หน้าหลัก ข่าวไซต์
10 อันดับโปรแกรมพันธมิตรไบนารี, Forex & CFD ปี 2025

10 อันดับโปรแกรมพันธมิตรไบนารี่ออปชัน, Forex & CFD ที่ดีที่สุดในปี 2025 — ก้าวแรกสู่อิสรภาพทางการเงินของคุณ

คุณเคยลองเทรดในตลาดการเงินหรือมองหาวิธีสร้างรายได้ออนไลน์มาก่อนหรือเปล่า? ถ้าเคย คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับไบนารี่ออปชันและการเทรด Forex แค่ดูผ่านๆ ก็เห็นแล้วว่าการจะทำกำไรจากแพลตฟอร์มเทรดแบบตรงๆ มักต้องมีทุนอยู่พอสมควร แต่ถ้าคุณไม่มีทุน หรือแค่อยากลองวิธีอื่นที่ไม่ต้องเทรดเอง? ขอแนะนำทางเลือกที่สร้างรายได้ได้จริงโดยไม่ต้องใช้ทักษะการเทรดหรือเงินเริ่มต้น นั่นก็คือการเป็นพันธมิตร (Affiliate) กับโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงสักเจ้าหนึ่ง (หรือหลายเจ้า) ด้านล่างนี้ เราได้คัดสรร 10 โปรแกรมพันธมิตรชั้นนำจากบริษัทที่ให้บริการไบนารี่ออปชันและ Forex ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความน่าเชื่อถือและให้ผลตอบแทนดี สิ่งที่คุณต้องทำมีแค่ศึกษาเงื่อนไขของแต่ละโปรแกรม ประเมินศักยภาพของมัน แล้วสมัครเข้าร่วมเพื่อโปรโมตแบรนด์ในระดับสากล โดยที่ไม่ต้องควักเงินหรือลงทุนเพิ่มเลย!

10 อันดับโปรแกรมพันธมิตรโบรกเกอร์ในปี 2025: การจัดอันดับ

# โปรแกรมพันธมิตร รูปแบบค่าคอมมิชชัน แบรนด์ รอบการจ่ายเงิน สื่อโฆษณา เว็บไซต์ รีวิว
1 Quotex Partner Revenue Share, Turnover Share, Sub-Affiliate Quotex ทุกวันพฤหัสบดี เว็บไซต์ สมัคร
2 AffStore Revenue Share, CPA, Turnover Share, Sub-Affiliate IQ Option, Exnova, QuadCode Market, Capital Bear จ่ายสองครั้งต่อเดือน เว็บไซต์ สมัคร
3 Binolla Affiliate Revenue Share, Turnover Share, Sub-Affiliate Binolla จ่ายตามคำขอ เว็บไซต์ สมัคร
4 Affiliate Top Revenue Share, Turnover Share, Sub-Affiliate Binomo, Stockity จ่ายสองครั้งต่อเดือน เว็บไซต์ สมัคร
5 KingFin Revenue Share, CPA, Sub-Affiliate Olymp Trade, ToDo จ่ายสองครั้งต่อเดือน หรือจ่ายตามคำขอ เว็บไซต์ สมัคร
6 FinMinistry Revenue Share, CPA, Sub-Affiliate IQ Cent, Binary Cent, Bin Bot Pro, Vide Forex, Race option จ่ายตามคำขอ เว็บไซต์ สมัคร
7 AMarkets Affiliate Revenue Share, Turnover Share, CPA, Sub-Affiliate AMarkets จ่ายตามคำขอ เว็บไซต์ สมัคร
8 Pocket Option Affiliate Revenue Share, Turnover Share, Sub-Affiliate Pocket Option จ่ายทุกวันจันทร์ เว็บไซต์ สมัคร
9 Clever Aff Revenue Share, Turnover Share, Sub-Affiliate Binarium จ่ายสองครั้งต่อเดือน เว็บไซต์ สมัคร
10 Intrade Bar Revenue Share, Turnover Share Intrade Bar จ่ายรายวัน เว็บไซต์ สมัคร

โปรแกรมพันธมิตรไบนารี่ออปชัน, Forex และ CFD คืออะไร?

โปรแกรมพันธมิตรไบนารี่ออปชัน, Forex และ CFD ช่วยให้คุณสร้างรายได้จากการแนะนำเทรดเดอร์ใหม่ให้มาใช้แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ที่กำหนด ในฐานะพันธมิตร คุณจะได้รับลิงก์หรือแบนเนอร์โปรโมชันเพื่อแชร์บนอินเทอร์เน็ต เมื่อมีคนคลิกลิงก์แล้วสมัครผ่านเว็บไซต์โบรกเกอร์ พร้อมเริ่มเทรด คุณก็รับค่าคอมมิชชันได้ตามรูปแบบการจ่ายที่โบรกเกอร์กำหนด

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่คุณเข้าร่วม คุณจะได้เป็นพันธมิตรกับโบรกเกอร์ที่ให้บริการทั้งไบนารี่ออปชันหรือ Forex (สำหรับ CFD จะมีลักษณะคล้าย Forex แต่ในบทความนี้จะเน้นไปที่ Forex และไบนารี่ออปชันเป็นหลัก)

ไบนารี่ออปชันและ Forex ทำงานอย่างไร?

ไบนารี่ออปชัน หรือที่บางครั้งเรียกว่า “ออปชันแบบแพ้ชนะทันที” มีรูปแบบการเทรดเข้าใจง่าย:

  • ผู้ใช้งานเลือกสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด (คู่สกุลเงิน หุ้น คริปโต เป็นต้น) ผ่านแพลตฟอร์มโบรกเกอร์
  • คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะสูงหรือต่ำกว่าราคาปัจจุบัน ณ เวลาหมดอายุ
  • เลือกจำนวนเงินที่จะใช้เปิดออเดอร์
  • ถ้าคาดการณ์ถูกต้อง จะได้รับกำไรเป็นเปอร์เซ็นต์คงที่ของเงินลงทุน (มักอยู่ระหว่าง 60–95%) แต่ถ้าทายผิด จะเสียเฉพาะเงินที่ใช้ลงออเดอร์นั้น

