจน

เลเวอเรจสูงสุดถึง 100x เหมาะกับใคร?

เลเวอเรจช่วยขยายโอกาสกำไรโดยใช้ทุนไม่มาก แต่ความเสี่ยงก็สูงตาม มือใหม่ควรเริ่มต้นจากเลเวอเรจต่ำ และค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเมื่อเข้าใจกลไกตลาดแล้ว

อินเทอร์เฟซใช้ง่าย

BitMEX ผสานการแสดงผลกับ TradingView ทำให้มีเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคครบครัน เช่น อินดิเคเตอร์ ชาร์ตที่ปรับแต่งได้ โดยเฉพาะสายเทคนิคที่ต้องการเครื่องมือละเอียด

สื่อการสอนและฝ่ายสนับสนุน

BitMEX มีแหล่งความรู้ บทความ และวิดีโอสำหรับผู้ใช้ใหม่ รวมถึงสัมมนาออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้คุณเข้าใจระบบได้ดียิ่งขึ้น

แหล่งข้อมูลการศึกษา BitMex



Spot และ Margin Trading บน BitMEX

BitMEX เปิดโอกาสให้นักเทรดเลือกได้ระหว่าง Spot และ Margin โดยทั้งสองเหมาะกับรูปแบบการเทรดที่ต่างกัน มาดูความแตกต่างเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้อง

Spot Trading บน BitMEX

การเทรด Spot คือการซื้อขายแบบดั้งเดิม ซื้อแล้วคุณจะเป็นเจ้าของเหรียญจริง เช่น ซื้อ Bitcoin (XBT) ด้วย USDT ตามราคาตลาด

  • ถือครองเหรียญจริง: คุณสามารถโอนเหรียญออกไปกระเป๋าอื่นได้
  • ไม่มีเลเวอเรจ: ใช้เฉพาะเงินทุนของคุณเอง ความเสี่ยงจึงจำกัด
  • เหมาะกับมือใหม่: เงื่อนไขการเทรดเข้าใจง่าย ความเสี่ยงไม่ซับซ้อน

Margin Trading บน BitMEX

การเทรดมาร์จิ้นใช้เลเวอเรจ ช่วยเปิดสถานะใหญ่ขึ้น แต่ต้องเข้าใจว่าความเสี่ยงก็สูงขึ้นมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์

แพลตฟอร์มการซื้อขายมาร์จิ้น BitMex

  • เลเวอเรจ: สูงสุด 100x หมายความว่าลงทุน 100 ดอลลาร์ แต่เปิดสถานะเทียบเท่า 10,000 ดอลลาร์
  • ตราสารอนุพันธ์: ไม่ได้ซื้อเหรียญจริง แต่ซื้อขายสัญญา เช่น เพอร์เพชชวลหรือฟิวเจอร์ส
  • Liquidation Risk: ถ้าราคาวิ่งสวนจนแตะจุด Liquidation ระบบจะปิดสถานะเพื่อตัดขาดทุน

การตั้งค่าการยกระดับใน BitMex

เปรียบเทียบ Spot กับ Margin

หัวข้อ Spot Trading Margin Trading
การเป็นเจ้าของเหรียญ ถือเหรียญจริง ถอนได้ เป็นเจ้าของสัญญา ไม่ใช่เหรียญ
เลเวอเรจ ไม่มี ใช้ทุนตัวเองเท่านั้น สูงสุด 100x ใช้เงินกู้มาขยายสถานะ
ความเสี่ยง จำกัดที่ทุนที่ใช้ซื้อ เสี่ยงโดน Liquidation หากตลาดตีกลับ

ผู้เริ่มต้นแนะนำให้ลอง Spot ก่อน เพราะเข้าใจง่าย ความเสี่ยงต่ำ ส่วนผู้มีประสบการณ์และพร้อมบริหารความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ อาจเลือก Margin เพื่อโอกาสทำกำไรที่สูงขึ้น

การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit ใน BitMex

Staking บน BitMEX: สร้างรายได้แบบพาสซีฟจากคริปโต

Staking คือการนำคริปโตไปล็อกไว้เพื่อรับผลตอบแทนโดยไม่ต้องขายเหรียญ บน BitMEX คุณสามารถ Stake โทเค็น BMEX เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มี BMEX อยู่แล้ว และต้องการเพิ่มมูลค่าที่ถือครอง

Staking บน BitMEX คืออะไร?

