หน้าหลัก ข่าวไซต์
EXMO Exchange 2025: ค่าธรรมเนียมต่ำ การเทรดปลอดภัย & รีวิว
Updated: 06.05.2025

EXMO — รีวิวกระดานเทรดคริปโต & ฟีดแบ็กผู้ใช้ปี 2025: ค่าธรรมเนียม ความปลอดภัย และคู่มือการเทรด

EXMO เป็นแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตที่เป็นที่รู้จัก เปิดดำเนินการตั้งแต่ช่วงปี 2013–2014 โดยก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง Ivan Petukhovsky และ Pavel Lerner เดิมทีมุ่งเน้นตลาดยุโรปตะวันออก ทำให้ EXMO ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในภูมิภาคนั้นอย่างรวดเร็ว ต่อมา กระดานเทรดได้ขยายจนมีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านบัญชีทั่วโลก พร้อมเปิดสาขาในลอนดอน เคียฟ อิสตันบูล และเมืองอื่น ๆ ปัจจุบัน สำนักงานใหญ่ของ EXMO ตั้งอยู่ในคราคูฟ (โปแลนด์) สะท้อนถึงเป้าหมายการเติบโตสู่ระดับสากล

สิ่งแรกที่ดึงดูดเทรดเดอร์มายัง EXMO คือการรองรับการใช้งานสกุลเงินเฟียตได้อย่างสะดวก แพลตฟอร์มนี้รองรับสกุลเงินประจำชาติหลายรายการ เช่น USD, EUR, GBP, PLN, UAH, TRY และอื่น ๆ คุณสามารถฝากเงินผ่านบัตรธนาคารและเทรดด้วยเงินเฟียตที่คุ้นเคยได้ง่าย จึงทำให้ EXMO ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ปัจจุบันมีคู่เทรดมากกว่า 155 คู่ รวมถึงคู่คริปโตต่อคริปโต และคริปโตต่อเฟียต และยังคงเพิ่มสินทรัพย์ใหม่อย่างต่อเนื่อง

Exmo เสนอคู่สกุลเงินมากกว่า 100 คู่

อีกจุดเด่นหนึ่งของ EXMO คือโทเค็นที่ออกโดยแพลตฟอร์มเองในชื่อ EXMO Coin (EXM) ออกตามมาตรฐาน ERC-20 มีจำนวนจำกัด 2 พันล้านโทเค็น EXM ถูกผนวกรวมในระบบนิเวศภายในของกระดานเทรด: ผู้ถือโทเค็นจะได้รับโบนัส ส่วนลดค่าคอมมิชชั่นจากแพ็กเกจ Premium และยังเข้าร่วมโปรแกรม Earn รวมถึงการสเตกกิ้ง กระดานเทรดมีการเผาโทเค็นบางส่วนเป็นประจำเพื่อรักษามูลค่าในตลาด

โดยรวมแล้ว EXMO วางตำแหน่งตนเองเป็นแพลตฟอร์มที่ครอบคลุม ทั้งนักเทรดมือใหม่และผู้มีประสบการณ์ สำหรับมือใหม่มีตัวเลือกซื้อคริปโตแบบ “คลิกเดียว” ส่วนมือโปรก็มีเทอร์มินัลที่ใช้ TradingView และมีประเภทคำสั่งหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีแอปมือถือ, API สำหรับระบบเทรดอัตโนมัติ และบริการ OTC สำหรับดีลขนาดใหญ่ นับตั้งแต่เปิดตัวมากว่า 10 ปี EXMO ผ่านทั้งช่วงเติบโตอย่างรวดเร็วและอุปสรรคต่าง ๆ (เช่น การกำกับดูแลที่เข้มงวด) แต่ก็สามารถรักษาความเชื่อมั่นจากชุมชนผู้ใช้งานได้ไม่น้อย



เว็บไซต์ทางการของ Exmo Exchange

การเทรดคริปโตเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ข้อมูลชี้ว่า 70–90% ของเทรดเดอร์สูญเสียเงินลงทุนเมื่อเทรดด้วยมาร์จิ้น การทำกำไรอย่างต่อเนื่องต้องอาศัยความรู้เฉพาะ ทางที่ดีควรศึกษาวิธีการทำงานของเครื่องมือเหล่านี้อย่างถ่องแท้ และเตรียมพร้อมรับความสูญเสียทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น อย่าเสี่ยงใช้เงินที่หากสูญเสียไปจะกระทบต่อการดำรงชีวิตของคุณ

ข้อกำกับดูแลและความปลอดภัย

กฎระเบียบเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อชื่อเสียงของ EXMO ปัจจุบัน EXMO จดทะเบียนเป็นผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล (VASP) ในประเทศแถบสหภาพยุโรป โดยเฉพาะในลิทัวเนียและโปแลนด์ เดิมเคยให้บริการในสหราชอาณาจักรภายใต้การกำกับแบบชั่วคราวของ FCA แต่เมื่อต้นทุนการปฏิบัติตามกฎเพิ่มสูงขึ้น EXMO จึงยุติการให้บริการแก่ลูกค้าในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ตุลาคม 2023 ขณะนี้แพลตฟอร์มไม่รองรับผู้ใช้งานจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร แคนาดา ญี่ปุ่น จีน รวมถึงรัสเซีย เบลารุส และคาซัคสถาน ส่วนใหญ่เป็นผลจากข้อบังคับท้องถิ่นและการตัดสินใจของบริษัทเอง: ในปี 2022 EXMO ได้ขายธุรกิจในรัสเซีย/เบลารุสให้บุคคลอื่น และหันไปมุ่งตลาดอื่นแทน สำหรับประเทศอื่น ๆ ส่วนใหญ่ EXMO ยังเปิดกว้างให้เข้าถึงได้ และพยายามปฏิบัติตามมาตรฐานสากล (AML/KYC, Travel Rule ฯลฯ)

เรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้ EXMO วางระบบป้องกันหลายชั้น อันดับแรก ใช้กระเป๋าเย็นเป็นหลักในการจัดเก็บสินทรัพย์ โดย 99% ของเงินทุนลูกค้าเก็บในกระเป๋าเย็น Ledger Vault ที่มีประกันวงเงินสูงถึง $150 ล้าน ส่วนอีกประมาณ 1% อยู่ในกระเป๋าออนไลน์ (hot wallet) สำหรับใช้ดำเนินธุรกรรมประจำ พร้อมระบบป้องกันสูงสุด เช่น โค้ดป้องกันการฟิชชิ่งและการกำหนดที่อยู่ถอนที่เชื่อถือได้ นอกจากนี้ ยังมีการยืนยันตัวตนแบบสองขั้น (2FA) และยืนยันผ่านอีเมลก่อนเข้าถึงบัญชีหรือยืนยันธุรกรรม อีกทั้งผู้ใช้งานยังตั้งค่า IP ที่เชื่อถือได้ และแจ้งเตือนการเข้าสู่ระบบเพื่อป้องกันบุคคลอื่นลักลอบเข้าสู่บัญชี ข้อมูลทั้งหมดส่งผ่านการเชื่อมต่อ SSL แบบเข้ารหัส อีกทั้งยังมีการทดสอบเจาะระบบอย่างสม่ำเสมอ