ถึงแม้บนหน้ากระดาษจะดูเหมือนเป็นการเดิมพัน 50/50 แต่เทรดเดอร์มืออาชีพที่ใช้กลยุทธ์และการบริหารความเสี่ยงอย่างดีอาจสามารถรักษาอัตราชนะเฉลี่ยได้ประมาณ 75–80% อย่างไรก็ตาม ผู้เริ่มต้นที่เทรดแบบไม่มีพื้นฐานอาจเสี่ยงต่อการเสียเงินได้มากเช่นกัน

ส่วน Forex (หรือ CFD) จะแตกต่างออกไป:

  • เทรดเดอร์เลือกสินทรัพย์และทิศทาง (ซื้อหรือขาย) เหมือนกัน
  • กำไรขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางที่คาดไว้ และสามารถปิดออเดอร์เมื่อไหร่ก็ได้เพื่อรับกำไรหรือจำกัดขาดทุน
  • ถ้าราคาวิ่งสวนทางมากๆ อาจขาดทุนได้มากจนทุนหมด หากไม่ปิดออเดอร์
  • สามารถตั้ง Take Profit และ Stop Loss เพื่อให้ระบบปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อถึงจุดราคาเป้าหมายหรือจุดตัดขาดทุน

ไบนารี่ออปชันมีวิธีการเทรดที่ง่ายกว่าและมักเป็นมิตรกับผู้เริ่มต้นมากกว่าการเทรด Forex

ไบนารี่ออปชันและ Forex ในสหรัฐฯ และทั่วโลก

การเทรดไบนารี่ออปชัน, Forex, และ CFD ในหลายประเทศมักต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกามีการควบคุมอย่างเข้มงวดโดยหน่วยงานอย่าง SEC และ CFTC

เนื่องจากโบรกเกอร์บางรายไม่ผ่านมาตรฐานกำกับดูแลที่เคร่งครัดในสหรัฐฯ หรือในบางประเทศยุโรป จึงมีข้อจำกัดที่อาจทำให้เทรดเดอร์บางพื้นที่ไม่สามารถเปิดบัญชีได้ อย่างไรก็ตาม การเป็นพันธมิตร (Affiliate) มักยังทำได้แม้แพลตฟอร์มจะมีข้อจำกัดด้านพื้นที่

ประเภทของไบนารี่ออปชัน

ไบนารี่ออปชันมีหลายประเภท แต่ที่แพร่หลายที่สุดคือ “High/Low” หรือ “Up/Down” เพราะใช้ง่ายและเป็นมาตรฐานทั้งสำหรับมือใหม่และมืออาชีพ

ตัวเลือกอื่นๆ เช่น “One Touch/No Touch” “Boundary/In-Range” และ “Turbo” หรือ “Blitz” (ออปชันระยะสั้นมาก ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาที) ก็มี แต่โดยทั่วไปยิ่งซับซ้อนมากขึ้น กำไรอาจสูงขึ้นตาม แต่ความเสี่ยงก็ยิ่งสูงเช่นกัน

ตัวอย่างการเทรดไบนารี่ออปชัน vs. Forex

ตัวอย่างสั้นๆ ของการเทรดไบนารี่ออปชัน:

  • เทรดเดอร์เลือกคู่เงิน EUR/USD และเปิดดีล “ขึ้น (Up)” ที่หมดเวลา 2 นาที โดยลงทุน 100 ดอลลาร์
  • จุดราคาเปิดอยู่ที่ 1.04462
  • เมื่อครบ 2 นาที ราคาอยู่ที่ 1.04521 ซึ่งสูงกว่าราคาตอนเปิด จึงได้รับกำไร 80% หรือ 180 ดอลลาร์ (ทุน 100 + กำไร 80)

แม้จะขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เช่น 1.04463 ก็ถือว่าชนะเช่นกัน

ตัวอย่างการเทรด Forex หรือ CFD:

  • สมมุติเทรดเดอร์เปิดออเดอร์ Sell คู่เงิน GBP/AUD ที่ราคา 1.9884 โดยขนาดล็อต 1 lot (ซึ่งเท่ากับ $1 ต่อ pip ทั้งนี้มูลค่า pip ขึ้นอยู่กับคู่เงิน)
  • วาง Stop Loss ไว้ที่ 1.9970 และ Take Profit ที่ 1.9624 ดังนั้นจะเสี่ยงประมาณ $539 เพื่อหวังกำไร $1,629 อัตราเสี่ยงต่อกำไรคือ 1:3
  • การเทรดอาจกินเวลาหลายชั่วโมงจนถึงหลายสัปดาห์ หากราคาตกลงถึง 1.9624 ระบบจะปิดออเดอร์อัตโนมัติและทำกำไร $1,629

Forex มีความซับซ้อนสูงกว่า เพราะกำไรและขาดทุนจะเพิ่มขึ้นตามการเคลื่อนไหวของราคา แต่ถ้าเชี่ยวชาญก็อาจได้ผลตอบแทนสูงกว่า

ข้อดีและข้อเสีย: ไบนารี่ออปชัน vs. Forex

ข้อดีของไบนารี่ออปชัน:

  • ใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น เข้าใจหลักการเทรดได้ไม่ยาก
  • ความเสี่ยงจำกัดแค่เงินที่ลงไปในออเดอร์ และกำไรก็รู้ได้ทันที

ข้อดีของ Forex:

  • ศักยภาพในการทำกำไรสูง เพราะไม่ถูกจำกัดโดยเวลาหมดอายุของดีล

ข้อเสียของทั้งสองแบบ:

  • มีความเสี่ยงที่จะเสียเงินหากตลาดเคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามที่คาด
  • ต้องอาศัยความรู้และวินัยเพื่อประสบความสำเร็จ

ข้อเสียเพิ่มเติมสำหรับ Forex:

  • ซับซ้อนขึ้นสำหรับมือใหม่ และอาจมีค่าธรรมเนียมแฝง

ข้อดีของการทำงานกับโปรแกรมพันธมิตรด้านไบนารี่ออปชัน & Forex

การร่วมเป็นพันธมิตรกับโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชันหรือ Forex ไม่ต้องใช้เงินลงทุนส่วนตัว คุณจะได้ค่าตอบแทนจากการแนะนำลูกค้าที่มาสมัครและเทรดบนแพลตฟอร์มนั้นๆ โบรกเกอร์รับผิดชอบเรื่องธุรกรรมและบริการเทรด ส่วนคุณดูแลด้านการโปรโมตกับแชร์ลิงก์หรือแบนเนอร์เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาเท่านั้น

