หน้าหลัก ข่าวไซต์
Exmo Exchange: คู่มือเทรดคริปโตฉบับสมบูรณ์

Exmo Exchange: คู่มือการเทรดคริปโตแบบเจาะลึกบนแพลตฟอร์มนี้ (2025)

โลกคริปโตคล้ายทะเลกว้างใหญ่ที่มีแพลตฟอร์มใหม่ ๆ โผล่มาแทบทุกเดือน ทุกเจ้าโฆษณาว่าตัวเองมีฟีเจอร์โดดเด่น แต่แพลตฟอร์มไหนที่เหมาะกับเราจริง ๆ ? สำหรับผู้ใช้หลายคน Exmo กลายเป็นตัวเลือกที่น่าจับตา เพราะว่าระบบเรียบง่าย ปลอดภัย พร้อมฟังก์ชันที่ครบ แต่แท้จริงแล้วยังมีอะไรอีก? และผู้ใช้ที่เข้าใช้งานทุกวันเขาบอกว่าเป็นอย่างไร?

บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จัก Exmo แบบทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการสมัคร เงื่อนไขการเทรด ค่าธรรมเนียม มีคริปโตอะไรบ้าง และใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มได้อย่างไร เราจะเจาะลึกประเด็นที่เทรดเดอร์ต้องใส่ใจ ตั้งแต่ถอนเงินจนถึงการปกป้องทรัพย์สิน หวังว่าคุณจะได้คำตอบสำหรับคำถามที่ค้างคาใจ

ทุกวันนี้ คริปโตไม่ใช่เรื่องสำหรับคนสายเทคหรือสายการเงินอย่างเดียวแล้ว แต่มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ ถ้าคุณอยากรู้เรื่อง Exmo มากกว่าแค่นิยาม แต่เป็นการนำไปใช้งานได้จริง คุณมาถูกที่แล้ว เราจะพาคุณดูว่าแพลตฟอร์มนี้มีจุดไหนน่าสนใจ และทำไมหลายคนถึงเลือกใช้ Exmo เป็นช่องทางเทรดประจำกัน



สารบัญ

Exmo คืออะไร? และทำงานอย่างไรในตลาดคริปโต

ศูนย์แลกเปลี่ยน Exmo เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2014 สร้างชื่อจากอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรและมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ไว้ใจได้ ทีมพัฒนาของแพลตฟอร์มให้ความสำคัญทั้งในส่วนของผู้ใช้หน้าใหม่และเทรดเดอร์ที่ชำนาญแล้ว

เว็บไซต์ทางการของ Exmo Exchange

จุดเด่นหลักของ Exmo

  • สินทรัพย์หลากหลาย: มีคู่เทรดกว่า 160 คู่ และรองรับคริปโตมากกว่า 50 เหรียญ รวมถึง BTC, ETH, XRP ตอบโจทย์ทั้งมือใหม่และผู้ที่มองหาเหรียญแปลกใหม่
  • รองรับเงิน Fiat: เทรดด้วยสกุลเงิน USD, EUR, RUB, UAH ลดภาระในการแลกเงิน และประหยัดค่าธรรมเนียม
  • แอปมือถือ: สั่งการเทรดและตรวจสอบยอดได้ทุกที่ผ่านสมาร์ทโฟน

Exmo ทำงานอย่างไร?

Exmo ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางที่รวบรวมผู้ซื้อและผู้ขายคริปโต คุณสามารถตั้งออร์เดอร์ซื้อขายได้ตามราคาที่ต้องการ หากมีผู้ใช้อีกฝั่งมาตรงกัน การซื้อขายก็จะดำเนินการทันที ด้านความปลอดภัย แพลตฟอร์มมีการเก็บเหรียญไว้ใน Cold Wallet ถึง 95% และรองรับการยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) ช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยยิ่งขึ้น

ทำไมต้องเลือก Exmo?

  • ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซเป็นมิตรต่อผู้ใช้ ไม่ซับซ้อน
  • ค่าธรรมเนียมโปร่งใส: ค่าธรรมเนียมแข่งขันได้ เหมาะกับการลงทุนระยะยาว
  • ความปลอดภัย: ใช้ Cold Wallet และ 2FA ปกป้องสินทรัพย์
  • ฟีเจอร์เพิ่มเติม: เช่น Staking และโปรแกรมแนะนำเพื่อน สร้างรายได้พิเศษ

ค่าธรรมเนียมบน Exmo: เทรดและธุรกรรมมีค่าใช้จ่ายเท่าไร

โครงสร้างค่าธรรมเนียมเป็นเรื่องสำคัญที่เทรดเดอร์ต้องเข้าใจ เพราะมีผลโดยตรงต่อผลกำไร โดย Exmo ได้นำเสนอโครงสร้างที่ยืดหยุ่น สอดคล้องกับผู้ใช้หลายระดับ ยิ่งคุณเทรดมากเท่าไร ก็ยิ่งลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น

ค่าธรรมเนียมการเทรดบน Exmo

Exmo ใช้โมเดล Maker และ Taker แบบเดียวกับศูนย์แลกเปลี่ยนหลัก ๆ หากคุณสงสัย Maker/Taker คืออะไร มาดูกันคร่าว ๆ:

  • Maker Fee: ค่าธรรมเนียมเมื่อคุณตั้ง Limit Order ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง (Liquidity) ให้ตลาด เหมาะกับคนที่เน้นราคาซื้อ/ขายที่ต้องการ
  • Taker Fee: ค่าธรรมเนียมเมื่อคุณตั้ง Market Order ซื้อ/ขายทันที ดึงสภาพคล่องออกจากตลาด เหมาะกับคนที่เน้นความเร็ว

