หน้าหลัก ข่าวไซต์
Pocket Option – บทวิจารณ์แบบตรงไปตรงมา & การเปรียบเทียบ (2025)
Updated: 06.05.2025

Pocket Option ในปี 2025: มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง และโบรกเกอร์รายนี้ยังคุ้มค่าอยู่หรือไม่?

Pocket Option เป็นแพลตฟอร์มระดับสากลที่รองรับการเทรดไบนารี่ออฟชั่น ดึงดูดเทรดเดอร์จากทั่วโลกด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและมีเกณฑ์เงินทุนเริ่มต้นที่ต่ำ เปิดตัวตั้งแต่ปี 2017 และขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีสินทรัพย์ให้เทรดมากกว่า 100 รายการ (สกุลเงิน หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโต) รวมถึงฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมหลายอย่าง อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของ Pocket Option ยังคงเป็นที่ถกเถียง เนื่องจากไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินที่มีชื่อเสียงรับรอง ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือ

บทความนี้จะนำเสนอการวิเคราะห์เชิงลึกของ Pocket Option ตรวจสอบคุณสมบัติหลัก จุดเด่น และข้อด้อย รวมถึงนำไปเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์คู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดอย่าง Olymp Trade, Quotex, และ Binomo.



เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Pocket Option โบรกเกอร์ไบนารี่ออฟชั่น

การซื้อขายในตลาด Forex และไบนารี่ออฟชั่นมีความเสี่ยงสูง จากข้อมูลพบว่าประมาณ 70–90% ของเทรดเดอร์อาจสูญเสียเงินลงทุนขณะเทรด หากต้องการสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทาง ก่อนเริ่มต้น ควรศึกษาและทำความเข้าใจเครื่องมือทางการเงิน และเตรียมพร้อมสำหรับการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณสามารถยอมรับได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพชีวิต

Pocket Option คืออะไร: ข้อมูลทั่วไปและการกำกับดูแล

Pocket Option ระบุว่าตัวเองเป็นแพลตฟอร์มนวัตกรรมสำหรับการซื้อขายในตลาดการเงินออนไลน์ โดยเน้นที่ไบนารี่ออฟชั่น ในช่วงแรกดำเนินการโดย Gembell Limited ที่จดทะเบียนในหมู่เกาะมาร์แชลล์ (ต่อมาได้โอนสิทธิ์ให้ Infinite Trade LLC ในคอสตาริกา) โดยแพลตฟอร์มได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 และตั้งแต่นั้นมาก็ดึงดูดผู้ใช้งานหลายล้านราย ข้อมูลบางแหล่งระบุว่าปัจจุบันมีผู้ใช้งานรายวันเกิน 200,000 คน และมียอดเทรดต่อเดือนเกิน 5 พันล้านดอลลาร์ ครอบคลุมกว่า 95 ประเทศทั่วโลก การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้อาจมาจากการเข้าถึงผู้ใช้ได้ทั่วโลกและการตลาดที่เข้มข้น แต่สถานะทางกฎหมายของโบรกเกอร์ยังคงเป็นประเด็นถกเถียง

การกำกับดูแลและใบอนุญาตของ Pocket Option

Pocket Option ไม่มีใบอนุญาตหลักจากหน่วยงานกำกับดูแลชื่อดัง (เช่น CySEC, FCA หรือ ASIC) แต่เดิมเคยอ้างว่ามีใบอนุญาตจาก Mwali International Services Authority (MISA) ในหมู่เกาะคอโมโรส ซึ่งเป็นเขตนอกชายฝั่ง แต่ใบอนุญาตดังกล่าวถูกยกเลิกไปแล้ว

โดยสรุป Pocket Option ยังคงดำเนินธุรกิจในด้านการเงินโดยไม่มีการกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ ข้อความเกี่ยวกับการจดทะเบียนของ Gembell Limited ในหมู่เกาะมาร์แชลล์ก็ดูไม่ชัดเจน เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่าบริษัทถูกยุบแล้ว โบรกเกอร์ยังอ้างถึงใบรับรองจาก IFMRRC (International Financial Market Relations Regulation Center) แต่ควรเข้าใจว่าหน่วยงานนี้ไม่ใช่สถาบันรัฐ หากแต่เป็นองค์กรเอกชนที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการควบคุม Forex หรือไบนารี่ออฟชั่น

ทำไมการขาดการกำกับดูแลจึงเสี่ยง? ประการแรก เงินทุนของลูกค้าไม่ได้รับการคุ้มครองโดยกองทุนประกัน หรือไม่มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด FCA ของสหราชอาณาจักร, FSMA ของเบลเยียม, และ CFTC ของสหรัฐฯ ต่างก็เตือนว่า Pocket Option ไม่ได้รับอนุญาต ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าโบรกเกอร์นี้มีปัญหา เช่น ใน BrokersView ถูกจัดให้เป็น “SCAM” นักวิเคราะห์ในรัสเซียก็มีความเห็นตรงกันว่ามีแนวโน้มว่า Pocket Option เป็นโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ใบอนุญาตก็ไม่ถูกต้อง นี่แสดงถึงระดับความไม่ไว้วางใจที่สูง

ชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของเทรดเดอร์

แม้จะไม่มีการกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ แต่ Pocket Option ก็พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เว็บไซต์หลักแสดงรีวิวเชิงบวกจำนวนมากจากผู้ใช้งาน โดยมีค่าเฉลี่ยสูงบน TrustPilot (ประมาณ 72% ให้คะแนน 4–5 ดาว)