โมเดลการเทรดที่โปรโมตได้ง่าย

หลายคนเห็นว่าไบนารี่ออปชันเข้าใจง่ายกว่าและเหมาะกับคนที่เพิ่งเข้าวงการเทรด ในแง่ของการตลาดจึงโปรโมตค่อนข้างสะดวก แพลตฟอร์มเทรดไบนารี่ออปชันเป็นที่รู้จักดีสำหรับผู้ที่มองหาช่องทางสร้างรายได้ออนไลน์

เมื่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตแพร่หลายมากขึ้น โอกาสในการดึงดูดผู้สนใจจึงมากขึ้นเช่นกัน ด้วยลักษณะการคาดการณ์ “ขึ้น/ลง” ที่ดูคล้ายความตื่นเต้นแบบพนันกีฬา แต่มีความคาดเดาได้และโอกาสได้กำไรสูง (ทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับความเสี่ยงเช่นกัน)

โอกาสในการสร้างรายได้ที่เติบโต

ตลาดไบนารี่ออปชันและ Forex มีปริมาณการเทรดมหาศาล คุณจึงมีสิทธิทำกำไรได้มากจากค่าคอมมิชชันของผู้เทรดที่คุณแนะนำ บางครั้งค่าคอมพันธมิตรอาจสูงถึงหลักพันหรือหลักหมื่นดอลลาร์ต่อเดือน แม้จะฟังดูเป็นคำโฆษณา แต่ก็มีผู้ที่ทำเงินได้จริงๆ ถึงหลักหมื่นต่อสัปดาห์

ตัวอย่างเช่น ในโมเดล CPA อาจจ่ายคุณสูงถึง 70–100% ของยอดฝากครั้งแรก ถ้ามีใครฝาก 10,000 ดอลลาร์ คุณก็มีสิทธิรับถึง 7,000–10,000 ดอลลาร์ในไม่กี่วัน คูณจำนวนผู้แนะนำเข้าไป คุณจะเห็นว่าโอกาสสร้างรายได้มหาศาลนั้นมีจริง

ช่วยให้ผู้อื่นพบทางเลือกสร้างความมั่นคงทางการเงิน

ในยุคที่การมีรายได้หลากหลายเป็นเรื่องสำคัญ การชี้ช่องทางให้คนอื่นได้รู้จักแพลตฟอร์มการเทรดที่โปร่งใสและมีโหมดเดโมให้ฝึกฟรี อาจเปลี่ยนชีวิตผู้คนได้ แม้ยังมีความเสี่ยงอยู่ แต่อย่างน้อยคุณก็มอบโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้และทดลองในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ก่อนจะลงสนามจริง และโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ก็มีสื่อการสอน หรือแม้แต่โหมดฝึกเล่น (Demo) ให้ศึกษาอย่างต่อเนื่อง

โบรกเกอร์พันธมิตรไบนารี่ออปชัน & Forex สร้างรายได้อย่างไร

โดยทั่วไป โปรแกรมพันธมิตรจะมีหลายรูปแบบการจ่ายค่าคอม เช่น:

  • Revenue Share – รับส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์จากกำไรของโบรกเกอร์ (มัก 30–80%) จากเทรดเดอร์ที่คุณแนะนำ
  • Turnover Share – รับส่วนแบ่ง (มัก 1–7%) จากปริมาณการเทรดรวม ไม่ว่าจะได้หรือเสีย
  • CPA (Cost Per Action) – รับค่าคอมครั้งเดียวเมื่อเกิดเหตุการณ์ เช่น ลูกค้าที่แนะนำฝากเงินครั้งแรก
  • Sub-Affiliate – รับเปอร์เซ็นต์จากค่าคอมของพันธมิตรที่คุณชวนเข้ามาอีกที (มักเป็นเปอร์เซ็นต์ 5–10% หรือมากกว่านั้น)

การแบ่งรายได้ระหว่างโบรกเกอร์กับพันธมิตร

ในโมเดล Revenue Share หากเทรดเดอร์ที่คุณแนะนำเสียเงิน 1,000 ดอลลาร์ และส่วนแบ่งของคุณคือ 50% คุณจะได้ 500 ดอลลาร์ แต่ถ้าเทรดเดอร์ชนะ 500 ดอลลาร์ คุณอาจเห็น “ผลลัพธ์ติดลบ” 250 ดอลลาร์ในสถิติ (คือ 50% ของเงินที่โบรกเกอร์จ่ายให้เทรดเดอร์) แต่คุณจะไม่ต้องเสียเงินจริง เพียงแต่ยอดกำไรสุทธิลดลง สรุปคือโดยรวมแล้ว การขาดทุนและกำไรจากเทรดเดอร์หลายคนจะมาหักล้างกัน

ในโมเดล Turnover Share คุณจะได้เปอร์เซ็นต์จากธุรกรรมการเทรดทั้งหมดของลูกค้า ไม่ว่าพวกเขาจะแพ้หรือชนะ ดีตรงที่รายได้ค่อนข้างคงที่ แต่ต่อดีลอาจได้ไม่มากเท่า Revenue Share

ส่วนโมเดล CPA เน้นรับเงินก้อนใหญ่ครั้งเดียวจากการฝากเงินครั้งแรกของผู้เล่นที่คุณแนะนำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนทันที แต่จะไม่มีค่าคอมเพิ่มเติมในอนาคต

สุดท้าย Sub-Affiliate จะให้คุณได้ค่าคอมจากพันธมิตรที่คุณชักชวนเข้ามาด้วย ถ้าพันธมิตรเหล่านั้นทำยอดสูง คุณก็มีโอกาสรับส่วนแบ่งอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

Hold คือยอดคงค้างที่โปรแกรมพันธมิตรส่วนใหญ่ใช้กัน เช่น ถ้าจ่ายค่าคอมทุก 2 สัปดาห์ จำนวนเงินทั้งหมดที่คุณทำได้ระหว่างนั้นจะถูก “Hold” ไว้ และจะปล่อยให้ถอนเมื่อถึงรอบจ่ายเงิน

ควรเลือกโมเดลค่าคอมมิชชันแบบไหน?

