AffStore เครือข่ายพันธมิตร: รีวิวตรงไปตรงมาสำหรับโปรแกรม IQ Option, Exnova, SabioTrade (2025)

AffStore คือเครือข่ายพันธมิตรระดับสากล ซึ่งรวบรวมโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชันและ CFD ที่ได้รับความนิยมหลายเจ้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ปัจจุบันครอบคลุมกว่า 178 ประเทศทั่วโลก เครือข่ายนี้มอบอัตราค่าคอมมิชชันที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม—สูงสุดถึง 80% ของรายได้โบรกเกอร์ (RevShare) หรือค่าตอบแทน CPA แบบจ่ายครั้งเดียวสูงสุดถึง $2,000 ต่อเทรดเดอร์ที่เราแนะนำ

ทำไมจึงสำคัญ?

ภาคธุรกิจเครือข่ายพันธมิตรทางการเงิน (Financial Affiliate Network) เติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วงปี 2020 เป็นต้นมา โบรกเกอร์และบริษัทฟินเทคพร้อมเสนอค่าตอบแทนให้กับพาร์ทเนอร์ในระดับสูง—ส่วนแบ่งรายได้ 70–90% บวกโบนัส CPA ก้อนโตสำหรับลูกค้าใหม่ ในช่วงเริ่มต้น ไบนารี่ออปชันเคยถูกมองด้วยความเคลือบแคลงใจ แต่ในระยะหลัง อุตสาหกรรมได้ปรับโครงสร้าง มอบการจ่ายผลตอบแทนที่โปร่งใสและความร่วมมือระยะยาว ปัจจัยสำคัญคือต้องเลือกเครือข่ายพันธมิตรที่มีเงื่อนไขดีและจ่ายเงินจริงให้ได้มาตรฐาน

บทความนี้มีอะไรบ้าง

ในรีวิวฉบับเต็มนี้ เราจะสำรวจเครือข่ายพันธมิตรทางการเงินชั้นนำอย่าง AffStore ที่รวมโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชันและ CFD ชั้นแนวหน้าไว้ในระบบเดียว คุณจะได้ทราบเกี่ยวกับ:

• โครงสร้างโปรแกรมพันธมิตรของ AffStore และแนวทางการสร้างรายได้ที่มี
• สิ่งที่ทำให้ AffStore แตกต่างจากการร่วมงานกับโบรกเกอร์โดยตรง (ตัวอย่างเช่น Pocket Option, Affiliate Top โดย Binomo, Quotex เป็นต้น)
• รีวิวจริงจากผู้ทำเว็บ (webmaster) ถึงประสบการณ์ในการทำงานกับ AffStore—ทั้งข้อดีและปัญหาที่อาจพบ
• เคล็ดลับเชิงปฏิบัติ: วิธีเริ่มต้น, ทราฟฟิกแบบไหนที่ได้ผลดีที่สุด, และแนวทางเร่งการเติบโตของรายได้
• ตารางเปรียบเทียบเงื่อนไขของ AffStore กับโปรแกรมพันธมิตรชั้นนำอื่นในกลุ่มเดียวกัน
• FAQ ที่ตอบข้อสงสัยยอดฮิตจากพาร์ทเนอร์หน้าใหม่

พร้อมหรือยังที่จะหารายได้ร่วมกับเทรดเดอร์ แทนที่จะหาเงินได้จากการเทรดด้วยตัวเองเท่านั้น? ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูรายละเอียดกันเลย

AffStore คืออะไร? รวบรวมโบรกเกอร์ชั้นนำไว้ในที่เดียว

AffStore คือเครือข่ายพันธมิตรแบบ CPA/RevShare ที่เน้นเจาะกลุ่มแนวการเงิน กล่าวให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ AffStore ได้รวมหลายโบรกเกอร์ที่มีอัตราเปลี่ยน (Conversion) สูง มาไว้ในแพลตฟอร์มเดียว พาร์ทเนอร์ (Webmaster) สามารถส่งทราฟฟิกไปยังแพลตฟอร์มโบรกเกอร์เหล่านั้น และรับค่าตอบแทนเป็นรายได้ตามผลลัพธ์ (เช่น ปริมาณการฝาก หรือรายได้ของโบรกเกอร์)

จุดเด่นของ AffStore:

• ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2012 – ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 12 ปี แสดงถึงความน่าเชื่อถือและความมั่นคงในตลาด นับเป็นหนึ่งในเครือข่ายพันธมิตรสายการเงินที่เก่าแก่ที่สุดในอุตสาหกรรมนี้
• พื้นที่ให้บริการ: ครอบคลุมกว่า 178 ประเทศ AffStore ทำการตลาดในระดับสากลทั่วทั้งยุโรป เอเชีย แอฟริกา อเมริกา และภูมิภาคอื่น ๆ (ยกเว้นประเทศที่มีมาตรการคว่ำบาตรหรือข้อห้ามเฉพาะ)
• ข้อเสนอ (Brands): ในระบบ AffStore จะมีข้อเสนอจากโบรกเกอร์เจ้าดัง ๆ โดยตรง เช่น:
  • IQ Option – โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชันรายใหญ่ เปิดตัวตั้งแต่ปี 2013 มีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลก
  • Exnova – แพลตฟอร์มเทรดรุ่นใหม่ (กำลังมาแรงในตลาดดิจิทัลออปชัน)
  • Sabio Trade – บริษัท Prop Trading ที่ให้ทุนเทรดแก่เทรดเดอร์ฝีมือดี (เทรดด้วยเงินบริษัทและรับส่วนแบ่งกำไรสูงถึง 90%)
  • Quadcode Markets – อีกหนึ่งแพลตฟอร์มเทรด ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 ผลิตภัณฑ์ (ข้อเสนอ) ที่เปิดกว้างในตลาดสากลของ AffStore แต่ละข้อเสนอมีเงื่อนไขและข้อกำหนดทราฟฟิกที่แตกต่างกัน
• รองรับหลายภาษา: เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ AffStore และแดชบอร์ดสำหรับพาร์ทเนอร์มีให้ใช้งานกว่า 10 ภาษา (รวมถึงรัสเซีย อังกฤษ โปรตุเกส สเปน อินโดนีเซีย ฯลฯ) บ่งบอกถึงการโฟกัสตลาดระดับโลกและช่วยให้พาร์ทเนอร์จากประเทศต่าง ๆ ทำงานได้ง่ายขึ้น
• ขนาดและสเกล: ตามข้อมูลทางการ AffStore มีพาร์ทเนอร์มากกว่า 289,000 คน ซึ่งทั้งหมดได้นำผู้เทรดเข้าร่วมกว่า 164 ล้านบัญชี เดือนที่แล้ว AffStore ได้จ่ายเงินให้พาร์ทเนอร์กว่า $2.3 ล้าน เป็นตัวเลขที่แสดงถึงสเกลธุรกิจขนาดใหญ่