แม้มีมาตรการอย่างเข้มงวด EXMO เคยประสบเหตุโจมตี ตัวอย่างสำคัญคือการแฮ็กกระเป๋าออนไลน์เมื่อธันวาคม 2020 โดยผู้โจมตีถอนเหรียญไปได้ราว 5% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าราว $4–6 ล้าน (ส่วนใหญ่เป็น BTC, XRP, USDT, ETH และ ETC) EXMO ประกาศเหตุทันทีต่อเจ้าหน้าที่ในลอนดอนและกระดานเทรดอื่น โชคดีที่ผู้ใช้ไม่สูญเสียเงิน เพราะระบบถูกกู้คืนภายในไม่กี่วัน และบริษัทระบุว่าชดเชยความเสียหายทั้งหมดแล้ว นับจากนั้น EXMO ได้เพิ่มมาตรการป้องกันไซเบอร์มากขึ้น รวมถึงมีเงินประกัน เข้าร่วมเครือข่ายตอบสนองภัยคุกคามร่วม (CERT) และผ่านการประเมินจากภายนอกอย่างอิสระ เช่น CER.live จัดอันดับความปลอดภัยที่ “CC” (49% จาก 100%) ถือเป็นระดับกลางในหมู่กระดานเทรดขนาดใหญ่

ผู้บริหาร EXMO เปิดเผยตัวต่อสาธารณะมาก — ซีอีโอ Serhii Zhdanov และทีมผู้บริหารมักสื่อสารกับชุมชนผ่านการให้สัมภาษณ์หรือไลฟ์สด ช่วยให้โปร่งใสมากขึ้น และด้วยการปฏิบัติตามข้อบังคับ EXMO จึงเข้าร่วมองค์กรต่อต้านอาชญากรรมทางการเงินและปฏิบัติตาม Travel Rule เพื่อเฝ้าระวังการโอนคริปโต โดยสรุปแล้ว ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด: แม้ไม่มีใครการันตีความปลอดภัย 100% ได้ แต่ EXMO แสดงความมุ่งมั่นในการป้องกันเงินทุนและข้อมูลผู้ใช้อย่างเข้มข้น

ข้อดีและข้อเสียของ EXMO

เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มอื่น EXMO มีทั้งจุดแข็งและข้อจำกัดที่ผู้ใช้งานควรทราบก่อนตัดสินใจเทรด

ข้อดีของ EXMO:

  • รองรับเงินเฟียต — ฝาก/ถอนด้วย USD, EUR, PLN, UAH, TRY และอื่น ๆ ได้โดยตรง สะดวกสำหรับมือใหม่
  • อินเทอร์เฟซใช้ง่าย — มีโหมดเทรดด่วนแบบคลิกเดียว และโหมดเทอร์มินัลพร้อมกราฟและคำสั่งหลากหลายสำหรับมืออาชีพ
  • ค่าธรรมเนียมเทรดต่ำ — พื้นฐาน 0.1% สำหรับคู่คริปโต-คริปโต ซึ่งค่อนข้างแข่งขันได้ และจะลดลงอีกเมื่อปริมาณเทรดเพิ่มขึ้น สูงสุดอาจลดเหลือ ~0% สำหรับผู้ทำรายการ
  • มีสินทรัพย์ให้เลือกมาก — กว่า 150 คู่เทรด ทั้งเหรียญหลักและเหรียญทางเลือก รองรับเงินเฟียตกว่า 7 สกุล ทำให้มีคู่เทรดหลากหลาย
  • มาร์จิ้นเทรดสูงสุด 10x — EXMO Margin (แพลตฟอร์มแยก) รองรับเลเวอเรจสูงสุด 1:10 สำหรับบางคู่ (เปิดตัวในปี 2021)
  • แอปมือถือและ API — มีแอป iOS/Android ที่ครบฟังก์ชัน และเปิด API สำหรับกลยุทธ์หลากหลาย
  • โปรแกรมสะสมแต้ม — มีโทเค็น EXM, ระบบคืนค่าคอมมิชชั่น, แพ็กเกจพรีเมียมลดค่าธรรมเนียม และ Earn (รับดอกเบี้ย) ช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไร
  • รองรับหลายภาษา — หน้าเว็บและบริการลูกค้าหลายภาษา รวมถึงรัสเซีย อังกฤษ โปแลนด์ เป็นต้น ตอบโจทย์ผู้ใช้ในหลายประเทศ

สินทรัพย์หลากหลายใน Exmo

ข้อเสียของ EXMO:

  • ข้อจำกัดด้านภูมิภาค — ไม่เปิดให้บริการในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร รัสเซีย เบลารุส ญี่ปุ่น และอื่น ๆ เนื่องจากกฎหมาย ทำให้ผู้ใช้บางส่วนต้องหาทางเลือกอื่น
  • สภาพคล่องไม่สูงนัก — ปริมาณเทรดรายวัน (~$50–70 ล้าน) น้อยกว่าเว็บใหญ่ ๆ บางคู่มีสเปรดกว้าง ออร์เดอร์ใหญ่ ๆ อาจกระทบราคาได้
  • เงื่อนไขฝาก/ถอนเปลี่ยนบ่อย — EXMO ปรับปรุงช่องทางชำระเงินและค่าธรรมเนียมเป็นระยะ ๆ ผู้ใช้อาจต้องติดตามข้อมูลล่าสุด
  • ไม่มีฟิวเจอร์สหรืออนุพันธ์ — มีแค่สปอตกับมาร์จิ้น แต่ไม่มีฟีเจอร์ส ออปชัน หรือ Perpetual Swap แบบ Binance, Kraken ฯลฯ
  • บางครั้งเกิดข้อขัดข้องทางระบบ — รีวิวระบุปัญหาทางเทคนิคบางครั้ง เช่น SMS ล่าช้า หรือเว็บล่มระยะสั้นเมื่อโหลดสูง แม้จะไม่บ่อยแต่ก็มีผู้ใช้บางรายกล่าวถึง
  • ช่องทางติดต่อซัพพอร์ตมีแค่อีเมล — ซัพพอร์ต 24/7 ก็จริง แต่ติดต่อได้ทางอีเมลเป็นหลัก ไม่มีไลฟ์แชตหรือโทรศัพท์ อาจไม่สะดวกเมื่อมีปัญหาเร่งด่วน
  • การตรวจสอบเข้มงวดตอนถอน — แม้จะดีต่อความปลอดภัย แต่สำหรับผู้ที่ถอนเงินจำนวนมากอาจต้องยืนยันตัวตนและแหล่งที่มาของเงินอย่างละเอียด ซึ่งบางรายบ่นว่าใช้เวลานาน

เมื่อพิจารณาทั้งหมด EXMO จึงเหมาะสำหรับมือใหม่และผู้ที่ให้ความสำคัญกับการฝาก/ถอนเงินเฟียตสะดวกรวดเร็วพร้อมค่าธรรมเนียมต่ำ ขณะเดียวกัน นักเทรดมืออาชีพที่ต้องการสภาพคล่องสูงหรือตลาดขนาดใหญ่ อาจมองว่าลิมิตของ EXMO ยังไม่ตอบโจทย์ นอกจากนี้ผู้อาศัยในประเทศที่ไม่รองรับก็ไม่อาจใช้งานได้ ซึ่งเราจะเจาะรายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อต่อไป

การสมัครและการยืนยันตัวตนใน EXMO

การเริ่มใช้งาน EXMO ต้องสร้างบัญชีและยืนยันตัวตนตามขั้นตอน KYC การสมัครไม่ซับซ้อน ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที: ไปที่เว็บไซต์ทางการแล้วคลิก “Sign Up” จากนั้นใส่อีเมลและรหัสผ่านที่คาดเดายาก จากนั้นยืนยันอีเมลด้วยลิงก์ เท่านี้ก็ได้บัญชีเบื้องต้น — สามารถเข้าสู่ระบบแดชบอร์ดได้