เป็นฟีเจอร์ที่ให้คุณนำ BMEX ไปล็อกไว้ในวอลเล็ตเฉพาะ เพื่อรับผลตอบแทนและโบนัส เหมือนเปิดบัญชีเงินฝากในโลกคริปโต นอกจากได้รับดอกเบี้ยแล้ว คุณยังได้ส่วนลดค่าธรรมเนียมและฟีเจอร์พิเศษ เช่น VIP Level

ข้อดีของการ Stake BMEX

  • ลดค่าธรรมเนียม: ยิ่ง Stake มาก ยิ่งได้ส่วนลดสูง สายเทรดถี่ ๆ ประหยัดค่าธรรมเนียมไปได้เยอะ บางรายถึง 15%
  • โบนัสพิเศษ: เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร อาจได้รับของสมนาคุณ หรือบัตรเชิญงานอีเวนต์ เพิ่มประสบการณ์ใช้งานแพลตฟอร์ม
  • VIP Service: หาก Stake มากกว่า 500,000 BMEX คุณจะได้บริการสนับสนุนแบบเร่งด่วน มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา และเครื่องมือเทรดเพิ่มเติม

วิธีเริ่ม Stake บน BitMEX

  1. ไปที่ “Wallet” ในแพลตฟอร์ม
  2. คลิก “Stake” ระบุจำนวน BMEX ที่ต้องการล็อก
  3. ตรวจทานข้อมูลและกดยืนยัน จากนั้นระบบจะเริ่ม Staking ให้ทันที

การ Stake เหมาะกับผู้ที่ใช้ BitMEX เป็นประจำ ต้องการลดค่าธรรมเนียมและรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม หากยังไม่เคยลอง แนะนำให้ทดลองด้วยจำนวนเล็กน้อยก่อน เพื่อดูว่าฟีเจอร์นี้เหมาะกับกลยุทธ์การลงทุนของคุณหรือไม่

Futures Trading บน BitMEX: สิ่งที่ควรรู้

Futures เป็นตราสารที่ช่วยให้นักเทรดได้กำไรจากความผันผวน หรือใช้ป้องกันความเสี่ยงของพอร์ต หากตลาดวิ่งข้ามฝั่ง โดย BitMEX มี Futures อยู่ 2 ประเภท ซึ่งตอบโจทย์กลยุทธ์ที่ต่างกัน มาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจ

การซื้อขายฟิวเจอร์สใน BitMex

ประเภทสัญญา Futures บน BitMEX

  • Perpetual Contracts: ไม่มีวันหมดอายุ เหมาะกับคนที่อยากถือสถานะนาน ๆ โดยมี Funding Rate เป็นตัวปรับให้ราคาคอนแทรคใกล้เคียงตลาด
  • Futures แบบดั้งเดิม: มีวันหมดอายุแน่นอน พอครบกำหนดจะมีการชำระราคาตามราคาตลาด เหมาะกับผู้ที่ต้องการแผนการเทรดระยะเวลาที่ชัดเจน

เลเวอเรจ: โอกาสและความเสี่ยง

BitMEX ให้เลเวอเรจสูงสุดถึง 100x หมายความว่าถ้ามีเงิน 100 ดอลลาร์ คุณสามารถเทรดมูลค่าเทียบเท่า 10,000 ดอลลาร์ได้ แต่ตลาดเคลื่อนเล็กน้อยอาจทำกำไรได้มาก หรือเสียหายหนักถึงขั้น Liquidation ได้เช่นกัน

  • ใช้ Stop Order เพื่อจำกัดความเสี่ยง
  • อย่าทุ่มหมดหน้าตัก ให้แบ่งเงินบางส่วนกันความผันผวน
  • ติดตามมาร์จิ้นอยู่เสมอ ป้องกันสถานะถูกปิดอัตโนมัติ

การบริหารความเสี่ยงในมาร์จิ้นเทรด

  • กันเงินส่วนหนึ่งไว้เป็น “Buffer” ไม่ควรลงหมดในคำสั่งเดียว
  • ถ้าตลาดวิ่งสวน ควรพิจารณาปิดสถานะบางส่วน หรือเติมเงินเพื่อหลีกเลี่ยง Liquidation
  • อย่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำ ควรใช้การวิเคราะห์ตลาดในการตัดสินใจ

ใช้ Futures ทำอะไรได้บ้าง?