การครอบคลุมทั่วโลกของ AffStore: เครือข่ายพันธมิตรนี้ทำงานเกือบทุกภูมิภาค มากกว่า 178 ประเทศ ทั้งยุโรป เอเชีย แอฟริกา อเมริกา และโอเชียเนีย ด้วยความครอบคลุมกว้างขวางนี้ ผู้ทำเว็บสามารถเจาะตลาดได้แทบทุกพื้นที่ที่การเทรดออนไลน์ถูกกฎหมาย โดยจะมีข้อเสนอที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

เมื่อเทียบกับโปรแกรมที่โฟกัสเพียงบางภูมิภาค AffStore ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ทำงานได้ในระดับสากลตั้งแต่เริ่มต้น หมายความว่าหากคุณมีทราฟฟิกจากหลายประเทศ คุณสามารถจัดการได้ในที่เดียว ไม่ต้องเปลี่ยนบัญชีไปมาให้ยุ่งยาก ทำให้สามารถโฟกัสที่การปรับแคมเปญให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

สรุป: AffStore เป็นเครือข่ายพันธมิตรอเนกประสงค์ในสายการเงิน เปิดโอกาสให้เข้าถึงโบรกเกอร์ไบนารี่ออปชันและ CFD ชั้นนำหลายเจ้าภายใต้ระบบเดียว มีประวัติยาวนานและผูกพันกับแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก (อย่าง IQ Option) ส่งผลให้ AffStore กลายเป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือในสายงานนี้ เราจะไปดูเงื่อนไขที่น่าสนใจเพิ่มเติมในหัวข้อต่อไป

ประสบการณ์ส่วนตัวของผมในการเริ่มต้นกับ AffStore

ครั้งแรกที่ผมรู้จัก AffStore (ในตอนนั้นยังเป็นโปรแกรมพันธมิตร IQ Option) ย้อนไปช่วงปี 2015 ซึ่งตอนนั้นยังโฟกัสไปที่ IQ Option เป็นหลัก ผมเคยเป็นทั้งผู้ใช้และภายหลังก็เป็นพันธมิตรของโบรกเกอร์นี้

ต้องบอกเลยว่า “IQ Option” ที่เรารู้จักในวันนี้แตกต่างจากเมื่อปี 2015–2016 อย่างมาก แบรนด์เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และตลาดมีการแข่งขันสูงกว่าเดิมหลายเท่าตัว ความจริงนี้ไม่ได้จำกัดแค่ IQ Option—เมื่อบริษัทไหนได้รับความนิยมและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ย่อมมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นตาม

อย่างไรก็ตาม เมื่อแบรนด์ขยายตัวมากขึ้น ข้อจำกัดและกฎระเบียบก็เพิ่มขึ้นตามประเทศต่าง ๆ เช่น ในยุโรป IQ Option เลิกให้บริการไบนารี่ออปชันในภูมิภาคที่ไม่ถูกกฎหมาย มีการขอใบอนุญาตหลายประเภท และใช้กระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) ที่เข้มงวดขึ้น สิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อการทำงานของพาร์ทเนอร์ บางตลาดอาจทำการโปรโมตไม่ได้อีกต่อไป ต้องอัปเดตข้อมูลในคอนเทนต์ตลอด และต้องระวังไม่ให้ข้อมูลเกินจริงหรือชี้นำผิด ๆ

ยิ่งแบรนด์ใหญ่เท่าไร ข้อกำหนดต่าง ๆ ในการโปรโมตก็ยิ่งเพิ่มขึ้น แต่อีกมุมหนึ่งคือพาร์ทเนอร์จะได้รับการสนับสนุนที่ดียิ่งขึ้น สำหรับ AffStore ซึ่งเป็นโปรแกรมพันธมิตรแรก ๆ ที่ผมเข้าร่วม กลับพบว่ามีทีมงานดูแลค่อนข้างดี:

• แจ้งข่าวสารเกี่ยวกับโปรโมชั่นใหม่ ๆ และข้อเสนอที่น่าสนใจ
• ส่งบทความหรือคู่มือเกี่ยวกับการทำตลาด (แม้จะไม่ได้เจาะลึกมาก แต่ก็ช่วยเปิดมุมมองได้ดี)
• ถ้าต้องการสื่อโฆษณาพิเศษ (เช่น แบนเนอร์เฉพาะ) พวกเขาสามารถออกแบบให้ได้

ส่วนเรื่องการจ่ายเงิน ตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่กับระบบนี้ก็ได้รับเงินอย่างสม่ำเสมอ เป็นระบบจ่ายอัตโนมัติสองครั้งต่อเดือน บางครั้งอาจมีดีเลย์เล็กน้อยในช่วงวันหยุดหรือเทศกาล แต่ทีมงานจะแจ้งล่วงหน้าเสมอ