แบบฟอร์มลงทะเบียนบัญชีใหม่ใน Exmo

อย่างไรก็ดี เพื่อให้เทรด ฝาก และถอนเงินได้เต็มรูปแบบ จำเป็นต้องยืนยันตัวตน (Verification) EXMO ปฏิบัติตามมาตรฐาน KYC อย่างเคร่งครัด จึงไม่อนุญาตให้ถอนเงินแบบไม่เปิดเผยตัวตน การยืนยันมีหลายระดับ โดยแต่ละระดับจะปลดล็อกฟีเจอร์เพิ่มขึ้น:

  • ยืนยันข้อมูลส่วนบุคคล (Identity Verification) – ขั้นขั้นต่ำที่ต้องทำ คุณจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว (ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด ประเทศที่พำนัก) และอัปโหลดเอกสารยืนยันตัว (พาสปอร์ต บัตรประชาชน หรือใบขับขี่) พร้อมเซลฟี่คู่กับเอกสารเพื่อยืนยันว่าผู้ใช้งานเป็นบุคคลจริง ขั้นตอนนี้ใช้เวลาตรวจสอบตั้งแต่ไม่กี่ชั่วโมงไปจนถึง 1–2 วัน เมื่อผ่านแล้วจะสามารถฝาก/ถอนคริปโตและเทรดสปอตได้
  • ยืนยันที่อยู่ (Address Verification) – ขั้นเพิ่มเติมแต่ไม่บังคับสำหรับการเทรดทั่วไป ต้องอัปโหลดหลักฐานที่อยู่ (เช่น บิลค่าสาธารณูปโภคหรือใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร) หากต้องการใช้ช่องทางฝาก/ถอนเงินเฟียตบางรายการ
  • ยืนยันบัตรธนาคาร (Bank Card Verification) – จำเป็นหากคุณจะถอนเงินไปยังบัตร ต้องผูกบัตรเข้ากับบัญชีและอัปโหลดรูปบัตร รวมถึงอาจมีการจ่ายเงินทดสอบเล็กน้อยเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของ เมื่อเสร็จสิ้น คุณก็ถอนเงินเฟียต (เช่น USD, EUR) เข้าบัตร Visa/MasterCard ได้สะดวก

การยืนยันบัญชีซื้อขาย Exmo

EXMO ได้รับคำชมว่าเริ่มใช้งานได้ง่าย มีรายงานหนึ่งให้คะแนน 4/5 ในด้านความเร็วในการเปิดบัญชี — ใช้เวลาเพียง 1 นาที 15 วินาที แต่ถัดจากนั้นจะมีการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก หากบัญชียังไม่ยืนยันตัวตน มักจะไม่สามารถถอนเงินก้อนใหญ่ได้ เนื่องจากมาตรการ AML ดังนั้นจึงแนะนำให้ทำ KYC ให้พร้อม เพื่อไม่ให้ติดขัดภายหลัง

ข้อมูลลูกค้าเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัยและใช้เพื่อการตรวจสอบตามกฎหมาย EXMO ปฏิบัติตามข้อบังคับ GDPR และข้อกำหนดคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ข้อคิดเห็นจากผู้ใช้ส่วนใหญ่บอกว่าเอกสารอนุมัติค่อนข้างเร็ว (ปกติภายใน 1 วันทำการ) หากการยืนยันไม่ผ่าน (เช่น รูปถ่ายไม่ชัด) ซัพพอร์ตจะแจ้งให้แก้ไขและอัปโหลดใหม่ได้ สรุปแล้ว ขั้นตอนการสมัครและยืนยันตัวตนใน EXMO ค่อนข้างสะดวกและน่าเชื่อถือ เพียงแต่ต้องเตรียมเอกสารตามมาตรฐาน KYC ทั่วไป



การฝากและถอนเงิน: วิธี ค่าธรรมเนียม ข้อจำกัด

EXMO มีชื่อเสียงเรื่องตัวเลือกฝากถอนที่หลากหลาย โดยเฉพาะฝั่งเฟียต คุณสามารถฝากทั้งสกุลเงินดิจิทัลและสกุลเงินทั่วไป โดยแพลตฟอร์มรองรับหลายช่องทาง ดังนี้:

  • คริปโตเคอร์เรนซี: ฝากเหรียญที่รองรับใด ๆ ก็ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมจาก EXMO (จ่ายแค่ค่าส่งบนเครือข่าย) ส่วนการถอนก็ไม่มีค่าธรรมเนียมของ EXMO เพิ่ม นอกจากค่าส่งเครือข่าย (network fee) เช่น BTC มีค่าถอนขั้นต่ำ 0.0005 BTC, ETH 0.002 ETH ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพเครือข่าย
  • โอนผ่านธนาคาร: EXMO รองรับ SEPA และ SWIFT สำหรับ EUR, USD เป็นต้น ปกติการฝากผ่านบัญชีธนาคารมักไม่เสียค่าธรรมเนียม (ยกเว้นค่าธรรมเนียมฝั่งธนาคาร) การถอนผ่าน SWIFT อาจมีค่าธรรมเนียมคงที่ (~$20) หรือแบบเปอร์เซ็นต์ต่างกันตามสกุลและประเทศ ปกติถ้าเป็น SEPA Instant เงินอาจเข้าภายในไม่กี่นาที แต่ SEPA ธรรมดาอาจรอ 1–3 วัน
  • บัตรธนาคาร: เป็นช่องทางยอดนิยม Visa/MasterCard มักจะฝากได้ทันที ส่วนค่าธรรมเนียมจะมีบ้าง บางครั้ง EXMO อาจสนับสนุนให้ฟรีหรือคิดราว 1–3% ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ เช่น การฝาก USD ผ่าน Payeer อาจราว 0.99% ฝั่งถอนบัตรโดยมากค่าธรรมเนียมสูงกว่า เดิมทีเคย ~4–5% แต่ในปี 2023 EXMO ได้ปรับลด (เช่น USD เหลือ ~3.49% + $1) ส่วน UAH คิดราว 5–6% ถือว่าค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับการโอนธนาคาร แต่ก็สะดวกรวดเร็ว (ปกติไม่เกิน 1 วัน)
  • อีวอลเล็ตและระบบชำระเงิน: EXMO เชื่อมต่อกับบริการยอดนิยมในแต่ละภูมิภาค เช่น AdvCash, Payeer, Skrill, Neteller, Perfect Money เป็นต้น ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ เช่น AdvCash มักฟรี ฝั่ง Payeer ประมาณ 1% ส่วนการถอนอาจเป็น 1–3% จุดเด่นคือเงินเข้าทันที จุดด้อยคือบางช่องอาจมีค่าธรรมเนียมสูงกว่าโอนธนาคาร
  • EXMO Gift Card: เป็นโค้ดสำหรับโอนเงินระหว่างบัญชีอย่างรวดเร็ว โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม blockchain คุณสร้างโค้ดระบุจำนวนเงินเพื่อส่งให้ผู้อื่นได้ทันที เป็นอีกหนึ่งวิธี P2P ที่สะดวกในการฝาก-ถอนผ่านโค้ด EXMO

EXMO จะแสดงค่าธรรมเนียมและขีดจำกัด (Limit) ปัจจุบันก่อนยืนยันธุรกรรม วงเงินขึ้นกับสถานะการยืนยันบัญชี: บัญชีใหม่อาจถอนได้ไม่มาก แต่เมื่อยืนยันตัวจนระดับสูง จะมีวงเงินถอนมากขึ้น ควรระวังจำนวนขั้นต่ำเช่นกัน: การฝากเหรียญจะต้องสูงกว่าค่าส่งเน็ตเวิร์ก และการถอนเฟียตอาจมีขั้นต่ำ ~$20–50 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละช่องทาง

ด้านล่างคือตารางค่าธรรมเนียมตัวอย่าง (โดยประมาณ) ของสกุลเงินยอดนิยม:

สกุลเงิน การฝาก การถอน หมายเหตุ
USD โอนผ่านธนาคาร: 0%
บัตร: 0–1% (ผ่าน AdvCash)
SWIFT: ~$30
Visa/MasterCard: 3.5% + $1
SEPA สำหรับ EUR – ฟรี/€1
EUR SEPA: 0% (หรือ €1)
บัตร: ~1.5%
SEPA: €25
Visa/MasterCard: ~2.5% + €1
SEPA Instant เร็วกว่า แต่แพงขึ้น
RUB โอนเข้าบัญชีธนาคาร (รัสเซีย): ไม่รองรับ
บัตร MIR: 0% (ผ่าน Qiwi)
บัตร MIR: 1.5% + 40 RUB
YuMoney/Qiwi: 3%
ให้บริการผ่าน EXMO.me สำหรับผู้ใช้รัสเซีย
UAH บัตร (Privat/Mono): 0% Visa/MC: ~1.5% + 30 UAH มีอัตราพิเศษในยูเครน

หมายเหตุ: ค่าธรรมเนียมในตารางเป็นค่าเฉลี่ยเพื่อการอ้างอิง อาจเปลี่ยนตามสภาพตลาด ควรตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซต์ EXMO ก่อนทุกครั้ง โดยทั่วไป EXMO พยายามตั้งค่าธรรมเนียมให้เหมาะสม หลายช่องทางฝากฟรี เมื่อเทียบกับคู่แข่งถือว่าเป็นจุดเด่น แต่การถอนเฟียต (โดยเฉพาะเข้าบัตร) จะมีต้นทุนสูงกว่าบางช่องทาง

ด้านความเร็วในการทำธุรกรรม ฝากคริปโตต้องรอคอนเฟิร์มบนบล็อกเชน (BTC ปกติ 1 คอนเฟิร์ม ประมาณ 10–20 นาที; ETH/ERC20 ประมาณ 20 คอนเฟิร์ม ~5–10 นาที) ส่วนการถอนคริปโตผ่านระบบอัตโนมัติใช้เวลาประมาณ 5–30 นาที (อาจล่าช้าหากบล็อกเชนแออัด) ฝั่งเฟียตอาจใช้เวลาตรวจสอบจากฝ่ายการเงิน จึงอาจกินเวลาหลายชั่วโมงถึง 1–2 วัน EXMO แนะนำให้ยืนยันตัวตนครบถ้วนและผูกข้อมูลชำระเงินล่วงหน้า เพื่อให้การฝาก/ถอนดำเนินไปอย่างรวดเร็วและไม่ถูกระงับตรวจสอบเพิ่มเติม

โดยสรุป EXMO มีความยืดหยุ่นในการทำธุรกรรมหลายรูปแบบ ผู้ใช้งานสามารถเลือกช่องทางที่เหมาะสมได้ตามค่าใช้จ่ายและความสะดวก ค่าธรรมเนียมก็ค่อนข้างโปร่งใส แสดงชัดเจนบนแพลตฟอร์ม ปัญหา “ค่าธรรมเนียมแฝง” ที่บางคนพูดถึง ส่วนมากมักเกิดจากส่วนต่างราคา (spread) ในโหมดซื้อ/ขายด่วนมากกว่าค่าธรรมเนียมจริง หากตรวจสอบตารางค่าธรรมเนียมก่อนและเลือกวิธีถอนที่คุ้มค่า ก็จะช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก

เครื่องมือและฟีเจอร์การเทรดของ EXMO

EXMO มาพร้อมเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเทรดคริปโตอย่างครบถ้วน โหมดหลักคือการเทรดสปอต (Spot) ซื้อขายสินทรัพย์จริงโดยไม่ใช้เงินกู้เลเวอเรจ ในหน้าเทอร์มินัลมีคำสั่งหลายประเภท ได้แก่ Limit, Market, Stop Orders (Stop Loss / Take Profit) และ Trailing Stop ช่วยให้จัดการคำสั่งได้หลากหลาย อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายพร้อมกราฟจาก TradingView ซึ่งมีอินดิเคเตอร์และเครื่องมือวิเคราะห์ครบถ้วน ผู้ใช้สามารถเปิดหลายแท็บดูตลาดต่าง ๆ และติดตามออร์เดอร์บุ๊ก ประวัติการเทรด และกำไร/ขาดทุนแบบเรียลไทม์

แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายใน Exmo

สำหรับมือใหม่ EXMO มีโหมด “Quick Exchange” ให้ซื้อหรือขายคริปโตในคลิกเดียวตามราคาตลาดตอนนั้น ค่าธรรมเนียมอาจสูงขึ้นเล็กน้อย (ราว 1%) แต่ได้ความสะดวกและรวดเร็ว มือใหม่หลายคนเริ่มต้นแบบนี้ก่อนพัฒนาทักษะและย้ายไปใช้เทอร์มินัลเต็มรูปแบบเพื่อประหยัดค่าธรรมเนียมและได้ราคาดีกว่า

แพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตใน Exmo

ผู้เทรดระดับสูงสามารถใช้บริการมาร์จิ้นเทรดของ EXMO โดยมี EXMO Margin อยู่ในโดเมนแยก (margin.exmo.com) ให้เลเวอเรจสูงสุด 1:10 คู่เทรดที่รองรับส่วนใหญ่เป็นคู่หลัก (เช่น BTC/USD, ETH/USD) ใช้มาร์จิ้นแบบ isolated จำกัดการขาดทุนให้ไม่เกินเงินค้ำแต่ละดีล ต้องยืนยันตัวตน (KYC) ให้ครบเพื่อเข้าถึง ส่วนค่าธรรมเนียมมาร์จิ้น: ฝั่ง Maker 0% และ Taker 0.05% ซึ่งค่อนข้างถูก และไม่มีค่าถือโพซิชันรายวัน (swap) เหมือนแพลตฟอร์มฟิวเจอร์สบางแห่ง เลเวอเรจ 10x ถือว่าอยู่ในระดับปานกลางและไม่เสี่ยงเกินไป

แพลตฟอร์มมาร์จิ้นใน Exmo

นอกจากนี้ EXMO ยังให้บริการอื่น ๆ ได้แก่:

  • EXMO Earn – โปรแกรมรับดอกเบี้ยคล้ายสเตกกิ้ง/ฝากเงิน ผู้ใช้สามารถฝากเหรียญหรือ Stablecoin เพื่อลุ้นรับดอกเบี้ย เช่น อาจเคยมีโปรให้ดอกเบี้ยสูงถึง 15% สำหรับ USDT/USDC แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขตลาดและข้อบังคับในบางประเทศ
  • OTC Desk – สำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่ที่ไม่อยากกระทบราคาในตลาดกลาง EXMO มีบริการ OTC ช่วยให้นักลงทุนรายใหญ่เทรดปริมาณมาก (เช่น $100k ขึ้นไป) โดยตรง
  • Crypto Bundles – ตัวเลือกซื้อเหรียญหลาย ๆ ตัวพร้อมกันเป็น “พอร์ต” เช่น “Top-10 Crypto” เพื่อกระจายความเสี่ยง เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่อยากถือหลายเหรียญแต่ไม่อยากจัดเอง
  • API และบอตเทรด – EXMO มี REST และ WebSocket API ทำให้เชื่อมต่อกับบอตเทรดหรือระบบภายนอกได้ เช่น Cryptorobotics, TradingView ฯลฯ สามารถตั้งอัลกอริทึมหรืออาร์บิทราจได้หลากหลาย
  • แอปมือถือ – มีใน Google Play และ App Store รวมทุกฟีเจอร์สำคัญทั้งการเทรด ฝาก/ถอน ติดตามพอร์ต ตั้งแจ้งเตือนราคา และแชตชุมชน เทรดเดอร์หลายคนรีวิวว่าแอปเสถียรและสะดวก เหมาะแก่การติดตามตลาดขณะเดินทาง