แต่ละโมเดลก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป:

  • Revenue Share – รายได้ไม่หวือหวา แต่ยั่งยืนในระยะยาว
  • Turnover Share – คล้ายกับ Revenue Share แต่รายได้คงที่กว่าเพราะคำนวณจากปริมาณเทรด
  • CPA – ได้เงินเร็ว แต่ครั้งเดียว สำหรับฝากเงินครั้งแรก
  • Sub-Affiliate – รายได้ต่อยอดได้มหาศาล ถ้าคุณหา Affiliate เก่งๆ มาเข้าร่วมต่อ

เครือข่ายพันธมิตร (Affiliate Networks) หรือ Sub-Affiliate Networks

บางโปรแกรมมีโครงสร้าง Sub-Affiliate หลายชั้น (Multi-tier) คุณจะสามารถสร้างเครือข่ายอ้างอิงต่อๆ กันได้ เช่น ระดับ 1 ระดับ 2 ระดับ 3 เป็นต้น ทำให้คุณได้รับเปอร์เซ็นต์จากรายได้ของพันธมิตรในเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง

รับเงินจากโปรแกรมพันธมิตรได้อย่างไร

แต่ละโปรแกรมจะกำหนดรอบการจ่ายเงินต่างกัน รวมถึงอธิบายว่าจ่ายเงินจาก Hold ไปยังยอดคงเหลือหลักอย่างไร ยกตัวอย่าง ถ้ามีการจ่ายทุกสัปดาห์ รายได้จาก 7 วันที่ผ่านมาอาจอยู่ใน “Hold” ก่อนจะโยกเข้ายอดคงเหลือหลักเมื่อถึงวันจ่ายจริง

ตัวอย่างเช่น สมมุติสัปดาห์นี้คุณทำเงินได้ 1,200 ดอลลาร์จาก Revenue Share, 244 ดอลลาร์จาก Turnover Share และ 600 ดอลลาร์จาก CPA รวมทั้งหมด 2,044 ดอลลาร์ใน Hold พอถึงวันตัดรอบ เงิน 2,044 ดอลลาร์นี้จะไปรวมกับรายได้ Sub-Affiliate ในบัญชีหลักของคุณ และคุณสามารถถอนเงินได้ตามช่องทางที่โปรแกรมรองรับ เช่น โอนผ่านธนาคาร กระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ หรือคริปโต

แพลตฟอร์มบางแห่งมีการถอนเงินอัตโนมัติเมื่อถึงยอดขั้นต่ำ ช่วยให้คุณจัดการเรื่องการรับรายได้ได้สะดวกขึ้น

แนวทางการให้คะแนน: ปัจจัยสำคัญในการเลือกโปรแกรมพันธมิตร Binary Options, Forex & CFD

การคัดสรรโปรแกรมพันธมิตรที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องทั้งยุ่งยากและใช้เวลามาก หากคุณคิดจะสมัครทุกโปรแกรมที่พบเห็น บ่อยครั้งอาจต้องผิดหวัง—บางบริษัทอาจหายไปเฉยๆ บางแห่งอาจชะลอการจ่ายค่าคอม หรือมีกติกาจุกจิกทำให้เสียเวลาแรงไปโดยเปล่าประโยชน์ เพื่อช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ จึงอยากแบ่งปันข้อมูลว่าควรพิจารณาสิ่งใดเป็นหลัก และขอแนะนำรายชื่อโปรแกรมพันธมิตรไบนารี่ออปชันและ Forex ที่วางใจได้

กล่าวได้ว่าข้าพเจ้าได้คัดกรองเครือข่ายที่ไม่น่าเชื่อถือออกไปแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายขึ้นกับคุณว่าจะเลือกสมัครแค่ที่เดียว หรือจับหลายเจ้าพร้อมกันก็ได้ ทุกบริษัทในรายการนี้มีการจ่ายเงินค่าคอมอย่างสม่ำเสมอและได้รับคะแนนรีวิวดีในหมู่พันธมิตร ข้าพเจ้าทำการจัดอันดับโดยอ้างอิงหลากหลายปัจจัย แต่หากคุณมีเกณฑ์ส่วนตัวในการประเมิน ก็สามารถปรับใช้ได้ตามต้องการ

วิธีประเมินโปรแกรมพันธมิตร Binary Options & Forex

เพื่อวิเคราะห์ว่าโปรแกรมใดควรค่าแก่การร่วมงาน ข้าพเจ้าดำเนินการตรวจสอบในหลายมิติ โดยพิจารณาจากปัจจัยสำคัญหลายด้าน:

  • เงื่อนไขการดำเนินงาน (รูปแบบค่าคอมและขนาดการจ่าย):
    • ตรวจสอบโมเดล Revenue Share, Turnover Share, CPA (Cost Per Action) และ Sub-Affiliate ซึ่งคุณได้รับเปอร์เซ็นต์จากพันธมิตรที่เชิญเข้ามา
    • ดูว่ามีอัตราเปอร์เซ็นต์สูงสุดเท่าไร, ค่าตอบแทน CPA ตายตัวกี่ดอลลาร์, สามารถผสมรูปแบบค่าคอมหลายแบบได้ไหม หรือมีดีลพิเศษเพิ่มเติมหรือไม่
  • ความคิดเห็นและชื่อเสียงในวงการ:
    • วิเคราะห์รีวิว 2,240 ฉบับ (ทั้งเชิงบวกและ เชิงลบแบบเผ็ดร้อน) ของทุกโปรแกรมพันธมิตรทั้ง 10 เจ้าในรายการ
    • เช็กว่ามีปัญหาเรื่องการจ่ายล่าช้า โฆษณาเกินจริง การตอบสนองของทีมซัพพอร์ต หรือปัญหาในการใช้งานแดชบอร์ดพันธมิตรหรือไม่
  • ความถี่ในการจ่ายและความเชื่อถือได้:
    • พิจารณาความสม่ำเสมอ (รายสัปดาห์ รายเดือน ฯลฯ) และดูว่ามีปัญหาเลื่อนการจ่ายเงินเกิดขึ้นหรือเปล่า
    • ตรวจสอบว่ามีความยืดหยุ่นแค่ไหนหากขอรับเงินนอกตารางปกติ: บางเจ้ารองรับการจ่ายพิเศษอย่างมาก ในขณะที่บางเจ้าคาดหวังทราฟฟิกปริมาณสูงก่อนจะให้เงื่อนไขพิเศษ
  • ความแข็งแกร่งของแบรนด์:
    • วัดระดับการเป็นที่รู้จักในตลาดของโบรกเกอร์ที่สังกัด มีการโปรโมตในวงกว้างแค่ไหน ซึ่งอาจดึงดูดทราฟฟิกได้มาก แต่ก็หมายถึงการแข่งขันสูงสำหรับพันธมิตร
    • สร้าง “ดัชนีการแข่งขันของแบรนด์ (Brand Competition Index)” เพื่อประเมินความนิยมของโบรกเกอร์และความต้องการของผู้เทรดในตลาด
  • คุณภาพและปริมาณสื่อส่งเสริมการขาย:
    • ตรวจสอบว่ามีแลนดิ้งเพจ แบนเนอร์ สื่อโฆษณา ความรองรับภาษา รวมถึงเครื่องมือวิเคราะห์อะไรให้พันธมิตรบ้าง