ข้อเสนอของ AffStore: ไบนารี่ออปชัน สัญญาดิจิทัล Forex และคริปโต

หนึ่งในข้อได้เปรียบของ AffStore คือมีประเภทข้อเสนอ (Offers) ที่หลากหลายในหมวดการเงิน เครือข่ายนี้ไม่ได้โฟกัสแค่ไบนารี่ออปชัน แต่ยังครอบคลุมสัญญาดิจิทัล (Digital Contracts), CFDs ในสินทรัพย์หลากหลาย (เช่น Forex หุ้น คริปโต) และบริการฟินเทคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ตอนนี้ในหน้าเว็บของ AffStore มีข้อเสนอให้เลือกมากกว่า 10 รายการ โดยหลัก ๆ คือ:

• IQ Option – หนึ่งในโบรกเกอร์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกสำหรับไบนารี่ออปชันและ CFD ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2013 และมีผู้เทรดมากมายจากหลายประเทศ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลาย: ไบนารี่ออปชันแบบคลาสสิก, ดิจิทัลออปชัน (ครอบคลุมคริปโตและหุ้น), CFD ในคู่สกุลเงิน ทองคำ และคริปโต สำหรับพาร์ทเนอร์ IQ Option มีอัตราแปลงที่ดีเพราะเป็นแบรนด์ใหญ่ ใน AffStore คุณสามารถโปรโมต IQ Option ได้ทั้งแบบ RevShare สูงสุด 50% หรือ CPA (อัตราแตกต่างกันตามกลุ่มประเทศ บางทีอาจได้หลายร้อยดอลลาร์ต่อเทรดเดอร์) รองรับทราฟฟิกเกือบทั่วโลก ยกเว้นบางประเทศที่ห้าม



• Exnova – แพลตฟอร์มเทรดรุ่นใหม่ที่เน้นสัญญาแบบรวดเร็ว (Blitz Options) พร้อมสินทรัพย์ให้เลือกกว่า 250 รายการ ดึงดูดผู้ใช้งานด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ที่ทันสมัยและดีไซน์ใช้งานง่าย สำหรับพาร์ทเนอร์ Exnova เสนอ CPA สูง (เหมาะกับเทรดเดอร์หน้าใหม่ที่ต้องการแพลตฟอร์มใหม่ ๆ) และมักจะให้ผลลัพธ์ที่ดีในตลาดเกิดใหม่ (เอเชีย แอฟริกา) โดยอัตรา CPA สูงสุดอาจแตะ ~$1000 หรือโมเดล RevShare ซึ่งต้องคุยกับผู้จัดการอีกทีหากคุณมีทราฟฟิกจำนวนมาก



• Sabio Trade – ไม่ใช่โบรกเกอร์ไบนารี่ออปชันทั่วไป แต่เป็นบริษัท Prop Trading ให้ทุนกับเทรดเดอร์ที่มีฝีมือดี คุณสามารถเทรดด้วยเงินทุนของบริษัทและรับกำไรสูงสุดถึง 90% โมเดลนี้เริ่มได้รับความนิยมช่วงปี 2023 สำหรับพาร์ทเนอร์ Sabio Trade น่าสนใจเพราะการเชิญเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์เข้ามา คุณจะได้ค่าคอมมิชชันในรูปแบบส่วนแบ่งรายได้หรือ CPA แบบจ่ายครั้งเดียว ทั้งนี้ใน AffStore บางข้อเสนอระบุ RevShare ได้สูงสุดถึง 80% (จากรายได้ของโบรกเกอร์) หรือ CPA ราว $500–$700 ต่อเทรดเดอร์ที่ผ่านเกณฑ์ (ตัวเลขอาจผันแปรตามคุณภาพทราฟฟิก)



• ข้อเสนออื่น ๆ – นอกจากโบรกเกอร์ที่กล่าวมา AffStore ยังมีการเพิ่มดีลพิเศษหรือโปรดักต์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ อาจเป็นข้อเสนอของโบรกเกอร์ในตลาดหรือภูมิภาคเฉพาะ (GEO เฉพาะ) หรือบริการทางฟินเทค/คริปโตอื่น ๆ เช่น แอปธนาคารที่มีฟีเจอร์เทรด หรือแพลตฟอร์มสอนเทรดที่เปิด Affiliate ให้พาร์ทเนอร์ได้ค่าคอมมิชชัน จุดเด่นคือ AffStore มุ่งขยายพอร์ตข้อเสนอให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย ตั้งแต่เทรดเดอร์มือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพที่มองหาการเทรดแบบพิเศษ

ข้อเสนอทั้งหมดใน AffStore มักเป็นโบรกเกอร์ที่จ่ายเงินจริงและผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะโปรโมตแพลตฟอร์มที่จ่ายไม่จริงหรือไม่น่าเชื่อถือ เพราะสุดท้ายคุณจะไม่สามารถทำเงินได้ระยะยาว ดังนั้น AffStore ซึ่งทำงานร่วมกับโฆษณาโดยตรงจึงคัดกรองผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้และมีอัตราแปลงค่อนข้างดีเป็นหลัก ทั้งยังรักษาเทรดเดอร์ให้อยู่ต่อเนื่อง (เรื่องสำคัญของ RevShare)

โมเดลค่าคอมฯ และการจ่ายเงิน: RevShare vs. CPA (เลือกแบบไหนดี?)