โดยสรุป EXMO มอบประสบการณ์เทรดที่ตอบโจทย์ทุกระดับ ตั้งแต่โหมดแลกเปลี่ยนทันทีสำหรับมือใหม่ ไปจนถึงเทอร์มินัลพร้อมฟีเจอร์สมบูรณ์สำหรับผู้มีประสบการณ์สูง มีทั้งเลเวอเรจ 1:10, API และบริการเสริม เช่น Earn/OTC ขาดเพียงอนุพันธ์ลักษณะฟิวเจอร์ส ซึ่งกระดานใหญ่อื่น ๆ มี แต่หากไม่ใช้อนุพันธ์ EXMO ถือว่าครบเครื่องทีเดียว



ค่าธรรมเนียมในการเทรดและเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

นโยบายค่าธรรมเนียมเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกกระดานเทรด EXMO คิดค่าธรรมเนียมตามประเภทคู่และปริมาณเทรด โดยเรตเริ่มต้นมีดังนี้:

  • คู่คริปโต–คริปโต: 0.10% สำหรับ Maker/Taker (บัญชีใหม่ยังไม่มีส่วนลด)
  • คู่คริปโต–Stablecoin (USDT): 0.20% (Maker/Taker)
  • คู่คริปโต–เฟียต: 0.30% (Maker/Taker)

ความแตกต่างระหว่าง Taker และ Maker ใน Exmo

เรตดังกล่าวใช้กับปริมาณเทรดต่อเดือนน้อยกว่า $100k เมื่อปริมาณเทรด 30 วันมากขึ้น ค่าธรรมเนียมจะลดลง เช่น เกิน $1 ล้านอาจเหลือ ~0.08%, เกิน $50 ล้านอาจเหลือ 0% สำหรับ Maker (ในคู่คริปโต-คริปโต) และ 0.02% สำหรับ Taker สอดคล้องกับแนวทางหลายกระดานเทรดใหญ่ที่ให้ส่วนลดลูกค้าวีไอพี

EXMO ยังมีระบบแพ็กเกจพรีเมียมจ่ายเป็นโทเค็น EXMO Coin (EXM) เพื่อรับส่วนลดค่าธรรมเนียมทันทีไม่ต้องรอปริมาณเทรด โดยมี 4 ระดับ:

  • Basic ($1/เดือน) – ลดเหลือประมาณ 0.095% (Maker) / 0.10% (Taker)
  • Standard ($10/เดือน) – ราว 0.055% / 0.075%
  • Advanced ($100/เดือน) – ราว 0.04% / 0.06%
  • Professional ($500/เดือน) – ราว 0% / 0.05%

การซื้อแพ็กเกจเหมาะกับคนที่เทรดปริมาณปานกลางและอยากได้ส่วนลดมากทันที ไม่ต้องปั๊มวอลุ่ม อย่างเช่น เทรด ~$50k/เดือน จ่ายแค่ $10 ซื้อ Standard ก็ลดค่าธรรมเนียมรวมได้คุ้มค่า แต่ก็ต้องรับความผันผวนของ EXM ด้วย

ลองเปรียบเทียบค่าธรรมเนียม EXMO กับกระดานอื่น:

กระดานเทรด ค่าธรรมเนียมเทรด (Spot) จุดเด่นด้านค่าธรรมเนียม
EXMO 0.1% (คริปโต–คริปโต)
0.2% (คริปโต–USDT)
0.3% (คริปโต–เฟียต)
อาจลดเหลือ 0% เมื่อวอลุ่มสูง
หรือซื้อแพ็กเกจ EXM ลดทันที
Binance 0.1% (Maker/Taker) มาตรฐาน ลดเหลือ 0.075% หากจ่ายด้วย BNB
บางคู่ (BTC/TUSD) โปร 0%
Kraken 0.16% (Maker) / 0.26% (Taker) สำหรับผู้ใช้ใหม่ ลดได้ถึง 0.0%/0.1% เมื่อเทรดเกิน $10M
มีโครงสร้างแยกค่าธรรมเนียมคู่ Stablecoin/FX
Coinbase ~0.4% / 0.6% (Coinbase Pro/Advanced) หากซื้อขายแบบด่วน ค่าธรรมเนียมสูงถึง 1%+
ไม่มีโครงสร้างส่วนลดตามวอลุ่ม
KuCoin 0.1% (Maker/Taker) ลด 20% หากใช้ KCS จ่ายค่าธรรมเนียม
หลายระดับ VIP โดยวอลุ่มสูง อาจเหลือ 0%/0.05%

หมายเหตุ: เป็นค่าธรรมเนียมสปอตทั่วไป อาจไม่รวมระดับ VIP ทั้งหมด ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์กระดานเทรด

โดยรวมค่าธรรมเนียมสปอตของ EXMO ถือว่าแข่งขันได้ เทียบเท่า Binance กับ KuCoin (0.1%) และถูกกว่า Kraken หรือ Coinbase ในหลายกรณี เพียงแต่การเทรดคู่เฟียตกับคริปโตเริ่มที่ 0.3% ซึ่งสูงกว่า Binance ที่ ~0.1% สำหรับการเทรด USD (แปลงเป็น BUSD) อย่างไรก็ดี หากซื้อแพ็กเกจพรีเมียมหรือวอลุ่มมาก ค่าธรรมเนียมก็อาจลดลงต่ำกว่ากระดานรายใหญ่บางแห่ง

ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เช่น ฝาก/ถอนเงินเฟียตหรือค่ามาร์จิ้นก็มีผลเปรียบเทียบได้ Binance, Kraken อาจมีค่าธรรมเนียมโอน SEPA/SWIFT ถูกกว่า (Kraken ถอนไปบัญชี EUR อาจ ~€0–1 ส่วน EXMO บางครั้งอาจ €25) แต่ Binance อาจคิดสเปรดสูงขึ้นหากใช้ P2P หรือบัตรเครดิต (สูงถึง 2–3%) ขณะที่ EXMO แสดงอัตราแลกเปลี่ยนแบบตรงไปตรงมา ส่วน EXMO Margin คิด Taker 0.05% ซึ่งใกล้เคียง Binance Futures (0.04%/0.06%) และถูกกว่า Kraken Futures (0.02%/0.05% + swap) การไม่มีค่าถือโพซิชันช่วยประหยัดในระยะยาว

สรุปแล้ว EXMO มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่น่าสนใจและไม่แพงเกินไป โดยมีทางเลือกลดต้นทุนทั้งการเพิ่มวอลุ่มและซื้อแพ็กเกจ จึงไม่ควรเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับผู้ใช้ที่กำลังพิจารณาแพลตฟอร์มนี้

ความนิยมของกระดานเทรด ปริมาณ และสภาพคล่อง

ในแง่ความนิยม เรามักพิจารณาจากปริมาณเทรดและฐานผู้ใช้ EXMO มีปริมาณสปอตรายวัน ~ $30–70 ล้าน (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาด) อย่างช่วงกุมภาพันธ์ 2025 ก็ราว ~$70.8 ล้าน ส่งผลให้ EXMO อยู่ในกลุ่มท็อป 50 ของโลกด้านปริมาณเทรด เมื่อเทียบกับกระดานยักษ์อย่าง Binance (~$10 พันล้านต่อวัน), Coinbase (~$1–2 พันล้าน), Kraken (~$1–1.5 พันล้าน) จะเห็นว่าสภาพคล่องของ EXMO ยังต่ำกว่าชัดเจน

