รีวิวตรงไปตรงมา RaceOption: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับไบนารี่ออปชันและ CFD (2025)

RaceOption เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับสากลที่มุ่งเน้นการเทรดไบนารี่ออปชันและ CFD บริษัทเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2014 ภายใต้ชื่อแบรนด์อื่น และมาใช้ชื่อ RaceOption ในช่วงประมาณปี 2017 โบรกเกอร์จดทะเบียนในต่างประเทศ (Offshore) โดยบริษัท Makerun Corp. ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะมาร์แชลล์ และไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับของหน่วยงานทางการเงินใด ๆ RaceOption มีสินทรัพย์ให้เทรดกว่า 150 รายการ (สกุลเงิน หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโต) พร้อมอัตราผลตอบแทนสำหรับไบนารี่ออปชันสูงถึง 90–95% อีกทั้งแพลตฟอร์มยังรองรับการคัดลอกเทรดจากผู้เทรดที่ประสบความสำเร็จ ดึงดูดผู้ใช้จากทั่วโลก (รวมถึงสหรัฐฯ) ด้วยฟีเจอร์หลากหลายและโปรแกรมโบนัสมากมาย

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ RaceOption

• ปีที่ก่อตั้ง: 2014 (รีแบรนด์ในปี 2017)
• เขตอำนาจ: หมู่เกาะมาร์แชลล์ (จดทะเบียน Offshore ภายใต้ Makerun Corp.)
• การกำกับดูแล: ไม่มี (โบรกเกอร์ไม่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานทางการเงินใด ๆ)
• ผลิตภัณฑ์การเทรด: ไบนารี่ออปชันและ CFD บนฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโต (~150+ สินทรัพย์)
• แพลตฟอร์ม: ระบบเทรดเว็บเฉพาะ + แอปมือถือ (Android, iOS)
• บัญชีเดโม: มี แต่ต้องลงทะเบียนบัญชีจริงก่อน
• ประเภทบัญชี: 3 ระดับ — Bronze, Silver, Gold (พร้อมโบนัสและสิทธิพิเศษต่างกัน)
• ฝากขั้นต่ำ: $50 (บัญชี Bronze)
• ขนาดเทรดขั้นต่ำ: $1
• อัตราผลตอบแทน (Payout): สูงสุด 90–95% สำหรับออปชันในสินทรัพย์ยอดนิยม (เช่น EUR/USD)
• โบนัสเงินฝาก: ตั้งแต่ ~20% ถึง 100% (ขึ้นกับประเภทบัญชี; มีบางโปรโมชันอาจถึง 150–200%)
• เทรดไร้ความเสี่ยง: มีให้ในบัญชี Silver และ Gold (เทรด 3 ครั้งแรก ถ้าขาดทุนจะได้รับเงินคืนในรูปโบนัส)
• เวลาดำเนินการถอน: โบรกเกอร์ระบุว่าดำเนินการได้ภายใน 1 ชั่วโมง (ตามคำกล่าว) ยอดถอนขั้นต่ำ $50
• ค่าธรรมเนียม: ไม่มีค่าธรรมเนียมฝาก/ถอนจากทางโบรกเกอร์; ค่าธรรมเนียม 1–2.5% สำหรับ CFD คริปโต (กรณีไม่มีเลเวอเรจ), 5% เมื่อใช้เลเวอเรจ; ค่าธรรมเนียม $10/เดือนหากไม่มีการเทรดเกิน 30 วัน
• ฝ่ายสนับสนุน: ให้บริการ 24/7 หลายภาษา (กว่า 20 ภาษา) และมีวิดีโอแชทบนเว็บไซต์
• ความปลอดภัย: การเข้ารหัส SSL, 3D Secure, แยกบัญชีเงินทุนลูกค้า (แต่ไม่มี 2FA)

ข้อดีและข้อเสียของ RaceOption

ข้อดี:

• ผลตอบแทนออปชันสูง: สูงได้ถึง 90–95% ในสินทรัพย์ยอดฮิต ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด
• ถอนเงินได้รวดเร็ว: โบรกเกอร์อ้างว่าดำเนินการคำขอถอนภายในหนึ่งชั่วโมง เร็วกว่าโบรกเกอร์หลายเจ้า
• สินทรัพย์หลากหลาย: มีสินทรัพย์ทั้งฟอเร็กซ์ หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ ดัชนี คริปโต รวมแล้วกว่า 150 รายการ รองรับการกระจายความเสี่ยง
• โซเชียลเทรด: มีฟีเจอร์คัดลอกเทรด (Copy-trading) โดยดูจากเทรดเดอร์ Top-10 ผู้เริ่มต้นสามารถก๊อปปี้ออเดอร์ได้อัตโนมัติ
• โบนัสและโปรโมชั่น: ให้โบนัสเงินฝากสูง (สูงสุด 100% หรือมากกว่า) และมีโปรพิเศษ ตลอดจนการแข่งขันพร้อมรางวัล
• รองรับการชำระเงินหลากหลายวิธี: บัตรธนาคาร e-wallet (Skrill, Neteller, Perfect Money ฯลฯ) คริปโต (BTC, ETH, LTC ฯลฯ) กว่า 10 ช่องทาง และไม่มีค่าธรรมเนียมจากโบรกเกอร์
• สนับสนุนตลอด 24/7 พร้อมวิดีโอแชท: บริการไม่หยุดพร้อมฟีเจอร์แชทสดแบบวีดีโอ รวมถึงแชทข้อความและสายโทรศัพท์
• แอปมือถือ: แพลตฟอร์มสามารถเทรดผ่านมือถือ (Android, iOS) ทำให้ติดตามตลาดและออกออเดอร์ได้ทุกที่
• คัดลอกเทรดและเครื่องมือการเรียนรู้: มีโหมดเดโมเพื่อฝึกฝน วิดีโอแนะนำ คู่มือ รวมถึงผู้จัดการบัญชีส่วนตัวสำหรับลูกค้าที่ฝากสูง — ช่วยผู้เริ่มต้นให้เข้าใจพื้นฐานได้

ข้อเสีย:

