หน้าหลัก ข่าวไซต์
อนาคตออปชั่นไบนารี: จะปิดตัวจริงหรือ?
Updated: 06.05.2025

อนาคตของออปชั่นไบนารี: ออปชั่นไบนารีจะปิดตัวเร็ว ๆ นี้หรือไม่?

มีเทรดเดอร์จำนวนมากที่สงสัยมานานว่า อนาคตของออปชั่นไบนารีจะเป็นอย่างไร หลายคนเชื่อว่าออปชั่นไบนารีอาจถูกปิดตัวลงทั้งหมด ไม่ใช่แค่ในรัสเซียแต่รวมถึงในประเทศอื่น ๆ ด้วย

ในความเป็นจริง การพัฒนาออปชั่นไบนารีเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด แม้แต่มองเผิน ๆ ก็รู้ได้ไม่ยาก บทความนี้จะบอกคุณว่าควรคาดหวังอะไรจากออปชั่นไบนารีในอนาคตอันใกล้

ออปชั่นไบนารีจะปิดหรือไม่?

ไม่ ออปชั่นไบนารีจะไม่ปิดตัวลง ด้วยเหตุผลหลายประการ:
  • โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีจดทะเบียนในเขต Offshore
  • ธุรกิจนี้สร้างรายได้มหาศาล
  • การพัฒนาออปชั่นไบนารีก้าวเร็วกว่าอัตราการออกกฎหมายควบคุม
ลองมาดูกันละเอียดมากขึ้น

คุณคิดจริงหรือไม่ว่าที่โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีนิยมไปจดทะเบียนในไซปรัสหรือเซเชลส์ (เขต Offshore) เป็นเพราะบังเอิญ? แน่นอนว่าไม่ การจดทะเบียนในเขต Offshore ช่วยให้บริษัทลงทุนออปชั่นดิจิทัลเหล่านี้สามารถดำเนินกิจการได้โดยไม่แคร์กฎหมายของประเทศอื่นมากนัก

อนาคตของตัวเลือกไบนารี

แม้ในบางประเทศจะมีการห้ามโบรกเกอร์หรือออปชั่นไบนารี แต่นั่นเป็นการห้ามเพียงสำหรับประชาชนในประเทศนั้น ๆ ไม่ใช่ตัวบริษัทเสียเอง ตัวอย่างเช่น ในรัสเซียมีการห้ามคาสิโนออนไลน์มานานแล้ว แต่เราก็ยังเห็นโฆษณาคาสิโนออนไลน์บ่อยกว่าหน้าญาติพี่น้องเสียอีก หน่วยงานกำกับดูแลอาจจะพยายามบล็อก แต่เมื่อบล็อกไป ก็มีเว็บใหม่ ๆ โผล่ขึ้นมาแทนที่อยู่ดี

ยกตัวอย่างเว็บไซต์ทอร์เรนต์ที่ถูกบล็อก ซึ่งใคร ๆ ก็สามารถดาวน์โหลดเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ได้อย่างอิสระ ทั้ง ๆ ที่ผิดกฎหมาย หรืออย่างโซเชียลเน็ตเวิร์กบางแห่งที่เคยถูกบล็อก แต่ผู้ใช้ก็ยังคงใช้งานอยู่ดี เพราะมักมีทางเลี่ยงเสมอ

กลับมาที่โบรกเกอร์ของเรา เนื่องจากจดทะเบียน Offshore รัฐใด ๆ จึงไม่มีอำนาจมากพอที่จะ “สั่งปิด” บริษัท โดยตรงได้ ทำได้เพียงปกป้องพลเมืองของตนเองไม่ให้เข้าถึงได้ง่ายเท่านั้น ในอีกมุม ถ้าผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีใดมีหน่วยงานกำกับที่เคร่งครัด อย่าง CySEC ก็อาจถูกสั่งห้ามให้หยุดให้บริการในบางประเทศ เช่น กรณีของ IQ Option เคยถูกสั่งให้หยุดดำเนินงานในรัสเซียตามคำสั่ง CySEC ส่วน Olymp Trade นั้นออกไปด้วยเหตุผลอื่น แต่ก็อ้างหลักเกณฑ์คล้าย ๆ กัน