AffStore เปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์เลือกใช้โมเดลการสร้างรายได้ทั้งแบบ RevShare และ CPA หรือใช้ผสมกันได้ โดยขึ้นกับว่าคุณมีทราฟฟิกแบบใดและกลยุทธ์การทำงานของคุณเป็นเช่นไร ลองมาทำความเข้าใจหลัก ๆ กัน:

Revenue Share (RevShare)

RevShare คือคุณจะได้รับส่วนแบ่งจากรายได้ของโบรกเกอร์ที่เกิดจากเทรดเดอร์ที่คุณแนะนำ หากเทรดเดอร์ที่คุณแนะนำทำการเทรดและแพลตฟอร์มได้กำไร (เช่น จากค่าธรรมเนียม หรือการขาดทุนของเทรดเดอร์บางส่วน) คุณจะได้ส่วนแบ่งตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด ที่ AffStore อาจเสนอสูงสุดถึง 80% ของรายได้โบรกเกอร์ ซึ่งถือว่าสูงมาก ในขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ อาจเริ่มต้นตั้งแต่ 50–70% โดยมีขั้นสูงสุดที่ 80–90% เป็นบางกรณี

ตัวอย่าง RevShare: คุณแนะนำ Alice มาฝากเงิน $500 สุดท้ายในเดือนนั้น Alice มียอดเทรดเป็นกำไรให้โบรกเกอร์ $300 หากคุณได้ส่วนแบ่ง 80% คุณจะได้ $240 ซึ่งนี่เป็นรายได้จาก Alice คนเดียวในเดือนนั้น หาก Alice ยังเทรดต่อไป เดือนถัดไปคุณก็ยังได้ค่าคอมฯ อย่างต่อเนื่อง นี่คือจุดเด่นหลักของ RevShare ที่สร้างรายได้แบบ Passive ระยะยาว

ข้อดีของ RevShare: คุณจะได้รายได้อย่างต่อเนื่องจากกลุ่มเทรดเดอร์ที่เทรดเป็นประจำ และในบางกรณีอาจมีเทรดเดอร์รายใหญ่ที่ฝากเงินก้อนโต ทำให้ค่าคอมฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังเป็นการกระจายความเสี่ยง—ถ้าเทรดเดอร์บางรายได้ไม่มาก เทรดเดอร์คนอื่นก็อาจมาเติมเต็มยอดรวมได้

ข้อจำกัด: ต้องใช้เวลาเพื่อสร้างฐานลูกค้าจำนวนมาก บางช่วงรายได้อาจไม่สม่ำเสมอหากเทรดเดอร์หยุดเทรดหรือแพ้หนักจนไม่กลับมา

CPA (Cost Per Action)

ในโมเดล CPA คุณจะได้รับค่าตอบแทนครั้งเดียวต่อเทรดเดอร์ที่ทำเงื่อนไขสำเร็จ เช่น ฝากเงินครั้งแรก (FTD) หรือเทรดตามกำหนด AffStore บางครั้งจ่ายสูงสุดถึง $1,500–2,000 ต่อเทรดเดอร์ (เฉพาะกรณีคุณภาพทราฟฟิกสูงและ GEO ระดับพรีเมียม) ปกติอาจอยู่ในช่วง $100–300 สำหรับหลายประเทศ หรือสูงถึง $500+ ในตลาดที่มีศักยภาพ

ตัวอย่าง CPA: คุณแนะนำ Bob จากเยอรมนี เขาลงทะเบียนและฝากเงิน €200 ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ (สมมติว่าที่กำหนด $100) คุณจะได้ค่าคอมฯ แบบ CPA แบบเหมาจ่าย (เช่น $250) โดยไม่ขึ้นกับว่าหลังจากนั้น Bob จะเทรดมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม หาก Bob กลายเป็นเทรดเดอร์รายใหญ่ คุณจะไม่ได้ค่าคอมฯ เพิ่ม (ต่างจาก RevShare)

ข้อดีของ CPA: ได้เงินเร็ว เหมาะกับคนที่เน้นโฆษณาแบบเสียเงิน (Paid Ads) และต้องการคืนทุนไว ไม่ต้องรอให้เทรดเดอร์สร้างผลกำไรให้โบรกเกอร์ในระยะยาว

ข้อจำกัด: ไม่มีรายได้ระยะยาว ถ้าเทรดเดอร์เป็นลูกค้ารายใหญ่ คุณอาจพลาดโอกาสทำกำไรจาก RevShare นอกจากนี้ โบรกเกอร์มักจะตรวจสอบคุณภาพทราฟฟิก CPA ค่อนข้างเข้มงวด ถ้าทราฟฟิกคุณไม่ตรงเป้า หรือพบการโกง เช่น ใช้ Bot หรือจูงใจให้ลงทะเบียนด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง คุณอาจถูกแบนได้

Hybrid Models และอื่น ๆ

บางคนใช้วิธีผสม เช่น เริ่มด้วย CPA เพื่อหมุนเงินทุนโฆษณา แล้วค่อยเปลี่ยนไป RevShare เพื่อสร้างรายได้ระยะยาว AffStore ก็รองรับการตั้งค่าแบบนี้ เพียงบอกผู้จัดการว่าคุณต้องการใช้โมเดลใดในแต่ละข้อเสนอ บางครั้งก็มีโมเดล Turnover Share (คิดค่าคอมฯ จากปริมาณเทรด) เหมือนที่ Affiliate Top (Binomo) หรือ Quotex ให้เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าการเทรด อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้ แต่โดยทั่วไป CPA กับ RevShare จะใช้กันเป็นหลัก

เลือกแบบไหนดี?

ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของคุณเอง:

• ถ้าคุณใช้โฆษณาแบบจ่ายเงิน (Google Ads, Facebook Ads ฯลฯ) และต้องการทุนหมุนเวียนเร็ว CPA อาจจะเหมาะกว่าช่วงเริ่มต้น
• ถ้าคุณมีบล็อก หรือชุมชนเทรดเดอร์ที่เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง หรือแชนแนล YouTube ที่เผยแพร่ความรู้ การทำ RevShare น่าจะคุ้มกว่า เพราะคุณจะได้ส่วนแบ่งเรื่อย ๆ ตราบใดที่ผู้ติดตามของคุณยังเทรดอยู่
• บางคนลองเทียบผลงานโดยแบ่งทราฟฟิกบางส่วนไป CPA บางส่วนไป RevShare เพื่อดูว่าแบบไหนคุ้มค่ากว่า AffStore อนุญาตให้ปรับได้ยืดหยุ่น
• ผู้เริ่มต้นหลายคนอาจใช้ RevShare เพื่อสร้างรายได้พื้นฐาน หากมั่นใจในคุณภาพทราฟฟิก แต่ไม่มีสูตรตายตัว ควรทดสอบว่าโมเดลไหนเข้ากับสไตล์คุณมากที่สุด