เจาะลึกรูปแบบค่าคอมมิชชันของโปรแกรมพันธมิตร

โปรแกรมพันธมิตรไบนารี่ออปชันมีรูปแบบการจ่ายค่าคอมแตกต่างกันไป ดังนี้:

  • Revenue Share — รับค่าคอมตามกำไรสุทธิของโบรกเกอร์
  • Turnover Share — คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากมูลค่าการเทรดทั้งหมด (รายได้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของลูกค้าเป็นหลัก)
  • CPA (Cost Per Action) — รับเงินก้อนเมื่อเกิด “แอ็กชัน” ที่กำหนด เช่น สมัครสมาชิก หรือฝากเงินครั้งแรก
  • Sub-Affiliate — รายได้เสริมจากการแนะนำพันธมิตรท่านอื่นเข้ามา

พันธมิตรส่วนใหญ่จะนิยม Revenue Share และ CPA เพราะคำนวณง่ายและเข้าใจไม่ยาก ส่วน Turnover Share จะเป็นที่นิยมสำหรับเว็บมาสเตอร์ที่มีทราฟฟิกจำนวนมาก ขณะที่ Sub-Affiliate เหมาะกับคนที่อยากสร้างเครือข่ายพันธมิตรในระยะยาวและรับรายได้จากพันธมิตรที่ชักชวนมา

เปรียบเทียบค่าคอมมิชชัน (RevShare / Turnover / CPA / Sub-Affiliate)

สีเขียวหมายถึง Revenue Share สีส้มหมายถึง Turnover Share และสีน้ำเงินคือ Sub-Affiliate วางเมาส์เหนือกราฟเพื่อดูเปอร์เซ็นต์สูงสุดในแต่ละรายการ

บางโปรแกรมพันธมิตรยังมี CPA เช่น:

  • FinMinistry: สูงสุด 400 USD
  • AffStore: สูงสุด 200 USD
  • KingFin: สูงสุด 150 USD
  • AMarkets Affiliate: สูงสุด 200 USD

เปรียบเทียบรีวิว: จำนวนรีวิวรวม & สัดส่วนบวก/ลบ

ข้าพเจ้าทำการศึกษาข้อมูลจากรีวิว 2,240 ฉบับในหลายเว็บบอร์ดและเว็บไซต์เฉพาะทาง แม้จะมีบางส่วนที่ดูเป็น “รีวิวจ้าง” แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ คือ คอมเมนต์ด้านลบ อย่างกรณีการจ่ายล่าช้าเป็นสัปดาห์ ขาดการขอโทษ การให้ส่งเอกสารยืนยันตัวบุคคลหลายรอบ หรือผู้จัดการพันธมิตรไม่ตอบอะไรเลยเมื่อติดปัญหา

ความถี่ในการจ่าย & ความยืดหยุ่นต่อพันธมิตร

ยิ่งโปรแกรมไหนจ่ายค่าคอมบ่อย ก็ยิ่งบริหารกระแสเงินสดได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกเจ้าที่จ่ายตรงตามตารางที่ประกาศไว้:

  • Quotex Partner: อ้างว่าจ่ายรายสัปดาห์ (วันพฤหัสบดี) แม้ในช่วงปีหนึ่งอาจมีดีเลย์ 1–2 วันบ้าง
  • AffStore: จ่ายเดือนละ 2 ครั้ง หากทำได้มากกว่า 2,000 USD ต่อเดือน สามารถขอถอนพิเศษได้ กรณีจ่ายล่าช้าเจอไม่บ่อย
  • Binolla Affiliate: จ่ายตามที่ร้องขอ แต่บางครั้งขั้นตอนตรวจสอบอาจใช้เวลาถึง 3 วันทำการ ผู้ใช้บางรายบอกว่ามีการขอภาพสถิติทราฟฟิกในบางกรณี (ส่วนตัวข้าพเจ้ายังไม่เคยโดน)
  • Affiliate Top: จ่ายสองครั้งต่อเดือน เช่นกัน ยังไม่พบเหตุล่าช้ารุนแรง ทีมดูแลค่อนข้างช่วยเหลือดี แต่ต้องอัปเดตสื่อโฆษณาอย่างสม่ำเสมอ หากปล่อยทิ้งไว้อาจโดนระงับการจ่ายได้
  • KingFin: จ่ายค่าคอมทุกสองสัปดาห์ และอาจเจรจาขอจ่ายไวขึ้นได้ถ้าคุณทำทราฟฟิกได้เยอะ
  • FinMinistry: จะจ่ายเมื่อต้องการยื่นคำขอ มีกรณีรายงานว่าล่าช้าถึง 5 วัน โดยได้คำตอบแค่ “โปรดรอ” ไม่มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติม
  • AMarkets Affiliate: จ่ายตามร้องขออีกเช่นกัน ยอดใหญ่ๆ อาจต้องยืนยันตัวตนเพิ่มเติม ทำให้รอได้เงินนานขึ้น
  • Pocket Option Affiliate: จ่ายทุกวันจันทร์ ถ้าคุณมี FTD (First Time Deposit) ในเดือนนั้นๆ หลายคนบอกว่าจ่ายตรง แต่ระวังเรื่องเงื่อนไขสัญญาพันธมิตร เพราะมีการอัปเดตบ่อย (ปีละ 2–3 ครั้ง)
  • Clever Aff: จ่ายเดือนละ 2 ครั้งแบบอัตโนมัติ เข้าเลขบัญชีที่ตั้งค่าไว้โดยตรง (ไม่ต้องมารอสะสมในพอร์ต) ไม่มีปัญหาใหญ่ๆ แต่บางครั้งอาจดีเลย์ 1–2 วัน
  • Intrade Bar: จ่ายรายวัน ถ้ายอดถึงขั้นต่ำ พันธมิตรส่วนใหญ่บอกว่าไม่มีปัญหา ส่วนใหญ่ที่ติดขัดมักเกิดช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือข้อผิดพลาดทางเทคนิคของระบบชำระเงิน