ในเรื่องผลกำไรของแพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีนั้นสูงมาก จึงไม่มีใครอยากปิด “ร้านค้า” ที่ทำเงินได้ง่าย ๆ หากเป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่แทบไม่มีคนเทรด อาจจะปิดตัวได้ แต่ไม่ใช่ทุกราย อย่างเช่น Intrade Bar ที่เคยมีลูกค้าน้อยมากนานถึง 2.5 ปี แต่ปัจจุบันก็เริ่มเติบโตและมีเทรดเดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มไปได้ดี ส่วนบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีลูกค้าหลายล้านคนต่อทั่วโลก ย่อมไม่มีเหตุผลให้หยุดทำธุรกิจ แถมยังต้องแย่งตลาด ขยายฐานลูกค้าอีก

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับหน่วยงานกำกับดูแล (Regulator) ของโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี ก็เป็นเรื่องตลกดี เพราะในขณะที่พยายามวางกฎเกณฑ์ควบคุม ผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีก็ออกผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ที่ “เลี่ยง” กฎเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ Regulators มักจะตามไม่ทัน

อย่างกรณี CFD ที่ไม่ใช่ออปชั่นไบนารีแบบเดิม แต่ใช้หลักการเทรดและการคำนวณกำไรต่างกัน จึงไม่เข้าเกณฑ์ “Up/Down” ของออปชั่นไบนารี จึงไม่โดนกฎหมายแบบเดียวกัน

การแข่งขันของโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีเพื่อความนิยม

ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา มีเทรนด์ชัดเจนว่าผู้ใดก็ตามที่สามารถรักษาและขยายฐานผู้ใช้งานได้มากที่สุดจะอยู่รอดในตลาด

การแข่งขันระหว่างโบรกเกอร์ตัวเลือกไบนารี

ช่วงปี 2014 มีแพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีมากกว่า 800 เจ้า ปัจจุบัน 90% ของพวกเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง เพราะช่วงนั้นตลาดออปชั่นไบนารีอยู่ในจุดพีค ทุกคนต่างพยายามเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งกำไร ทำให้เกิดโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีจำนวนมาก บ้างก็หลอกลวงหรือไม่ซื่อสัตย์

เราจะเห็นได้ว่าในยุคนั้น มีโบรกเกอร์ “One-day” เกิดขึ้นมาเพื่อรวบรวมเงินฝากของเทรดเดอร์แล้วปิดหนีในไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนเท่านั้น ส่วนผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีที่ซื่อสัตย์จริง ๆ นับนิ้วมือยังพอนับได้

พอเข้าปี 2016 เทรดเดอร์เริ่มระมัดระวังมากขึ้นก่อนจะเลือกโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี จึงส่งผลให้โบรกเกอร์ที่หลอกลวงถูกกรองออกไป เพราะขาดความเชื่อมั่นจนไม่มีใครอยากเปิดบัญชีด้วย และเมื่อไม่มีลูกค้า ก็ไม่มีรายได้

สุดท้าย เวลาช่วยคัดกรองผู้ให้บริการที่จริงใจกับผู้ให้บริการที่ฉ้อโกง เหลือแค่กลุ่มที่ยังคงได้รับความนิยมและมีลูกค้าจำนวนหนึ่ง โบรกเกอร์ที่อยู่รอดเข้าใจตรงกันว่า ผู้ที่ “รักษาฐานลูกค้าให้อยู่ได้ยาวนานและขยายจำนวนได้” จะเป็นผู้ชนะและได้รับผลกำไรสูง สิ่งที่ตามมาคือ:
  • หลายบริษัทลงทุนออปชั่นดิจิทัลเริ่มหันมาปฏิบัติต่อผู้ใช้งานอย่างโปร่งใสยิ่งขึ้น
  • อัตราการบล็อกบัญชีลูกค้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • การถอนเงินเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
  • มีประเภทออปชั่นหลากหลายมากขึ้น พร้อมอัตราผลตอบแทนที่ต่างกัน
  • แพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีได้รับการปรับปรุงให้มีเครื่องมือวิเคราะห์กราฟมากขึ้น (จากเดิมที่มีแค่กราฟเส้นและปุ่มกด 2 ปุ่ม)
  • ในบางกรณี เพิ่มอัตราผลตอบแทนของออปชั่นมาตรฐานเมื่อคาดการณ์ถูก
  • เริ่มมีการเพิ่มคริปโตเคอเรนซีให้เทรดได้
ยกตัวอย่างโบรกเกอร์ Intrade Bar:
  • ยกเลิกการยืนยันตัวตน (Verification) ทั้งหมด
  • ไม่มีโบนัสเงินฝากหรือโบนัสรูปแบบใด ๆ ทั้งสิ้น
  • ให้บริการถอนเงิน “ทันที” (ภายใน 10 นาทีหลังยื่นคำขอถอน)
  • ใช้กราฟของ TradingView เป็นแพลตฟอร์มเทรด (TradingView เป็นกราฟภายนอกที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งเทรดเดอร์ออปชั่นไบนารีและฟอเร็กซ์)
  • อัปเดตและพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตามคำขอของเทรดเดอร์บ่อยครั้ง
นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นชัดว่า Intrade Bar พยายามสร้างความน่าเชื่อถือให้เทรดเดอร์ และเทรดเดอร์ก็ไว้ใจและมาเทรดกันมากขึ้น แต่เพื่อไม่ให้ดูเหมือนเลือกแค่เคสเดียว มาดูตัวอย่างอีกเจ้าหนึ่ง

โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี Quotex:
  • ปรับปรุงแพลตฟอร์มการเทรด
  • เพิ่มเครื่องมือวิเคราะห์กราฟลงในแพลตฟอร์ม ทำให้วิเคราะห์ทางเทคนิคได้ทันที
  • มีอินดิเคเตอร์จำนวนมากสำหรับวิเคราะห์ทางเทคนิค
  • มีการอัปเดตกลยุทธ์เทรดใหม่ ๆ ให้ใช้งานได้ตรงบนแพลตฟอร์ม (บางกลยุทธ์อาจไม่ดีมาก แต่ก็มีส่วนที่น่าสนใจและได้ผลดี)
  • จ่ายเงินให้เทรดเดอร์ตรงเวลาและไม่ต้องยืนยันตัวตนสำหรับยอดถอนที่ไม่สูงมาก
  • จัดทัวร์นาเมนต์บนบัญชีเดโมเป็นประจำ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Quotex จึงเป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ซื้อขายออปชั่นไบนารีที่เทรดเดอร์เลือกใช้ เพราะมีชื่อเสียงดี และได้รับความไว้วางใจหลังดำเนินการอย่างมั่นคงมาแล้วหลายปี

อีกเจ้าหนึ่งที่โดดเด่นคือ Pocket Option:
  • ช่วงแรกมีจำนวนสินทรัพย์ให้เทรดมหาศาล โดยมีอัตราผลตอบแทนสูงถึง 96% เมื่อคาดการณ์ถูก (ปัจจุบันอาจมีการปรับลดบ้างบางส่วน)
  • มีฟังก์ชันคัดลอกการเทรด (Copy Trades) ของเทรดเดอร์คนอื่น
  • ระบบโบนัสค่อนข้างโดดเด่นและให้ผลตอบแทนดีมาก มีโบนัสสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม และสามารถแลกเป็น โบนัสเงินฝาก, สิทธิ์เทรดแบบไร้ความเสี่ยง, เพิ่มอัตราผลตอบแทน เป็นต้น
  • สามารถทดลองเทรดด้วยโบนัสแบบไม่ต้องฝากเงิน
  • มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากมาย รวมถึงคริปโตเคอเรนซี
สรุปแล้ว ทุกวันนี้โบรกเกอร์ต่างพยายามดึงดูดฐานลูกค้าให้ได้ด้วยเงื่อนไขการเทรดที่ดีกว่าคู่แข่ง บ้างก็ยกระดับความน่าเชื่อถือและปรับปรุงฟีเจอร์ตามคำเรียกร้อง บ้างก็อัปเกรดแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง หรือมอบโบนัสกับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของโบรกเกอร์ไบนารี่ออฟชั่น

สำหรับเราในฐานะเทรดเดอร์ สิ่งที่ได้รับคือการที่แพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารี “ไม่อยาก” เสี่ยงจะไม่จ่ายเงินเรา เพราะถ้าทำก็จะเสียชื่อเสียงและสูญเสียผู้ใช้งานไป นอกจากนี้ ผู้ให้บริการก็พยายามพัฒนาคุณสมบัติใหม่ ๆ มาตอบสนองความต้องการเรามากขึ้น แน่นอนว่าการแข่งขันยังคงเข้มข้น เราอาจจะได้เห็นอะไรใหม่ ๆ ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นในอนาคต