จุดเด่นคือ AffStore ให้อัตราเรตที่ค่อนข้างสูงทั้งสองโมเดล หากทราฟฟิกของคุณดีจริงก็อาจเห็นผลลัพธ์ที่ดี ไม่แน่ใจให้ปรึกษาผู้จัดการโดยตรง พวกเขามีข้อมูลสถิติมากมายจากพาร์ทเนอร์หลายราย

Sub-Affiliate (สองชั้น)

AffStore ยังเปิดโอกาสให้คุณสร้างรายได้เพิ่มด้วยการแนะนำพาร์ทเนอร์คนอื่น ๆ มาสมัครต่อจากคุณ (Sub-Affiliate) คุณจะได้ค่าคอมฯ ประมาณ 5% จากรายได้ที่ Sub-Affiliate สร้างได้ (โดยที่พาร์ทเนอร์คนนั้นไม่โดนหักอะไร) อัตรา 5% นี้เป็นมาตรฐานที่คล้ายกับโปรแกรมอื่น ๆ เช่น Pocket Option หรือ Affiliate Top บางรายอาจจ่าย 8% แต่ 5% ถือว่าอยู่ในระดับทั่วไป รีวิวเก่า ๆ บางแหล่งเคยพูดถึง 15% หรือไม่มี Sub-Aff กันเลย แต่ข้อมูลล่าสุดยืนยันว่าคือ 5% ซึ่งเป็นค่ามาตรฐาน

สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม

สิ่งที่โดดเด่นของ AffStore คือการทำงานแบบ Direct กับทางโบรกเกอร์ ทำให้คุณมักจะได้เรตค่าคอมฯ พิเศษที่อาจสูงกว่าโปรแกรมกลาง (Aggregator) ทั่วไป นอกจากนี้หากคุณส่งทราฟฟิกปริมาณมาก คุณสามารถคุยต่อรองขอเรตสูงกว่าปกติได้

นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือสนับสนุน เช่น แบนเนอร์ แลนดิ้งเพจ วิดีโอโปรโมต ตลอดจนพนักงานที่เป็นผู้จัดการเฉพาะตัว (Account Manager) คอยดูแล หากคุณต้องการสื่อการตลาดที่ออกแบบเฉพาะกลุ่ม ก็สามารถขอได้เช่นกัน สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ทำยอดสูง บางครั้งก็มีอีเวนต์และโปรโมชันพิเศษ เช่น การเชิญร่วมสัมมนา ทริปท่องเที่ยว หรือมอบของรางวัลพรีเมียม เพื่อสร้างแรงจูงใจเพิ่ม

ความโปร่งใสและเครื่องมือวิเคราะห์

AffStore มีระบบวิเคราะห์ที่ละเอียดในแดชบอร์ด ให้คุณติดตามสถิติกันแบบเรียลไทม์ เช่น ยอดคลิก ลงทะเบียน ฝากเงิน กิจกรรมการเทรดของลูกค้า และรายได้ รวมถึงฟิลเตอร์แยกตามข้อเสนอหรือตามประเทศ ทำให้คุณวิเคราะห์ได้ว่าทราฟฟิกจากที่ไหนและข้อเสนอใดกำลังทำผลงานดี

ข้อกำหนดด้านทราฟฟิก

AffStore เปิดรับแทบทุกช่องทางทราฟฟิกที่ถูกกฎหมาย แต่ห้ามทราฟฟิกหลอกลวงหรือผิดกฎ เช่น จ้างคนมาสมัคร, Bot, สแปม ฯลฯ โดยก่อนเปิดแคมเปญ คุณต้องแจ้งว่าทราฟฟิกมาจากที่ไหน (ตัวอย่าง: Facebook Ads, เว็บไซต์ SEO, YouTube) เพื่อให้ AffStore ตรวจสอบความเหมาะสม ที่สำคัญคือคุณภาพของคนที่เข้ามา เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในการคงอยู่ของเทรดเดอร์และส่งผลดีต่อรายได้ของคุณในระยะยาว

การถอนเงินจาก AffStore: ได้รับเงินอย่างไรและเมื่อไร?

การจ่ายเงินตรงเวลาเป็นหัวใจสำคัญของโปรแกรมพันธมิตร AffStore จึงให้ความใส่ใจในด้านนี้ค่อนข้างสูง มาดูรายละเอียด:

• ขั้นต่ำในการถอน: แค่ $10 ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับเครือข่ายอื่นที่มักจะ $50–$100 ทำให้ผู้เริ่มต้นสะดวกในการถอน
• ตารางการจ่าย: ทุก 2 สัปดาห์ (รายสองสัปดาห์) เป็นปกติ โดยหากเป็นพาร์ทเนอร์ที่มียอดสูง สามารถเจรจาขอถอนถี่ขึ้นได้ รีวิวหลายคนยืนยันว่าได้รับเงินตรงเวลาหรือก่อนกำหนดเล็กน้อย บางครั้งดีเลย์เฉพาะช่วงวันหยุดตามปฏิทินเท่านั้น



• ช่องทางการจ่าย: มีให้เลือกหลากหลายกว่า 15 วิธี เช่น กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (WebMoney, Skrill, Neteller, Perfect Money, AdvCash), โอนผ่านธนาคาร (SWIFT/SEPA), คริปโต (Bitcoin, Tether USDT, USD Coin USDC) เป็นต้น รวมถึงวิธีอื่น ๆ ในบางภูมิภาค (เช่น Pix ในละตินอเมริกา) ทำให้คุณเลือกใช้วิธีที่ค่าธรรมเนียมน้อยและสะดวกได้