• ไม่มีการกำกับดูแล: RaceOption ไม่ได้จดทะเบียนภายใต้หน่วยงานกำกับที่มีชื่อเสียง (FCA, CySEC) หากเกิดปัญหาหรือถอนเงินติดขัด จะไม่มีกลไกการคุ้มครองหรือการชดเชย
• ฝากขั้นต่ำค่อนข้างสูง: $50 สูงกว่าโบรกเกอร์บางรายที่ให้เริ่มต้นได้ตั้งแต่ $5–$10 อาจเป็นอุปสรรคสำหรับมือใหม่
• เงื่อนไขโบนัส: โบนัสที่ได้รับต้องทำเทิร์นโอเวอร์ตามที่กำหนดก่อนถอนเงินได้ หากไม่ถึงเป้าจะถูกบล็อกการถอน ซึ่งอาจสร้างความประหลาดใจให้ผู้ที่ไม่อ่านกฎ
• ความเสี่ยงจากโบนัสและ “เทรดไร้ความเสี่ยง”: การคืนเงินขาดทุนจะคืนในรูปของโบนัส ซึ่งต้องทำเทิร์นโอเวอร์ต่อไป ทำให้การถอนเงินส่วนกำไรอาจยุ่งยาก
• ข้อกังขาด้านความน่าเชื่อถือ: มีรีวิวเชิงลบในอินเทอร์เน็ตว่าบริษัทเป็น “สแกม” (กล่าวถึงความล่าช้าในการจ่าย) นอกจากนี้หน่วยงานอย่าง AMF ฝรั่งเศส และ CMVM โปรตุเกส ก็เคยใส่ RaceOption ไว้ในรายการเตือน (Unauthorized) เพิ่มข้อกังขาให้กับผู้ใช้งาน
• เครื่องมือเฉพาะทางจำกัด: แม้แพลตฟอร์มจะมีฟีเจอร์พื้นฐาน แต่เครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงยังค่อนข้างน้อย ไม่มี MT4/MT5 หรือฟีเจอร์ออเดอร์พิเศษขั้นสูงในการเทรด CFD (Stop-loss, Take-profit ต้องกำหนดเอง)
• ไม่มีสำนักงานท้องถิ่นหรือการกำกับที่เป็นทางการ: เพราะจดทะเบียนแบบ Offshore ทำให้เทรดเดอร์สายอนุรักษ์นิยมอาจกังวล แม้จะมีฝ่ายซัพพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมง

การกำกับดูแลและความน่าเชื่อถือของ RaceOption

RaceOption ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลใด ๆ โบรกเกอร์ไม่ได้ถือใบอนุญาตจากหน่วยงานรัฐหรือคณะกรรมการกำกับดูแลทางการเงินใด ๆ ตามกฎหมาย แพลตฟอร์มดำเนินการโดยบริษัท Offshore ชื่อ Makerun Corp. ที่จดทะเบียนในหมู่เกาะมาร์แชลล์ (ที่อยู่: Trust Company Complex, Ajeltake Road, Majuro) ก่อนหน้านี้หน้าเว็บของโบรกเกอร์เคยแสดงเครื่องหมาย “Regulated” แต่เมื่อสอบถาม ฝ่ายสนับสนุนแจ้งว่าเป็นความเข้าใจผิด และปัจจุบันได้ลบข้อความเกี่ยวกับการกำกับดูแลออกแล้ว เมื่อไม่มีการกำกับดูแลจากองค์กรอย่าง CySEC, FCA, ASIC ลูกค้าของ RaceOption จึงไม่ได้รับหลักประกันทางกฎหมาย: เงินทุนไม่ถูกประกัน และไม่มีช่องทางทางการสำหรับการเคลมข้อพิพาท

ในบางประเทศ การดำเนินการของโบรกเกอร์อาจถือว่าผิดกฎหมาย เช่น ฝรั่งเศส (AMF) และโปรตุเกส (CMVM) ได้ระบุว่า RaceOption ให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจมีหลายหน่วยงานอื่นที่ใส่ RaceOption ไว้ในรายชื่อแพลตฟอร์มไบนารี่ออฟชอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต โบรกเกอร์ระบุบนเว็บไซต์และเอกสารว่าบริการนี้ไม่เปิดให้กับผู้อาศัยในบางประเทศ (เช่น สหรัฐฯ) ด้วยเหตุผลทางกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติมีผู้ใช้จำนวนมากในสหรัฐฯ และโบรกเกอร์เองก็เคยโปรโมตว่ายินดีรับลูกค้าอเมริกา เรียกได้ว่ารับลูกค้าทั่วโลก แต่ดำเนินการในรูปแบบที่เสี่ยงต่อการถูกปิดกั้นหรือห้าม

ในด้านความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม มีการกล่าวถึงกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน RaceOption ไม่ได้เป็นบริษัทเดี่ยว แต่เชื่อมโยงกับโบรกเกอร์อื่นในเครือเดียวกัน เช่น FinRally, BinaryMate, BinaryCent, VideForex ฯลฯ ที่เคยมีอินเทอร์เฟซและทีมเจ้าหน้าที่คล้ายกัน แหล่งข่าวในวงการคาดว่าแบรนด์เหล่านี้อยู่ภายใต้กลุ่ม Finance Group Corp (FGC) ซึ่งบางแบรนด์เคยปิดตัวเพราะปัญหาการตลาดที่ก้าวร้าว ข้อเท็จจริงนี้สะท้อนถึงลักษณะ Offshore ที่เน้นผลกำไรเร็วมากกว่าการสร้างความน่าเชื่อถือระยะยาว

อย่างไรก็ดี RaceOption ก็ยังจ่ายเงินให้ลูกค้าจำนวนมาก และมีรีวิวเชิงบวกเช่นกัน ตัวอย่างเช่น จากบริการรีวิวอิสระ มีคะแนนผู้ใช้ราว 4.2 จาก 5 (อ้างอิงรีวิวประมาณ 200 ราย) แสดงว่าก็มีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ประสบปัญหา

โบรกเกอร์พยายามแสดงความโปร่งใสและปลอดภัย: เว็บไซต์ใช้การเข้ารหัส SSL เพื่อปกป้องข้อมูลธุรกรรม การถอนเงินต้องผ่านการยืนยันตัวตน (หนังสือเดินทาง/ID + เซลฟี) เพื่อต่อต้านการฉ้อโกงและฟอกเงิน (ทางโบรกเกอร์อ้างว่าปฏิบัติตาม AML) RaceOption ระบุว่าจัดเก็บเงินทุนลูกค้าในบัญชีแยก (Segregated) แต่ไม่มีหน่วยงานภายนอกมาตรวจสอบจริง นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยี 3D Secure ในการชำระด้วยบัตร

สิ่งที่ขาดไปคือการป้องกันยอดคงเหลือติดลบและการคุ้มครองอื่นที่โบรกเกอร์ภายใต้การกำกับมักมี หากเกิดเหตุสุดวิสัยหรือบริษัทล้มละลาย ลูกค้าของ RaceOption ไม่น่าจะได้รับเงินชดเชย ดังนั้นการฝากเงินกับโบรกเกอร์นี้มีความเสี่ยงต่อการไม่จ่ายหรือการกระทำที่ไม่โปร่งใส ควรถอนกำไรออกมาเป็นระยะ และไม่ควรฝากเงินก้อนใหญ่อยู่ในบัญชีระยะยาว นโยบายแบบ “ฝาก-เทรด-ทำกำไร-ถอน” น่าจะปลอดภัยที่สุด