การแข่งขันของแบรนด์ (Brand Competition Index) สำหรับโปรแกรมพันธมิตร Binary Options & Forex

ในส่วนนี้ ข้าพเจ้าพิจารณาจากความโด่งดังของโบรกเกอร์ (ทั้งออนไลน์และออฟไลน์) รวมไปถึงกระแสความสนใจในโซเชียลมีเดีย ซึ่งโดยทั่วไปพบว่า:

  • แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักจะสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ได้มากกว่า แต่ การแย่งชิงทราฟฟิก ก็ยิ่งเข้มข้นตาม
  • โบรกเกอร์ที่คนรู้จักไม่มากอาจให้ข้อเสนอที่เย้ายวน แต่เพราะไม่ดังเลยทำให้ดึงทราฟฟิกแปลงเป็นผู้ใช้จริงได้ยากขึ้น

สุดท้ายแล้วอยู่ที่กลุ่มเป้าหมายของคุณ หากมีกลุ่มผู้ติดตามเยอะและคุณภาพดี การโปรโมตแบรนด์ดังอาจง่ายกว่า แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่หรือตลาดยังไม่กว้าง การนำเสนอโบรกเกอร์ที่คู่แข่งน้อยอาจได้ผลดีกว่า

การประเมินรวม: เปรียบเทียบเงื่อนไขของแต่ละโปรแกรมพันธมิตร

เพื่อสรุปทั้งหมด ข้าพเจ้าได้จัดทำ “ตารางจัดอันดับเงื่อนไข” โดยดูจาก:

  • ความยืดหยุ่นและอัตราค่าคอม (RevShare, CPA ฯลฯ)
  • ภาพรวมด้านชื่อเสียงและความเห็นจากผู้ใช้ตัวจริง
  • ความถี่และความเสถียรในการจ่ายเงิน
  • การแข่งขันของแบรนด์
  • คุณภาพสื่อโฆษณาและความเร็วในการสนับสนุน

ตัวเลขบางอย่างอาจเปลี่ยนได้ ถ้าเราให้น้ำหนักกับแต่ละปัจจัยต่างกัน หรือเพิ่มเกณฑ์ใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม Quotex Partner, AffStore และ Binolla ถือว่าได้คะแนนโดดเด่น เพราะให้ค่าคอมมิชชันสูง แบรนด์โบรกเกอร์เป็นที่ยอมรับ และมีอัตรารีวิวบวก/ลบสมดุลดี แต่โปรแกรมอื่นในลิสต์นี้ก็มีศักยภาพเช่นกัน หากคุณอยากกระจายความเสี่ยงไปมากกว่าแค่โบรกเกอร์เดียว

โดยสรุป อย่าเลือกโปรแกรมพันธมิตรโดยเชื่อแค่โฆษณา ควรอ้างอิงประสบการณ์จริงของผู้เคยเจอปัญหาต่างๆ บางคนมองข้ามรีวิวเชิงลบ ทั้งที่เรื่องเหล่านี้เองบอกเราได้ดีที่สุดว่าแต่ละบริษัทแก้ไขสถานการณ์เวลามีปัญหาอย่างไร เชื่อเถอะ ถ้าเอาแต่ดูคำโฆษณาสวยหรู คุณอาจเจอปัญหาแล้วต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ

โปรแกรมพันธมิตรโบรกเกอร์ Binary Options & Forex ใดบ้างที่คุ้มค่าน่าลอง?

เพื่อช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาค้นหา ขอนำเสนอชุดโปรแกรมพันธมิตรที่น่าสนใจ หากคุณต้องการโปรโมตโบรกเกอร์เกี่ยวกับไบนารี่ออปชันและ Forex ข้าพเจ้าทำงานกับบริษัทเหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทำเช่นกัน คุณมีอิสระในการเลือกให้ตรงตามจุดประสงค์ (เช่น ข้อจำกัดเรื่องภูมิภาค) ซึ่งแต่ละเจ้ามีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือที่พิสูจน์มาแล้ว

Quotex Partner



เว็บไซต์ทางการของโปรแกรมพันธมิตร Quotex

Partner Quotex เป็นโปรแกรมพันธมิตรของ Quotex โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชัน ดูเผินๆ การเลื่อนขั้นอาจดูไม่หวือหวา แต่บริษัทมอบเงื่อนไขค่อนข้างดีให้กับพันธมิตร

  • Revenue Share: 50–80%
  • Turnover Share: 2–5%
  • Sub-affiliate: 5–8%

มีสถิติและเครื่องมือโปรโมตหลากหลาย รวมถึงอีเวนต์ประกวดพร้อมเงินรางวัล อย่างไรก็ตามมีบางคนบอกว่าการปรับเปอร์เซ็นต์ค่าคอมให้สูงขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ — https://partner.quotex.com/.

