หน้าหลัก ข่าวไซต์
FxPro – รีวิวโบรกเกอร์ Forex/CFD ฉบับเต็ม ปี 2025
Updated: 06.05.2025

FxPro – รีวิวโบรกเกอร์ Forex/CFD ฉบับผู้เชี่ยวชาญ (2025)

FxPro นับเป็นหนึ่งในชื่อแบรนด์โบรกเกอร์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในตลาด Forex และ CFD ระดับสากล เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2006 และปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 7 ล้านคนจากกว่า 170 ประเทศ ในรีวิวนี้ เราจะเจาะลึกเงื่อนไขการเทรดของ FxPro สำรวจความคิดเห็นจริงจากเทรดเดอร์และมุมมองผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งเปรียบเทียบกับคู่แข่ง (TeleTrade, AMarkets, RoboForex) โดยมีจุดประสงค์หลักคือ ให้ข้อมูลที่เป็นกลางและครอบคลุม เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ทั่วโลกพิจารณาว่า FxPro เหมาะสมในการร่วมเทรดหรือไม่



เว็บไซต์ทางการของ FXPro

การเทรดในตลาด Forex และ Binary Options มีความเสี่ยงสูง ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าประมาณ 70–90% ของเทรดเดอร์ขาดทุนเมื่อเข้าร่วมตลาดดังกล่าว การจะทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอต้องอาศัยความรู้และทักษะเฉพาะทาง ก่อนเริ่มต้นควรศึกษาให้เข้าใจถึงความเสี่ยง และเตรียมพร้อมว่าผลขาดทุนอาจเกิดขึ้นจริง อย่าลงทุนด้วยเงินที่คุณไม่สามารถเสียได้โดยไม่กระทบต่อการใช้ชีวิต

บทสรุปย่อ

FxPro เป็นโบรกเกอร์ระดับโลกที่มีประสบการณ์ยาวนานและได้รับการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด (FCA, CySEC, FSCA ฯลฯ) มีสินทรัพย์ให้เทรดกว่า 2100 รายการ (CFD บนฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโต ฯลฯ) รองรับแพลตฟอร์ม MT4, MT5, cTrader และแพลตฟอร์มเว็บที่พัฒนาขึ้นเอง มีจุดเด่นที่การดำเนินคำสั่งรวดเร็ว (ไม่มีดีลเลอร์แทรกกลาง) สเปรดค่อนข้างแข่งขันได้ (เริ่มต้นราว 1.2 pips บน EUR/USD หรือจาก 0 pips ในบัญชี Raw) และไม่มีค่าคอมมิชชั่นในบัญชี Standard นอกจากนี้ยังมีมาตรการปกป้องเงินทุนลูกค้าและ Balance Protection ที่ไม่ติดลบ แต่ข้อเสียคือ ไม่ได้มีโบนัส/โปรโมชั่นให้ และบางครั้งเงินฝากขั้นต่ำ $100 อาจสูงไปสำหรับคนเพิ่งเริ่มเทรด นอกจากนี้วัสดุสื่อการเรียนรู้ก็ไม่ได้หลากหลายเทียบเท่าโบรกเกอร์รายอื่น อย่างไรก็ดี FxPro ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยความน่าเชื่อถือและการเทรดที่สะดวกสำหรับผู้เล่นทุกระดับ

ข้อดีและข้อเสียของ FxPro

ข้อดีของ FxPro

  • มีประสบการณ์และชื่อเสียงยาวนาน: เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2006 ได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมาย อีกทั้งเคยเป็นสปอนเซอร์ทีมใหญ่ เช่น McLaren ใน Formula 1 แสดงถึงความมั่นคงสูง
  • ได้รับใบอนุญาตจากหลายหน่วยงานชั้นนำ: FCA (สหราชอาณาจักร), CySEC (ไซปรัส), FSCA (แอฟริกาใต้) เป็นต้น มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด สร้างความอุ่นใจด้านเงินทุนลูกค้า
  • ไม่ขัดแย้งทางผลประโยชน์: ทำงานด้วยโมเดล No Dealing Desk (NDD) โดยคำสั่งเทรดถูกส่งไปยังสภาพคล่องภายนอกโดยตรง ลดปัญหาการรีโควตและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ
  • มีแพลตฟอร์มหลากหลาย: ตั้งแต่ MetaTrader 4/5, cTrader จนถึงเว็บเทรดที่พัฒนาขึ้นเอง (FxPro Edge) และรองรับแอปมือถือทั้ง iOS/Android
  • ตราสารเทรดหลากหลาย: มีให้เทรดกว่า 2100 รายการ—ฟอเร็กซ์ คอมโมดิตี้ หุ้น ดัชนี พลังงาน ฟิวเจอร์ส และคริปโต เหมาะต่อการกระจายพอร์ต
  • เทคโนโลยีดำเนินคำสั่งขั้นสูง: ใช้เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง (ศูนย์ข้อมูล Equinix ในลอนดอนและอัมสเตอร์ดัม) เวลาดำเนินคำสั่งเฉลี่ยเพียง 14 ms รองรับ Market Execution
  • มาตรการปกป้องเงินทุน: เงินทุนของลูกค้าแยกเก็บในบัญชีธนาคารอื่น และมีระบบป้องกันยอดติดลบ ดังนั้นลูกค้าจะไม่เป็นหนี้เกินยอดในบัญชี
  • การสนับสนุนลูกค้าเป็นเลิศ: มีบริการ 24/5 หลายภาษา มีผู้จัดการบัญชีส่วนตัวสำหรับ VIP ไม่มีค่าธรรมเนียมฝากถอนในช่องทางส่วนใหญ่