ข้อสรุปด้านความน่าเชื่อถือ: RaceOption เป็นโบรกเกอร์ไบนารี่ออฟชอร์ที่ไม่มีการกำกับดูแล อาจใช้ทำกำไรได้ แต่ก็ไม่มีหลักประกันทางกฎหมาย หากจะใช้บริการ ควรระมัดระวัง อ่านสัญญาผู้ใช้ (โดยเฉพาะเงื่อนไขโบนัสและความเสี่ยง) และติดตามความคิดเห็นแง่ลบเกี่ยวกับชื่อเสียงบริษัท สำหรับนักเทรดที่รู้ความเสี่ยงและมีประสบการณ์ อาจถือว่าเป็นโอกาสในการเก็งกำไรได้ แต่สำหรับมือใหม่หรือนักลงทุนสายปลอดภัย ควรเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและมีใบอนุญาตมากกว่า

แพลตฟอร์มเทรด RaceOption

แพลตฟอร์มของ RaceOption เป็นระบบเว็บเฉพาะที่โบรกเกอร์พัฒนาขึ้น ดีไซน์ใช้ง่าย คล้ายอินเทอร์เฟซไบนารี่ออปชันที่หลายคนคุ้นเคย แต่ก่อนมีรายงานว่า RaceOption ใช้ SpotOption 2.0 แต่หลัง SpotOption ปิดตัว โบรกเกอร์จึงพัฒนาและดูแลแพลตฟอร์มเอง คุณสามารถใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เสริม บางครั้งอาจมีเวอร์ชัน Desktop Web App แต่ส่วนใหญ่เทรดเดอร์ใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ทั่วไป

ดีไซน์และฟังก์ชัน

พื้นที่การทำงานจะมีกราฟ, แผงคำสั่ง, และรายชื่อสินทรัพย์ อินเทอร์เฟซเป็นมิตรต่อผู้เริ่มต้น สามารถเลือกสินทรัพย์ กำหนดจำนวนเงินเทรด และตั้งเวลาหมดอายุออปชัน หรือเปิดคำสั่ง CFD ได้ง่าย แสดงกราฟแบบเรียลไทม์ พร้อมโหมดเส้นหรือแท่งเทียน มีเครื่องมือวาดและอินดิเคเตอร์ราว 30 ชนิด (เช่น Moving Averages, RSI, MACD, Bollinger Bands ฯลฯ) ผู้ใช้สามารถเปิดหลายกราฟ ตรวจสอบประวัติการเทรด และสลับ Timeframe ได้

RaceOption มีตัวเลือก “Advanced Charting” ผ่าน TradingView ในเมนู คุณจะพบ “Charting Tools” ที่เปิดหน้าต่างใหม่แยกต่างหากเพื่อใช้งานเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ระดับสูง (พื้นฐาน TradingView) แต่ว่าไม่สามารถส่งคำสั่งเทรดจากหน้าต่างนั้นได้ ต้องกลับมาที่หน้าหลัก อย่างไรก็ดี การเชื่อมต่อ TradingView ก็ถือเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่ชอบการวิเคราะห์เชิงลึก

ประเภทการเทรด

RaceOption เปิดให้เทรดทั้งไบนารี่ออปชันแบบดั้งเดิมและสัญญา CFD ในหมวดไบนารี่ออปชันมีรูปแบบ High/Low พร้อมอัตราผลตอบแทนคงที่ เวลา Expiry มีตั้งแต่ Turbo (30 วินาที หรือ 1 นาที) ไปจนถึงระดับกลาง (ชั่วโมงหรือวัน) แม้กระทั่ง 5 วินาที (OTC) ก็มีในปี 2023 เหมาะกับผู้ชอบการเก็งกำไรความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ส่วนใหญ่สูงสุด 24 ชั่วโมง บางสินทรัพย์อาจมีระยะนานได้สองสามวัน

ผู้เทรดที่มีประสบการณ์สามารถใช้ฟีเจอร์ Rollover, Double Up และ Sell ได้ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่โบรกเกอร์ไบนารี่อีกหลายเจ้ามี:

• Rollover: ขยายเวลาหมดอายุของออปชันที่เปิดอยู่ได้ (ยืดผลลัพธ์ออกไป) โดยมีค่าธรรมเนียม ใน RaceOption คุณอาจขยายได้สูงถึง 100% ของเวลาที่ตั้งไว้เดิมสำหรับครั้งแรก และ 30% สำหรับครั้งต่อไป
• Double Up: เปิดออปชันใหม่แบบเดียวกันซ้ำ (ขนาดเดียวกัน ราคาปัจจุบัน) หากคุณยังมั่นใจในแนวโน้มเดิม
• Sell (Close Now): ปิดคำสั่งก่อนหมดอายุ เพื่อรับกำไรบางส่วนหรือจำกัดการขาดทุน การมีทั้ง 3 ฟีเจอร์ช่วยให้ผู้เทรดบริหารสถานะได้ยืดหยุ่น

การเทรด CFD

นอกจากไบนารี่ออปชัน RaceOption ยังเปิดให้เทรด CFD (Contract for Difference) ในสินทรัพย์เดียวกัน — คู่เงิน คริปโต หุ้น ฯลฯ การเทรด CFD สามารถเปิด “ซื้อ” หรือ “ขาย” ได้โดยไม่มีเวลาหมดอายุ จำกัดแค่ช่วงเวลาที่ตลาดเปิด

จะมีเลเวอเรจสำหรับ CFD เท่านั้น ขนาดสูงสุดขึ้นกับแต่ละหมวด เช่น คริปโตอาจสูงสุด 1:30 ส่วนฟอเร็กซ์อาจสูงสุด 1:500 (ตามมาตรฐานโบรกเกอร์ Offshore) เลเวอเรจช่วยขยายโอกาสทำกำไรแต่ก็กระจายความเสี่ยงในทิศทางลบด้วย

RaceOption คิดค่าธรรมเนียมใน CFD คริปโต (1–2.5% ของปริมาณเทรดหากไม่ใช้เลเวอเรจ, 5% หากมีเลเวอเรจ) ส่วนสินทรัพย์อื่นคิดสเปรดลอยตัว ไม่มีค่าคอมมิชชันแยกต่างหาก ซึ่งจะแสดงในแพลตฟอร์มตอนสั่งซื้อ ขณะเดียวกันถ้าถือคำสั่ง CFD ข้ามคืนอาจมีค่า Swap ควรคำนึงถึงหากถือระยะยาว