ก่อนหน้านี้ EXMO โด่งดังในตลาดยุโรปตะวันออกและ CIS ครั้งหนึ่ง (ช่วง 2018–2019) ถูกเรียกว่าเป็นกระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคด้วยผู้ใช้งาน 1.5 ล้านราย และมียอดเทรดต่อเดือนเกิน $1.5 พันล้าน ปัจจุบันฐานผู้ใช้ยังคงเติบโต แต่มีบางช่วงชะลอตัว การยุติให้บริการในรัสเซียและประเทศใกล้เคียงปี 2022 ทำให้ผู้ใช้บางส่วนหายไป (EXMO ระบุว่าขายบัญชี ~1 ล้านให้ผู้ดำเนินการอิสระดูแลภายใต้โดเมน EXMO.me) แม้กระนั้น ส่วนที่เหลือก็ยังกระจายอยู่ทั่วโลกทั้งยุโรป เอเชีย และละตินอเมริกา จึงคงมียอดผู้ใช้เกิน 1 ล้านราย ทั้งนี้มีผู้เทรดจริงต่อเดือนราว 4,000 ราย ซึ่งไม่เยอะนักเมื่อเทียบกับผู้นำตลาด

จำนวนผู้ใช้งานใน Exmo Exchange

สภาพคล่องของ EXMO ส่วนมากกระจุกตัวที่คู่เฟียต-คริปโต โดยเฉพาะ BTC/USD, BTC/EUR, ETH/USD, XRP/USD ส่วนคู่ที่เกี่ยวกับสกุลเงินท้องถิ่น เช่น UAH (ยูเครน) หรือ TRY (ตุรกี) ก็มีปริมาณพอตัว เพราะ EXMO เป็นหนึ่งในทางเลือกหลักในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเหล่านี้ อย่าง BTC/UAH ก็ได้รับความนิยมมากในยูเครน ขณะที่ในตุรกีก็ใช้ TRY ฝาก-ถอนง่าย

ความนิยมของ EXMO ขึ้นอยู่กับแนวโน้มตลาดโลกด้วย ช่วงกระทิงปี 2017 และ 2021 มีผู้ใช้หลั่งไหลเข้ามาเยอะ สวนทางกับช่วงตลาดหมีปี 2018 และ 2022 ที่กิจกรรมลดลง แต่ EXMO ก็ยังคงอยู่ได้ ผ่านการปรับตัว (ย้ายบางส่วนจาก UK ไปลิทัวเนีย/โปแลนด์หลัง Brexit) และเพิ่มบริการใหม่ (Margin, Earn) อีกทั้งยังมีโครงการการกุศล (EXMO Save Ukraine) เพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับชุมชน

ด้านชื่อเสียง EXMO ถูกจัดว่าเป็นกระดานไซส์กลางที่ค่อนข้างไว้ใจได้ สื่อและรายงานอุตสาหกรรมมองว่ามีความโปร่งใส พอมีระบบภายในป้องกันการปั่นราคาแต่ยังต้องระวังสภาพคล่องที่ไม่สูง บางครั้งราคาบน EXMO ต่างจากตลาดโลก (เช่น เคยมีเหตุ BTC บน EXMO สูงกว่าที่อื่นหลายพันดอลลาร์ในปี 2022 จากอุปสงค์ท้องถิ่น) ฟอรัมบางแห่งสงสัยว่าอาจมีบอตมาช่วยเพิ่มวอลุ่ม (ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกในวงการ) แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน

สรุป EXMO ยังมีการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป มุ่งเน้นจุดขายเรื่องการเป็น “ทางเข้า” สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสกุลเงินท้องถิ่นเป็นคริปโตหรือกลับกัน สภาพคล่องเพียงพอสำหรับนักเทรดรายย่อย แต่ผู้เล่นรายใหญ่ระดับสถาบันอาจต้องใช้ OTC Desk หรือมองหากระดานที่มีปริมาณเยอะกว่า อย่างไรก็ดี EXMO ยังคงมีชื่อในด้านความน่าเชื่อถือและการให้บริการที่เป็นธรรม ผู้ใช้หลายคนเก็บ EXMO เป็นตัวเลือกรอง หากกระดานหลักมีปัญหา



ความคิดเห็นจากผู้ใช้จริง (Trustpilot, ฟอรัม, โซเชียลมีเดีย)

การประเมินใด ๆ หากขาดเสียงของผู้ใช้จริงก็ไม่สมบูรณ์ ความเห็นเกี่ยวกับ EXMO ค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งพึงพอใจและวิจารณ์ เราจะสรุปเทรนด์หลัก ๆ จาก Trustpilot ฟอรัมคริปโต และโซเชียลมีเดีย (เช่น Reddit, Bitcointalk)

บน Trustpilot เรตติ้ง EXMO อยู่ที่ประมาณ 2.3 จาก 5 ดาว ซึ่งค่อนข้างต่ำ สะท้อนว่ามีรีวิวเชิงลบพอสมควร ประเด็นที่เจอบ่อย:

  • ถอนเงินและยืนยันตัวตน: บางคนบ่นว่าถอนเงินไม่ได้ ถูก “อายัด” ไว้เพราะระบบขอเอกสารเพิ่ม เช่น พิสูจน์แหล่งที่มาเงิน อย่างกรณีหนึ่งที่มีการถอน ~100 BTC ใช้เวลาตรวจสอบนานถึง 6 เดือน บางเสียงบอกว่าเป็นการปฏิบัติตามกฎ AML ส่วนใหญ่ยอมรับว่ากระดานเทรดมีสิทธิ์ตรวจสอบ แต่ก็ทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจที่ล่าช้า
  • ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า: ผู้ใช้บางคนบอกว่าได้อีเมลตอบแบบหุ่นยนต์ ไม่มีการพูดคุยสด จึงแก้ปัญหาไม่ทันใจ อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้บางคนชมว่าซัพพอร์ตช่วยแก้ปัญหาซับซ้อนให้เรียบร้อย อาจแล้วแต่ช่วงเวลาและปริมาณเคส
  • ค่าธรรมเนียมแฝง / เรทแลกเปลี่ยน: บางคนใช้โหมด Quick Buy แล้วได้เหรียญน้อยกว่าคาด เพราะมีสเปรด ~1% ซึ่งอาจไม่ชัดเจนสำหรับมือใหม่ EXMO ยืนยันว่าไม่ใช่ค่าธรรมเนียมซ่อน แต่เป็นส่วนต่างราคา (spread) สำหรับการเทรดทันที
  • ปัญหาเทคนิค: มีรายงานว่าบางครั้ง SMS 2FA ไม่มา หรือเว็บไซต์ล่มในช่วงที่ราคาพุ่ง แต่เกิดไม่บ่อย และพบในทุกกระดานใหญ่ ใน EXMO ถือเป็นบางเหตุการณ์เฉพาะแต่ก็มีผู้ใช้แชร์ประสบการณ์

ส่วนด้านบวก ก็มีไม่น้อยเช่นกัน:

  • ใช้งานง่าย: หลายคนชมว่า UI เรียบง่าย เข้าใจได้เร็ว เหมาะมือใหม่ เทียบกับบางกระดานเช่น Binance ที่ฟีเจอร์เยอะจนงง
  • ธุรกรรมเร็ว: บางคนระบุว่าถอนเงินเฟียตเข้า Visa ได้ในไม่กี่นาที หรือซัพพอร์ตอนุมัติยอดใหญ่ภายในชั่วโมงหลังส่งเอกสาร จัดว่ารวดเร็วเมื่อเทียบกับบางกระดาน
  • รองรับสกุลเงินท้องถิ่น: มีผู้ใช้หลายประเทศขอบคุณ EXMO ที่รับเงินสกุลของตน (UAH, TRY, KZT เป็นต้น) ทำให้การแลกคริปโตสะดวกขึ้น
  • ความเชื่อถือได้: แม้มีเสียงว่าตรวจสอบถอนเข้มงวด แต่ผู้ใช้จำนวนไม่น้อยมองว่า EXMO โปร่งใสและทำงานตามกฎ “ไม่เคยหนี ไม่เคยปิด” ใน Reddit บางกระทู้มีคนยืนยันว่าใช้มาหลายปีไม่เจอปัญหา