  • Hedging: ถ้า hold เหรียญอยู่ แต่กลัวราคาจะตก ก็เปิด Short Futures เพื่อหักล้างการขาดทุน
  • Speculation: เล่นกับความผันผวนในระยะสั้นด้วยเลเวอเรจ แต่ต้องมีทักษะสูงและติดตามตลาดใกล้ชิด

Futures บน BitMEX เหมาะกับใคร?

  • มือใหม่ควรเริ่มทีละน้อย ทำความเข้าใจก่อน ตลาดอนุพันธ์มีความผันผวนสูง
  • นักเทรดมืออาชีพสามารถวางกลยุทธ์ซับซ้อน เช่น ป้องกันความเสี่ยง หรือเก็งกำไรระยะสั้น

โทเค็น BMEX: วิธีใช้งานและข้อดี

BMEX คือโทเค็นที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ BitMEX ได้ประโยชน์มากขึ้น ทั้งด้านค่าธรรมเนียม การรับรายได้พาสซีฟ และสิทธิพิเศษ มาลองดูว่าใช้อย่างไรถึงจะคุ้ม

ข้อดีของการถือ BMEX

  • ส่วนลดค่าธรรมเนียมเทรด: ถือ BMEX แล้วเสียค่าธรรมเนียม Taker ลดสูงสุด 15% เหมาะกับคนเทรดบ่อย
  • Staking Rewards: เมื่อ Stake BMEX อาจได้ผลตอบแทนถึง 12% ต่อปี คล้ายบัญชีออมทรัพย์ พร้อมฟีเจอร์เสริมอย่างลดค่าธรรมเนียม
  • โบนัสพิเศษ: เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร สินค้าแบรนด์ BitMEX หรือแม้แต่งานอีเวนต์กีฬาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

เริ่มต้นใช้งาน BMEX ยังไง?

หากคุณมี BMEX อยู่แล้ว สามารถ Stake ผ่านกระเป๋าในแพลตฟอร์ม เมื่อ Stake เสร็จ ระบบจะปรับลดค่าธรรมเนียมและโบนัสให้เองอัตโนมัติ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที นักเทรดที่เข้าออกตลาดบ่อยจะได้ประโยชน์อย่างมาก

Tokenomics ของ BMEX

โทเค็น BMEX มี Supply ทั้งหมด 450 ล้านเหรียญ กระจายออกในระยะเวลา 5 ปี BitMEX ใช้กลยุทธ์ Burn เพื่อลดจำนวนเหรียญหมุนเวียนในตลาด ซึ่งมีสัดส่วน:

  • 4% ของกำไรจากตลาดอนุพันธ์
  • 8% ของกำไรจากตลาด Spot
  • 50% ของคู่เทรดที่เกี่ยวข้องกับ BMEX

การ Burn ช่วยให้จำนวนรวมของโทเค็นลดลงต่อเนื่อง หนุนให้ราคา BMEX มีเสถียรภาพขึ้น

ใครบ้างที่ควรใช้ BMEX?

  • นักเทรดสายถี่: ยิ่งเทรดมาก ค่าธรรมเนียมที่ประหยัดได้ยิ่งเยอะ
  • นักลงทุนระยะยาว: การ Stake ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และยังได้เข้าถึงฟีเจอร์พิเศษ
  • ผู้ใช้ BitMEX ประจำ: ถ้าคุณใช้อยู่แล้ว การถือ BMEX จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ใช้งานอย่างคุ้มค่า


BitMEX เทียบกับคู่แข่ง: ความแตกต่างที่ควรรู้

การเลือกกระดานเทรดก็เหมือนเลือกอุปกรณ์ทำงาน ต้องดูว่ามันเหมาะกับความต้องการเราหรือเปล่า เรามาเทียบ BitMEX กับคู่แข่งยอดนิยมอย่าง Binance, Bybit, และ KuCoin กันว่าต่างกันอย่างไร

จำนวนเหรียญที่รองรับ

  • BitMEX: ราว ๆ 150 คู่เทรด เน้นอนุพันธ์และเครื่องมือขั้นสูง
  • Binance: มี 350+ เหรียญ รวมถึงโทเค็นหายาก ตอบโจทย์คนที่ชอบตลาดกว้าง
  • Bybit: ประมาณ 400 เหรียญ อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งมือใหม่และมือโปร
  • KuCoin: มากกว่า 700 เหรียญ รวมโปรเจกต์เล็ก ๆ ที่มีศักยภาพ เหมาะกับสายลองของใหม่