• สกุลเงินในการชำระ: หลัก ๆ เป็นสกุล USD แต่ถ้าโบรกเกอร์รับเงินจากลูกค้าในสกุลอื่น ระบบก็จะแปลงเป็น USD ตามเรตมาตรฐาน คุณก็สามารถถอนเป็น USD หรือสกุลอื่นได้หากช่องทางถอนรองรับ ไม่มีเรตแปลงที่เอาเปรียบพาร์ทเนอร์
• โบนัสหรือโปรโมชัน: AffStore บางครั้งมีแคมเปญแข่งกัน หรือกิจกรรมพิเศษสำหรับพาร์ทเนอร์ เช่น โบนัสเมื่อถึงยอดเทรดเดอร์ตามเกณฑ์ หรือโปรโมชันช่วงเทศกาล นอกจากนี้ยังมีงานอีเวนต์และทริปพิเศษสำหรับพาร์ทเนอร์ที่มียอดสูง
• ด้านภาษีและกฎหมาย: เนื่องจากเป็นโปรแกรมระหว่างประเทศ รายได้มักถูกจัดเป็นค่าตอบแทนสำหรับผู้ร่วมงาน (partner reward) ซึ่งคุณต้องไปจัดการภาษีในประเทศของตนเอง AffStore ไม่ได้หักภาษีหรือขอเอกสารเพิ่มเติมมากนัก ยกเว้นกรณีบางประเทศหรือบางยอดที่สูงมาก

ความน่าเชื่อถือ:

AffStore ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ใช้งานในฟอรั่มต่าง ๆ ว่าจ่ายเงินรวดเร็วและตรงเวลาแทบทุกครั้ง ไม่มีเคสที่จงใจ “อั้นเงิน” หรือ “ตัด Conversion” แบบไม่ชอบธรรม ตัวเลขที่ระบุว่า “จ่ายออกกว่า $2.3 ล้านเมื่อเดือนก่อน” ก็แสดงให้เห็นว่าเครือข่ายนี้มีเงินหมุนเวียนเยอะและดำเนินธุรกิจจริงจัง

เครื่องมือส่งเสริมการขายและเครื่องมือสำหรับพาร์ทเนอร์

การจะดึงดูดผู้เทรดเข้ามาไม่ได้พึ่งแค่ “อยากโปรโมต” แต่ต้องมีสื่อการตลาดและระบบติดตามที่ดี AffStore เตรียมสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มาให้ครบ:

สื่อโฆษณา (Promotional Materials)

ในแต่ละข้อเสนอจะมีแบนเนอร์ แลนดิ้งเพจ วิดเจ็ต ลิงก์พันธมิตร และสื่ออื่น ๆ พร้อมใช้ แบนเนอร์ส่วนใหญ่รองรับหลายภาษา มีหลายขนาด (ทั้งสำหรับเว็บไซต์และมือถือ) บางครั้งมีการแจกคูปองโบนัสพิเศษที่คุณสามารถนำเสนอเพื่อจูงใจผู้สมัครให้ฝากเงินครั้งแรกได้ง่ายขึ้น

ในกรณีที่คุณต้องการสื่อโฆษณาแบบเฉพาะกลุ่ม ก็สามารถติดต่อผู้จัดการส่วนตัวให้ช่วยออกแบบได้ ถือเป็นจุดแข็งของ AffStore ที่ยืดหยุ่นและพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่

สถิติและการวิเคราะห์ (Statistics & Analytics)

ในแดชบอร์ดพาร์ทเนอร์ของ AffStore คุณจะเห็นสถิติแบบเรียลไทม์ตั้งแต่จำนวนคลิก, ผู้ลงทะเบียน, ผู้ฝากเงิน, รายได้ต่อเทรดเดอร์, ยอดรวมต่อวัน/ต่อสัปดาห์ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีตัวกรองให้คุณเลือกแยกตามประเทศ ตามข้อเสนอ หรือตามแคมเปญที่คุณสร้าง (Sub ID) ช่วยให้คุณวิเคราะห์แนวโน้มได้อย่างแม่นยำและปรับกลยุทธ์หรือโฆษณาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Postback และระบบ Tracking สำหรับสาย Media Buyer

สำหรับสายยิงแอดที่ต้องการเชื่อมข้อมูลแบบ Server-to-Server (S2S) ทาง AffStore ก็มี Postback URL ให้ คุณสามารถส่งข้อมูล Conversion เข้าระบบ Tracker ส่วนตัว (เช่น Keitaro หรือ Binom) และใช้ Macro หรือ SubID ได้ตามต้องการ สามารถต่อยอดเพื่อ Optimize แคมเปญอย่างละเอียดแบบเรียลไทม์ มี API สำหรับผู้ที่ต้องการเชื่อมต่อเชิงลึกอีกด้วย เป็นฟีเจอร์สำคัญของเหล่ามืออาชีพที่ยิงทราฟฟิกปริมาณมาก

ผู้จัดการบัญชี (Account Manager) และทีมซัพพอร์ต

เมื่อลงทะเบียนเสร็จ คุณจะได้ผู้จัดการบัญชีส่วนตัวที่ติดต่อผ่าน Telegram, Skype หรือช่องทางอื่นได้โดยตรง รีวิวหลายคนบอกว่า Support ของ AffStore ตอบไว มีความรู้เชิงลึกด้านการเงิน สามารถแนะนำข้อเสนอที่เหมาะสมกับทราฟฟิก และแก้ไขปัญหาด่วนได้ (เช่น ขอถอนเงินเร่งด่วน หรือพบปัญหาทางเทคนิค) ถือเป็นการทำงานร่วมกันแบบ “พาร์ทเนอร์” จริง ๆ โดยผู้จัดการหลายคนเคยเทรดมาก่อน หรืออยู่ในวงการ Affiliate อยู่แล้ว จึงเข้าใจความต้องการของพาร์ทเนอร์เป็นอย่างดี

แหล่งความรู้ (Educational Resources)