อย่างไรก็ตาม ควรวิเคราะห์รีวิวเหล่านี้อย่างมีวิจารณญาณ เนื่องจากมีรายงานว่าทางบริษัทส่งเสริมให้ผู้ใช้งานใหม่เขียนรีวิวดีๆ เพื่อแลกกับโบนัส ทำให้บางรีวิวอาจไม่ตรงกับประสบการณ์จริง ในขณะเดียวกัน แหล่งข้อมูลอิสระมีคำร้องเรียนค่อนข้างมาก เช่น การถอนเงินล่าช้า หรือปัญหาเมื่อพยายามถอนเงิน ข้อกล่าวหาเรื่อง “ปรับราคาสินทรัพย์ให้เทรดเดอร์ขาดทุน” เป็นต้น เราจะเจาะลึกในส่วนของรีวิวผู้ใช้จริงภายหลัง

บทสรุปด้านความน่าเชื่อถือ

Pocket Option เป็นโบรกเกอร์นอกชายฝั่งที่ไม่ได้ถูกกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ไม่ได้หมายความว่าลูกค้าทุกคนจะมีปัญหาเสมอไป แต่ความเสี่ยงย่อมสูงกว่าโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตอย่างชัดเจน หากคุณให้ความสำคัญกับการคุ้มครองเงินทุนและมีช่องทางทางกฎหมาย การเลือกโบรกเกอร์ที่ถูกกำกับดูแลอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่หากยังสนใจ Pocket Option เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากเลือกใช้ และโบรกเกอร์รายนี้มีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจ

คุณสมบัติสำคัญของ Pocket Option

แม้จะมีข้อกังวลด้านกฎหมาย แต่ Pocket Option ยังดึงดูดผู้ใช้งานจำนวนมากด้วยเงื่อนไขที่โดดเด่น เราจะเจาะลึกสินทรัพย์ที่เปิดให้เทรด แพลตฟอร์ม รูปแบบบัญชี วิธีการฝากถอน โบนัส และจุดแข็งอื่น ๆ ที่ทำให้โบรกเกอร์รายนี้ยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดไบนารี่ออฟชั่นระดับโลก

ตราสารและสินทรัพย์ที่เทรดได้

สินทรัพย์สำหรับการซื้อขายกับโบรกเกอร์ Pocket Option

หนึ่งในจุดเด่นของ Pocket Option คือความหลากหลายของสินทรัพย์อ้างอิงสำหรับไบนารี่ออฟชั่น โดยมีมากกว่า 100 ตลาดให้เลือก ดังนี้:

  • Forex (คู่สกุลเงิน): มีคู่สกุลเงินหลัก (เช่น EUR/USD, GBP/USD) คู่รอง และคู่แปลก รวมกันกว่า 30 คู่ เปิดโอกาสให้เก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศในหลากหลายช่วงเวลา
  • หุ้น: มีหุ้นบริษัทสหรัฐฯ ชั้นนำประมาณ 30 ตัว เช่น Apple, Boeing, Facebook ให้คุณเทรดตามคาดการณ์ทิศทางราคาหุ้น
  • ดัชนี: บางรีวิวระบุว่ามีดัชนีหุ้นเช่น NASDAQ, S&P 500, Dow Jones แต่จากข้อมูลปี 2025 ดัชนีบางตัวอาจมีจำกัดหรือตกหล่น เนื่องจากโบรกเกอร์เน้นไปที่หุ้นและคู่สกุลเงินเป็นหลัก แนะนำให้ตรวจสอบรายการดัชนีล่าสุดบนเว็บไซต์โบรกเกอร์
  • สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity): ทองคำ เงิน น้ำมันดิบ (Brent, WTI) และอาจมีแก๊สธรรมชาติ ทางการระบุหลักๆ ไว้ 4 อย่าง คือ Gold, Silver, UKBrent และ USCrude
  • คริปโตเคอเรนซี: Pocket Option เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ไบนารี่ออฟชั่นเจ้าแรกๆ ที่รวมคริปโตเข้ามา มีมากกว่า 30 เหรียญ ตั้งแต่เหรียญหลักอย่าง Bitcoin, Ethereum, Litecoin, Ripple ไปจนถึง Altcoins อื่นๆ เช่น Dash, EOS, IOTA ซึ่งน่าดึงดูดสำหรับเทรดเดอร์สายคริปโตที่ชื่นชอบความผันผวน

รายการสินทรัพย์ที่หลากหลายนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบ เพราะเทรดเดอร์มีทางเลือกตามสไตล์และความถนัดของตน ตั้งแต่ตลาด Forex แบบดั้งเดิมไปจนถึงคริปโตที่มาแรง

เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์รายอื่น Pocket Option มีจำนวนสินทรัพย์ที่ครอบคลุมพอสมควร Binomo ส่วนใหญ่มีประมาณ 60 รายการ ในขณะที่ Quotex ก็มีประมาณ 100 แต่หุ้นอาจมีน้อยกว่า ด้าน Olymp Trade มีรูปแบบ Forex/CFD นอกเหนือจากไบนารี่ออฟชั่น แต่จำนวนสินทรัพย์แบบไบนารี่อาจใกล้เคียงกับ Pocket Option (ราว 80 รายการ) อย่างไรก็ดี Pocket Option โดดเด่นเรื่องคริปโตมากเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ Pocket Option ใช้ ไบนารี่ออฟชั่นรูปแบบคลาสสิก (High/Low) ที่ให้อัตราการจ่ายตายตัว โดยกำหนดระยะเวลาหมดอายุเริ่มต้นที่ 30 วินาที ถึง 4 ชั่วโมง จึงรองรับการเทรดระยะสั้นมาก (30 วินาที - 5 นาที) สำหรับนักเก็งกำไรเร็ว ตลอดจนการเทรดที่กินเวลายาวกว่าประมาณสองสามชั่วโมง

แบบฟอร์มการเปิดธุรกรรมกับโบรกเกอร์ Pocket Option

จากการรายงานของผู้ใช้ พบว่าแพลตฟอร์มนี้เน้นการเทรดระยะสั้น และค่าเริ่มต้นของเวลาหมดอายุมักตั้งไว้ที่ 30 วินาที ทำให้สามารถเปิดหลายออเดอร์ได้ในเวลาอันสั้น แต่ทั้งนี้ ไม่มีออปชั่นระยะยาวหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ซึ่งก็เป็นลักษณะปกติของโบรกเกอร์ไบนารีส่วนใหญ่