ข้อเสียของ FxPro

  • ไม่รับลูกค้าจากสหรัฐอเมริกาและบางเขต: เนื่องจากข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ทำให้ผู้พำนักในสหรัฐฯ แคนาดา ญี่ปุ่น เป็นต้น ไม่สามารถเปิดบัญชีได้
  • เงินฝากขั้นต่ำ $100: อาจสูงไปสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีเงินทุนจำกัด (บางโบรกเกอร์กำหนดฝากน้อยกว่านี้)
  • ไม่มีโบนัสหรือโปรโมชัน: ตามมาตรฐานควบคุมของ EU FxPro จึงไม่ได้มีโปรโมชันหรือแข่งเทรดแบบบางโบรกเกอร์ที่อยู่ Offshore
  • แหล่งข้อมูลความรู้จำกัด: มีบทความและวิดีโอ แต่ไม่มีซีรีส์สัมมนาออนไลน์หรือหลักสูตรเต็มรูปแบบสำหรับมือใหม่เหมือนบางเจ้า
  • มีค่าธรรมเนียม Inactivity: หากบัญชีไม่มีกิจกรรม 12 เดือน จะถูกหักค่ารักษารายไตรมาสเล็กน้อย (แม้หลายโบรกเกอร์ก็มีนโยบายคล้ายกัน)

ข้อดีของโบรกเกอร์ FXPro

เมื่อได้เห็นภาพรวมข้อดีและข้อเสียแล้ว ต่อไปเราจะเจาะลึกรายละเอียดในแต่ละด้านของ FxPro

การกำกับดูแลและความน่าเชื่อถือของ FxPro

สิ่งแรกที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่พิจารณาเมื่อต้องเลือกโบรกเกอร์ คือ ความมั่นคงและสถานะด้านกฎหมายของบริษัท สำหรับ FxPro นั้น ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำหลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน “พอร์ตโฟลิโอ” ใบอนุญาตที่แข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม:

  • FCA (Financial Conduct Authority สหราชอาณาจักร) – เป็นหน่วยงานกำกับหลักใน UK โดย FxPro UK Limited มีใบอนุญาตนี้ ลูกค้าในยุโรปและภูมิภาคอื่นสามารถเทรดภายใต้มาตรฐานการเงินระดับสูงของสหราชอาณาจักร และยังมีระบบ FSCS ที่คุ้มครองเงินฝากถึง £85,000
  • CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) – FxPro Financial Services Ltd ได้รับอนุญาตในไซปรัส ทำให้ FxPro มีสิทธิ์ให้บริการทั่วสหภาพยุโรปผ่าน MiFID
  • FSCA (Financial Sector Conduct Authority แอฟริกาใต้) – ได้รับอนุมัติในปี 2015 บ่งบอกถึงการขยายตลาดสู่ภูมิภาคแอฟริกา
  • SCB (Securities Commission of the Bahamas) – ใบอนุญาตจากบาฮามาส ทำให้ FxPro ให้บริการลูกค้าทั่วโลกด้วยเงื่อนไขเทรดที่ยืดหยุ่น (เลเวอเรจสูงสุด 1:500 สำหรับลูกค้านอก EU)
  • ใบอนุญาตอื่น ๆ: FxPro ยังเป็นสมาชิกของ Financial Commission (Category A) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระด้านการระงับข้อพิพาท นอกจากนี้บริษัทพันธมิตรอย่าง Invemonde Trading Ltd ยังดำเนินการภายใต้ใบอนุญาต FSA เซเชลส์อีกด้วย

การที่ FxPro อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานหลาย ๆ แห่ง ทำให้การดำเนินงานถูกตรวจสอบเข้มงวด สร้างความมั่นใจแก่เทรดเดอร์ได้ดี ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นการรายงานข้อมูลทางการเงินหรือมาตรการปกป้องผู้ลงทุน เช่น การเก็บเงินทุนลูกค้าในบัญชีแยก (segregated) กับธนาคารชั้นนำต่างหากจากเงินบริษัท ช่วยให้เงินของเทรดเดอร์ไม่ถูกนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงานของโบรกเกอร์เอง

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ FxPro รับประกันว่าลูกค้าจะไม่เสียเงินมากกว่ายอดเงินที่มีในบัญชี แม้ในสถานการณ์ที่ตลาดผันผวนอย่างรุนแรง เลเวอเรจจะไม่ทำให้เทรดเดอร์เป็นหนี้ ข้อนี้เป็นปัจจัยบวกมากในการลงทุน CFD โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น คริปโต

ด้านชื่อเสียงในแวดวงอุตสาหกรรม FxPro ก็ถือว่ามั่นคง เปิดดำเนินงานตั้งแต่ปี 2006 โดยนักธุรกิจเดนิส ซูโคติน และได้ขยายตัวไปทั่วโลกตั้งสำนักงานใหญ่ในลอนดอน ไซปรัส และศูนย์กลางการเงินอื่น ๆ บ่อยครั้งได้ติดอันดับ “Top Broker” ในสื่อชั้นนำและสำนักจัดอันดับต่าง ๆ โบรกเกอร์ยังเคยเป็นสปอนเซอร์ให้กับสโมสรฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกอังกฤษและทีม F1 อย่าง McLaren ยืนยันถึงความแข็งแรงทางการเงิน

ด้วยการมีใบอนุญาตหลายใบ (สองใบเป็น Tier-1: FCA และ CySEC) ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายยกย่อง FxPro เป็นโบรกเกอร์ที่ “ไว้วางใจได้สูง” เช่น ForexBrokers.com เคยประเมินระดับความน่าเชื่อถือที่ 90/99 ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ทั่วไปที่ไม่มีการกำกับชั้นสูง