ความเร็วในการดำเนินการคำสั่ง

เมื่อคลิกคำสั่ง Buy หรือ Sell (หรือ “Higher”/“Lower” สำหรับไบนารี่ออปชัน) ระบบจะดำเนินการทันที แพลตฟอร์มแทบไม่ค้างแม้จะเป็นช่วงตลาดผันผวน อย่างไรก็ตาม สำหรับไบนารี่ออปชัน โบรกเกอร์เป็นคู่สัญญา (Market Maker) เอง อ้างว่าใช้ราคาจากผู้ให้สภาพคล่อง แต่ยากที่จะตรวจสอบความถูกต้องของราคาโดยเฉพาะการเทรด OTC สุดสัปดาห์ ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีประเด็นร้องเรียนเรื่องปั่นราคาที่แพร่หลายเกี่ยวกับ RaceOption

ภาษาที่รองรับ

อินเทอร์เฟซของแพลตฟอร์มมีภาษาอังกฤษและอีกประมาณ 20 ภาษา อำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้ทั่วโลก ผู้ใช้ยังปรับเขตเวลาได้ (เริ่มต้นตั้งเป็น GMT)

ข้อสรุปโดยรวม: แพลตฟอร์ม RaceOption มีฟีเจอร์พื้นฐานเพียงพอสำหรับการเทรดไบนารี่ออปชันและ CFD ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นต้น กับ TradingView ขั้นสูงเสริมอยู่ แม้จะไม่เทียบเท่าแพลตฟอร์ม MetaTrader ที่มีฟังก์ชันครบ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเทรดผ่านเว็บหรือมือถือโดยตรง ถือว่าตอบโจทย์ได้ครบถ้วน

แอป RaceOption บนมือถือ

สำหรับผู้ที่ถนัดใช้งานสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต RaceOption มีแอปมือถือที่ค่อนข้างสมบูรณ์ รองรับ Android และ iOS (iPhone/iPad) สามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play หรือ App Store รวมถึงไฟล์ APK บนเว็บไซต์โบรกเกอร์ แอปจะซิงก์กับเวอร์ชันเว็บ โดยใช้บัญชีเดียวกัน คุณจึงเข้าถึงประวัติและสถานะการเทรดได้จากทุกอุปกรณ์

คุณสมบัติของแอป

เวอร์ชันมือถือมีฟีเจอร์หลัก ๆ คล้ายกับแพลตฟอร์มเว็บ: ดูกราฟเรียลไทม์สําหรับสินทรัพย์ทั้งหมด เปิดออเดอร์ (ทั้งออปชันและ CFD) ฝากเงิน ถอนเงิน หน้าจอถูกปรับให้ใช้งานบนจอเล็กได้ง่าย มีปุ่ม “Higher”/“Lower” ขนาดใหญ่สำหรับไบนารี่ออปชัน และระบบเลือกจำนวนเงินกับเวลาหมดอายุที่สะดวก นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือน (Push Notification) คอยแจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญ เช่น การอนุมัติถอน หรือผลการแข่งขัน

จุดเด่น

แอปรองรับการเทรดเร็วด้วยการแตะครั้งเดียว เหมาะกับการเทรดระยะสั้น (เช่น ออปชัน 60 วินาที) มีการแสดงผลการเทรดของนักเทรดรายอื่น (Market Sentiment) ช่วยดูแนวโน้มฝั่งซื้อ-ขาย คุณสามารถดูประวัติเทรดและสถานะพอร์ตได้เต็มรูปแบบ แม้บางฟังก์ชันขั้นสูงของ TradingView อาจถูกย่อในมือถือ แต่ก็เพียงพอสำหรับเทรดทั่วไป

เสียงตอบรับจากผู้ใช้ระบุว่าแอปรันได้เสถียร บั๊กน้อย เคยมีช่วงที่อัปเดตครั้งใหญ่จนใช้งานไม่ได้ชั่วคราว แต่เวอร์ชันปัจจุบันมีฟีเจอร์ครบขึ้นและมีเสถียรภาพดี สามารถส่งคำสั่งได้รวดเร็วและติดตามราคาเรียลไทม์ ซึ่งสำคัญมากเมื่อเทรดแบบ Turbo

ข้อดีของการเทรดผ่านมือถือ

คุณจะไม่พลาดโอกาสเมื่อต้องออกไปนอกสถานที่ เช่น หากคุณต้องเดินทางหรือเทรดวันเสาร์อาทิตย์ ก็ยังเทรด OTC ได้ผ่านมือถือ แอปมือถือยังเป็นทางเลือกสำรองหากเว็บไซต์ถูกบล็อกหรือมีปัญหาจาก ISP ในบางพื้นที่

ข้อจำกัด

การวิเคราะห์เชิงลึกบนจอมือถืออาจไม่สะดวกเท่าจอคอมพิวเตอร์ ยากต่อการวาดเส้นหรือใช้อินดิเคเตอร์หลายตัวพร้อมกัน ส่วนใหญ่ผู้เทรดมักจะวิเคราะห์ผ่านเว็บแล้วมาเปิดคำสั่งผ่านมือถือมากกว่า อีกทั้งควรดูแลอุปกรณ์ให้ปลอดภัย เช่น ตั้งรหัส PIN, ลายนิ้วมือ, ไม่บันทึกรหัสผ่านในแอป และอัปเดตระบบปฏิบัติการสม่ำเสมอ ป้องกันผู้อื่นเข้าถึงบัญชีหากมือถือสูญหาย

โดยรวมแล้ว แอปมือถือ RaceOption ถือเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ: ฟรี ใช้ง่าย และให้คุณเข้าถึงการควบคุมบัญชีเต็มที่ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต เหมาะมากสำหรับเทรดเดอร์ที่ติดตามตลาดต่อเนื่อง

สินทรัพย์และเงื่อนไขการเทรด

RaceOption โดดเด่นด้วยจำนวนสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ไบนารี มี 6 หมวดหลัก:

• คู่สกุลเงิน (Forex): มากกว่า 25 คู่ ทั้งสกุลหลัก (EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY ฯลฯ) สกุลรอง และสกุลแปลกใหม่
• หุ้น: ราว 50 หุ้นชั้นนำโลก เช่น Apple, Amazon, IBM, Tesla, BP, Facebook ฯลฯ สามารถเก็งกำไรทั้งแบบไบนารี่ออปชันและ CFD
• ดัชนี: ดัชนีหลัก ๆ อย่าง S&P 500, Dow Jones, DAX 30, FTSE 100, Nikkei 225 รวมถึงตลาดสำคัญในภูมิภาคอื่น ๆ
• สินค้าโภคภัณฑ์: กลุ่มพลังงาน (น้ำมัน WTI/Brent ก๊าซธรรมชาติ), สินค้าเกษตร (กาแฟ น้ำตาล ข้าวสาลี ฯลฯ) และโลหะมีค่า (ทอง เงิน แพลตินัม) รวมแล้วหลายสิบรายการ
• คริปโตเคอเรนซี: Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Ripple และเหรียญอื่น ๆ โดย RaceOption เป็นโบรกเกอร์ยุคต้น ๆ ที่ให้เทรดออปชันในคริปโตได้ และยังมี CFD พร้อมเลเวอเรจ
• OTC: ในปี 2023 โบรกเกอร์เพิ่มสินทรัพย์ OTC (Over-the-counter) เป็นสินทรัพย์สังเคราะห์เพื่อเทรดนอกเวลาตลาดจริง เทรดได้เสาร์-อาทิตย์ ให้โอกาสเทรด 24/7 แม้ตลาดปิด อัตราผลตอบแทนสูงถึง 95% มีขั้นต่ำการเทรดที่ $0.01 และหมดอายุเริ่มต้นแค่ 5 วินาที ควรระวังเนื่องจากราคามาจากภายในของโบรกเกอร์เอง

พารามิเตอร์การเทรด

ขนาดเทรดขั้นต่ำคือ $1 ซึ่งเป็นมาตรฐานโบรกเกอร์ไบนารี ส่วนขนาดสูงสุดขึ้นกับแต่ละสินทรัพย์และบัญชี (VIP อาจได้มากกว่า) โดยปกติอาจอยู่ในช่วง $1,500–$5,000 ต่อการเทรด ซึ่งไม่ได้เปิดเผยชัดเจนต่อสาธารณะ

อัตราผลตอบแทน (Payout) สำหรับไบนารี่ออปชันขึ้นกับสินทรัพย์และช่วงเวลา คู่เงินหลักอาจอยู่ที่ 80–90% สำหรับบัญชีทั่วไป และอาจถึง 95% ในช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือบัญชีระดับสูง สินทรัพย์ที่ไม่ได้รับความนิยมอาจให้น้อยลงราว 60–70% สำหรับออปชันระยะสั้นมาก (30 วินาที) อาจลดลงอีก RaceOption ชูจุดขายว่าบางช่วงคุณอาจทำกำไรได้ถึง 95% กับ EUR/USD ซึ่งถือว่าสูงมาก

ในส่วน CFD จะมีเงื่อนไขเช่น เลเวอเรจ (ต่างกันในแต่ละหมวดสินทรัพย์ อาจสูงสุด 1:500 สำหรับฟอเร็กซ์, 1:30 สำหรับคริปโต) สเปรดแบบลอยตัว (ราคาซื้อ/ขาย) และไม่มีคอมมิชชันยกเว้นคริปโตที่คิดค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์ คุณสามารถถือคำสั่ง CFD ได้ไม่จำกัดเวลา แต่หากขาดทุนใกล้ถึงระดับ Margin Call หรือ Stop-out อาจถูกปิดอัตโนมัติ RaceOption ไม่ได้ระบุชัดว่าระดับเท่าไร แต่อาจอยู่ราว 20% ส่วน Hedging (เปิด Buy และ Sell พร้อมกันในสินทรัพย์เดียวกัน) อาจทำได้แต่ไม่ค่อยได้เปรียบเพราะเสี่ยงเจอค่าสเปรดและ Swap หากถือนาน

ช่วงเวลาตลาด

เนื่องจากครอบคลุมหลายตลาด เทรดเดอร์ RaceOption สามารถเทรดได้แทบตลอดวันในวันทำการ (จันทร์–ศุกร์) โดยฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโตทำงาน 24 ชม. (ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ถึงคืนวันศุกร์ตาม GMT) หุ้นและดัชนีจะอิงตามช่วงเวลาตลาดหลักทรัพย์ แต่โบรกเกอร์ใช้ OTC สำหรับเสริมช่วงวันหยุด ทำให้เทรดได้ 7 วันเต็ม อย่างไรก็ดี โบรกเกอร์ไม่ได้ให้ตาราง Session ชัดเจน คุณควรตรวจสอบเวลาตลาดของแต่ละสินทรัพย์เอง

จุดเด่นการเทรดกับ RaceOption

• ไม่จำกัด Scalping หรือ Intraday: เทรดสั้นได้ถึง 5 วินาที
• เทรดสุดสัปดาห์: เป็นจุดขายสำคัญ เพราะส่วนใหญ่โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับมักไม่เปิดเทรดวันหยุด แต่ที่นี่มี OTC
• รองรับหลายสกุลเงินบัญชี: USD, EUR, GBP, RUB, AUD เป็นต้น ช่วยลดค่าธรรมเนียมแปลงสกุล
• ไม่มีค่าธรรมเนียมไม่เคลื่อนไหวหากเทรดสม่ำเสมอ: $10/เดือนจะถูกเรียกเก็บหลังจากไม่เทรดเกิน 30 วัน
• ไม่มี Swap สำหรับไบนารี่ออปชัน: เพราะไม่มีการข้ามคืน แต่สำหรับ CFD ยังมีค่า Swap หากถือข้ามวัน

สรุปเงื่อนไข RaceOption ยืดหยุ่นและบางกรณีก็ให้ความได้เปรียบสูง โดยเฉพาะผู้ที่ชอบออปชันที่จ่ายผลตอบแทนสูงและระยะสั้นมาก การมีทั้งไบนารีและ CFD ในแพลตฟอร์มเดียวเปิดโอกาสทางกลยุทธ์หลากหลาย แต่ต้องตระหนักว่าผลตอบแทนที่สูงก็มีความเสี่ยงสูง และเลเวอเรจอาจทำให้ขาดทุนเพิ่มได้อย่างรวดเร็ว

ประเภทบัญชี RaceOption และโบนัส

RaceOption แบ่งบัญชีเป็น 3 ระดับ: Bronze, Silver และ Gold โดยดูจากยอดฝากครั้งแรก แต่ละระดับจะให้โบนัสและสิทธิพิเศษต่างกัน ตารางเปรียบเทียบด้านล่าง:

หมายเหตุ: ตัวเลขโบนัสในตารางเป็นค่าเฉลี่ย โบรกเกอร์บางครั้งมีโปรโมชันพิเศษเพิ่มโบนัส (เช่น 150% หรือถึง 200%) สำหรับยอดฝากสูง หรือแจกโค้ดพิเศษเพิ่มเงิน $200 หรือโปร Gold 150% ชั่วคราว ควรเช็กข้อมูลล่าสุดในเว็บไซต์ก่อนฝากเงิน หากไม่ต้องการโบนัส ก็สามารถปฏิเสธได้ (มักจะแจ้งฝ่ายสนับสนุนภายใน 3 วันหลังเปิดบัญชี)

นโยบายโบนัสของ RaceOption และเงื่อนไข

RaceOption ขึ้นชื่อเรื่องการให้โบนัสที่ดึงดูด แต่ต้องเข้าใจเงื่อนไขด้วย ส่วนใหญ่ต้องทำเทิร์นโอเวอร์ (จำนวนการเทรดรวม) อย่างน้อย 3 เท่าของเงินฝากบวกโบนัสภายใน 3 เดือน ถึงจะถอนได้

ตัวอย่าง: ฝาก $1,000 ได้โบนัส $500 (50%) ต้องเทรดให้มีมูลค่ารวม ($1,000 + $500) × 3 = $4,500 ก่อนถึงจะถอนเงินได้ หากพยายามถอนก่อน อาจถูกปฏิเสธหรือถูกยกเลิกโบนัสและกำไรที่เกิดจากโบนัส เงื่อนไขนี้ค่อนข้างเป็นปกติในวงการไบนารี แต่รายละเอียดอาจต่างกันในแต่ละโบรกเกอร์ RaceOption แนะนำให้คุณอ่านเงื่อนไขก่อนรับ หากไม่อยากติดข้อผูกพัน ก็เลือก “No Bonus” ตอนสมัคร จะไม่มีเทิร์นโอเวอร์แต่ว่าก็ไม่ได้รับโบนัสใด ๆ

เทรดไร้ความเสี่ยง (Risk-Free Trades)

ฟีเจอร์เด่นสำหรับบัญชี Silver และ Gold คือ “3 เทรดไร้ความเสี่ยง” หมายถึงหาก 3 เทรดแรกคุณแพ้ โบรกเกอร์จะคืนเงินส่วนที่ขาดทุน แต่ในรูปเครดิตโบนัส ไม่ใช่เงินสด ซึ่งเครดิตนั้นก็ต้องทำเทิร์นโอเวอร์เช่นกัน หาก 3 เทรดแรกมีกำไร ก็ไม่ต้องขอคืนทุนอะไร นับเป็นการสร้างเกราะป้องกันบางส่วน แต่หากคุณตั้งใจจะไม่รับโบนัส การใช้เทรดไร้ความเสี่ยงจะเป็นการเปิดใช้งานโบนัสโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดการชดเชยขาดทุน ควรตัดสินใจก่อนว่าจะรับความสะดวกนี้หรือไม่

การฝึกอบรมและ Master Class

บัญชี Bronze มีสื่อการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน (ebook, วิดีโอ) ส่วนบัญชี Silver จะได้เข้าร่วมสัมมนา (Master Class) ที่ลงลึกกว่า มีการวิเคราะห์ตลาดและถาม-ตอบ ส่วน Gold จะได้รับทั้งหมดข้างต้นและผู้จัดการบัญชีส่วนตัว แม้โบรกเกอร์จะเน้นการเทรดโดยตรงมากกว่า แต่เนื้อหาการเรียนรู้เหล่านี้ก็ช่วยให้มือใหม่เข้าใจกลยุทธ์พื้นฐานและการจัดการความเสี่ยง

ผู้จัดการบัญชีส่วนตัว

บัญชี Gold จะมีผู้จัดการบัญชีแบบ “Personal Success Manager” ซึ่งจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์ม และช่วยแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว อาจให้มุมมองตลาดทั่วไปหรือข้อมูลโปรโมชันใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่าผู้จัดการไม่ได้รับผิดชอบผลกำไรขาดทุนของคุณ และอาจมีผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ร่วมกับโบรกเกอร์ การปรึกษาก็ควรใช้วิจารณญาณของคุณเองด้วย

Swiss Prepaid Card

จุดขายอีกอย่างสำหรับลูกค้า Gold คือบัตร Swiss Prepaid ซึ่งคาดว่าเป็นบัตรเดบิตที่ออกโดยธนาคารสวิส ผูกกับบัญชี RaceOption สามารถดึงเงินจากบัญชีเทรดไปใช้จ่ายหรือกดเงินสดจากตู้ ATM อย่างรวดเร็ว เคยมีโบรกเกอร์ไบนารีบางเจ้า (เช่น Finpari) ทำลักษณะนี้มาก่อน แต่รายละเอียดค่าธรรมเนียมและลิมิตไม่ชัดเจน ต้องสอบถามผู้จัดการบัญชี Gold โดยตรง

การอัปเกรดบัญชี

หากเริ่มจาก Bronze ($50) แล้วฝากเพิ่มจนเกิน $1,000 ก็เลื่อนเป็น Silver อัตโนมัติ หรือเกิน $5,000 ก็เป็น Gold ต่อให้เงินในบัญชีลดก็ยังคงสถานะสูงสุดที่เคยได้ บางคนจะฝากทีเดียวให้ถึง Silver เพื่อได้เทรดไร้ความเสี่ยง ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์และความชอบ

สรุปแล้ว การมีระดับบัญชีต่าง ๆ เป็นกลยุทธ์จูงใจให้ฝากมากขึ้นเพื่อแลกกับโบนัสและสิทธิพิเศษ ที่อาจคุ้มค่าสำหรับบางคน แต่ต้องไม่ลืมเงื่อนไขเทิร์นโอเวอร์ การได้ “เทรดไร้ความเสี่ยง” อาจสร้างความมั่นใจ แต่กลยุทธ์การเทรดที่ดีสำคัญกว่าสำหรับความสำเร็จยั่งยืน มือใหม่อาจเริ่ม Bronze (ปฏิเสธโบนัสถ้าไม่อยากโดนล็อกยอดถอน) ลองระบบก่อน ถ้าพอใจก็ค่อยอัปเกรดในภายหลัง

การฝากและการถอนเงิน

RaceOption รองรับผู้ใช้ทั่วโลกด้วยตัวเลือกฝาก-ถอนหลากหลาย ทั้งบัตรธนาคาร, e-wallet, และคริปโต โดยโดยทั่วไปจะถอนผ่านช่องทางเดียวกับที่ฝาก (เท่ากับจำนวนฝาก) ส่วนกำไรส่วนเกินอาจถอนผ่านช่องทางอื่นได้ตามคำร้องขอ

ช่องทางฝากเงิน:

• บัตรธนาคาร: Visa, MasterCard, Maestro, Mir (รัสเซีย), UnionPay (จีน), JCB — เกือบครบทุกค่าย ยอดฝากมักเข้าทันที ไม่มีค่าคอมจากโบรกเกอร์
• e-wallet: Skrill, Neteller, Perfect Money, WebMoney, Qiwi, Moneta.ru, Giropay ฯลฯ โดยขึ้นกับภูมิภาค (เช่น Sofort, Giropay ในยุโรป หรือ Boleto, FasaPay ในลาตินอเมริกา) รองรับหลายช่องทางสำหรับการโอนเงินทั่วโลก
• คริปโตเคอเรนซี: Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Ripple, Tether (USDT), Dash และอัลท์คอยน์อื่น ๆ สามารถส่งคริปโตไปยังวอลเล็ตของโบรกเกอร์ แล้วระบบจะเปลี่ยนเป็นยอด USD ในบัญชี (ตามเรตภายใน)
• โอนเงินผ่านธนาคาร: สำหรับยอดใหญ่ ใช้เวลาหลายวันทำการ และอาจมีค่าธรรมเนียมจากธนาคารระหว่างประเทศ RaceOption ไม่ได้โปรโมตช่องทางนี้มากนัก แต่มีตัวเลือกหากต้องการ

สกุลเงินบัญชีและการแปลงค่า

ตอนลงทะเบียน คุณเลือกสกุลเงินหลักได้ (USD, EUR, GBP, RUB, AUD, CAD, BTC ฯลฯ) ควรฝากด้วยสกุลเดียวกันเพื่อลดค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยน เช่น หากบัญชีเป็น USD แต่ใช้บัตร RUB ในการฝาก จะถูกธนาคารแปลงตามเรตของธนาคาร หากฝากด้วยคริปโต ระบบจะคำนวณเป็น USD ตามอัตราภายใน

ฝากขั้นต่ำ คือ $50 (หรือเทียบเท่า เช่น ราว ~₽18,000 หรือ 0.01 BTC ตามราคา) ซึ่งสูงกว่าโบรกเกอร์บางเจ้าที่เริ่ม $10 หรือ $5 จุดนี้สื่อว่า RaceOption อาจโฟกัสกลุ่มเทรดเดอร์ที่มีปริมาณเทรดสูง

ขั้นตอนฝากเงิน

หลังสมัครและล็อกอิน ให้กดปุ่ม “Deposit” เลือกช่องทาง ใส่จำนวนเงิน แล้วกรอกข้อมูลในหน้าชำระเงินที่ปลอดภัย (เช่น หน้าตัดบัตรหรือ Skrill) ปกติเงินจะเข้าทันทีหรือไม่กี่นาที หากเป็นยอดใหญ่หรือโอนข้ามประเทศ อาจถูกตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น ขอเอกสารยืนยันตัวตน

การถอนเงิน

หากต้องการถอน กด “Withdraw” ในระบบ โบรกเกอร์ระบุว่าจะดำเนินการภายใน 1 ชั่วโมงหากคุณผ่าน KYC และไม่มีเงื่อนไขโบนัสค้าง การได้รับเงินจริงอาจต่างกันตามช่องทาง:

• e-wallet: อาจได้รับภายในวันเดียวหรือภายในไม่กี่ชั่วโมง
• กระเป๋าคริปโต: อาจได้ใน 1–2 ชั่วโมง (ต้องรอยืนยันบล็อกเชน)
• บัตรธนาคาร: อาจ 1–3 วันทำการ (บางกรณีแค่ไม่กี่ชม.)
• โอนเงินผ่านธนาคาร: ประมาณ 2–5 วัน

ข้อกำหนด ถอนขั้นต่ำ คือ $50 หากบัญชีคุณมีน้อยกว่านั้นต้องเทรดเพิ่มก่อน ไม่มีกำหนดยอดถอนสูงสุด ประกาศว่าอยากถอนเท่าไรก็ได้

โบรกเกอร์ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการถอน แต่ผู้ให้บริการทางการเงิน (e-wallet, ธนาคาร) อาจมีค่าบริการ RaceOption อ้างว่า “รับผิดชอบค่าธรรมเนียมเหล่านั้น” แต่จริง ๆ คืออาจมีการหักของผู้ให้บริการเองเล็กน้อย ส่วนใหญ่ผู้ใช้รายงานว่าแทบไม่มีการหักเพิ่ม โดยเฉพาะถ้าใช้คริปโตหรือ e-wallet ยอดนิยม

การยืนยันตัวตน (KYC)

ก่อนถอนครั้งแรก RaceOption จะขอ KYC คุณต้องอัปโหลดภาพบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต หลักฐานที่อยู่ (บิลค่าน้ำค่าไฟ) บัตรที่ใช้ฝาก (ถ้าถอนเข้าบัตร) หรือภาพหน้าจอของ e-wallet (ถ้าใช้ e-wallet) อาจมีบางกรณีต้องถ่ายเซลฟีพร้อมบัตร เอกสารเหล่านี้เป็นขั้นตอนสากลเพื่อป้องกันการโกง โดยปกติใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 1 วัน แนะนำให้ทำ KYC แต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ติดขัดตอนถอน

ความเร็วและความเชื่อถือได้ในการถอน

จุดเด่น RaceOption คือการจ่ายเงินเร็ว หลายรีวิวจาก แหล่งอิสระ ยืนยันว่าการถอนจำนวนเล็ก ๆ มักได้รับในไม่กี่ชั่วโมง ส่วนยอดโบนัสต้องทำเทิร์นตามกติกา

บางครั้งอาจล่าช้าถ้าบัญชีไม่ผ่านการตรวจสอบ หรือยอดถอนเยอะจนต้องตรวจทานโดยเจ้าหน้าที่ วันหยุดธนาคารก็มีผล แม้ว่าจะโฆษณา “ถอนใน 1 ชั่วโมง” แต่หากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดราชการ อาจใช้เวลานานขึ้น การใช้คริปโตหรือ e-wallet มักจะได้เร็วกว่า

ปัจจัยเพิ่มเติม

• โบรกเกอร์กำหนดให้ถอนผ่านวิธีเดียวกับที่ฝาก (เท่าจำนวนฝาก) เพื่อป้องกันการฟอกเงิน ถ้าฝาก $300 ด้วย Visa ต้องถอนกลับ Visa $300 ก่อน ส่วนกำไรเกินกว่านั้นสามารถถอนช่องทางอื่น
• หากบัญชีเหลือน้อยกว่า $0.01 และไม่เคลื่อนไหวเกิน 90 วัน อาจถูกปิดและยอดคงเหลือถูกตัดเป็นศูนย์
• ถอนเข้าบัตรธนาคาร บางครั้งอาจขอเอกสารเพิ่มเติม (Statement) ถ้ามีบางอย่างผิดปกติ
• ถ้ายังไม่ได้ทำเทิร์นโอเวอร์โบนัส หรือเทรดไร้ความเสี่ยง ผลกำไรจากโบนัสอาจถูกยกเลิกเมื่อถอน ควรตรวจสอบยอดสุทธิ