ตัวอย่างคอมเมนต์:

  • Trustpilot, 2023, 2★: “การยืนยันตัวตนโหดมาก พอฉันจะถอนถึงขอหลักฐานแหล่งเงินเพิ่มหลังใช้งาน 3 ปี! ถอนค้างอยู่ เสียความรู้สึก” – ผู้ใช้ไม่พอใจที่ถูกตรวจสอบหลังไม่มีปัญหามานาน
  • Trustpilot, 2023, 4★: “เหมาะกับการใช้งานพื้นฐาน UI ดี ซัพพอร์ตตอบภายใน 1 วัน แต่บางทีแอปมือถือแลกบ้าง อยากให้ปรับปรุง” – ชมรวม ๆ แต่มีจุดเล็กน้อย
  • Reddit (/r/Bitcoin), 2022: “EXMO เป็นกระดานขนาดเล็ก สภาพคล่องไม่เยอะ ราคาห่างบ้าง แต่ไม่ใช่สแกม อยู่มานานแล้ว ไม่มีปัญหาร้ายแรง”
  • Bits.Media forum, 2021: “ผมใช้ EXMO แลกคริปโตเป็นรูเบิลมา 2 ปี ไม่มีปัญหา ค่าธรรมเนียมสูงไปหน่อยแต่สะดวกดี ยืนยันตัวตนตั้งแต่แรกก็ถอนตลอดปกติ” – ความเห็นผู้ใช้รัสเซียก่อน EXMO หยุดบริการ

คะแนน EXMO บน Trustpilot โดยรวมราว 3.4 เทียบกับ Binance (1.4), ByBit (3.1), KuCoin (1.4)

สรุปแล้ว เสียงผู้ใช้ EXMO มีทั้งชมและตำหนิ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเป็นไปในระดับปกติของกระดาน CEX ที่มักเจอปัญหา KYC, การถอนล่าช้า, ค่าธรรมเนียมพิเศษ หรือระบบขัดข้องเป็นบางครั้ง หลายกรณี EXMO มีตัวแทนไปตอบรีวิว Trustpilot เสนอทางออก แสดงถึงความพยายามพัฒนา ผู้ใช้มือใหม่แนะนำให้ศึกษากฎ KYC และค่าธรรมเนียมล่วงหน้า จะช่วยลดปัญหาและมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น

การประเมินและรีวิวจากผู้เชี่ยวชาญ

สื่อวงการคริปโตและเว็บวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้คะแนน EXMO ในเชิงบวก เน้นว่าปลอดภัยและใช้งานง่าย แต่ก็มีจุดจำกัดด้านปริมาณเทรดและขอบเขตการให้บริการ

BitDegree ซึ่งเป็นแหล่งให้ความรู้ด้านบล็อกเชน ได้รีวิว EXMO ในมุมรักษาความปลอดภัยหลายชั้น ไม่ว่าจะการเก็บ 99% ของสินทรัพย์ในกระเป๋าเย็น ผ่าน Ledger Vault และมีประกันวงเงิน $150 ล้าน ตลอดจนระบบป้องกันฟิชชิ่งและการยืนยันตัวตน พวกเขาย้ำว่า EXMO “ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสากลและ AML/KYC อย่างเข้มงวด” และยังใช้ Hexagate เพื่อตรวจสอบธุรกรรม Earn ทำให้ผู้เชี่ยวชาญมองว่า EXMO ตั้งใจปกป้องเงินทุนลูกค้าอย่างจริงจัง

Cryptowisser ให้คะแนน 3.8/5 แก่ EXMO ชื่นชมค่าธรรมเนียมเทรดต่ำและความง่ายในการใช้งาน ส่วนข้อเสียคือไม่เปิดให้บริการในสหรัฐฯ ขณะที่ CryptoCompare ให้ 4/5 ระบุว่า “มีชื่อเสียงแข็งแกร่งในยุโรปตะวันออก” และช่องทางฝากเงินหลากหลาย ทั้งยังพูดถึงเหตุแฮ็กปี 2020 แต่ EXMO แก้ไขและชดเชยทันที

ด้าน CER.live (Crypto Exchange Ranks) ปี 2023 จัดระดับความปลอดภัย EXMO ไว้กลาง ๆ (CC) สาเหตุหลักเพราะยังไม่มีรายงานการทดสอบเจาะระบบแบบสาธารณะ และโปรแกรม Bug Bounty ยังไม่เข้มเทียบผู้นำ แต่ก็ให้เครดิตที่ไม่เคยเกิดเหตุผู้ใช้เสียเงินโดยไม่ชดเชย และแสดงข้อมูลโปร่งใส

CoinDesk มอง EXMO ในเชิงบวกจากการตัดสินใจหยุดให้บริการตลาดรัสเซียปี 2022 เพื่อตอบรับข้อบังคับและคว่ำบาตร แม้ท้ายสุดจะไม่ได้ใบอนุญาต FCA แบบสมบูรณ์ แต่ก็เป็นสัญญาณว่าบริษัทพยายามเข้าสู่ตลาดที่กำกับเข้ม อย่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ซึ่งหลายแพลตฟอร์มมักเลี่ยงเนื่องจากต้นทุนสูง

ในปี 2019 PAID Strategies เคยเปรียบเทียบกระบวนการ KYC ของกระดานเทรด 25 แห่ง ชี้ว่า EXMO เปิดบัญชีได้ง่ายและรวดเร็ว แต่ก็แย้งว่า “เปิดให้เทรดง่ายเกินไปก่อนยืนยันตัวตน” ซึ่งดูเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัย อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน EXMO ปรับระบบให้ถอนเงินไม่ได้จนกว่าจะยืนยันตัวตน ช่วยลดปัญหาดังกล่าว

โดยรวม EXMO มักปรากฏในลิสต์ “กระดานเทรดใช้งานง่าย” หรือ “ทางเลือกฝากเงินเฟียตที่ดีที่สุด” โดยเฉพาะในสื่อรัสเซีย (Bits.Media, СCrypt) ก็ให้ EXMO อยู่ในกลุ่มท็อป 10 เพราะมีการดูแลลูกค้าดีและมั่นคง ในบางรีวิวภาษารัสเซีย (wellcrypto) ยังบอกว่า “กระดานไม่เคยทำให้ผู้ใช้สูญเงินจากการแฮ็ก” และ “ใส่ใจลูกค้า” สรุปภาพรวมคือ EXMO ได้รับคะแนนเชิงบวกด้านความเป็นมิตรต่อผู้ใช้และมาตรฐานความปลอดภัย แม้ไม่ได้ใหญ่เหมือนเจ้าตลาดก็ไม่มีสัญญาณหลอกลวง เปิดบริการมานาน มีมาตรการรักษาผู้ใช้ต่อเนื่อง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

EXMO ปลอดภัยไหม?
โดยรวม EXMO ถือว่ามีมาตรการป้องกันที่ดี จัดเก็บ 95–99% ของสินทรัพย์ในกระเป๋าเย็นแบบ multisig ใช้ 2FA กันบัญชี และมีโค้ดป้องกันฟิชชิ่ง หลังเหตุโจมตีในปี 2020 กระดานได้ทำประกันเงินคริปโตสูงถึง $150 ล้าน ซึ่งช่วยเสริมความมั่นใจแก่ผู้ใช้ อย่างไรก็ดี คุณควรตั้งค่าป้องกันบัญชีส่วนตัวด้วย เช่น ใช้รหัสผ่านแข็งแรงและหลีกเลี่ยงลิงก์สุ่ม EXMO ไม่เคยเกิดเหตุผู้ใช้สูญเงินโดยไม่ชดเชย (เช่น ปิดเว็บหนี) ทำให้ยังได้รับความเชื่อถือระดับหนึ่ง