แดชบอร์ดของโปรแกรมพันธมิตร Quotex

อ่านรีวิวฉบับเต็ม Partner Quotex


AffStore



AffStore ให้คุณเข้าถึงโบรกเกอร์หลายเจ้าในตลาดไบนารี่ออปชัน CFD และ Forex (เช่น IQ Option, SabioTrade, QuadCode Markets, และ Exnova) เหมาะสำหรับคนที่อยากลองโปรโมตหลายข้อเสนอ แต่อย่าลืมว่าการแข่งขันของเจ้านี้ค่อนข้างสูง และกฎการรับทราฟฟิกค่อนข้างเข้มงวด

เว็บไซต์ทางการของเครือข่ายพันธมิตร AffStore

  • รองรับโบรกเกอร์ระดับสากล (ไบนารี่ออปชัน, CFD, Forex)
  • เข้าถึงผู้ใช้ได้ในหลายภูมิภาค
  • มีรูปแบบค่าคอมหลากหลาย: Revenue Share, Turnover Share, CPA
  • Sub-affiliate: 5% ของรายได้พันธมิตรที่คุณแนะนำ
  • มีสถิติการใช้งานลูกค้าอย่างละเอียดผ่านแดชบอร์ด
  • จ่ายค่าคอม 2 ครั้งต่อเดือน

เท่าที่ตรวจสอบ ความช่วยเหลือจากทีมซัพพอร์ตค่อนข้างฉับไว แต่บางปัญหาอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งสร้างความหงุดหงิดเล็กน้อย บางครั้งผู้จัดการอาจหยุดยาว ทำให้คุณต้องรอ เว็บไซต์หลัก — https://affstore.com/.

ข้อเสนอในโปรแกรมพันธมิตร AffStore

อ่านรีวิวฉบับเต็ม AffStore


Binolla Affiliate


Binolla ชูจุดขายเป็นแพลตฟอร์มเทรดดิจิทัลออปชันที่เข้าใจง่าย โปรแกรมพันธมิตรให้ค่าคอมค่อนข้างสูง (สูงสุด 80%) แต่บางครั้งก็มีคนบ่นเรื่องการจ่ายช้าในช่วงที่มีโปรโมชันขนาดใหญ่ https://partners.binolla.com/

เว็บไซต์ทางการของโปรแกรมพันธมิตร Binolla

  • ค่าคอมสูงสุด 80% จากกำไรของแพลตฟอร์ม
  • จ่ายรายสัปดาห์ (แต่บางครั้งอาจเลื่อน)
  • รองรับลูกค้าทั่วโลก เหมาะสำหรับเว็บมาสเตอร์หลายสาย
  • แจ้งเตือนผ่าน Telegram มีระบบวิเคราะห์ข้อมูลและฟีเจอร์ postback
  • มีสื่อโปรโมตหลายภาษา

ข้อเสนอในโปรแกรมพันธมิตร Binolla

  • RevShare: สูงสุด 80% จากกำไร
  • Turnover: สูงสุด 5% จากปริมาณเทรด
  • Sub-Affiliates: สูงสุด 10% จากรายได้ของพันธมิตรที่เชิญ

อ่านรีวิวโปรแกรมพันธมิตร Binolla


Affiliate Top



Affiliate Top ให้คุณสามารถเข้าถึงโบรกเกอร์ Binomo และ Stockity โครงสร้างค่าคอม สถิติ และการซัพพอร์ตถือว่าทำได้ดี แต่มีคำเตือนจากบางพันธมิตรว่าเงื่อนไขการโฆษณาค่อนข้างเข้มงวด หากฝ่าฝืนเล็กน้อยอาจโดนปิดบัญชีทันที จึงควรอ่านกฎให้ละเอียด https://affiliate.top/

เว็บไซต์ของโปรแกรมพันธมิตร Affiliate Top

  • Revenue Share (Binomo): 50–70%
  • Turnover Share (Binomo): สูงสุด 6.5%
  • Turnover Share (Stockity): สูงสุด 6.5%
  • จ่ายเดือนละ 2 ครั้ง
  • Sub-Affiliate: 5% ของรายได้พันธมิตรที่แนะนำ
  • สามารถขอสื่อโปรโมตเฉพาะประเทศได้ (บางพื้นที่อาจยังไม่รองรับ)

เงื่อนไขพันธมิตรใน Affiliate Top

อ่านรีวิว Affiliate Top แบบละเอียด


KingFin



KingFin คือโปรแกรมพันธมิตรสำหรับโบรกเกอร์ OlympTrade และ ToDo โดยรวมถือว่าปลอดภัย หากไม่ทำผิดเงื่อนไขใดๆ เพราะถ้ามีการตรวจสอบพบทราฟฟิกไม่เหมาะสมหรือฝ่าฝืนกติกา อาจถูกตัดค่าคอมมิชชันหรือโดนแบนได้ แต่ถ้าทำถูกต้องก็ไม่มีปัญหา https://kingfin.com/

โปรแกรมพันธมิตรของโบรกเกอร์ Olymp Trade

  • Revenue Share: 20–60%
  • รองรับ CPA
  • มีเครื่องมือโฆษณาหลายแบบ แต่บางอย่างอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • Sub-Affiliate: 3–5%
  • จ่ายค่าคอมทุก 2 สัปดาห์ (หากไม่มีข้อพิพาท)

เงื่อนไขการทำงานกับ KingFin

ดูข้อมูล KingFin & ข้อคิดเห็นจากผู้ใช้


FinMinistry


FinMinistry เปิดตัวตั้งแต่ปี 2014 โปรโมต IQ Cent, BINARY CENT, BIN BOT, RACE OPTION, VIDE FOREX, IQ MINING ฯลฯ ข้อดีคือหลายแบรนด์เป็นของเจ้าเดียวกัน ทำให้ค่าคอมอาจสูงถึง 60% FTD อย่างไรก็ตามบางความเห็นบอกว่าอัตราการเปลี่ยนลูกค้าเป็นผู้ฝากจริง (Conversion) ไม่เท่ากันในแต่ละข้อเสนอ

เว็บไซต์ของเครือข่ายพันธมิตร FinMinistry

  • CPA และ RevShare สูงสุด 60% (FTD) และ 20% จากยอดฝากตลอดอายุบัญชี
  • มีหลายระดับใน Sub-affiliate
  • จ่ายรายสัปดาห์ ขั้นต่ำ 500 ดอลลาร์ (ผู้ที่มีทราฟฟิกน้อยอาจไม่สะดวก)
  • มีเงื่อนไขพิเศษสำหรับพันธมิตรที่ทำยอดสูง

แดชบอร์ดของโปรแกรมพันธมิตร FinMinistry

รีวิวโปรแกรมพันธมิตร FinMinistry


AMarkets Affiliate



AMarkets เป็นโปรแกรมพันธมิตรของโบรกเกอร์ Forex ที่ดำเนินกิจการตั้งแต่ปี 2007 รองรับทั้ง CPA และ Revenue Share (สูงสุด 80%) แต่พันธมิตรบางคนบ่นว่าการตรวจสอบลีด (Lead) ค่อนข้างใช้เวลานาน ทำให้ต้องรอเงินนานขึ้น https://www.amarkets.org/affiliate-program/