AffStore มีบล็อกและอีเมลนิวส์เลตเตอร์แชร์เทคนิค วิธีดึงดูดทราฟฟิก หรือข่าวสารเกี่ยวกับข้อเสนอใหม่ ๆ แม้อาจไม่ละเอียดแบบคอร์สเต็ม แต่ก็เป็นการอัปเดตความรู้ให้พาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมือใหม่ที่ยังต้องการแนวทาง

โดยสรุป เครื่องมือของ AffStore รองรับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ คุณจึงสามารถเริ่มต้นแคมเปญได้ทันทีแบบไม่ต้องเตรียมอะไรเพิ่มมากมาย และสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ

ทำไม AffStore จึงเหมาะกับผู้ทำเว็บ (Webmaster)

อะไรคือเหตุผลที่ควรเลือก AffStore เหนือเครือข่ายอื่น? ด้านล่างนี้คือประเด็นสำคัญที่ได้รับการยกย่องบ่อย ๆ:

1. ข้อเสนอโดยตรง และอัตราแปลงสูง – AffStore ทำงานร่วมกับโบรกเกอร์โดยตรง ไม่ผ่านตัวกลาง ทำให้อัตราค่าคอมฯ อยู่ในระดับสูงและ Conversion ดี เพราะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง (IQ Option เป็นต้น)
2. ค่าคอมฯ เริ่มต้นที่แข็งแกร่ง – เพียงสมัครใช้งานก็อาจได้รับ RevShare 50–70% ได้เลย หากคุณทำผลงานได้ดี สามารถเจรจาเพิ่มได้อีก รีวิวหลายคนบอกว่า AffStore “คุยง่าย ให้เรตดี”
3. ชื่อเสียงและความมั่นคง – AffStore เป็นที่ยอมรับในชุมชน Affiliate ว่าเชื่อถือได้ มีแบรนด์โบรกเกอร์ใหญ่สนับสนุน และมีประวัติการจ่ายเงินปกติไม่มีปัญหามานานหลายปี
4. มีผลิตภัณฑ์หลายประเภท – นอกจากไบนารี่ออปชัน ยังมีดิจิทัลออปชัน, Forex, คริปโต, Prop Trading ทำให้คุณสามารถกระจายข้อเสนอให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายหลากหลาย
5. สื่อการตลาดครบครัน – มีทั้งแลนดิ้งเพจ, แบนเนอร์, วิดีโอ, โบนัสโค้ด ฯลฯ รองรับหลายภาษา ขณะเดียวกันก็สามารถขอปรับแต่งได้ด้วย
6. แดชบอร์ดใช้งานง่าย – สามารถติดตามสถิติเรียลไทม์, สร้าง SubID, ใช้ Postback หรือ API สำหรับผู้ที่ต้องการระบบขั้นสูง มี Leaderboard แสดง Top Affiliate 10 อันดับ และระบบตั๋วซัพพอร์ตในตัว
7. ซัพพอร์ต 24/7 โดยผู้จัดการบัญชีเฉพาะ – คุณจะไม่ถูกปล่อยไว้เดียวดาย มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาด้านการตลาดและเทคนิค แนะนำข้อเสนอที่เหมาะสม
8. การจ่ายเงินที่เปิดเผยและยุติธรรม – ไม่มีประวัติปิดบัญชีหรือหัก Conversion แบบไม่มีเหตุผล ข้อจำกัดด้านทราฟฟิกก็ประกาศชัดเจน ถ้าคุณส่งทราฟฟิกถูกวิธี ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
9. เงื่อนไขพิเศษสำหรับพาร์ทเนอร์รายใหญ่ – หากคุณมีทราฟฟิกปริมาณมาก AffStore ยินดีอัปเกรดเรตค่าคอมมิชชัน หรือเพิ่มโบนัสจูงใจ และอาจเชิญเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ
10. ฟีเจอร์เสริมมากมาย – เช่น Smartlink ที่จะส่งผู้ใช้งานไปข้อเสนอที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ, ลิงก์ดาวน์โหลดแอปมือถือ (iOS/Android) และข้อจำกัดทราฟฟิกไม่เข้มงวดมาก (ยกเว้นทราฟฟิกหลอก/สแปม)

สรุปแล้ว AffStore รวมข้อดีหลายอย่างของเครือข่าย CPA สายการเงินไว้ในที่เดียว เน้นอัตราจ่ายที่สูง มีทีมงานช่วยเหลือ และเปิดโอกาสเติบโตได้ทั้งมือเก่าและมือใหม่ ข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจมีบ้าง เช่น:

• จำนวนโบรกเกอร์อาจยังไม่เยอะมาก (4–5 เจ้า) ถ้าเทียบกับบางเครือข่าย แต่ทั้งหมดเป็นแบรนด์ระดับท็อปที่เชื่อถือได้จริง
• ต้องส่งทราฟฟิกคุณภาพ ถ้าพยายามโกงหรือนำทราฟฟิกที่ไม่ตรงเป้าหมายมา ระบบจะไม่จ่ายหรืออาจถูกระงับบัญชี
• ไม่สามารถดูรายละเอียดข้อเสนอแบบเต็มได้ก่อนสมัคร ต้องสมัครสมาชิกเพื่อเข้าถึงข้อมูล (แต่ขั้นตอนสมัครก็ไม่ยาก)
• รายได้ในโมเดล RevShare อาจผันผวนตามพฤติกรรมเทรดเดอร์ บางเดือนอาจมาก บางเดือนอาจน้อย ขึ้นกับกิจกรรมการเทรดของลูกค้า

โดยรวม จุดแข็งของ AffStore มีมากกว่าจุดอ่อน จึงไม่น่าแปลกใจที่บล็อกและฟอรั่มในวงการจะยกย่องให้เป็น “โปรแกรมพันธมิตรสายเทรดที่ต้องลอง” โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการค่าตอบแทนสูงเหนือคู่แข่ง