ความแตกต่างระหว่าง Taker และ Maker ใน Exmo

เรตค่าธรรมเนียมจะปรับลดตามปริมาณเทรดในรอบ 30 วัน หากคุณเพิ่งเริ่มเทรด (เทรดไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ต่อเดือน) มักเจออัตรา:

  • Quick Trades: เหมาจ่าย 1% ต่อธุรกรรม
  • Advanced Trading และ Spot API: 0.1% ในการเทรด Crypto-to-Crypto และ 0.3% ในการเทรด Crypto-to-Fiat
  • Margin Trading: ค่าธรรมเนียม 0% สำหรับ Maker และ 0.05% สำหรับ Taker

สำหรับเทรดเดอร์ที่มีปริมาณเทรดเยอะ สามารถลดค่าธรรมเนียมได้ด้วย EXMO Premium หรือการถือโทเคน EXM เพื่อรับส่วนลด

ค่าธรรมเนียมฝาก-ถอน

ฝาก-ถอนคริปโตส่วนใหญ่ไม่คิดค่าธรรมเนียม แต่คุณต้องเสีย Network fee ตามเครือข่ายบล็อกเชน เช่น BTC หรือ ETH ส่วนการใช้เงิน Fiat จะต่างกันออกไปตามวิธีและสกุลเงินที่เลือก เช่น:

  • AdvCash: ฝาก/ถอน RUB มีค่าธรรมเนียม 1.49% สะดวกสำหรับผู้ที่ใช้รูเบิล
  • SEPA: ฝาก EUR ค่าธรรมเนียมต่ำ ส่วนถอนต้องดูเงื่อนไขของธนาคารที่รองรับ

Exmo แสดงข้อมูลค่าธรรมเนียมปัจจุบันอย่างชัดเจนในเมนู Wallet เพื่อความโปร่งใสในการวางแผนค่าใช้จ่าย

ความปลอดภัยบน Exmo: แพลตฟอร์มปกป้องผู้ใช้อย่างไร?

โลกคริปโตไม่ใช่แค่โอกาส แต่ยังซ่อนความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไว้ Exmo เข้าใจเรื่องนี้ดี จึงมีมาตรการหลายชั้นในการคุ้มครองบัญชีผู้ใช้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างและมีประสิทธิภาพแค่ไหน

การเก็บสินทรัพย์: Hot Wallet และ Cold Wallet

  • Hot Wallet: เก็บสินทรัพย์เพียง 5% เพื่อรองรับธุรกรรมได้เร็ว พร้อมเฝ้าระวัง 24/7 และป้องกันหลายชั้น
  • Cold Wallet: เก็บ 95% ของสินทรัพย์ไว้ในออฟไลน์ ลดโอกาสถูกแฮก เหมือนคลังเก็บเงินหลักเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

Two-Factor Authentication (2FA)

2FA เป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัย:

  • Google Authenticator: แอปยอดนิยม สร้างโค้ดใช้ครั้งเดียว (OTP) ยากต่อการเจาะ
  • SMS Code: สำหรับผู้ที่ชอบรับ OTP ผ่านมือถือ

เปิด 2FA แล้วแม้รหัสผ่านรั่ว ก็ยังมีชั้นป้องกันอีกขั้น

Exmo ป้องกันข้อมูลผู้ใช้อย่างไร?

  • Encryption: ข้อมูลทั้งหมดถูกเข้ารหัส เมื่อส่งข้ามเครือข่าย
  • Access Restriction: เฉพาะบุคลากรที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้

มั่นใจได้ว่าทั้งข้อมูลส่วนตัวและประวัติการทำธุรกรรมปลอดภัย

ฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติม

  • Trusted IP Address: จำกัดการเข้าใช้งานจาก IP ที่กำหนด
  • Anti-Fraud System: ระบบอัตโนมัติคอยตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัย เช่น การถอนเงินจำนวนมากอย่างผิดปกติ

ฟีเจอร์เหล่านี้ให้ผู้ใช้มีอิสระปรับตั้งค่าความปลอดภัยในระดับที่ต้องการ

รองรับเงิน Fiat บน Exmo: มีตัวเลือกอะไรบ้าง?

จุดแข็งอีกอย่างของ Exmo คือการรองรับสกุลเงิน Fiat ได้หลายสกุล เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำธุรกรรมในรูปแบบเงินทั่วไปได้ง่ายขึ้น แล้ว Exmo รองรับเงินสกุลใด และมีวิธีจัดการอย่างไร

สกุลเงิน Fiat ที่ Exmo รองรับ

แพลตฟอร์มให้คุณเลือกใช้งานได้หลายสกุล:

  • ดอลลาร์สหรัฐ (USD): สกุลเงินสากล สภาพคล่องสูง
  • ยูโร (EUR): ตัวเลือกยอดนิยมในยุโรป
  • รูเบิลรัสเซีย (RUB): หมุนเวียนมากในกลุ่มผู้ใช้ CIS
  • เทงเจ (KZT): สกุลเงินทางเลือกสำหรับผู้ใช้จากคาซัคสถานและภูมิภาคใกล้เคียง

Exmo เคยรองรับสกุลอื่น เช่น UAH, PLN, GBP แต่บางสกุลอาจถูกถอนออกในบางช่วง ต้องติดตามข่าวสารที่หน้าเว็บ

เทรดคู่ Fiat บน Exmo

Exmo ให้คุณเทรดคริปโตกับ Fiat ได้โดยตรง ตัวอย่างเช่น BTC/USD, ETH/EUR ช่วยลดกระบวนการแปลงเงินซ้ำซ้อน ประหยัดเวลาและค่าธรรมเนียม คุณสามารถ

  • แลก USD เป็น BTC ได้ทันที
  • เทรด ETH/EUR เหมาะกับยุโรป
  • จับคู่ RUB/BTC เอื้อกลุ่มประเทศ CIS

การรวมตลาด Fiat และคริปโตไว้ที่เดียวทำให้มือใหม่ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น

การฝาก-ถอนเงิน Fiat

  • บัตรธนาคาร (Visa/Mastercard): เงินเข้าทันที เหมาะกับการฝาก-ถอนยอดไม่สูงมาก
  • ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์: เช่น AdvCash, Payeer เร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ
  • การโอนผ่านธนาคาร (SEPA/SWIFT): เหมาะกับยอดใหญ่ แต่ต้องรอขั้นตอน 1–3 วันทำการ

แต่ละวิธีมีค่าธรรมเนียมต่างกัน ควรตรวจสอบล่วงหน้าก่อนทำธุรกรรม

Exmo มีคริปโตและคู่เทรดอะไรให้ใช้งานบ้าง?