ผู้อยู่อาศัยในสหรัฐฯ ใช้ EXMO ได้หรือไม่?
ไม่ได้ ขณะนี้ EXMO ไม่เปิดให้พลเมืองหรือผู้อยู่อาศัยในสหรัฐฯ ใช้งาน เช่นเดียวกับสหราชอาณาจักร แคนาดา ญี่ปุ่น และบางประเทศที่มีกฎเข้ม EXMO ยังไม่มีใบอนุญาตในประเทศเหล่านี้ จึงเลือกให้บริการในสหภาพยุโรป CIS (ยกเว้นรัสเซีย เบลารุส) และบางประเทศในเอเชีย/ละตินอเมริกา ควรตรวจสอบหน้า FAQ ของ EXMO เพื่อเช็กว่าประเทศคุณรองรับหรือไม่ ผู้อยู่อาศัยในสหรัฐฯ ที่ยืนยันตัวตนจะถูกปฏิเสธ

EXMO มีบริการมาร์จิ้นเทรดหรือไม่?
มี EXMO ให้บริการมาร์จิ้นเทรดที่เลเวอเรจสูงสุด 1:10 แยกไว้บนแพลตฟอร์ม EXMO Margin เชื่อมต่อกับบัญชีหลัก การเทรดมาร์จิ้นคือการกู้ยืมเพื่อเปิดโพซิชันใหญ่ขึ้น เช่น ถ้ามี 100 USDT อาจเทรดได้ 1,000 USDT ที่เลเวอเรจ 10x ใช้มาร์จิ้นแบบ isolated เฉพาะคู่หลักอย่าง BTC/USD, ETH/USD เป็นต้น ค่าธรรมเนียมมาร์จิ้น: Maker 0%, Taker ~0.05% ไม่มีค่าถือโพซิชัน นอกจากนี้ EXMO ยังไม่มีฟิวเจอร์สหรือสว็อปถาวร จึงเป็นมาร์จิ้นเทรดแบบคลาสสิก

EXMO Coin (EXM) คืออะไร?
EXM เป็นโทเค็นเนทีฟของกระดาน เปิดตัวในปี 2019 ตามมาตรฐาน ERC-20 ใช้เป็นโทเค็นยูทิลิตี้ภายในแพลตฟอร์ม ประโยชน์หลักได้แก่:

  • ส่วนลดค่าธรรมเนียม — หากถือ EXM คุณสามารถซื้อแพ็กเกจ Premium มาลดค่าคอมมิชชั่นลงถึง 0%
  • เข้าร่วมโปร Earn และโปรโมชั่น — บางผลิตภัณฑ์ (เช่น ดอกเบี้ยสูงขึ้น หรือแคมเปญ “แลกเศษคริปโตเป็น EXM”) ต้องมี EXM ในบัญชี
  • สเตกกิ้ง/ลงทุน — ถือ EXM ไว้ก็อาจได้รับผลตอบแทนเป็นระยะ ๆ EXMO มีการซื้อคืน (Buyback) และเผาโทเค็นทุกไตรมาสเพื่อลดซัพพลาย ช่วยพยุงราคาในระยะยาว

เปรียบได้กับโทเค็นกระดานอื่น ๆ (BNB, KCS) ที่เป็นระบบสมาชิก-สะสมแต้ม ใครเทรดเยอะอาจได้ประโยชน์มากจาก EXM แต่ไม่มีข้อบังคับให้ใช้

ค่าธรรมเนียม EXMO เป็นอย่างไร และลดได้อย่างไร?
ผู้ใช้ใหม่เทรดสปอตบน EXMO ค่าธรรมเนียมเริ่มต้น 0.1% สำหรับคู่คริปโต-คริปโต และ 0.3% หากเทรดกับสกุลเงินเฟียต ค่าธรรมเนียมจะหักจากเหรียญที่ขายหรือสกุลเงินที่รับ ฝากคริปโตฟรี (จ่ายแค่ค่าธรรมเนียมเครือข่าย) ถอนคริปโตมีค่าส่งเน็ตเวิร์กตามปกติ ส่วนฝากเฟียตหลายช่องทางฟรีหรือคิดน้อย และถอนเฟียตมีค่าธรรมเนียมต่างกัน (ดูรายละเอียดในหัวข้อฝาก/ถอน) วิธีลดค่าธรรมเนียมมี 2 ทาง:

  1. เพิ่มปริมาณเทรดรายเดือน – EXMO มีระดับ VIP ลดค่าธรรมเนียมตามมูลค่าการเทรด 30 วัน (เช่น $100k, $1M, $10M เป็นต้น) ซึ่งถ้าสูงมาก (เช่น >$50M) อาจได้เรตผู้ทำรายการ (Maker) แทบ 0%
  2. ซื้อแพ็กเกจ EXMO Premium – จ่ายเป็น EXM ได้ส่วนลดทันทีระยะ 30 วัน มีหลายแพ็ก: Basic, Standard, Advanced, Professional (ตั้งแต่ $1 ถึง $500) ลดค่าธรรมเนียมเหลือ 0% สำหรับ Maker ได้ในแพ็กสูง เหมาะกับคนเทรดเยอะที่ไม่ถึงระดับ VIP

ดังนั้น EXMO มีค่าธรรมเนียมเริ่มต้นต่ำอยู่แล้ว และยังลดเพิ่มได้หลายวิธี อาจมีโปรคืนค่าธรรมเนียม (Cashback) เป็นระยะ รวมถึงโบนัสชวนเพื่อน (Referrals) สูงสุด 70% สำหรับผู้ถือ EXM เรียกได้ว่าค่อนข้างคุ้มสำหรับผู้ที่ใช้แพลตฟอร์มประจำ

ภาพรวมโปรแกรมพันธมิตร Exmo

บทสรุป

การประเมิน EXMO ตามเกณฑ์หลัก

EXMO เป็นกระดานซื้อขายคริปโตที่ครบเครื่อง ทั้งใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่ มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์เทรดเดอร์ระดับสูง และมีความน่าเชื่อถือในระดับดี ประกอบกับชื่อเสียงที่สั่งสมมาตั้งแต่ปี 2014 (โดยไม่เคยปิดหนีหรือปล่อยให้ผู้ใช้เสียหายจนแก้ไขไม่ได้) และบทบาทการเป็นผู้นำในตลาดยุโรปตะวันออกก่อนขยับสู่เวทีโลกด้วยความโปร่งใส หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่ฝากถอนเงินเฟียตสะดวก ค่าธรรมเนียมไม่แพง และมีมาตรฐานปลอดภัย EXMO ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในการพิจารณา



การเทรดคริปโตเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ข้อมูลชี้ว่า 70–90% ของเทรดเดอร์สูญเสียเงินลงทุนเมื่อเทรดด้วยมาร์จิ้น การทำกำไรอย่างต่อเนื่องต้องอาศัยความรู้เฉพาะ ทางที่ดีควรศึกษาวิธีการทำงานของเครื่องมือเหล่านี้อย่างถ่องแท้ และเตรียมพร้อมรับความสูญเสียทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น อย่าเสี่ยงใช้เงินที่หากสูญเสียไปจะกระทบต่อการดำรงชีวิตของคุณ
Igor Lementov
Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com


บทความที่อาจช่วยคุณได้
บทวิจารณ์และความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด: 0
avatar