AffStore vs. Pocket Option, Affiliate Top, Quotex: เปรียบเทียบกับโปรแกรมอื่น

วงการพันธมิตรสายไบนารี่ออปชันและการเทรดมีคู่แข่งหลายเจ้า เพื่อให้เห็นภาพว่า AffStore อยู่จุดไหน ลองเปรียบเทียบกับโปรแกรมสามเจ้าหลักที่มักติดอันดับและถูกยกมาเป็น “มาตรฐาน” ในตลาด:

• Pocket Option Affiliate – โปรแกรมพันธมิตรของโบรกเกอร์ Pocket Option ที่มีชื่อเสียงเรื่องจ่ายสูงและมีฐาน Webmaster จำนวนมาก
• Affiliate Top – เครือข่ายพันธมิตรที่พัฒนาโดยทีมของ Binomo (หรือรู้จักในชื่อ Binpartner) มีแบรนด์ Stockity เป็นอีกเจ้าหนึ่ง รองรับตลาดเทรดไบนารี่ออปชันหลากหลายภูมิภาค
• Quotex Affiliate – โปรแกรมพันธมิตรของโบรกเกอร์ Quotex ที่กำลังมาแรงในหมวดไบนารี่ออปชัน เปิดกว้างทั่วโลก

ตารางด้านล่างสรุปจุดเด่นเปรียบเทียบแต่ละโปรแกรมกับ AffStore:

หมายเหตุ: อัตรา CPA ที่แสดงเป็นตัวเลขโดยประมาณ ซึ่งอาจแตกต่างไปตามประเทศ (GEO) และคุณภาพทราฟฟิกของพาร์ทเนอร์

จากตาราง จะเห็นว่าอัตรา RevShare ของทุกเจ้าราว ๆ 80% อยู่แล้ว ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูงสุดในตลาดไบนารี่ออปชัน บางเจ้าก็มีระดับสูงสุดไปถึง 90% ในกรณีที่ปริมาณทราฟฟิกมากจริง ๆ ส่วน CPA AffStore ประกาศเพดานไว้สูงถึง $2,000 ซึ่งสูงกว่าเจ้าอื่นมาก (แม้ส่วนใหญ่จะต้องมีเงื่อนไขพิเศษ หรือเป็นเทรดเดอร์ VIP)

ในความเป็นจริง ค่า CPA จะขึ้นกับคุณภาพทราฟฟิกและประเทศเป้าหมาย ส่วน Quotex หรือ Pocket Option มักมี CPA ราว $50–$150 เท่านั้น (ยกเว้นกรณีพิเศษ) ส่วน Affiliate Top เน้นหนักไปที่ RevShare เป็นหลัก แต่ก็เจรจา CPA ได้ในบางกรณี

ประเภทโปรแกรม & ความหลากหลายของข้อเสนอ

AffStore กับ Affiliate Top มีหลายแบรนด์ในระบบเดียว ทำให้คุณจัดการหลายโปรแกรมได้ง่าย ขณะที่ Pocket Option และ Quotex เจาะจงเพียงโบรกเกอร์เดียว ข้อดีคือสื่อสารตรงกับแบรนด์ได้ชัดเจน Pocket Option ถือว่ามีชื่อเสียงมาก แต่ AffStore เองก็มีจุดเด่นตรงที่รวมแบรนด์ใหญ่ไว้หลายเจ้า (IQ Option, Exnova, SabioTrade ฯลฯ) ในที่เดียว

ความถี่ในการจ่าย & ขั้นต่ำ

โดยรวมแล้ว แต่ละโปรแกรมก็จ่ายเงินถี่และขั้นต่ำไม่สูง AffStore สองครั้งต่อเดือน (สามารถคุยให้ถี่ขึ้นได้), Pocket Option จ่ายรายวัน (ถ้าร้องขอ), Affiliate Top จ่ายรายสัปดาห์, Quotex ก็รายสัปดาห์เช่นกัน ส่วนใหญ่ขั้นต่ำ $10–$20 ถือว่าใกล้เคียงกัน

ค่าตอบแทน Sub-Aff

ทุกเจ้ามีคอมฯ สองชั้น (สองชั้นหรือมากกว่า) ซึ่ง AffStore อยู่ที่ 5% เช่นเดียวกับ Affiliate Top และ Pocket Option ส่วน Quotex อาจเสนอสูงสุด 8% รายละเอียดยิบย่อยก็แตกต่างกันไป

จุดเด่นเฉพาะตัว

แต่ละโปรแกรมมีเอกลักษณ์ของตนเอง เช่น Quotex ให้โมเดล Turnover Share (รับจากปริมาณเทรด) ส่วน Pocket Option มีโปรแกรมพิเศษและการแข่งขันกระตุ้นพาร์ทเนอร์เรื่อย ๆ Affiliate Top เด่นเรื่องโลคัลเพย์เมนต์ ถอนได้หลายรูปแบบ และดูแลตลาดเกิดใหม่ได้ดี สำหรับ AffStore รวมข้อดีหลายอย่างเข้าด้วยกัน: มีหลายแบรนด์ค่าคอมฯ สูง, ระบบซัพพอร์ตมืออาชีพ, และผลตอบแทน CPA สูงมาก

บทสรุป

AffStore ทำผลงานได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าเมื่อเทียบกับโปรแกรมแถวหน้า (Pocket Option, Quotex) ในเรื่องอัตราจ่ายสูงสุดและความยืดหยุ่นของโมเดล แถมยังเป็นเครือข่ายรวมหลายแบรนด์ในลักษณะคล้าย Affiliate Top แต่มี CPA เพดานสูงถึง $2000 อย่างไรก็ตาม บางโปรแกรมอาจจ่ายเงินได้ถี่กว่า เช่น Pocket Option สามารถขอถอนรายวันได้ ส่วนเรื่องชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ AffStore ก็มีรีวิวดี ๆ ในวงการ สำหรับใครที่มองหาออปชันการเทรดหลายแบรนด์ พร้อมค่าตอบแทนสูง AffStore ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก

Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com