ความหลากหลายของสินทรัพย์เป็นหนึ่งในปัจจัยดึงดูดให้เทรดเดอร์เข้าใช้งาน Exmo นับว่าใส่ใจจุดนี้พอตัว เพราะมีคริปโตหลากหลายรูปแบบ ทั้งเหรียญหลัก เหรียญรอง และโทเคนที่กำลังมาแรง

รายชื่อคริปโตที่รองรับบน Exmo

Exmo โฟกัสสินทรัพย์ชั้นนำและเหรียญยอดนิยมกว่า 50 สกุล เช่น:

  • Bitcoin (BTC): เจ้าใหญ่วงการคริปโต เหมือนทองคำดิจิทัล
  • Ethereum (ETH): แพลตฟอร์มสร้างสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)
  • Ripple (XRP): เทคโนโลยีเพื่อโอนเงินข้ามประเทศรวดเร็ว
  • Litecoin (LTC): เหมือน Bitcoin แต่ทำธุรกรรมได้เร็วกว่า
  • Dogecoin (DOGE): เริ่มจากมีม แต่กลายเป็นเหรียญจริงจังได้เพราะคอมมูนิตี้
  • Monero (XMR): เหรียญสายปกปิดตัวตน
  • Cardano (ADA): โครงการเน้นความปลอดภัยและการขยายตัว
  • Polkadot (DOT): เครือข่ายเชื่อมบล็อกเชนหลาย ๆ เจ้าเข้าด้วยกัน

สินทรัพย์หลากหลายใน Exmo

แพลตฟอร์มยังอัปเดตเพิ่มเหรียญใหม่เป็นระยะ ตามเทรนด์และความนิยมของตลาด

คู่เทรดบน Exmo

Exmo เสนอคู่เทรดมากกว่า 180 คู่ ทั้งคริปโตด้วยกันเอง และคริปโตกับ Fiat เหมาะกับกลยุทธ์ที่หลากหลาย เช่น:

  • BTC/USD: คู่ที่นิยมที่สุด
  • ETH/EUR: คู่นี้เหมาะสำหรับโซนยุโรป
  • XRP/RUB: ตอบโจทย์กลุ่มประเทศ CIS
  • LTC/USDT: เหมาะกับคนไม่อยากเจอความผันผวน USD
  • ADA/BTC: สายเก็งกำไรหรือปั้นพอร์ตหลายเหรียญ

แพลตฟอร์มติดตามเทรนด์ตลาดตลอด หากเหรียญไหนมาแรงหรือกำลังเป็นที่สนใจ ก็มีโอกาสถูกลิสต์เพิ่ม



วิธีสมัคร Exmo: คู่มือเบื้องต้นอย่างง่าย

การเปิดบัญชีบน Exmo เป็นขั้นตอนแรกในการเข้าสู่โลกคริปโต ซึ่งค่อนข้างง่ายแต่ต้องกรอกข้อมูลละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต เราจะอธิบายทีละสเต็ปให้พร้อมเพื่อความสะดวก

ขั้นตอนที่ 1: เข้าสู่เว็บไซต์ทางการ Exmo

เปิดเบราว์เซอร์แล้วพิมพ์ exmo.com หากคุณอยู่ในรัสเซีย อาจใช้ exmo.me ระวังโดเมนปลอม ตรวจสอบสัญลักษณ์แผ่นแม่กุญแจ (SSL Certificate) ข้าง URL

ขั้นตอนที่ 2: เริ่มการสมัคร

คลิกปุ่ม “Sign Up” หรือ “Register” ตรงมุมขวาบนของหน้าเว็บไซต์ เพื่อนำไปสู่หน้ากรอกข้อมูล

ขั้นตอนที่ 3: กรอกฟอร์มข้อมูล

  • Username: ตั้งชื่อที่จำได้ง่าย แต่อย่าธรรมดาเกิน เช่น “myAccount01”
  • Email: ใส่อีเมลที่ใช้งานประจำ เนื่องจากต้องรับลิงก์ยืนยัน
  • Password: ตั้งแบบคาดเดายาก เช่น “AbCd!@#123” แทน “123456”

แบบฟอร์มลงทะเบียนบัญชีใหม่ใน Exmo

อ่านเงื่อนไขการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัว ใส่เครื่องหมายยอมรับ หากต้องการรับข่าวอัปเดตจาก Exmo ก็สามารถติ๊กได้

ขั้นตอนที่ 4: ยืนยัน CAPTCHA

ระบบจะให้คุณกรอก CAPTCHA เพื่อยืนยันว่าคุณไม่ใช่บอท เป็นขั้นตอนมาตรฐานในการป้องกันการสมัครปลอม

ขั้นตอนที่ 5: ยืนยันการสมัคร

คลิก “Sign Up” ระบบจะส่งอีเมลยืนยันไปยังกล่องขาเข้า ถ้าไม่เจอใน Inbox ให้ดูใน Spam จากนั้นกดลิงก์ยืนยันการสมัคร