บัญชีแยกและการตรวจสอบ

เพื่อเป็นไปตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ FxPro จะเก็บเงินของลูกค้าในบัญชีแยกต่างหากจากเงินบริษัท (segregated accounts) กับธนาคารชั้นนำอย่าง Barclays, Royal Bank of Scotland เป็นต้น ดังนั้น หากเกิดกรณีฉุกเฉิน เงินลูกค้าจะยังคงปลอดภัย นอกจากนี้ลูกค้าฝั่งยุโรปยังได้รับคุ้มครองจากกองทุน ICF (Investor Compensation Fund) ของไซปรัสอีกด้วย ซึ่งจ่ายชดเชยสูงสุด €20,000 ต่อรายในกรณีที่โบรกเกอร์เกิดปัญหาการเงิน

ระบบรักษาความปลอดภัยและการเข้ารหัส

เว็บไซต์และเซิร์ฟเวอร์เทรดของ FxPro ใช้การเข้ารหัส SSL 128-bit ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและธุรกรรมทางการเงินของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีขั้นตอน KYC (Know Your Customer) ที่เข้มงวด เพื่อลดความเสี่ยงด้านการฉ้อโกง ในตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ไม่ปรากฏข่าวฉ้อโกงหรือเหตุระบบโดนแฮกที่นำไปสู่การสูญเงินของลูกค้าเลย

ชื่อเสียงในหมู่เทรดเดอร์

โดยรวม FxPro ได้รับรีวิวค่อนข้างดีในชุมชนเทรดออนไลน์ หลายเว็บไซต์รีวิวอิสระให้คะแนนสูง เช่น Trustpilot ที่ FxPro ได้ 4.0 เต็ม 5 จาก 400+ รีวิว (52% เป็น 5 ดาว มีเพียง 16% ที่ 1 ดาว) บ่งบอกว่าส่วนใหญ่พอใจ

เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นอย่าง TeleTrade หรือ RoboForex บางเจ้ามีคะแนนรีวิวโดยเฉลี่ยราว 3–3.5 ดาว ในขณะที่ FxPro ค่อนข้างรักษาคะแนนดีไว้ได้ รีวิวบวกเน้นไปที่การถอนเงินเร็ว แพลตฟอร์มเสถียร ส่วนเสียงลบมักเกี่ยวกับสลิปเพจ (slippage) ในช่วงข่าวแรงหรือประสบการณ์ใช้ EA ที่ไม่ประสบผล ซึ่งมักเป็นปัญหาทั่วไปตามสภาพตลาดหรือการตั้งค่าของผู้ใช้เอง

สรุปด้านความน่าเชื่อถือ
FxPro เป็นโบรกเกอร์ที่มีประวัติพร้อมใบอนุญาตครอบคลุม มีความโปร่งใสในมาตรฐานทางการเงิน การแยกเงินทุน และการเปิดเผยข้อมูล ในปี 2025 นับได้ว่าเป็นโบรกเกอร์ที่ไว้วางใจได้มากที่สุดรายหนึ่งในอุตสาหกรรม ผสานการกำกับดูแลเข้มงวดเข้ากับชื่อเสียงที่ดีและฐานลูกค้าขนาดใหญ่

ตราสารเทรดและตลาดที่มีให้บริการ

หนึ่งในจุดเด่นของ FxPro คือ การให้บริการตราสารเทรดที่หลากหลายมาก โดยทั้งหมดจะมาในรูปแบบ CFDs:

  • Forex: มีคู่สกุลเงินกว่า 70 คู่ ตั้งแต่คู่หลัก (EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY ฯลฯ) ไปจนถึงคู่รองและคู่แปลก (USD/ZAR, EUR/TRY, USD/RUB ฯลฯ) สเปรด EUR/USD เฉลี่ยราว 1.2 pips บนบัญชีแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่น (Standard) และอาจเริ่มจาก 0.0 pips ในบัญชี Raw/cTrader + ค่าคอมมิชชั่น
  • หุ้น (Stock CFDs): มีหุ้นมากกว่า 1,500 ตัว ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ ยุโรป และเอเชีย อาทิ Apple, Amazon, Tesla, Gazprom, Alibaba ฯลฯ เลือกซื้อ/ขายตามการเคลื่อนไหวราคาได้โดยไม่ต้องถือครองหุ้นจริง เลเวอเรจสูงสุดราว 1:5 หรือ 1:10 (ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องและหุ้นแต่ละตัว)
  • ดัชนี (Stock Index CFDs): มีให้เทรดกว่า 20 ดัชนีสำคัญทั่วโลก เช่น US500 (S&P 500), NASDAQ 100, Dow Jones 30, UK FTSE 100, Germany 40 (DAX), Japan 225 (Nikkei) ฯลฯ สเปรดค่อนข้างต่ำ เช่น S&P 500 อาจราว 0.7 จุด เลเวอเรจได้สูงสุดราว 1:50
  • สินค้าโภคภัณฑ์: ครอบคลุมพลังงาน (WTI, Brent, Natural Gas) โลหะมีค่า (ทอง, เงิน, แพลทินัม, พัลลาเดียม) และสินค้าเกษตร (กาแฟ น้ำตาล ฝ้าย ข้าวโพด ฯลฯ เทรดผ่าน CFDs ตามฟิวเจอร์ส) เลเวอเรจทองอาจสูงถึง 1:200 น้ำมันอาจราว 1:50
  • คริปโตเคอร์เรนซี (Crypto CFDs): มีให้เลือกมากกว่า 30 คู่ เช่น Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Ripple, Dogecoin ฯลฯ เทรด CFD ได้ตลอด 24/7 เลเวอเรจปกติราว 1:2 (ตามกฎ ESMA) เหมาะกับผู้ที่ต้องการเข้าถึงตลาดคริปโต แต่ไม่อยากถือเหรียญจริง
  • ฟิวเจอร์ส (Futures CFDs): อีกจุดเด่นคือ FxPro เปิดให้เทรด CFD บนสัญญาฟิวเจอร์สของหลายตลาด เช่น ดัชนี (VIX), พลังงาน (Heating Oil) และสินค้าเกษตร (ข้าวสาลี ข้าวโพด) เลเวอเรจส่วนใหญ่ 1:50 หรือ 1:100 ทำให้สามารถเก็งกำไรตามฤดูกาลได้