การทำธุรกรรมที่รอดำเนินการที่นายหน้า Pocket Option

อัตราผลตอบแทน (Payout) ของออปชั่น

โบรกเกอร์โฆษณาว่ามีอัตราผลตอบแทนสูง โดยทั่วไปอยู่ในช่วง 80% ถึง 92% สำหรับสินทรัพย์ยอดนิยม เช่น EUR/USD ประมาณ 89% หุ้น Apple สูงถึง 92% ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับ Olymp Trade บางครั้ง Quotex อาจให้สูงถึง 95% ในบางคู่เงิน

โดยเฉลี่ย Pocket Option ให้ผลตอบแทนราว 85–90% สำหรับสินทรัพย์หลัก ผู้ที่มียอดฝากมาก (VIP) มักได้เงื่อนไขที่ดีกว่า (เช่นฝากเกิน 1,000 ดอลลาร์ ได้ +2% และอาจมีรายการสินทรัพย์เพิ่มขึ้นถึง 50 รายการ) หากวิเคราะห์โดยรวมแล้ว จัดว่า Pocket Option มีค่าตอบแทนที่น่าสนใจทีเดียว แต่ต้องคำนึงถึงเงื่อนไขด้านเงินฝากสำหรับการเป็น VIP ด้วย



แพลตฟอร์มการเทรดของ Pocket Option

แพลตฟอร์มภายใน (Proprietary Platform) ของ Pocket Option ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เน้นความชัดเจนในหน้าอินเทอร์เฟซ ซึ่งสำคัญต่อเทรดเดอร์มือใหม่ จากฟีดแบ็กผู้ใช้ พบว่าเว็บเทอร์มินัลนี้มีโครงสร้างเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เมื่อเข้าสู่ระบบ จะเห็นกราฟกลางหน้าจอพร้อมแผงคำสั่งเทรดและรายการสินทรัพย์เรียงชัดเจน

แพลตฟอร์มการซื้อขายที่นายหน้า Pocket Option

มีองค์ประกอบที่จำเป็น เช่น การเลือกสินทรัพย์ เวลาหมดอายุ จำนวนเงินที่เทรด และปุ่ม Up/Down (Call/Put) พร้อมด้วยเครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคพื้นฐาน (มีอินดิเคเตอร์ประมาณ 30 ตัว แต่ไม่สามารถติดตั้งอินดิเคเตอร์ส่วนตัวเพิ่ม) ซึ่งอาจจำกัดสำหรับมืออาชีพ แต่โดยรวมแล้วการส่งคำสั่งค่อนข้างเร็ว เหมาะกับการเทรดสั้นที่ต้องการความฉับไว

แพลตฟอร์มและอุปกรณ์ที่รองรับ

การเทรดกับ Pocket Option สามารถทำได้ผ่านเบราว์เซอร์ (หลัก), แอปมือถือ และยังรองรับการใช้งานบน MetaTrader (MT4/MT5) สำหรับผู้ที่ต้องการเทรด Forex/CFD หรือใช้งานระบบอัตโนมัติบางอย่าง

การตั้งค่ากราฟราคาที่นายหน้า Pocket Option

ตามค่าเริ่มต้น การเทรดไบนารีทำผ่านเว็บหรือแอปมือถือเป็นหลัก แต่การรองรับ MT5 แสดงให้เห็นว่าโบรกเกอร์พยายามขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังสาย Forex/CFD เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชันใน MetaTrader อาจจำกัดอยู่บ้าง จึงไม่ใช่แพลตฟอร์มหลักแบบเต็มรูปแบบ การใช้งานหลักยังคงผ่านเว็บ/แอป

สำหรับแอปบนมือถือทั้ง Android และ iOS จะคล้ายกับเวอร์ชันเว็บ สามารถเปิดออเดอร์ ฝาก-ถอนเงิน และเข้าร่วม Social Trading ได้เช่นกัน รีวิวบางส่วนชื่นชมว่าแอปมีเสถียรภาพและสะดวก และเคยได้รับรางวัลระดับนานาชาติด้าน “Best Mobile Trading Platform” จากเวที World Finance Awards (Olymp Trade ก็เคยได้รางวัลทำนองนี้ Pocket Option เองก็ให้ความสำคัญกับประสบการณ์มือถือเช่นกัน)

Social Trading และสัญญาณเทรด

ธุรกรรมของเทรดเดอร์รายอื่นที่นายหน้า Pocket Option

จุดเด่นอีกอย่างบนแพลตฟอร์ม Pocket Option คือฟังก์ชันโซเชียล เทรดเดอร์สามารถดูการเคลื่อนไหวของผู้ใช้อื่น ๆ แบบเรียลไทม์ รวมถึงทำ Copy Trading เพื่อคัดลอกออเดอร์จากเทรดเดอร์ที่ทำผลงานได้ดีโดยอัตโนมัติ ซึ่งเหมาะกับมือใหม่ที่ยังไม่ชำนาญ แต่ต้องการเรียนรู้จากมือโปรไปพร้อมกัน และอาจทำกำไรแบบพาสซีฟได้

ทางเลือกของเทรดเดอร์สำหรับการซื้อขายทางสังคมกับโบรกเกอร์ Pocket Option

นอกจากนี้ยังมีตารางจัดอันดับ (Leaderboard) ของผู้ทำกำไรสูงสุดในแต่ละวัน/สัปดาห์ กระตุ้นความรู้สึกแข่งขันและสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงฟังก์ชันแชทกลุ่ม ให้ผู้ใช้งานแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในชุมชนออนไลน์ หลายรีวิวมองว่าความเป็นสังคมและการมีสัญญาณเทรดจากผู้เชี่ยวชาญคือจุดแข็งสำคัญของ Pocket Option

สัญญาณบนแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ Pocket Option

นอกจากนี้ยังมีระบบ “Gamification” ด้วยการปลดล็อค Achievements: เมื่อทำภารกิจบางอย่างได้ (เช่น เทรดหมุนเวียนถึง 1,000 ดอลลาร์ หรือชนะติดต่อกัน 10 ครั้ง) จะได้รับ “Gems” ซึ่งเป็นหน่วยรางวัลภายในระบบ แล้วนำไปใช้ซื้อสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น Risk-free Trades, Cashback, อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น และอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้เทรดต่อเนื่อง

ทำการตลาดกับนายหน้า Pocket Option

ฟีเจอร์เชิงเกมนี้ทำให้การเทรดดูสนุกมากขึ้น มีเลเวลและรางวัล จึงกระตุ้นการมีส่วนร่วม เทียบกับโบรกเกอร์รายอื่นบางเจ้า เช่น Binomo มีทัวร์นาเมนต์ Olymp Trade มีระบบจัดสถานะสมาชิก แต่ Pocket Option ดูจะเล่นใหญ่กว่าตรงที่มี Achievements และร้านค้าโบนัส

ความสำเร็จของโบรกเกอร์ Pocket Option

เครื่องมือเสริมเพิ่มเติม

แพลตฟอร์มยังมีฟังก์ชันมาตรฐาน เช่น ปฏิทินเศรษฐกิจ ข่าวสารตลาด แหล่งเรียนรู้กลยุทธ์เบื้องต้น และส่วน FAQ บัญชีเดโม (จะกล่าวถึงต่อไป) รวมถึงบทเรียนพื้นฐานบนเว็บไซต์โบรกเกอร์ อย่างไรก็ตาม หากต้องการสัมมนาออนไลน์ (Webinar) หรือคอร์สเชิงลึก Olymp Trade อาจมีความพร้อมมากกว่า กระนั้น Pocket Option ก็ถือว่ายังมีเครื่องมือเพียงพอให้มือใหม่เริ่มต้นได้ดี

สรุปแล้ว แพลตฟอร์ม Pocket Option เน้นการเข้าออเดอร์ที่รวดเร็ว ฟีเจอร์ทางสังคม และความใช้ง่าย ซึ่งค่อนข้างเอื้อให้มือใหม่และเทรดเดอร์ระดับกลาง แม้อาจขาดฟีเจอร์ขั้นสูง (เช่น ระบบแจ้งเตือนปรับแต่ง อินดิเคเตอร์แบบกำหนดเอง หรือ 2FA ขั้นสูงกว่าการส่ง SMS/อีเมล) นักวิเคราะห์บางแห่งอาจมองว่าเป็นข้อจำกัด แต่สำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป ระบบนี้ก็นับว่าเพียงพอ

ฟอเร็กซ์บนแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ Pocket Option

ประเภทบัญชี & โหมดเดโมใน Pocket Option

บัญชีเดโม (Demo Account)

Pocket Option มี บัญชีเดโมไบนารี่ออฟชั่นฟรี ให้ผู้ใช้ทุกคนทันทีที่เข้าชมเว็บไซต์ โดยมีเงินจำลอง 10,000 ดอลลาร์ สามารถใช้งานได้ไม่จำกัดเวลา และไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าด้วย ถือเป็นวิธีที่ดีในการทดลองแพลตฟอร์มและฝึกกลยุทธ์โดยไม่มีความเสี่ยง และหากเงินเดโมหมดก็สามารถรีเฟรชได้ตามต้องการ ผู้ใช้หลายคนชื่นชมในความสะดวก ไม่มีกำหนด และเมื่อพร้อมเมื่อไหร่ก็เปลี่ยนสลับระหว่างบัญชีเดโมกับบัญชีจริงได้ทันที

สลับระหว่างบัญชีทดลองและบัญชีจริงกับโบรกเกอร์ Pocket Option

บัญชีจริง (Real Account)

โดยหลักแล้ว Pocket Option มีบัญชีจริงรูปแบบเดียวสำหรับทุกคน แต่จะแบ่งระดับสถานะตามยอดฝากและปริมาณเทรด แทนที่จะตั้งชื่อบัญชี Silver, Gold หรืออื่น ๆ แบบโบรกเกอร์ Forex บางราย กล่าวคือ หลังลงทะเบียนใหม่ คุณจะอยู่ในสถานะมาตรฐาน ฝากขั้นต่ำ 5 ดอลลาร์ ใช้สินทรัพย์ประมาณ 100 รายการ พร้อมอัตราผลตอบแทนเบื้องต้น และเมื่อทำการฝากเงินมากขึ้นหรือเทรดสะสม คุณก็จะได้อัปเกรดสถานะ (beginner, experienced, master เป็นต้น) เพื่อปลดล็อคสิทธิประโยชน์

ระดับบัญชีที่โบรกเกอร์ Pocket Option

ตัวอย่างเช่น เมื่อฝากสะสมเกิน 1,000 ดอลลาร์ คุณจะกลายเป็น VIP ได้สินทรัพย์เต็มรูปแบบ (มีเพิ่มอีก 50+ รายการ) ได้อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น (+2% ต่อออปชั่น) และอาจมีผู้จัดการบัญชีส่วนตัว ตลอดจนโบนัสพิเศษอีกมาก กล่าวได้ว่าใช้โมเดล “บัญชีเดียวปรับระดับตามผลงาน” แทนการแยกบัญชีหลายประเภท