ขั้นตอนที่ 6: เข้าสู่ระบบ

เมื่อยืนยันแล้ว กลับไปที่หน้าเว็บ กดปุ่ม “Log In” ใส่ Username และ Password พร้อมเริ่มใช้บัญชีได้เลย

เคล็ดลับความปลอดภัย

  • เปิด 2FA: ใช้ Google Authenticator หรือแอปบนมือถือ เพื่อป้องกันอีกชั้น
  • รหัสผ่านไม่ซ้ำ: อย่าใช้รหัสเดียวกับเว็บอื่น
  • อัปเดตข้อมูลติดต่อ: เพื่อรับรหัสกู้คืนบัญชีหากมีปัญหา

การยืนยันตัวตน (KYC) บน Exmo: ทำไมสำคัญและขั้นตอนเป็นอย่างไร

กระบวนการยืนยันตัวตนบน Exmo ไม่ใช่แค่ข้อบังคับตามกฎหมาย แต่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้คุณเอง และเปิดใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น ฝาก-ถอนเงิน Fiat อย่างอิสระ มาดูว่ามีขั้นตอนอย่างไร

ทำไมต้องยืนยันตัวตนบน Exmo?

มาตรการ KYC (Know Your Customer) และ AML (Anti-Money Laundering) กำหนดให้ศูนย์แลกเปลี่ยนต้องตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ เพื่อ:

  • ป้องกันการฟอกเงินและอาชญากรรม
  • เปิดให้ฝาก-ถอนและเทรดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • เชื่อมต่อกับช่องทางการชำระเงินบางอย่าง

ขั้นตอนยืนยันตัวตน Exmo

  1. เข้าสู่ระบบ: ไปที่เมนู “Account Verification”
  2. เลือก “Identity Verification”: กรอกข้อมูลพื้นฐาน ชื่อ วันเกิด ที่อยู่
  3. เลือกเอกสาร: ใช้พาสปอร์ต บัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือเอกสารอื่นที่ยอมรับได้
  4. อัปโหลดรูป: ภาพถ่ายหรือสแกน ต้องเห็นชัด ขอบเอกสารครบ
  5. ถ่ายรูปเซลฟี่คู่เอกสาร: เพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าของจริง
  6. ส่งเรื่องตรวจสอบ: โดยปกติใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง

การยืนยันบัญชีซื้อขาย Exmo

เคล็ดลับยืนยันให้ผ่านง่าย

  • ใช้เอกสารที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษหรือภาษาที่ยอมรับได้
  • รูปคมชัด ไม่มีแสงสะท้อนหรือมุมเบี้ยว
  • ไฟล์ต้องไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป (500 KB–5 MB)

การฝาก-ถอนเงินบน Exmo: จัดการเงินได้สะดวกอย่างไร

การจัดการเงินเป็นเรื่องสำคัญของเทรดเดอร์ Exmo จึงพยายามทำให้การฝาก-ถอนเงินเป็นเรื่องสะดวก ตอบสนองความต้องการของทั้งผู้เล่นหน้าใหม่และมือโปร

วิธีฝากเงินบน Exmo

  • บัตรธนาคาร: รองรับ Visa/Mastercard สำหรับ USD, EUR และ RUB รวดเร็ว ใช้งานได้ทันที แต่ต้องยืนยันตัวตนก่อน
  • ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์: เช่น AdvCash, Payeer ฝากเงินได้ฉับไว ค่าธรรมเนียมต่ำ
  • โอนผ่านธนาคาร (SEPA/SWIFT): เหมาะสำหรับยอดใหญ่ ใช้เวลาหลายวันทำการ
  • ฝากคริปโต: โอนจาก Wallet ภายนอก เช่น BTC, ETH โดยมี Network Fee

วิธีถอนเงินบน Exmo

  • บัตรธนาคาร: เงินเข้าบัตร Visa/Mastercard ในสกุล USD/EUR
  • e-Wallet: AdvCash, Payeer ดำเนินการเร็ว
  • โอนผ่านธนาคาร: SEPA/SWIFT สำหรับยอดใหญ่ แต่ต้องรอ
  • ถอนเป็นคริปโต: ส่งออกไปยัง Wallet ภายนอก รวดเร็วและสะดวก

ค่าธรรมเนียมและวงเงิน

Exmo ไม่คิดค่าธรรมเนียมฝากคริปโต แต่ต้องเสีย Network Fee อ้างอิงสถานะบล็อกเชน เช่น:

  • BTC: 0.0009 BTC
  • ETH: 0.003 ETH
  • USDT (TRC20): 0.9 USDT

สำหรับ Fiat ค่าธรรมเนียมต่างกันไป เช่น การถอนผ่าน AdvCash อาจมีค่า ~1–2% สามารถตรวจสอบในเมนู “Wallet”

ความเร็วในการดำเนินการ

  • คริปโต: 10–60 นาที ขึ้นกับความหนาแน่นของเครือข่าย
  • ธนาคาร (SEPA/SWIFT): 1–5 วันทำการ
  • e-Wallet และบัตร: เกือบจะเรียลไทม์ มีดีเลย์บ้างในบางครั้ง


ความสามารถของแพลตฟอร์ม Exmo ในการเทรด

Exmo เต็มไปด้วยเครื่องมือที่ช่วยให้เทรดเดอร์ทุกระดับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่มือใหม่ที่ต้องการความเรียบง่าย จนถึงมืออาชีพที่ต้องการเครื่องมือหลากหลาย มาดูว่ามีอะไรบ้าง

อินเทอร์เฟซเป็นมิตรต่อผู้ใช้

จุดขายหลักของ Exmo คือการออกแบบ UI ที่เรียบง่าย ไม่มีสิ่งรกสายตา หน้าเทรดสามารถปรับแต่งได้หลากหลาย รวมถึงโหมด Dark สำหรับการใช้งานกลางคืน ช่วยให้คุณโฟกัสกับการเทรดได้เต็มที่