จำนวนผู้ใช้งาน

  • BitMEX: มีผู้ใช้ประมาณ 20–25 ล้านคน เป็นแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้ในสายอนุพันธ์
  • Binance: มากกว่า 210 ล้านคน ทั่วโลก ขึ้นแท่นกระดานที่ใหญ่ที่สุด
  • Bybit: ราว ๆ 40 ล้านคน โดดเด่นที่ UI ใช้ง่ายและมี Margin ให้เทรด
  • KuCoin: ประมาณ 30 ล้านคน ขึ้นชื่อเรื่องเหรียญหายาก

ค่าธรรมเนียม

  • BitMEX: Maker ได้ Rebate 0.025% ส่วน Taker เสีย 0.075% เหมาะกับคนชอบตั้งคำสั่งล่วงหน้า
  • Binance: 0.1% สำหรับ Maker/Taker ลดได้ถ้าใช้ BNB
  • Bybit: 0.1% เช่นกัน สะดวกกับสายเทรดทุกวัน
  • KuCoin: 0.1% ลดเพิ่มถ้าใช้ KCS

ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย

  • BitMEX: เปิดตั้งแต่ 2014 เจาะกลุ่มเทรดเดอร์มืออาชีพ ระบบนิ่ง
  • Binance: เริ่ม 2017 แต่โตเร็วที่สุดในโลก หนุนด้วยความปลอดภัยระดับสูง
  • Bybit: ก่อตั้งปี 2018 มีชื่อเสียงด้านความเป็นมิตรต่อผู้ใช้และการป้องกันทรัพย์สิน
  • KuCoin: เริ่ม 2017 เชื่อถือได้และมีเหรียญที่หาที่อื่นยาก
หัวข้อ BitMEX Binance Bybit KuCoin
สินทรัพย์ 150 คู่ เทรด เน้นอนุพันธ์ 350+ เหรียญ รวมของหายาก ประมาณ 400 เหรียญ UI เป็นมิตร 700+ เหรียญ เหมาะสาย altcoin
ผู้ใช้งาน 20–25 ล้านคน เก่าแก่ในตลาดอนุพันธ์ 210+ ล้านคน ใหญ่ที่สุดโลก 40 ล้านคน โดดเด่นที่ใช้ง่าย 30 ล้านคน สายหาโปรเจกต์ใหม่
ค่าธรรมเนียม Maker: -0.025%, Taker: 0.075% 0.1% ลดเพิ่มด้วย BNB 0.1% โครงสร้างเรียบง่าย 0.1% ลดเพิ่มเมื่อใช้ KCS
ความน่าเชื่อถือ ตั้งแต่ 2014 มั่นคงในสายอนุพันธ์ 2017 เติบโตเร็วระดับโลก 2018 เน้นการใช้งานที่ง่าย 2017 เน้นความปลอดภัยสูง

ควรเลือกอะไรดี?

  • BitMEX: เหมาะกับเทรดเดอร์สายอนุพันธ์ ที่ต้องการเลเวอเรจสูงและเครื่องมือระดับโปร
  • Binance: มีเหรียญหลากหลาย ค่าธรรมเนียมต่ำ เหมาะกับคนที่ต้องการเทรด Spot และลงทุนยาว
  • Bybit: อินเทอร์เฟซเป็นมิตร มีทั้งฟีเจอร์ Margin ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
  • KuCoin: ดีสำหรับคนชอบลองเหรียญแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยเจอในตลาดหลัก

จุดตัดสินใจอยู่ที่เป้าหมายและประสบการณ์ของคุณ ถ้าเพิ่งเริ่ม ลองหาแพลตฟอร์มใช้ง่าย ๆ ฟีเจอร์ไม่ซับซ้อน หากต้องการเจาะลึกอนุพันธ์และเลเวอเรจสูง BitMEX ก็อาจตอบโจทย์

โปรแกรม Referral ของ BitMEX: แชร์และรับรายได้

โปรแกรม Referral ของ BitMEX เปิดโอกาสให้คุณสร้างรายได้เสริมจากการแนะนำเพื่อนหรือผู้ติดตาม มาดูหลักการทำงานและวิธีเข้าร่วม

ระบบ Referral ทำงานอย่างไร?