เงินฝากขั้นต่ำและขนาดเทรดขั้นต่ำ

หนึ่งในจุดขายหลักของ Pocket Option คือเงื่อนไขเข้าเล่นที่ต่ำมาก โดยกำหนดเงินฝากขั้นต่ำแค่ 5 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าโบรกเกอร์หลายเจ้าที่มักเริ่มต้น 10–50 ดอลลาร์ หรือมากกว่านั้น อัตราการลงทุนขั้นต่ำต่อออเดอร์ (1 ดอลลาร์) ก็เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม ทำให้ผู้ใช้ทั่วโลก รวมถึงผู้ที่มีงบไม่มากสามารถเข้าร่วมได้

อย่างไรก็ดี การใช้งาน MT5 (CFD/Forex) มักกำหนดขั้นต่ำราว 1,000 ดอลลาร์ในบัญชี แสดงว่าทางโบรกเกอร์ต้องการสงวนส่วน Forex/CFD ให้กับผู้ที่มีเงินทุนมากขึ้น แต่หากสนใจเทรดเฉพาะไบนารี่ออฟชั่น เพียงมี 5 ดอลลาร์ก็เพียงพอ

ความปลอดภัยของบัญชี

แม้ Pocket Option จะไม่ถูกกำกับดูแล แต่ก็มีมาตรการความปลอดภัยขั้นต้น เช่น การเปิดใช้งาน 2FA ผ่าน SMS หรืออีเมลขณะล็อกอิน ซึ่งแนะนำให้ตั้งค่าไว้ และธุรกรรมเข้ารหัสด้วย SSL อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีระบบคุ้มครองเงินฝากหรือกองทุนชดเชย ดังนั้นคุณควรรักษาวินัย ไม่ควรเก็บเงินจำนวนมากไว้ในระบบ หากเป็นเงินที่คุณรับความเสี่ยงไม่ได้

ธุรกรรมทางการเงิน: การฝากและถอนกับ Pocket Option

การฝากเงิน (Deposit)

Pocket Option รองรับช่องทางการฝากเงินที่หลากหลาย ทั้งบัตรธนาคาร (Visa, MasterCard), อีวอลเล็ต (Neteller, Skrill, Perfect Money, Advcash เป็นต้น), คริปโต (Bitcoin, Ethereum, USD Tether และอื่น ๆ), รวมถึงช่องทางท้องถิ่นในบางภูมิภาค จุดเด่นคือ โบรกเกอร์ไม่คิดค่าธรรมเนียมในการฝาก เงินเข้าบัญชีแบบเต็มจำนวนนั้น

เติมเงินในบัญชีซื้อขายของคุณด้วยโบรกเกอร์ Pocket Option

เงินฝากขั้นต่ำอยู่ที่ 5 ดอลลาร์ ทำให้เริ่มต้นได้ง่าย ปกติเงินจะเข้าทันทีหรือภายในไม่กี่นาที (สำหรับคริปโตอาจต้องรอคอนเฟิร์มหลายบล็อกขึ้นอยู่กับระบบ)

Pocket Option อ้างว่ารองรับผู้ใช้งานจากเกือบทุกประเทศ ยกเว้นบางแห่ง (เช่น สหรัฐฯ, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร, อิสราเอล, ญี่ปุ่น) ที่ไบนารี่ออฟชั่นอาจมีข้อห้ามทางกฎหมาย หรือโบรกเกอร์เลี่ยงไม่ให้บริการเพราะเหตุผลด้านกำกับดูแล แต่มีกรณีที่ผู้ใช้ในพื้นที่ห้ามสามารถสมัครและฝากได้โดยไม่ถูกบล็อก ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของผู้ใช้เองในการตรวจสอบข้อกฎหมายในประเทศตน

การถอนเงิน (Withdrawal)

การถอนกำไรจาก Pocket Option ต้องใช้ช่องทางเดียวกับที่ฝากในตอนแรก ขั้นต่ำในการถอนปกติ 10 ดอลลาร์ (หากยอดเงินในบัญชีต่ำกว่า 10 ดอลลาร์ ต้องเทรดต่อหรือฝากเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการตามปกติ 1–3 วันทำการ แต่บางครั้งเงินอาจเข้าเร็วกว่านั้น โบรกเกอร์ไม่เก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการถอน ยกเว้นบางช่องทาง เช่น Perfect Money อาจมีค่าธรรมเนียม 0.5% ซึ่งก็ยังถือว่าค่อนข้างต่ำ

อย่างไรก็ดี เนื่องจากโบรกเกอร์ไม่ได้อยู่ภายใต้กำกับดูแล จึงไม่มีการรับประกันการถอนเงิน นอกเหนือจากนโยบายภายในบริษัทเอง บางรายงานระบุถึงการหน่วงเวลาในการถอน หรือการเรียกตรวจสอบบัญชีขั้นสูงก่อนอนุมัติ การยืนยันตัวตน (KYC) ต้องอัปโหลดเอกสารส่วนบุคคล เช่น พาสปอร์ต บิลค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น ซึ่งเป็นมาตรฐานปกติของ KYC อยู่แล้ว หลังการยืนยันเรียบร้อย เงินจะถูกโอนกลับช่องทางเดิมเท่านั้น เพื่อป้องกันการฟอกเงิน

ความเร็วในการถอนยังขึ้นกับช่องทางด้วย โดย e-wallet และคริปโตมักจะได้เงินเร็วกว่าวิธีอื่น (ภายในวันเดียว) ส่วนบัตรธนาคารอาจใช้เวลา 1–3 วันทำการ โบรกเกอร์มีสิทธิ์ระงับบัญชีหากพบความผิดปกติ เช่น การละเมิดเงื่อนไขโบนัสหรือบัญชีซ้ำ ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้ใช้บางรายเคยเจอ แนะนำให้ยืนยันบัญชีล่วงหน้าและอ่านเงื่อนไขการรับโบนัสอย่างละเอียด

โดยรวม Pocket Option ได้รับคำชมเรื่องความสะดวกในการฝากถอน มีตัวเลือกวิธีที่หลากหลาย เงินเข้าเร็ว และไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ส่วนนี้ถือว่าได้เปรียบกว่าโบรกเกอร์คู่แข่งบางรายที่กำหนดค่าธรรมเนียมหรือวงเงินฝากสูง ผู้ใช้หลายคนจึงมองว่าระบบการชำระเงินของ Pocket Option น่าสนใจ