แพลตฟอร์มการซื้อขายที่ใช้งานง่ายใน Exmo

เครื่องมือเทรดครบครัน

Exmo รองรับคู่เทรดกว่า 200 คู่ ครอบคลุมเหรียญยอดฮิตไปจนถึงโปรเจกต์ Altcoins ที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบกระจายความเสี่ยง หรือชอบเล่นเหรียญรอง

Exmo เสนอคู่สกุลเงินมากกว่า 100 คู่

โหมดการเทรดที่หลากหลาย

  • Quick Trades: เหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการเทรดทันที ไม่สนใจเครื่องมือเสริม
  • Advanced Trades: มีกราฟและเครื่องมือวิเคราะห์เทคนิค (Technical Indicators) สำหรับสายวิเคราะห์
  • Margin Trading: เลเวอเรจสูงสุด 5x สำหรับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงมากขึ้นเพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้น

รองรับ Fiat

Exmo รองรับสกุลเงินหลักอย่าง USD, EUR และ RUB เหมาะกับคนที่ต้องการฝาก-ถอนเงินทั่วไปโดยตรง ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนหลายทอด

แอปมือถือ

Exmo มีแอปสำหรับ iOS และ Android ให้คุณเทรด จัดการพอร์ต และวิเคราะห์กราฟผ่านมือถือได้ทุกที่ แอปเน้นความเรียบง่าย คล้ายกับหน้าเว็บ และมีการแจ้งเตือนราคา Realtime

ฟีเจอร์เสริม

  • OTC Trading: ทำธุรกรรมปริมาณมากแบบส่วนตัว
  • EXMO Coin (EXM): โทเคนประจำแพลตฟอร์ม ส่วนลดค่าธรรมเนียมและสิทธิพิเศษอื่น ๆ
  • Referral Program: สร้างรายได้เพิ่มจากการแนะนำคนมาใช้

เทรด Spot และ Margin บน Exmo: วิธีใช้งาน

บน Exmo คุณสามารถเทรดได้ 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ Spot และ Margin แต่ละแบบมีจุดเด่นและความเสี่ยงไม่เหมือนกัน เราจะมาทำความเข้าใจให้ชัดเจน เพื่อเทรดได้อย่างมั่นใจ

Spot Trading คืออะไร?

Spot Trading คือการซื้อขายคริปโตแล้วได้เหรียญจริงมาเลย หากคุณซื้อ BTC/USD จำนวน 1 BTC คุณก็เป็นเจ้าของ BTC นั้นทันที เหมาะกับคนที่เน้นการถือครอง หรือเทรดแบบไม่เร่งรีบ โดย Exmo รองรับทั้ง Market Order (ซื้อตามราคาตลาด) และ Limit Order (ตั้งราคาที่คุณต้องการ)

แพลตฟอร์มการซื้อขายคริปโตใน Exmo

Margin Trading: โอกาสมากขึ้น แต่เสี่ยงขึ้น

Margin Trading คือการยืมเงินเพิ่มเพื่อเปิดออเดอร์ที่ใหญ่กว่าทุนจริง ใน Exmo คุณสามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 5 เท่า แม้จะช่วยเร่งผลกำไร แต่ก็เพิ่มโอกาสขาดทุนเช่นกัน ก่อนเปิดออเดอร์ควรเรียนรู้ Stop Loss และการบริหารความเสี่ยง (Risk Management)

ขั้นตอนการเทรด Margin บน Exmo:

  1. สมัครสมาชิกและยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย
  2. ฝากเงินเข้า Spot Wallet จากนั้นโอนไปยัง Margin Wallet
  3. เลือกคู่เทรด (เช่น BTC/USD) ตั้งค่าเลเวอเรจ
  4. กำหนดคำสั่งซื้อ/ขายตามที่วิเคราะห์

Tips: เลเวอเรจสูงแค่ไหนก็ได้ แต่ต้องมั่นใจว่าคุณจะไม่ใช้เงินทั้งหมดไปเสี่ยงในโพซิชั่นเดียว

ข้อควรระวังในการเทรด Margin

  • ใช้ Stop Orders: เพื่อลดการขาดทุนหากตลาดตีกลับแรง
  • อย่าเทหมดหน้าตัก: ควรเหลือเงินสำรองไว้บ้าง
  • เผื่อความผันผวน: ตลาดคริปโตสามารถแกว่งหนักในเวลาสั้น ๆ

Spot และ Margin Trading บน Exmo ช่วยให้คุณเลือกสไตล์การเทรดได้หลากหลาย แต่สำคัญคือคุณต้องรู้จักวางแผน และปฏิบัติตามวินัยของตัวเองเสมอ

จุดเด่นการเทรด OTC บน Exmo

การเทรด OTC (Over-the-Counter) บน Exmo ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การซื้อขายคริปโตมูลค่าสูงเป็นพิเศษ โดยไม่ต้องผ่านกระดานเทรดสาธารณะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการธุรกรรมตั้งแต่ $50,000 ขึ้นไป

ข้อดีของ OTC บน Exmo

  • ดูแลส่วนตัว: แต่ละดีลมีผู้จัดการประจำคอยช่วยตั้งแต่เริ่มจนจบ สร้างความอุ่นใจ ลดปัญหาความซับซ้อน
  • เรตถูกล็อกล่วงหน้า: ป้องกันความผันผวนระหว่างดีล เหมาะกับการซื้อ-ขายมูลค่ามหาศาลที่ต้องการความแน่นอน
  • ความเป็นส่วนตัวสูง: ธุรกรรมไม่แสดงบน Order Book สาธารณะ
  • ช่องทางชำระเงินหลากหลาย: รองรับทั้งโอนผ่านธนาคาร, Visa/Mastercard ทำให้ปรับตามความต้องการได้