สรุปการชำระเงิน: RaceOption มีช่องทางฝาก-ถอนหลากหลายมาก ถือเป็นข้อดีชัดเจน ไม่มีค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ และกระบวนการรวดเร็วน่าดึงดูด นักเทรดมักนิยมคริปโตหรือ e-wallet เพื่อลดการดีเลย์ อย่างไรก็ดี อย่าลืมความเสี่ยงโดยรวมของโบรกเกอร์ Offshore ซึ่งไม่เกี่ยวกับระบบจ่ายเงินโดยตรง แต่เป็นประเด็นความเชื่อมั่นต่อบริษัท

ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าและการเรียนรู้ของเทรดเดอร์

ฝ่ายสนับสนุนของ RaceOption เปิด 24/7 รองรับลูกค้าทั่วโลก ช่องทางติดต่อได้แก่:

• Live Chat บนเว็บไซต์: ให้บริการตลอดเวลา ตอบเร็วภายใน 1 นาที จุดเด่นคือวิดีโอแชท บางครั้งจะเห็นหน้าพนักงาน (มักเป็นหญิง) ในมุมจอ แม้บางเคสพนักงานไม่เชี่ยวชาญเชิงเทคนิคเชิงลึก แต่ตอบปัญหาพื้นฐานได้รวดเร็ว และมีความเป็นกันเอง
• โทรศัพท์: มีหมายเลขสากล +18299476393 และบางหมายเลข สนับสนุนภาษาอังกฤษ รัสเซีย และภาษาอื่น ๆ การโทรตรงเหมาะกับคำถามซับซ้อนหรือเร่งด่วน
• อีเมล: แม้หน้าเว็บไม่ได้โชว์เด่นชัด แต่ส่วนใหญ่ใช้ support@raceoption.com เหมาะสำหรับส่งเอกสารหรือคำร้องรายละเอียดมาก ๆ ระยะเวลาตอบอาจตั้งแต่ 1 ชม. ถึงครึ่งวัน
• Contact Form: ในหน้า “Contact Us” หรือภายในบัญชีเอง คล้ายการส่งตั๋วสอบถาม ระบบจะตอบกลับทางอีเมล
• โซเชียลมีเดีย: RaceOption มีบัญชี Twitter และ Facebook แต่ไม่ค่อยอัปเดตบ่อย ไม่เหมาะสำหรับติดต่อในกรณีเร่งด่วน
• FAQ: หน้าเว็บมีส่วนถามตอบปัญหาพื้นฐาน เช่น เข้าระบบไม่ได้ ฝากเงินไม่สำเร็จ ฯลฯ เหมาะกับการแก้ปัญหาเบื้องต้น

ภาษาที่รองรับ

RaceOption ประกาศว่ารองรับกว่า 20 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ รัสเซีย สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส จีน ไทย ฯลฯ พนักงานในวิดีโอแชทส่วนใหญ่พูดอังกฤษหรือรัสเซียเป็นหลัก หากเป็นภาษาอื่น อาจใช้ล่ามช่วย

คุณภาพการบริการ

รีวิวมีความหลากหลาย บางคนชื่นชมความเป็นกันเองของพนักงานและความรวดเร็วในการแก้ปัญหาเบื้องต้น เช่น ถอนเงินเล็ก ๆ หรือปัญหาทั่วไป แต่หากเป็นปัญหาซับซ้อน (เช่น ข้อพิพาทเรื่องโบนัสหรือถอนเงินจำนวนมากล่าช้า) ก็อาจได้คำตอบในเชิงสคริปต์หรือต้องส่งเรื่องต่อฝ่ายการเงิน ซึ่งเป็นปกติในวงการโบรกเกอร์ ข้อดีคือพวกเขาไม่ได้โทรตามจิกหรือขายของมากเกินเหมือนบางเจ้า ถ้าอยากให้ผู้จัดการช่วยก็มี ถ้าไม่อยากยุ่งก็ปล่อยเทรดเองได้

การเรียนรู้เทรดเดอร์

ไม่เหมือนโบรกเกอร์รายใหญ่บางเจ้า RaceOption ไม่มีศูนย์การเรียนรู้ขนาดใหญ่ แต่ก็มีบางอย่างให้:

• ในหน้าบัญชีผู้ใช้ มีบทความ e-book เรื่องพื้นฐานการเทรด การวิเคราะห์ และการบริหารความเสี่ยง ซึ่งจะปลดล็อกเมื่อคุณฝากเงิน (Bronze/Silver)
• วิดีโอสอน: มีคลังคลิปอธิบายกลไกไบนารี่ออปชัน กลยุทธ์เบื้องต้น การใช้อินดิเคเตอร์ เป็นต้น เหมาะสำหรับมือใหม่
• การวิเคราะห์/ข่าวประจำวัน: ในเว็บ RaceOption อาจลงบทวิเคราะห์หรือบทความข่าวบ้าง (ไม่ได้ลงบ่อย) มีในโซเชียลบ้างเช่นกัน
• สัมมนาแบบ Live: สำหรับบัญชี Silver/Gold อาจได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปหรือคุยกับผู้จัดการแบบส่วนตัว ให้คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับตลาด

เนื้อหามีหลายภาษา ช่วยให้มือใหม่เรียนรู้ศัพท์พื้นฐานและเทคนิคง่าย ๆ แต่หากอยากเชี่ยวชาญเชิงลึกควรหาแหล่งเรียนรู้ภายนอกเพิ่มเติม

การสนับสนุนสำหรับมือใหม่

RaceOption วางตำแหน่งให้เป็นมิตรกับมือใหม่ ด้วยดีไซน์ โปรโมชั่น และการดูแล แต่ต้องระวังความเย้ายวนของโบนัสก้อนโตที่มาพร้อมเงื่อนไขเทิร์นโอเวอร์ ซึ่งอาจเป็นดาบสองคม สุดท้ายแล้ว ความสำเร็จยั่งยืนอยู่ที่ทักษะการเทรดมากกว่าบุญของโบนัส เนื้อหาบนเว็บและบัญชีเดโมก็ช่วยฝึกได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องมีวินัยในการบริหารความเสี่ยง

Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com