โบนัส โค้ดโปรโมชัน และข้อเสนอพิเศษที่ Pocket Option

เช่นเดียวกับหลายแพลตฟอร์มด้านการเทรดออนไลน์ Pocket Option มีระบบโบนัสเพื่อดึงดูดและรักษาลูกค้าไว้ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:

  • โบนัสเงินฝาก (Deposit Bonus): สำหรับผู้ที่เพิ่งสมัคร อาจได้รับโบนัสครั้งแรกทันที ราว 50% ของเงินฝาก เช่น ฝาก 100 ดอลลาร์ ได้เพิ่ม 50 ดอลลาร์เป็นต้น แต่เงินโบนัสจะถอนไม่ได้ทันที ต้องทำยอดเทรดครบตามที่กำหนด (ปกติ turnover = โบนัส × 50) เงื่อนไขค่อนข้างโปร่งใส สามารถกดยกเลิกโบนัสได้หากไม่อยากเจอเงื่อนไขเทรดเพิ่มเติม บางครั้งโบรกเกอร์มีโปรเพิ่มโบนัสให้ลูกค้าเดิม หรือเพิ่มสูงสุดถึง 100% ด้วยการใช้โค้ดโปรโมชั่น
  • Promo Codes: เป็นโค้ดพิเศษที่เปิดให้ผู้ใช้ใส่ตอนฝากเงิน เพื่อรับโบนัสเพิ่มหรือรับสิทธิ์เทรดปลอดความเสี่ยง โค้ดเหล่านี้ประกาศในโซเชียลมีเดีย อีเมล หรือกระจายผ่านพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ เช่น โค้ด “START50” อาจให้โบนัสฝาก 50% ในช่วงเวลาจำกัด
  • Risk-Free Trades: ในกิจกรรมพิเศษหรือทัวร์นาเมนต์ ผู้ใช้งานอาจได้รับสิทธิ์เทรดแบบไม่เสี่ยง ซึ่งหากแพ้ เทรดเดอร์จะได้รับเงินคืน ถือเป็นข้อได้เปรียบทำกำไรโดยไม่เสียทุน มูลค่าของสิทธิ์ Risk-free มักขึ้นกับปริมาณเทรดปกติของคุณ
  • Cashback: จากระบบ Achievements ผู้ใช้บางรายอาจได้รับเงินคืนส่วนหนึ่งจากออเดอร์ที่ขาดทุน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ (5–10%) แล้วแต่สถานะผู้ใช้ เป็นเหมือนเครื่องมือประกันความเสี่ยงระดับหนึ่ง
  • การแข่งขันและทัวร์นาเมนต์ (Tournaments): Pocket Option จัดแข่งเทรดบ่อยครั้ง มักไม่ต้องเสียค่าสมัคร ผู้เข้าร่วมจะได้บัญชีเดโมและระยะเวลาทดสอบใครทำกำไรสูงสุดในช่วงนั้น ผู้ชนะอันดับต้น ๆ จะได้เงินรางวัลจริงหรือได้สิทธิ์ Risk-free ถือเป็นการเพิ่มโอกาสสร้างรายได้โดยไม่ต้องฝากเพิ่ม หากคุณเทรดได้กำไรในโหมดแข่งขัน
  • โปรแกรมพันธมิตร (Affiliate): หากคุณดึงผู้เล่นใหม่เข้ามายังแพลตฟอร์มได้ Pocket Option จะจ่ายค่าคอมมิชชั่นจากปริมาณเทรดของผู้ที่สมัครผ่านลิงก์ของคุณ หรือจ่ายเป็นค่าตอบแทนแบบอื่น เป็นระบบหลายระดับ (สูงสุด 5 ชั้น) จึงเหมาะกับผู้ที่มีฐานผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหรือช่อง YouTube และต้องการสร้างรายได้แบบพาสซีฟ

โบนัสช่วยให้คุณมีทุนเริ่มต้นเพิ่มขึ้น แต่ควรอ่านเงื่อนไขการเทรดให้รอบคอบ หากทำเทรดไม่ถึงเป้าที่กำหนด อาจติดปัญหาในการถอนเงิน ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเทรดได้ตามเงื่อนไขหรือไม่ ควรปฏิเสธโบนัสเพื่อความยืดหยุ่นในการถอนเงินต้นได้ทันที



ข้อดีของ Pocket Option

เราสามารถสรุปจุดแข็งหลักของ Pocket Option ได้ดังนี้:

  • เงินทุนเริ่มต้นต่ำ ฝากขั้นต่ำเพียง 5 ดอลลาร์ ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับเจ้าตลาดอื่น ๆ ออเดอร์ขั้นต่ำยังอยู่ที่ 1 ดอลลาร์ จึงจัดการความเสี่ยงได้ง่าย
  • สินทรัพย์หลากหลาย มีมากกว่า 100 รายการ ทั้งคู่สกุลเงิน หุ้นชั้นนำ สินค้าโภคภัณฑ์ และคริปโต 30+ เหรียญ ตอบโจทย์เทรดเดอร์หลายสไตล์
  • อัตราผลตอบแทนสูง บางสินทรัพย์อาจได้สูงกว่า ~90% และอาจเพิ่มได้อีกสำหรับผู้ถือบัญชี VIP
  • แพลตฟอร์มใช้ง่าย & แอปมือถือ เว็บเทอร์มินัลใช้งานไม่ซับซ้อน สั่งเทรดได้รวดเร็ว มีแอปรองรับทุกระบบ และทำงานได้ครบทุกฟังก์ชัน
  • Social Trading & Copy Trading ฟีเจอร์คัดลอกเทรดของผู้ประสบความสำเร็จ มอบโอกาสเรียนรู้และสร้างรายได้ไปพร้อมกัน
  • โบนัส & โปรโมชั่นจูงใจ เช่น โบนัสฝากครั้งแรก 50% ระบบ Achievements และทัวร์นาเมนต์ เพิ่มโอกาสทำเงินและสร้างแรงจูงใจให้เทรด
  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ไม่คิดค่าเปิดออเดอร์ ค่าธรรมเนียมฝาก หรือค่าธรรมเนียมถอนส่วนใหญ่ ทำให้ประหยัดต้นทุน
  • ถอนเงินไว รีวิวหลายแห่งระบุว่าระยะเวลาถอนสั้น (1–2 วัน) ถือเป็นปัจจัยที่เสริมความเชื่อมั่น
  • รองรับทั่วโลก ระบบแปลหลายภาษา (อังกฤษ รัสเซีย สเปน อาหรับ โปรตุเกส ฮินดี อินโดนีเซีย ฯลฯ) และมีทีมซัพพอร์ตหลายภาษา
  • ดำเนินการตั้งแต่ปี 2017 แม้จะไม่ถือว่านานมาก แต่ Pocket Option ได้รางวัล Best Binary Broker 2022 และ Runner Up 2023 จาก DayTrading.com แสดงว่าเริ่มมีชื่อเสียงในวงกว้าง

ข้อเสียและความเสี่ยงของ Pocket Option

ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญที่มักถูกยกมาเป็นข้อด้อยของ Pocket Option:

  • ไม่ได้รับใบอนุญาตจริงจัง ข้อเสียใหญ่ที่สุดคือไม่มีใบกำกับดูแลจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ (เช่น CySEC/FCA) ส่งผลให้ไม่มีมาตรการคุ้มครองนักลงทุนตามเกณฑ์สากล บางไซต์อย่าง BrokerChooser จัดให้โบรกเกอร์นี้น่าเชื่อถือต่ำ
  • จดทะเบียนนอกชายฝั่ง การอยู่ในพื้นที่ Offshore (หมู่เกาะมาร์แชลล์/คอสตาริกา) ลดความโปร่งใส ไม่ได้มีงบการเงินเผยแพร่ หรือเป็นสมาชิกกองทุนชดเชย ลูกค้าต้องวางใจในคำรับรองของบริษัทเป็นหลัก Olymp Trade และ Binomo ก็ไม่ต่างกันมากในแง่นี้ (ต่างก็ Offshore เช่นกัน)
  • ข้อกังวลด้านกลโกง มีผู้ใช้งานจำนวนมากบ่นเรื่องการยกเลิกออเดอร์ที่ชนะ หรือบัญชีถูกแบนตอนจะถอนเงินก้อนโต Web อย่าง BrokersView และ FSMA ได้แจ้งเตือนว่าบริษัท “scam” เพราะเงินผู้ใช้ไม่ปลอดภัย รีวิวจากผู้เชี่ยวชาญรัสเซียก็มองไม่ดี แม้เราไม่อาจยืนยันทุกข้อกล่าวหาได้ แต่จำนวนเคสเชิงลบก็น่าเป็นห่วง
  • เครื่องมือวิเคราะห์จำกัด แพลตฟอร์มยังขาดฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การปรับแต่งอินดิเคเตอร์หรือการตั้งค่าแจ้งเตือน หากต้องการวิเคราะห์เต็มรูปแบบ อาจต้องใช้ซอฟต์แวร์เสริม
  • มีแต่ตัวเลือกสั้น อายุออปชั่นสูงสุดคือ 4 ชั่วโมง หากคุณเทรดแบบระยะยาวหลายวันหรือหลายสัปดาห์ โบรกเกอร์นี้ไม่รองรับ บางเจ้าอย่าง Deriv อาจมีออปชั่นยาวกว่านี้
  • ระบบ VIP สถานะสูงสุด (ปลดล็อคสินทรัพย์/ผลตอบแทนเพิ่ม) ต้องฝากเกิน 1,000 ดอลลาร์ ถ้าเงินลงทุนน้อยจะไม่ได้เงื่อนไขที่ดีเท่ากัน
  • ความเสี่ยงในตัวผลิตภัณฑ์สูง ไบนารี่ออฟชั่นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสสูญเสียเงินเร็ว ถ้าพลาดการคาดการณ์จะเสียเต็มจำนวน สถิติส่วนใหญ่ชี้ว่ากลุ่มผู้แพ้จะมีมากกว่าผู้ชนะ ดังนั้นโอกาสขาดทุนจึงสูงโดยธรรมชาติ
  • ข้อจำกัดในบางประเทศ บางพื้นที่ไม่อนุญาต (เช่น สหรัฐฯ/EU/UK) ทำให้มีการบล็อกหรือไม่เปิดบริการเต็มรูปแบบ อาจเกิดปัญหาทางกฎหมายหรือเงื่อนไขเพิ่มเติม
  • ซัพพอร์ตทางโทรศัพท์ไม่ตลอด 24 ชม. แม้จะมี Live Chat 24/7 แต่โทรศัพท์อาจจำกัดเวลาบริการ (10:00–02:00 UTC+2) และอีเมลก็ตอบกลับล่าช้าเป็นวัน ซึ่งไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่หลายเจ้าในวงการก็มีรูปแบบเดียวกัน

จากข้อด้อยเหล่านี้ Pocket Option อาจเหมาะกับผู้เทรดที่เข้าใจความเสี่ยงเต็มที่ หรือนักลงทุนมือใหม่ที่อยากเริ่มจากเงินจำนวนน้อย พร้อมใช้บัญชีเดโมในการฝึกฝน หากจะใช้งานจริง ควรมีวินัยด้านการจัดสรรเงินทุนให้ดี อย่าหลงเชื่อแค่ว่ากำไรเร็ว ส่วนใหญ่โฆษณาเชิงการตลาดมักโอเวอร์เกินจริงอยู่แล้ว