วิธีเข้าถึงบริการ OTC บน Exmo

  1. ส่งคำขอ: กรอกแบบฟอร์มในหน้า OTC ของ Exmo ระบุยอดและรายละเอียดเบื้องต้น
  2. ติดต่อผู้จัดการ: เมื่อส่งคำขอแล้ว ผู้จัดการโครงการจะติดต่อกลับเพื่อคุยเงื่อนไขราคาและรายละเอียด
  3. ทำดีล: เมื่อตกลงราคากันเรียบร้อย การซื้อขายก็จะถูกดำเนินการในเรตที่กำหนด ตั้งแต่ต้นจนจบดีลจะถูกติดตามอย่างใกล้ชิด

ใครบ้างที่เหมาะกับ OTC

  • นักลงทุนสถาบัน ที่ต้องการทำธุรกรรมคริปโตมูลค่าสูง
  • บริษัทที่ต้องการซื้อหรือขายคริปโตในปริมาณมาก
  • บุคคลทั่วไปที่ถือเงินก้อนใหญ่ในคริปโตและต้องการความเป็นส่วนตัว

Staking บน Exmo: วิธีสร้างรายได้แบบพาสซีฟด้วยคริปโต

Staking กลายเป็นแนวทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการสร้างผลตอบแทนจากการถือครองคริปโต โดยเฉพาะผู้ที่ไม่อยากเทรดอย่างจริงจัง Exmo เองก็มีฟีเจอร์ Earn ให้ใช้งาน ลองมาดูหลักการและวิธีเริ่มต้น

Staking คืออะไร?

การ Staking คือการนำเหรียญไปล็อกไว้เพื่อช่วยเหลือการดำเนินงานของบล็อกเชน และรับผลตอบแทนเป็นเหรียญ (เหมือนดอกเบี้ย) หากเปรียบเทียบกับการฝากธนาคาร ในโลกคริปโต การ Staking ยังมีส่วนช่วยให้เครือข่ายมีเสถียรภาพด้วย

โปรแกรม Earn บน Exmo

Exmo มีโปรแกรม Earn ที่ให้คุณ Staking เหรียญหลัก เช่น BTC, ETH, USDT, USDC และ DAI ผ่าน DeFi Protocol อย่าง Gearbox Protocol, Aave, Compound ซึ่งน่าเชื่อถือและให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ

วิธีเริ่ม Staking บน Exmo

  1. ฝากเงิน: โอนคริปโตที่ต้องการสเตกเข้าสู่บัญชี
  2. เลือกโครงการ: ไปที่หน้าหมวด Earn เลือกเหรียญและระยะเวลาที่ต้องการ (30, 60, 90, หรือ 180 วัน)
  3. รอรับผลตอบแทน: เมื่อครบกำหนด เหรียญและผลตอบแทนจะถูกโอนเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ

ถ้าคุณวางแผนถือระยะยาว สามารถเปิดใช้งาน Auto-Renew ได้ เพื่อรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง

รับโบนัสเพิ่มเติมด้วย EXMO Coin (EXM)

หากคุณถือ EXMO Coin (EXM) ในบัญชี อาจได้โบนัส APR เพิ่มขึ้น ทำให้รายรับจากการ Staking สูงขึ้น เหมาะกับคนที่ใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นประจำ

EXM Token: สิทธิประโยชน์ที่ผู้ใช้ Exmo จะได้รับ

EXMO Coin (EXM) คือโทเคน ERC-20 ของศูนย์แลกเปลี่ยน Exmo ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับสิทธิประโยชน์และประสบการณ์เทรดที่ดีขึ้น ลองมาดูว่ามันให้อะไรบ้าง

ลดค่าธรรมเนียมการเทรด

ข้อได้เปรียบหลักของ EXM คือช่วยลดค่าธรรมเนียมการเทรด เมื่อคุณถือ EXM ตามจำนวนที่กำหนด บางครั้งถึงขั้นเทรดฟรีได้ เหมาะกับคนที่ทำธุรกรรมหลายครั้งต่อวัน (High-Frequency Trader) เพราะผลประหยัดค่าธรรมเนียมจะเห็นชัด

เพิ่มผลตอบแทนจาก Referral Program

หากคุณเป็นสมาชิก Referral Program แล้วถือ EXM จะได้รับค่าคอมมิชชั่นพิเศษจากการเทรดของเพื่อนที่เชิญมา โดยเฉพาะคู่เทรดที่ใช้ EXM ทำให้โปรแกรมชวนเพื่อนสนุกขึ้นและกำไรมากขึ้น

โหวตเหรียญใหม่

ผู้ถือ EXM สามารถร่วมโหวตว่าควรลิสต์เหรียญอะไรใหม่บน Exmo เรียกได้ว่ามีส่วนร่วมกำหนดทิศทางของแพลตฟอร์ม เป็นการสร้างคอมมิวนิตี้ที่เข้มแข็งขึ้น

เข้าถึงเหรียญใหม่ก่อน

เมื่อมีเหรียญใหม่ลิสต์บน Exmo บางครั้งจะให้เทรดได้ในคู่ที่จับกับ EXM ก่อน 2–3 วัน ผู้ถือ EXM จึงมีโอกาสได้ลองเหรียญใหม่ก่อนผู้อื่น เหมาะกับสายลงทุนที่ชอบตามหาโปรเจกต์น่าสนใจตั้งแต่เนิ่น ๆ



เทียบ Exmo กับศูนย์แลกเปลี่ยนคริปโตอื่น ๆ

การเลือกศูนย์แลกเปลี่ยนที่ใช่ต้องดูปัจจัยหลายอย่าง ในตลาดมีแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ หลายเจ้า เช่น Binance, Bybit, KuCoin, และ OKX เรามาดูว่า Exmo ดีหรือเป็นรองในจุดไหนบ้าง