รวม ๆ แล้ว FxPro มีตราสารให้เทรดกว่า 2100 รายการ ถือว่ามากและครอบคลุมเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่น ตัวอย่างเปรียบเทียบ:

  • TeleTrade มีตราสารประมาณ 200+ (ส่วนใหญ่เป็นฟอเร็กซ์กับหุ้นเด่นบางตัว)
  • AMarkets มีประมาณ 500+ (ฟอเร็กซ์, โลหะ, คริปโต, หุ้นราว 150 ตัว)
  • RoboForex มีสินทรัพย์หลากหลายกว่า 12,000 รายการ โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ และ ETF ถือเป็นข้อยกเว้นในอุตสาหกรรม

ดังนั้น FxPro อยู่ในกลุ่มโบรกเกอร์ที่มีเครื่องมือเทรดครบครัน ทั้งสกุลเงิน ทอง น้ำมัน ดัชนี หุ้น และคริปโต เน้นความหลากหลายเพื่อรองรับทุกกลยุทธ์การลงทุนผ่าน CFD

หมายเหตุ: ทุกสินทรัพย์จะเทรดในรูปแบบ CFD (Contract for Difference) ไม่ได้ถือครองสินทรัพย์จริง เหมาะสำหรับทำกำไรจากส่วนต่างราคา และใช้เลเวอเรจที่กำหนดไว้

ช่วงเวลาซื้อขายและรายละเอียด: ในบัญชี FxPro แต่ละตราสารจะมีสเปค เช่น ขนาดล็อต ขนาดติ๊ก (tick), เวลาทำการ (หุ้นจะเทรดตามเวลาตลาดหลักทรัพย์, ฟอเร็กซ์ 24/5 เป็นต้น) บางรายการเป็นฟิวเจอร์ส CFD ที่มีวันหมดอายุ ซึ่งโบรกเกอร์จะประกาศตาราง Rollover ล่วงหน้า

โดยรวมแล้ว ด้านตราสารเทรด FxPro ทำได้ดีมาก มีตัวเลือกตอบโจทย์นักลงทุนทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะสเกลปฟอเร็กซ์ เก็งกำไรทองเล่นข่าว หรือสะสมดัชนีระยะยาว

ประเภทบัญชีและเงื่อนไขของโบรกเกอร์ FxPro

FxPro มีบัญชีหลายแบบ เพื่อรองรับสไตล์การเทรดที่แตกต่าง นับเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของโบรกเกอร์นี้ ด้านล่างคือภาพรวมประเภทบัญชีหลัก ๆ พร้อมเงื่อนไข:

บัญชีทดลองใน FXPro

  • FxPro Standard (MT4/MT5): บัญชีคลาสสิกแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่น สเปรดลอยตัว ได้รับความนิยมสูง สเปรด EUR/USD เฉลี่ย ~1.4 pips, GBP/USD ~1.6 pips, ทอง ~0.25 ดอลลาร์ (25 เซนต์) ค่าคอมมิชชั่น $0 (ค่าโบรกได้จากสเปรด) เลเวอเรจสูงสุด ~1:200 เงินฝากขั้นต่ำ $100 รองรับ Instant Execution (MT4) หรือ Market Execution (MT5) และสามารถเลือก Fixed Spread ได้สำหรับคู่เงินบางคู่ (แต่สเปรดจะกว้างขึ้นเล็กน้อย)
  • FxPro Raw+ (MT4/MT5): บัญชีที่เน้นสเปรดต่ำสุด + ค่าคอมมิชชั่น เหมาะกับสเกลเปอร์และเทรดเดอร์ความถี่สูง สเปรด EUR/USD อาจต่ำถึง 0.0–0.3 pips แต่มีค่าคอมมิชชั่น ~3.5 ดอลลาร์ต่อล็อตต่อฝั่ง (เปิดหรือปิด) รวม ~7 ดอลลาร์ต่อรอบ (Round Turn) เลเวอเรจ ~1:200 เงินฝากขั้นต่ำ $100
  • FxPro cTrader: บัญชีที่ผูกกับแพลตฟอร์ม cTrader โดยตรง เงื่อนไขคล้าย Raw+ สเปรดเริ่มจาก 0 pips + ค่าคอมมิชชั่นประมาณ 3 ดอลลาร์ต่อ 100k หรือ ~$6–7 ต่อล็อตแบบ Round Turn มักได้รับสภาพคล่องที่ดี เหมาะกับนักเทรดที่เน้นกลยุทธ์สเกลปิ้ง หรือผู้ใช้บอท
  • FxPro Edge (WebTrader): แพลตฟอร์มเว็บที่ FxPro พัฒนาขึ้นมาเอง สามารถเปิดบัญชี Edge ได้ สเปรดใกล้เคียง Standard บน MT4/MT5 เหมาะกับคนไม่ต้องการติดตั้งซอฟต์แวร์
  • บัญชีอิสลาม (Islamic): สำหรับผู้ที่ต้องการเทรดตามหลักชาริอะฮ์ (ไม่มี Swap) แต่จะมีค่าธรรมเนียมอื่นแทนหากถือสถานะข้ามวันนาน ๆ สามารถเลือกได้ในทุกประเภทบัญชี
  • บัญชีเดโม (Demo): FxPro มีบัญชีทดลองให้ผู้ใช้ทดสอบแผนการเทรดได้โดยไม่จำกัดเวลา (แต่หากไม่ล็อกอินนาน ๆ อาจโดนปิดอัตโนมัติ) เหมาะสำหรับฝึกปรือก่อนลงเงินจริง