โปรแกรมพันธมิตรของโบรกเกอร์ AMarkets

  • ร่วมงานกับโบรกเกอร์ Forex ที่เปิดมานาน (รองรับ MT4/MT5)
  • CPA: รับค่าคอมต่อเมื่อลูกค้าลงทะเบียนและฝากเงิน
  • Revenue Share: สูงสุด 80% (แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับอัตราสูงสุด)
  • ค่าคอมก้อนใหญ่เป็นครั้งเดียวถ้าผ่านเงื่อนไขบางอย่าง

แดชบอร์ดของโปรแกรมพันธมิตร AMarkets

รีวิวโปรแกรมพันธมิตร AMarkets


Pocket Option Affiliate


Pocket Option เป็นโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชันที่ให้ RevShare สูงสุด 80% และสามารถขอใช้รูปแบบ CPA ได้ แต่มีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับ “ปัญหาทางเทคนิค” เป็นระยะ ซึ่งอาจทำให้เข้าระบบไม่ได้ชั่วคราว กระทบกับการส่งทราฟฟิก https://affiliate.pocketoption.com/

โปรแกรมพันธมิตรของ Pocket Option

  • รองรับผู้ใช้งานทั่วโลก (แต่บางประเทศผลลัพธ์ไม่ดีเท่ากัน)
  • มีสื่อส่งเสริมการขายสำเร็จรูป
  • จ่าย 24/7 ขั้นต่ำ 10 ดอลลาร์
  • มีแดชบอร์ดดูสถิติและวิเคราะห์ (บางพันธมิตรบ่นว่าบางครั้งข้อมูลไม่ตรงเป๊ะ)

ข้อเสนอในโปรแกรมพันธมิตร Pocket Option

  • Standard: 49 ลูกค้าต่อเดือนหรือน้อยกว่า ได้ 50% ของเงินฝาก + 5% ของกำไรโบรกเกอร์
  • Premium: 50–199 ลูกค้า ได้ 60% + 7% ของกำไร
  • VIP: 200–499 ลูกค้า ได้ 70% + 10% ของกำไร
  • IB: ตั้งแต่ 500 ลูกค้าขึ้นไป ได้ 80% + 10% ของกำไร

ถอนเงินได้ผ่าน WebMoney, AdvCash, Perfect Money, Jeton, คริปโตต่างๆ เป็นต้น อ่านรีวิวโปรแกรมพันธมิตร Pocket Option

ควรทราบด้วยว่าโปรแกรมนี้ปรับ “ข้อตกลงพันธมิตร” บ่อยๆ มักเพิ่มเงื่อนไขที่อาจสร้างความยุ่งยากได้:

  • เดิม Sub-affiliate ติดบัญชีตลอดไป แต่ตอนนี้มีอายุ 2 ปีเท่านั้น
  • เพิ่มกฎว่าก่อนจะเลื่อนเงินจาก Hold ไปกระเป๋าหลัก ต้องมี “FTD หลายรายการ” ในแต่ละเดือน ไม่งั้นจะค้างใน Hold
  • ถ้าไม่มี FTD อย่างน้อย 5 รายต่อเดือน จะไม่อนุมัติให้ถอน

ถ้าคุณนำทราฟฟิกเข้ามาสม่ำเสมอ เงื่อนไขเหล่านี้อาจไม่กระทบมาก แต่สำหรับผู้เริ่มต้นหรือมียอดน้อย อาจเป็นอุปสรรคไม่น้อย


Clever Aff



CleverAff เป็นโปรแกรมพันธมิตรของ Binarium เดิมเน้นเจาะตลาดกลุ่ม CIS แต่ก็เริ่มดึงลูกค้าจากโซนบราซิล อินโดนีเซีย มาเลเซีย เป็นต้น อย่าคาดหวังสื่อโฆษณาหลากหลาย รีวิวบางรายบอกว่ามีไม่มากนัก แม้โบรกเกอร์จะพยายามอัปเดตอยู่เรื่อยๆ ลิงก์โปรแกรม: https://cleveraff.com/

โปรแกรมพันธมิตรของโบรกเกอร์ Binarium

  • Revenue Share: 50–70%
  • รองรับ CPA
  • Sub-Affiliate: สูงสุด 5% จากพันธมิตรที่เชิญเข้ามา
  • จ่ายค่าโฆษณาอัตโนมัติเดือนละ 2 ครั้ง (หลายคนชอบความสะดวกข้อนี้)
  • บางคนบอกว่าระบบสถิติยังไม่ละเอียดมาก

สถิติในโปรแกรมพันธมิตร Clever Aff

รีวิว CleverAff


Intrade Bar



Intrade Bar เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความเชื่อถือในกลุ่มผู้เทรดที่พูดภาษารัสเซีย ระบบพันธมิตรจะเปิดใช้งานทันทีที่สมัคร แต่ต้องทราบว่าทรัพยากรส่งเสริมการขายค่อนข้างน้อย อาจต้องสร้างสื่อเองมากเป็นพิเศษ ลิงก์ทางการ — https://intrade.bar/.

เว็บไซต์ของโบรกเกอร์ Intrade Bar

  • Revenue Share 53% และ Turnover Share 1% (ไม่มีการปรับเพิ่มสูงขึ้นมากไปกว่านี้)
  • คอมมิชชันสะสมทันที แต่สื่อโฆษณาสำเร็จรูปมีจำกัด
  • บัญชีพันธมิตรผูกกับบัญชีเทรดโดยตรง บางคนชอบ บางคนไม่สะดวก
  • มีสถิติลูกค้าแบบเจาะลึก

โปรแกรมพันธมิตรของโบรกเกอร์ Intrade Bar

ข้อมูลโบรกเกอร์ & โปรแกรมพันธมิตร Intrade Bar


แน่นอน หากใครมีประสบการณ์หรือข้อสังเกตใดๆ เกี่ยวกับโปรแกรมเหล่านี้ ก็อย่าลืมแบ่งปันในคอมเมนต์ต่อท้ายกันด้วย!

บทวิจารณ์และความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด: 0
avatar