จำนวนคริปโตที่รองรับ

สำหรับคนที่อยากเลือกเทรดเหรียญหลายประเภท:

  • Exmo: 186 คู่เทรด สายชอบเรียบง่าย เน้นเหรียญสำคัญ
  • Binance: 396+ คู่ สำหรับสายขยายพอร์ตหรือมองหาโครงการเกิดใหม่
  • Bybit: 250+ สายโฟกัสคอยน์หลัก มีระบบเทรดสัญญาที่โดดเด่น
  • KuCoin: 300+ เหรียญ เน้น Altcoin ที่น่าสนใจ
  • OKX: 601+ คู่เทรด เยอะที่สุด เหมาะกับคนที่ต้องการหลายตัวเลือก

จำนวนผู้ใช้

จำนวนผู้ใช้อาจบอกถึงความเชื่อถือได้:

  • Exmo: ผู้ใช้ ~3 ล้านราย นิยมในกลุ่ม CIS
  • Binance: 70 ล้าน+ ทั่วโลก ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม
  • Bybit: 59 ล้าน+ ลูกค้า ด้วย UX ที่ใช้ง่าย
  • KuCoin: 30 ล้าน+ นิยมมากในเอเชีย
  • OKX: 20–30 ล้าน เน้นความปลอดภัยและฟีเจอร์อัดแน่น

จำนวนผู้ใช้งานใน Exmo Exchange

ค่าธรรมเนียม

  • Exmo: เริ่มที่ 0.1% โปร่งใส เข้าใจง่าย
  • Binance: 0.1% (ใช้ BNB ลดเพิ่มได้)
  • Bybit: 0.1% สายสัญญา (Futures) ก็ไม่น้อยหน้า
  • KuCoin: 0.1% (ถ้ามี KCS ลดได้อีก)
  • OKX: 0.08% สำหรับ Maker ถูกมากสำหรับสายเทรดถี่

ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย

  • Exmo: เริ่มตั้งแต่ปี 2014 มีออฟฟิศใน UK, มอสโก, เคียฟ โฟกัสโซน CIS มาพร้อมมาตรการความปลอดภัยเชื่อถือได้
  • Binance: ก่อตั้ง 2017 ใหญ่และเป็นผู้นำ แต่เคยเจอปัญหาทางกฎระเบียบบ้างในบางประเทศ
  • Bybit: ก่อตั้ง 2018 เด่นเรื่อง Margin Futures
  • KuCoin: เริ่ม 2017 โด่งดังจากการลิสต์เหรียญ Altcoin สายแปลก
  • OKX: เก่าแก่ตั้งแต่ 2013 ให้บริการครอบคลุมและปลอดภัย
พารามิเตอร์ Exmo Binance Bybit KuCoin OKX
จำนวนเหรียญ 186+ 396+ 250+ 300+ 601+
จำนวนผู้ใช้ 3M 70M+ 59M+ 30M+ 20–30M
ค่าธรรมเนียม 0.1% 0.1% (ลดเพิ่มถ้าใช้ BNB) 0.1% 0.1% (ลดเพิ่มหากถือ KCS) 0.1% (Maker 0.08%)
ปีที่ก่อตั้ง 2014 2017 2018 2017 2013

การเลือกศูนย์แลกเปลี่ยนเป็นเรื่องส่วนบุคคล ขึ้นกับเป้าหมาย ประสบการณ์ และความถนัดของผู้ใช้ ลองดูข้อดีของแต่ละเจ้าดังนี้:

  • Binance: เหมาะสำหรับคนชอบเหรียญเยอะ (396+ คู่) และฟีเจอร์เยอะ ไม่ว่าจะเป็น Futures, Staking, NFT เป็นต้น
  • Exmo: ออกแบบให้ใช้ง่าย เหมาะกับกลุ่ม CIS และมือใหม่ พร้อมรองรับ Fiat ได้ดี จุดเด่นคือเรียบง่าย
  • Bybit: เด่นเรื่องสัญญา Margin ดึงดูดทั้งมือใหม่และมือโปร ส่วนตัว UI ใช้ง่าย ฟีเจอร์น่าสนใจ
  • KuCoin: โดดเด่นเหรียญ Altcoins แปลกใหม่ เหมาะกับคนที่ตามหาเหรียญน่าสนใจช่วงเริ่มต้น
  • OKX: มีจำนวนคู่เทรดสูงสุด (601+) ค่าธรรมเนียม Maker ต่ำ (0.08%) เน้นมือโปรเทรดถี่

ถ้าต้องการความง่าย + Fiat Exmo อาจเป็นตัวเลือก แต่ถ้าอยากได้ฟีเจอร์หลายอย่างและเหรียญหลากหลาย อาจเลือก Binance หรือ OKX สรุปแล้วพิจารณาเรื่องพื้นที่ ค่าธรรมเนียม อินเทอร์เฟซ และเป้าหมายในการเทรดเป็นหลัก

โปรแกรมแนะนำเพื่อน (Referral) ของ Exmo: วิธีสร้างรายได้จากการเชิญเพื่อน

นอกจากเทรดคริปโตเพื่อทำกำไรแล้ว Exmo ยังเปิดโอกาสให้คุณสร้างรายได้จากการเชิญคนใหม่เข้ามาในแพลตฟอร์ม ผ่าน Referral Program ง่าย ๆ เพียงแชร์ประสบการณ์ ก็ได้รับค่าตอบแทน มาดูกันทำอย่างไร

ระบบ Referral ของ Exmo ทำงานอย่างไร?