ภาพรวมบัญชีการซื้อขายใน FXPro

แพลตฟอร์มและการเลือกบัญชี

หลัก ๆ แล้ว FxPro มีสองโมเดล คือ แบบไม่คิดค่าคอมมิชชั่น (Standard) และแบบคิดค่าคอมมิชชั่น (Raw/cTrader) ส่วนต่างของ MT4, MT5 และ cTrader คือฟีเจอร์และส่วนติดต่อผู้ใช้ โดยรวม MT4 ยังคงได้รับความนิยม MT5 มีฟังก์ชันใหม่ ๆ เช่น Depth of Market ส่วน cTrader โดดเด่นด้านความเร็วและฟีเจอร์สเกลป มีผู้ใช้มากในกลุ่มเทรดสั้น ความยืดหยุ่นอีกอย่างคือเราสามารถเปิดบัญชีได้หลายประเภทภายใต้โปรไฟล์เดียว เช่น MT4 Standard (USD) และ cTrader Raw (EUR) เพื่อใช้กลยุทธ์ต่างกัน

สกุลเงินหลักในบัญชี

FxPro รองรับหลายสกุล (USD, EUR, GBP, CHF, JPY, PLN, AUD เป็นต้น) บางครั้งอาจมี BTC (บัญชีสกุลคริปโต) ทั้งนี้ สำหรับผู้ใช้ในรัสเซีย เคยมี RUB แต่ปัจจุบันอาจถูกจำกัด เลือกสกุลฐานให้ตรงกับที่ฝากเพื่อเลี่ยงค่าความต่างอัตราแลกเปลี่ยน

เลเวอเรจ

เลเวอเรจสูงสุดที่ ~1:200 สำหรับฟอเร็กซ์/โลหะในปริมาณเทรดไม่สูง (เช่น ต่ำกว่า $50k) คู่แปลกหรือคริปโตจะได้เลเวอเรจต่ำกว่านั้น ขณะที่บางโบรกเกอร์ เช่น AMarkets หรือ RoboForex อาจให้ถึง 1:500 หรือ 1:1000 แต่ FxPro เน้นให้เลเวอเรจแบบ “สมดุล” เพื่อลดความเสี่ยงสำหรับผู้ใช้มือใหม่

การส่งคำสั่งและการดำเนินการ

ขนาดล็อตต่ำสุดคือ 0.01 รองรับการเทรดทุกสไตล์ ทั้งสเกลป EA เฮดจิ้ง และเทรดข่าว (MT4 รองรับ Hedge ส่วน MT5 ใช้ระบบ Netting เรียงรวมออร์เดอร์ แต่ขอปรับเป็น Hedge ได้) ระดับ Stop Out ที่ 50% เมื่อมาร์จิ้นลดลงเหลือ 50% ของที่กำหนด บัญชี Standard MT4 มีตัวเลือก Fixed Spread (ราว 2 pips บน EUR/USD) ได้ แต่มีโอกาสรีโควตมากกว่า ส่วน Market Execution จะไม่เจอรีโควตแต่เจอสลิปเพจแทน ซึ่ง FxPro รายงานสถิติโดยรวมออกมาดี (99.9% ออร์เดอร์ถูกดำเนินการภายใน 14 ms)

ฟีเจอร์อื่น

FxPro ไม่ได้ให้บริการ Copy Trading ในลักษณะ PAMM หรือ Social Trading โดยตรง แต่หากใช้ cTrader สามารถใช้ cTrader Copy (ระบบ Copy Trading ที่มากับแพลตฟอร์ม) หรือบริการภายนอก นอกจากนี้ FxPro ยังมี “FxPro Vault” เป็นเหมือนกระเป๋าเงินในพื้นที่ลูกค้า (Client Portal) ไว้ฝากเงินหลัก แล้วค่อยโยกทุนไปบัญชีเทรดย่อย เป็นการจัดการความเสี่ยงได้ดี เช่น เก็บเงินส่วนใหญ่ไว้ใน Vault แยกจากเงินที่ใช้เทรด

สรุปแล้ว FxPro มีประเภทบัญชีที่หลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ใช้หลากโปรไฟล์ ผู้เริ่มต้นมักชอบ Standard (MT4/MT5) เพราะเข้าใจง่าย ไม่มีคอมมิชชั่น ส่วนมืออาชีพอาจไป Raw หรือ cTrader เพื่อสเปรดที่ต่ำกว่า ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์เติบโตและปรับเปลี่ยนบัญชีได้ตามความชำนาญ



ค่าธรรมเนียม สเปรด & การเรียกเก็บที่อาจซ่อนอยู่

ต่อไปมาดูกันในรายละเอียดเรื่องต้นทุนการเทรดกับ FxPro ตั้งแต่สเปรด ค่าคอมมิชชั่น จนถึงค่าธรรมเนียมต่าง ๆ:

  • สเปรด: ในบัญชี Standard จะเป็นสเปรดลอยตัว (Floating Spread) โดยทั่วไป:
    • Forex: EUR/USD ~1.4 pips, GBP/USD ~1.6 pips, USD/JPY ~1.3 pips, USD/RUB ~15 pips (คู่แปลกสเปรดกว้างขึ้น)
    • โลหะมีค่า: Gold (XAU/USD) ~25–30 เซนต์, Silver (XAG/USD) ~2–3 เซนต์
    • น้ำมัน: Brent, WTI ~5–6 เซนต์
    • ดัชนี: DAX (GER40) ~1.5 จุด, S&P 500 (US500) ~0.7 จุด
    • คริปโต: BTC/USD อาจ ~100–300 ดอลลาร์, ETH/USD ~10–15 ดอลลาร์ (คริปโตมีสเปรดกว้างโดยธรรมชาติ)