เมื่อคุณสมัคร BitMEX จะได้ลิงก์ Referral เฉพาะของคุณเอง หากมีใครกดลิงก์นี้มาสมัครและเทรด คุณจะได้รับเปอร์เซ็นต์จากค่าธรรมเนียมที่พวกเขาจ่าย ยิ่งพวกเขาเทรดเยอะ รายได้คุณก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าเพื่อนเทรดปริมาณสูง กำไรคุณก็สูงตาม

โปรแกรมพันธมิตร BitMex

ข้อดีและเงื่อนไขหลัก

  • ค่าคอมมิชชัน: เริ่มต้นที่ 10% ของค่าธรรมเนียมที่เพื่อนจ่าย อาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 20% ขึ้นกับปริมาณเทรด
  • โบนัสเพิ่มเติม: บางช่วงจะมีโปรโมชั่น เช่น รับเพิ่ม 50 BMEX ถ้าเพื่อนคุณเทรดเกิน 50,000 ดอลลาร์ใน 30 วันแรก
  • โปร่งใส: คุณตรวจสอบรายได้และประวัติ Referral ได้ใน Dashboard ทำให้เห็นภาพรวมการใช้งานชัดเจน

เริ่มต้นอย่างไร?

  1. คัดลอกลิงก์: ในหน้า “Referral Program” ของ Dashboard คุณจะเห็นลิงก์เฉพาะ
  2. แชร์ลิงก์: นำไปโพสต์ในโซเชียล บล็อก หรือส่งให้กลุ่มเพื่อน เหมาะมากถ้าคุณมีฐานผู้ติดตามที่สนใจคริปโต
  3. รับค่าคอมมิชชัน: เมื่อคนที่สมัครผ่านลิงก์เริ่มเทรด ค่าแนะนำจะเข้าบัญชีคุณโดยอัตโนมัติ

ใครเหมาะกับโปรแกรมนี้?

  • บล็อกเกอร์ อินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้ที่แชร์ประสบการณ์ในสื่อโซเชียลเป็นประจำ
  • นักเทรดที่ต้องการสร้างรายได้จากความรู้ แนะนำแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ให้เพื่อน
  • คนที่อยู่ในชุมชนคริปโต และอยากบอกต่อความน่าสนใจของ BitMEX ให้คนรอบข้าง

รีวิวนักเทรดเกี่ยวกับ BitMEX: ผู้ใช้พูดว่าอย่างไร?

BitMEX ถือเป็นแพลตฟอร์มยุคแรก ๆ ในการเทรดอนุพันธ์ ทำให้มีการพูดถึงกันมากในหมู่นักเทรด ฟีดแบ็กมีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ มาลองสำรวจมุมมองที่เด่น ๆ กัน

สิ่งที่ผู้ใช้ชื่นชม

  • สภาพคล่องสูง: ปริมาณเทรดมาก ทำให้จับคู่ได้ไว ไม่มีปัญหาลากราคา ซึ่งสำคัญมากในตลาดผันผวน
  • เลเวอเรจสูงถึง 100x: นักเทรดมืออาชีพชอบ เพราะเปิดโอกาสทำกำไรใหญ่ แต่พวกเขาก็ย้ำเตือนว่าต้องใช้เลเวอเรจอย่างระวัง
  • ตราสารอนุพันธ์ที่ครบ: มีทั้ง Perpetual และ Futures หลายแบบ เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เคยใช้เครื่องมือขั้นสูง

ข้อเสียที่ผู้ใช้บางส่วนกล่าวถึง

  • หน้าตาเว็บซับซ้อน: มือใหม่หลายคนบอกว่าดูงงและยุ่งยาก เพราะการออกแบบสำหรับมือโปร
  • ไม่มี Fiat Support: คนที่คุ้นเคยกับการฝาก-ถอนเงินปกติ อาจหงุดหงิดที่ต้องแปลงเงินเป็นคริปโตก่อน

ข้อสรุปและมุมมองโดยรวม

หลายรีวิวมองว่า BitMEX เป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและมีฟีเจอร์หลากหลาย แต่เหมาะมากกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ ส่วนมือใหม่ควรเริ่มจากเครื่องมือพื้นฐาน และอาจฝึก TestNet เพื่อเข้าใจการเทรดอนุพันธ์ก่อน ขณะที่มืออาชีพจะประทับใจกับโอกาสและความยืดหยุ่นในการเทรด ซึ่งเป็นจุดแข็งของ BitMEX



บทวิจารณ์และความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด: 0
avatar