  1. ลิงก์แนะนำเพื่อน: เมื่อสมัครแล้ว จะมีลิงก์เฉพาะให้ในเมนู “Referral Program”
  2. แชร์ลิงก์: ส่งให้เพื่อนหรือโพสต์บนโซเชียล บล็อก หรือฟอรัม ยิ่งมีคนคลิกลิงก์และสมัครมาก รายได้คุณก็ยิ่งสูง
  3. รับค่าคอมมิชชั่น: ทุกครั้งที่คนที่เชิญมาเทรดในแพลตฟอร์ม คุณจะได้ส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมที่เขาจ่าย

ภาพรวมโปรแกรมพันธมิตร Exmo

โครงสร้างรายได้

  • 25%: จากค่าธรรมเนียมของการเทรดทั่วไป
  • 40%: จากคู่เทรดที่เกี่ยวข้องกับ EXMO Coin (EXM)

ยิ่งเพื่อนเทรดเยอะ คอมมิชชั่นก็เยอะตาม เหมาะกับคนมีเพื่อนหรือผู้ติดตามที่สนใจเรื่องคริปโต

ข้อดีของ Referral Program ของ Exmo

  • ไม่มีจำกัดจำนวนคนเชิญ: ยิ่งเชิญได้มาก โอกาสทำเงินยิ่งสูง
  • สถิติแบบเรียลไทม์: ดูได้ว่าใครสมัครผ่านลิงก์และเทรดแค่ไหน
  • ยืดหยุ่นในการโปรโมต: อยากแชร์ลิงก์ในช่องทางใดก็ได้

เทคนิคหาผู้ใช้ใหม่

  • สร้างคอนเทนต์คุณภาพ: รีวิวหรือบทความที่ประโยชน์เกี่ยวกับ Exmo แนบลิงก์แนะนำ
  • ใช้โซเชียลมีเดีย: เล่าเรื่องประสบการณ์เทรดให้ผู้ติดตามฟัง
  • แบนเนอร์บนเว็บไซต์: ถ้ามีเว็บส่วนตัว ก็วางแบนเนอร์ลิงก์เอาไว้
  • ตอบคำถามบนฟอรัม: ให้ข้อมูลคนอื่น ช่วยให้เขาไว้ใจลิงก์ของคุณ

รีวิวจากผู้ใช้ Exmo: ประสบการณ์ตรงของเทรดเดอร์

Exmo ดึงดูดสายตาเทรดเดอร์ไว้เยอะ ด้วยภาพลักษณ์ใช้ง่ายและรองรับสกุลเงิน Fiat แต่ในโลกความเป็นจริงเป็นอย่างไร? เรารวมความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง และจะมาบอกต่อประสบการณ์ส่วนตัวของเราด้วย

รีวิวเชิงบวก

  • ใช้งานไม่ซับซ้อน: ส่วนใหญ่ชื่นชมว่า UI ดูเข้าใจง่าย ไม่ต้องใช้เวลาศึกษานาน
  • ธุรกรรมรวดเร็ว: การฝาก-ถอนมักผ่านไปไว เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทันสถานการณ์
  • ซัพพอร์ตเป็นมิตร: ทีมงานตอบคำถามได้ไวและสุภาพ

รีวิวเชิงลบ

  • ค่าธรรมเนียมสูง: มีเสียงบ่นว่า ฝาก-ถอนเงิน Fiat ค่าธรรมเนียมอาจแพงกว่าที่อื่น
  • ปัญหาด้านเทคนิค: บางครั้งมีการปิดระบบโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้คนที่เทรดแบบเรียลไทม์เสียโอกาส

ประสบการณ์ตรงของเราเอง

เราสมัคร Exmo ช่วงปี 2016–2018 และใช้เวลามามากพอจะมีมุมมองในหลายส่วน เดี๋ยวจะเล่าทั้งส่วนที่ชื่นชอบและส่วนที่เคยเกิดปัญหา เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน

ฝากเงินเพื่อเทรด

ต้นปี 2021 เคยโอน 30,000 ดอลลาร์ผ่าน USDT ซึ่งปกติธุรกรรม USDT จะเร็วมาก แต่ครั้งนั้นโดน “อายัดชั่วคราว” ทางฝ่ายสนับสนุนให้เหตุผลว่าตรวจพบ “สงสัย” ต้องขอหลักฐานแหล่งที่มาของเงิน ทำให้เรารู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่ทีมงานก็ซัพพอร์ตได้ดี เราอัปโหลดหลักฐานได้บางส่วน (เป็นรูป Screenshot ของการรับเงินจาก Affiliate) สุดท้ายเงินเข้าภายใน 1 ชั่วโมง

บทเรียน: หากโอนเงินก้อนโต อาจเจอการตรวจสอบ ควรเตรียมหลักฐานไว้ล่วงหน้า

Exmo Coin

เราเคยทดลองซื้อ EXM เพื่อลดค่าธรรมเนียมการเทรด แต่ไม่ค่อยรู้สึกว่าคุ้มค่าเท่าไรนัก แถมราคาของ EXM ยังผันผวน ใครที่อยากลอง ให้พิจารณาประโยชน์จริง ๆ ก่อน

ประสบการณ์เทรดโดยรวม

Exmo ยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักที่เราใช้ เพราะชอบอินเทอร์เฟซและการซัพพอร์ตที่ตอบเร็ว อย่างไรก็ตาม เคยเจอปัญหา Volume ที่น้อยทำให้บางคู่ถูกลบออก กะทันหัน เช่น WAVES/USDT แต่ยังมี WAVES/BTC ตกค้างฟังดูแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน

สรุปภาพรวม Exmo

Exmo เหมาะสำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่ ง่ายทั้ง UI และการช่วยเหลือจากฝ่ายสนับสนุน แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น อาจมีตรวจสอบเงินก้อนโต และตัวเลือกคู่เหรียญบางคู่ที่ถอดออกไป ควรศึกษาดี ๆ ก่อนใช้งานจริง หากรู้ข้อจำกัดแล้ววางแผนล่วงหน้า ก็สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น



บทวิจารณ์และความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด: 0
avatar