    สำหรับบัญชี Raw หรือ cTrader สเปรดจะต่ำกว่ามาก เช่น EUR/USD ~0.1–0.3 pips แล้วมีค่าคอมมิชชั่นมารวม (ต่อไปจะกล่าว) โดยปกติช่วงข่าวแรงอาจเกิดสเปรดขยาย แต่โดยเฉลี่ยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบบไม่สมเหตุสมผล

  • ค่าคอมมิชชั่นต่อล็อต: บัญชี Standard จะไม่มีค่าคอมมิชชั่น ฝั่ง Raw/cTrader จะมี:
    • MT4 Raw – ~$3.5 ต่อด้าน ($7 ต่อรอบ) สำหรับล็อตมาตรฐาน
    • MT5 Raw – ~$4.5 ต่อรอบ (ต่างกันเล็กน้อยตามอัตราแลกเปลี่ยน)
    • cTrader – ~$3 ต่อ 100k หรือ ~$6 ต่อรอบสำหรับ 1 ล็อต ขึ้นกับสกุลเงินของบัญชี สรุปคือใกล้เคียง $6–7 ต่อล็อตแบบ Round Turn

    ดังนั้นค่าใช้จ่ายรวม (สเปรดจริง + คอมมิชชั่น) อาจราว 0.7–0.9 pips บน EUR/USD ถือว่าแข่งได้ดี

  • Swap (ค่าโรลโอเวอร์)
    ถ้าถือคำสั่งข้ามคืน จะมีการคิด Swap ตามส่วนต่างดอกเบี้ย โดยอัตรา Swap จะระบุในสเปกของแต่ละตราสาร เช่น EUR/USD อาจติดลบ ~$6 ต่อล็อตฝั่งซื้อ หรือได้ +$2 ฝั่งขาย (ตัวเลขสมมุติ) คืนวันพุธมีการคิด 3 เท่าเพื่อรวมวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าไม่ต้องการ Swap สามารถเปิดบัญชีอิสลาม
  • ค่าธรรมเนียมฝาก/ถอน
    FxPro ไม่คิดค่าธรรมเนียมทั้งฝากและถอน ซึ่งเป็นข้อดีมาก เช่น หากคุณถอน $1,000 ทางโบรกเกอร์จะไม่หักเพิ่ม (แต่ธนาคารหรือ e-wallet อาจมีค่าใช้จ่ายของตัวเอง) FxPro บางครั้งอาจชดเชยค่าธรรมเนียมที่เกิดจากผู้ให้บริการ เช่น Skrill/Neteller เพื่อให้ยอดเงินเข้าเต็ม
  • อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
    หากฝากเงินสกุลหนึ่งแต่บัญชีตั้งอีกสกุล จะมีการแปลงอัตโนมัติและอาจมีส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยน 0.5–1% ตามธนาคาร แนะนำให้ใช้สกุลเดียวกันเพื่อเลี่ยงค่าธรรมเนียมนี้
  • ค่าธรรมเนียม Inactivity
    FxPro จะเก็บ $15 รายไตรมาสหากบัญชีไม่มีเทรด 12 เดือนติดต่อกัน โดยจะหักจากยอดคงเหลือเท่านั้น (ไม่ทำยอดติดลบ) คล้ายกับโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้มาตรฐานยุโรปอื่น ๆ สามารถเลี่ยงง่าย ๆ โดยเข้ามาเทรดเป็นระยะหรือถอนเงินออกหากไม่ใช้แล้ว

เปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
สเปรดของ FxPro อยู่ในระดับกลางหรือค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์มีใบอนุญาตในยุโรป ตัวอย่าง TeleTrade อาจมีสเปรด EUR/USD ~2 pips (กว้างกว่า FxPro), AMarkets ประกาศ ~0.3 pips บัญชี ECN + ค่าคอมมิชชั่น (รวมแล้วใกล้เคียง FxPro) ส่วน RoboForex มี Pro Spread เฉลี่ย ~1.4 pips เช่นกัน และบัญชี ECN ~0.1 pips + ค่าคอมฯ รวม ~0.7–0.8 pips

ดังนั้น FxPro ถือว่ามีเงื่อนไขค่าธรรมเนียมอยู่ในระดับแข่งขัน โปร่งใส ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง

สรุปเรื่องต้นทุน:

  • ฝากถอนฟรีในหลายช่องทาง (FxPro รับผิดชอบค่าธรรมเนียมส่วนใหญ่)
  • สเปรดแข่งขันได้ โดยเฉพาะบัญชี Raw/ECN
  • มีค่าคอมมิชชั่นเฉพาะบัญชีแบบ Raw/cTrader เท่านั้น
  • Swap (ค่าโรลโอเวอร์) แสดงชัดเจนในสเปกตราสาร เลือกบัญชีอิสลามได้
  • ค่าธรรมเนียม Inactivity มี แต่เลี่ยงได้ง่าย

แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของ FxPro

FxPro เด่นเรื่องตัวเลือกแพลตฟอร์มที่หลากหลายกว่าหลายเจ้า คุณสามารถเลือกได้:

แพลตฟอร์มการซื้อขายของ FXPro

MetaTrader 4 (MT4)

เป็นแพลตฟอร์มพื้นฐานที่ใช้กันแพร่หลายในอุตสาหกรรม แม้จะเก่าแต่ยังได้รับความนิยมมากสุดทั่วโลก ฟีเจอร์หลักที่ FxPro รองรับ MT4 ได้แก่:

  • รูปแบบการส่งคำสั่ง: ทั้ง Instant และ Market Execution
  • EA (Expert Advisor): ใช้ระบบอัตโนมัติ MQL4 ได้ไม่จำกัด FxPro ไม่บล็อกบอทหรือ Hedging
  • อินดิเคเตอร์เสริม: มีตัวติดตั้งพื้นฐาน 30+ ตัว และสามารถโหลดเพิ่มได้
  • ไทม์เฟรม: ครบตั้งแต่ 1 นาที จนถึงรายเดือน
  • การวิเคราะห์กราฟ: เปิดพร้อมกันได้หลายหน้าต่าง ตอบโจทย์ทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และมือโปร
  • หลากหลายอุปกรณ์: FxPro มี MT4 สำหรับ Windows, iOS/Android และเวอร์ชัน WebTrader

MetaTrader 5 (MT5)

เป็นแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ต่อจาก MT4 FxPro นำเสนอ MT5 ตั้งแต่ปี 2017 จุดเด่นคือ:

  • Depth of Market: ดูปริมาณออเดอร์ bid/ask แบบเรียลไทม์
  • ไทม์เฟรมและอินดิเคเตอร์เพิ่มขึ้น: มีถึง 21 ไทม์เฟรม, 38 อินดิเคเตอร์พื้นฐาน
  • ระบบ Netting/Hedging: MT5 จะ Net position รวม แต่สามารถเปิดโหมด Hedge ได้ผ่านการตั้งค่า
  • MQL5: ภาษาเขียน EA ที่มีฟังก์ชันเพิ่มขึ้น และ Backtesting ที่ละเอียดกว่าบน MT4
  • โดยรวมอินเทอร์เฟซคล้าย MT4 แต่มีลูกเล่นใหม่ ๆ เยอะ

cTrader

พัฒนาโดย Spotware ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ ECN/NDD FxPro เปิดให้บริการ cTrader ตั้งแต่ปี 2011 จุดเด่น:

  • UI และกราฟ: ทันสมัย เรียบง่าย มีอินดิเคเตอร์ติดตั้งมากกว่า 70 ชนิด มีโหมดซูม/เลื่อนที่สะดวก
  • ไทม์เฟรม: มีทั้งแบบตั้งแต่ 1 นาทีจนถึง tick charts, Range Bar และ Custom Timeframe
  • Depth of Market (Level II): เห็นปริมาณคำสั่งซื้อ/ขายหลายระดับ
  • ประเภทคำสั่งหลากหลาย: Market, Limit, Stop Limit, Trailing Stop แบบเซิร์ฟเวอร์ไซด์ และ Max Slippage Control
  • Algo Trading: ใช้ C# (ผ่าน cAlgo) ซึ่งเป็นภาษาที่ทรงพลัง
  • Copy Trading: มี cTrader Copy ติดมาในตัว แบ่งปัน/คัดลอกกลยุทธ์ได้

cTrader มีให้โหลดบน Windows, Web และมือถือ iOS/Android หลายคนที่ชอบสเกลปประทับใจกับความเร็วและประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหล

FxPro Edge (WebTrader)

เป็นแพลตฟอร์มเว็บของ FxPro เอง เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการติดตั้งซอฟต์แวร์ มีฟังก์ชันพื้นฐาน:

  • เปิด/ปิดออเดอร์ทุกตราสารที่ FxPro มี
  • หน้าจอปรับแต่งได้ (ลากวาง widgets, ข่าวสาร, มุมมองคำสั่ง ฯลฯ)
  • อินดิเคเตอร์และเครื่องมือวิเคราะห์กราฟเบื้องต้น

ฟีเจอร์อาจไม่เทียบเท่า MT4/MT5 (โดยเฉพาะเรื่อง EA) แต่ FxPro Edge ก็สะดวกสำหรับใช้งานเบื้องต้นหรือยามต้องเข้าจากเครื่องอื่น

ในสหราชอาณาจักร FxPro Edge มีเวอร์ชัน Spread Betting (ไม่เสีย CGT) แต่สำหรับลูกค้าทั่วไปจะเป็น CFD

เปรียบเทียบคู่แข่ง

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มี MT4/MT5 บางเจ้าจึงมีแค่หนึ่งหรือสองแพลตฟอร์ม แต่ FxPro เด่นตรงที่มี cTrader เพิ่มเข้ามา เช่น TeleTrade มีแค่ MT4/MT5, AMarkets มี MT4/MT5 + xStation ส่วน RoboForex มี MT4/MT5, cTrader, RTrader (บัญชีบางประเภท) ขณะที่ FxPro จัดเต็มตั้งแต่แรก ทำให้ผู้ใช้เลือกแพลตฟอร์มที่ถนัดได้ทันที

ทุกแพลตฟอร์มของ FxPro สามารถใช้งานข้ามอุปกรณ์ได้สะดวก ตั้งแต่พีซีจนถึงมือถือ พร้อมระบบแจ้งเตือนแบบ Push

การซื้อขายผ่านมือถือใน FXPro

ความเสถียรและความเร็ว: เซิร์ฟเวอร์ของ FxPro ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์สภาพคล่อง (Equinix LD4, Amsterdam) โดยโบรกเกอร์ระบุเวลาเฉลี่ยในการดำเนินคำสั่ง ~14 ms เทรดเดอร์ส่วนใหญ่อ้างว่าออร์เดอร์เข้าทันทีไม่ดีเลย์ และไม่มีเหตุการณ์เซิร์ฟเวอร์ล่มนาน ๆ เกิดขึ้น