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงเกี่ยวกับ Pocket Option

เพื่อให้เห็นภาพที่สมบูรณ์ เราได้ศึกษาความเห็นจากผู้ใช้ในหลายช่องทาง ทั้งฟอรัม (รวมถึง Reddit), เว็บไซต์รีวิว (Trustpilot, Otzovik, iRecommend), YouTube และโซเชียลต่าง ๆ พบว่ามีทั้งด้านบวกและด้านลบอย่างสุดขั้ว ต่อไปนี้คือความคิดเห็นตัวอย่างพร้อมบทวิเคราะห์คร่าว ๆ

รีวิวเชิงบวก

ผู้ใช้บางรายชื่นชม Pocket Option ว่าใช้งานง่ายและทำกำไรได้จริง เช่น ในพอร์ทัล Otzovik ของรัสเซีย มีคนเขียนว่า “แพลตฟอร์มเยี่ยมมาก อินเทอร์เฟซใช้ง่าย ทุกอย่างครบ เทรดมา 1 เดือน พอใจมาก ถอนเงินก็ไว” ความเห็นเชิงบวกมักพูดถึงการถอนเงินยอดเล็กที่ไม่มีปัญหาใด ๆ

ในเว็บภาษาอังกฤษก็เช่นกัน โดยเฉพาะมือใหม่ที่ทำกำไรช่วงแรกได้เร็ว: “ฉันชอบ Pocket Option มาก ใช้มา 3 ปีแล้ว เยี่ยมเลย” หลายคนยังชมว่าเงินฝากขั้นต่ำและถอนขั้นต่ำไม่สูง และถอนค่อนข้างเร็ว เมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่น

รีวิวเชิงลบ

แต่ก็มีผู้ใช้หลายคนพบปัญหา ใน Reddit มีหัวข้อ “Pocket Option is a Scam” โดยยูสเซอร์ @Effective-Ad1702 เล่าประสบการณ์ 1 ปี: “แรก ๆ ฉันฝึกเดโมแล้วฝาก 1,000 ดอลลาร์ ทำกำไรวันละ 100 ดอลลาร์ก็ถอนได้อยู่ช่วงหนึ่ง แต่พอถอน 5 ครั้งขึ้นไป เริ่มเจอปัญหาออเดอร์ขาดทุนในวินาทีสุดท้ายทุกที และถ้าฝากเพิ่มอีก 1,000 ก็เป็นเหมือนเดิม ได้กำไรไม่กี่วัน สุดท้ายเสียหมด... ตลอดปีฉันฝากรวม 10,000 ดอลลาร์ แต่ถอนคืนได้แค่ 4,000 เหมือนระบบปล่อยให้ได้กำไรนิดหน่อยแล้วล่อให้ลงทุนเพิ่ม ก่อนปรับราคาให้ขาดทุน”

บน TrustPilot ก็มีความเห็นคล้ายกัน บางรายบอกว่าพอจะถอนกำไรเยอะ (~7,000 ดอลลาร์) โบรกเกอร์ก็เรียกตรวจสอบเอกสารไม่จบไม่สิ้น ถึงขั้นกล่าวหาว่าใช้บอท ก่อนระงับบัญชี: “แพ้ไม่เป็นไร แต่พอได้กำไรมาก ๆ กลับโดนปิดบัญชี”

ฝั่งรัสเซียก็เช่นกัน บน TradersUnion มีคนเขียน “อยากเลิกแล้ว แต่ถอนเงินไม่ได้... รอแล้วก็เงียบ” ใน iRecommend ผู้ใช้ชื่อ Aleksey บอกว่าถูกชวนลงทุนผ่าน Telegram พอจะถอนก็ไม่มีใครตอบสนอง ทั้งยังมีผู้ใช้ Yandex.Zen อ้างอิง TrustPilot ว่า Pocket Option ทำงานแย่มาก ไม่สนใจลูกค้า และใน TorForex เขียนดุเดือดว่า “ชัดเจนว่าเป็นกลโกง...” พร้อมแนบเรื่องใบอนุญาตปลอมและบัญชีโดนล็อค

สรุปความคิดเห็น

โดยทั่วไป รีวิวเชิงบวกมักมาจากผู้ใช้รายเล็กที่ถอนเงินจำนวนไม่มาก หรือเพิ่งเริ่มต้นได้กำไรระยะสั้น จึงไม่พบปัญหา แต่คนที่เล่นจริงจังและพยายามถอนเงินก้อนใหญ่ (หลักพันดอลลาร์ขึ้นไป) มักเจออุปสรรค เช่น การตรวจสอบเอกสารที่ยืดเยื้อ หรือราคาที่ดูผิดปกติเมื่อใกล้หมดอายุ จนทำให้ขาดทุนในวินาทีสุดท้าย ซึ่งเป็นปัญหาที่โบรกเกอร์นอกชายฝั่งไม่น่าไว้ใจพบบ่อย

แม้บางเคสเราไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้หมด แต่จำนวนรายงานเชิงลบในหลายภาษา ค่อนข้างสอดคล้องกัน ในเว็บสเปนก็ระบุว่า “es una plataforma que engaña a sus clientes” (หลอกลวงผู้ใช้), ใน BrokersView ภาษาอังกฤษว่า “unequivocally a scam”, และในรัสเซียใช้คำว่า “лохотрон” (กลโกง) จึงพอสรุปได้ว่าหากจะใช้งาน Pocket Option เพื่อทดลองหรือเทรดเล็ก ๆ อาจยังพอไหว แต่หากตั้งใจปั่นยอดใหญ่อาจเจอปัญหา ควรพิจารณาถอนเงินกำไรออกเป็นระยะ อย่าเก็บเงินมากไว้ในบัญชี



Igor Lementov
Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com


บทความที่อาจช่วยคุณได้
บทวิจารณ์และความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด: 0
avatar