เครื่องมือเสริมอื่น ๆ

  • FxPro VPS: บริการเซิร์ฟเวอร์เสมือนสำหรับรัน EA 24/7 ได้ โดยปกติมีค่าบริการ ~$30–$40/เดือน (ฟรีสำหรับลูกค้าวอลุ่มสูง)
  • เครื่องมือคำนวณ: บนเว็บไซต์มี Margin Calculator, Pip Calculator, Swap Calculator ช่วยวางแผนเทรด
  • ปฏิทินเศรษฐกิจ: ในเว็บไซต์และ Client Portal แสดงเหตุการณ์สำคัญด้านเศรษฐกิจและตัวเลขประกาศต่าง ๆ
  • ข่าวและวิเคราะห์: มีฟีดข่าว Dow Jones ภายในแพลตฟอร์ม พร้อมบทวิเคราะห์และบล็อกโพสต์จากทีมนักวิเคราะห์ของ FxPro

สรุปคือ FxPro มีแพลตฟอร์มครบถ้วนและเสถียร ผู้ใช้สามารถเลือกตามความถนัด ถ้าไม่ชอบ MT4/MT5 ก็มี cTrader เป็นทางเลือก ทั้งหมดผสานคุณภาพการส่งคำสั่งที่รวดเร็ว ไร้ปัญหาดีลเลอร์แทรกกลาง



บริการและฟีเจอร์พิเศษของ FxPro

ในตลาดที่โบรกเกอร์แข่งขันกันสูง การมีจุดขายที่โดดเด่นย่อมสร้างความแตกต่าง FxPro เองก็มีฟีเจอร์สำคัญหลายอย่าง:

  • ไม่มี Requotes – 100% NDD: FxPro การันตีระบบ No Dealing Desk ทำให้คำสั่งเทรดถูกส่งออกไปยังผู้ให้สภาพคล่องทันที ไม่เจอปัญหา Requotes ในช่วงเวลาสำคัญ ผู้เทรดอาจเจอสลิปเพจ แต่หากเป็น “สลิปเพจบวก” ก็จะได้ราคาที่ดีกว่า
  • Negative Balance Protection: ป้องกันไม่ให้ยอดติดลบ (สูงเกินเงินทุน) หากตลาดผันผวนรุนแรง ข้อนี้สำคัญมากสำหรับเทรดเลเวอเรจสูง
  • โปร่งใสด้าน STP: FxPro เปิดเผยข้อมูลสถิติการดำเนินคำสั่งเป็นประจำ เช่น บางไตรมาสแสดงว่า 80% ได้ราคาปกติ 10% เกิดสลิปเพจบวก 10% สลิปเพจลบ เป็นต้น ไม่มีการแทรกแซงราคาหรือปฏิเสธคำสั่ง
  • รางวัลและสปอนเซอร์: FxPro คว้ารางวัล “Best Broker” และ “Most Trusted Broker” มากกว่า 75 ครั้ง (เช่น Ultimate Fintech 2022) อีกทั้งเคยสนับสนุนทีมกีฬาใหญ่อย่าง Fulham FC, Watford FC, McLaren F1 เป็นสัญญาณของความแข็งแกร่งทางการเงิน
  • Cashback Program สำหรับ VIP: แม้ไม่มีโบนัสฝากเงิน แต่ FxPro มี VIP Rebate คืนเงินบางส่วนจากสเปรด/ค่าคอมฯ เมื่อลูกค้าทำปริมาณเทรดถึงเกณฑ์ เช่น เทรดเกิน 100 ล็อตต่อเดือน อาจได้คืน $4 ต่อล็อต (ตัวเลขขึ้นกับเงื่อนไขแต่ละช่วง)
  • บริการจัดการสินทรัพย์: FxPro เคยมีโครงการ FxPro SuperTrader (PAMM) หรือ FxPro Asset Management สำหรับนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก ส่วนบัญชีรายย่อยอาจใช้ cTrader Copy แทน หากต้องการโซลูชันใกล้เคียง Social Trading
  • รองรับ 27 ภาษา: เว็บไซต์และฝ่ายบริการลูกค้าของ FxPro มีหลากหลายภาษามาก (รวมถึงรัสเซีย, อังกฤษ, สเปน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, จีน, อาหรับ, อิตาลี, มาเลย์, ไทย, ตุรกี, โปแลนด์ ฯลฯ) การมีการแปลเว็บและช่องทางการชำระเงินท้องถิ่นช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทั่วโลก
  • แหล่งความรู้และการฝึกอบรม: แม้ว่าจะไม่ได้มีหลักสูตรหรือสัมมนาออนไลน์มากมายเหมือนบางโบรกเกอร์ แต่ FxPro ก็มีศูนย์ช่วยเหลือ (FAQ) บทความ แหล่งวิดีโอ และบทวิเคราะห์ประจำวันที่เพียงพอสำหรับเริ่มต้น

แนวทางแบบ All-in-One

เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน FxPro จึงเป็นโบรกเกอร์ที่ค่อนข้างครบวงจร ทั้งในเชิงความปลอดภัย ชื่อเสียง การดำเนินคำสั่งเร็ว แพลตฟอร์มหลากหลาย และเครื่องมือเสริมมากมาย มือใหม่ได้ประโยชน์จากการเทรดที่เข้าใจง่าย ผู้เทรดมืออาชีพชอบโปรแกรมคืนเงินและสเปรด/ค่าคอมมิชชั่นที่คุ้มค่า

แม้ยังพอมีจุดให้ปรับปรุง เช่น เสริมเนื้อหาการอบรมที่ลึกขึ้นหรือเพิ่มระบบ Social Trading ภายใน แต่บริการปัจจุบันก็ตอบโจทย์เทรดเดอร์ทั่ว ๆ ไปได้ดี

Igor Lementov
Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com


บทความที่อาจช่วยคุณได้
บทวิจารณ์และความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด: 0
avatar