สมาร์ทคอนแทรคต์ในการเทรดออปชั่นไบนารี

การแข่งกันของโบรกเกอร์ตอนนี้รุนแรงมาก จนบางครั้งถ้าใครคิดอะไรใหม่ ๆ ที่แตกต่างและโดดเด่นจากตลาดได้ก่อน จะสร้างความน่าสนใจได้ทันที และยังเพิ่มความเชื่อถือได้หากโซลูชันนั้นมีความปลอดภัยและโปร่งใส ซึ่งอาจไม่ใช่ทุกเจ้าที่จะทำได้

ไม่นานมานี้มีบริษัทลงทุนออปชั่นดิจิทัลบางแห่งเปิดตัวรูปแบบการเทรดแบบ Trader vs. Trader ซึ่งแตกต่างจากคอนเซ็ปต์เดิมที่เป็น Trader vs. Broker อย่างมาก เพราะคอนเซ็ปต์เดิมคือ เทรดเดอร์เทรด “ชน” กับโบรกเกอร์ โดยผลกำไรจะมาจากการแพ้ชนะระหว่างเราและโบรกเกอร์

สัญญาอัจฉริยะในตัวเลือกไบนารี

แต่ในโมเดล “Trader vs Trader” โบรกเกอร์จะเป็นแค่ตัวกลางจัดการแพลตฟอร์ม และหักค่าคอมมิชชันจากทุกดีลที่เทรดเดอร์เปิด กล่าวคือ:
  • เทรดเดอร์ที่ขาดทุน (เทรดผิดทาง) จะเสียเงินให้เทรดเดอร์ที่เทรดถูกทาง
  • แพลตฟอร์มคิดค่าคอมมิชชันตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด โดยไม่สนใจว่าใครจะแพ้หรือชนะ
  • ผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีประเภทนี้จึงไม่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกับเทรดเดอร์ เพราะไม่ได้กำไรจาก “การขาดทุน” ของลูกค้า
แล้วจะทำอย่างไรให้รูปแบบนี้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น? ตรงนี้เองที่ทำให้เราเข้าสู่หัวข้อของ “สมาร์ทคอนแทรคต์”

“สมาร์ทคอนแทรคต์” คืออัลกอริทึมที่อนุญาตให้เทรดเดอร์เก็บเงินไว้ในวอลเล็ตของตัวเองโดยไม่ต้องโอนเข้าบัญชีโบรกเกอร์ เมื่อทำการเปิดออเดอร์:
  • เทรดเดอร์คาดการณ์ทิศทางราคาและลงเงินเดิมพัน
  • สมาร์ทคอนแทรคต์จะส่งคำสั่งไปยังวอลเล็ตของเทรดเดอร์เพื่อหักจำนวนเงินลงทุน
  • ถ้าดีลนั้นชนะ เงินจะถูกโอนกลับเข้าวอลเล็ตของเทรดเดอร์พร้อมกำไรทันที
  • ถ้าดีลนั้นแพ้ เงินจะถูกโอนให้ผู้ที่คาดการณ์ถูกหรือแพลตฟอร์ม (ขึ้นอยู่กับกติกา)
ในขณะนี้ มีเพียงโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีเดียวที่ให้บริการสมาร์ทคอนแทรคต์ในการเทรด คือ P2PTrade นับว่าเป็นก้าวใหม่ที่สำคัญมากสำหรับวงการออปชั่นไบนารี ข้อดีของสมาร์ทคอนแทรคต์มีดังนี้:
  • เงินของเราปลอดภัย 100% เพราะเก็บไว้ในวอลเล็ตส่วนตัว ยกเว้นเฉพาะเงินที่ใช้เปิดดีลปัจจุบัน
  • ความโปร่งใสสูง ทุกธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้จากระบบบล็อกเชนภายนอก
  • เพิ่มความเชื่อมั่นให้เทรดเดอร์ เพราะตัวแพลตฟอร์มไม่ได้ถือเงินลูกค้า
เมื่อตลาดเริ่มใช้งานสมาร์ทคอนแทรคต์ เทรดเดอร์ก็สบายใจ แพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีก็ได้ภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือมากขึ้น

กลับมาที่โบรกเกอร์ P2PTrade กันสักหน่อย ว่าคืออะไร และสมาร์ทคอนแทรคต์ทำงานอย่างไรบ้าง:
  • P2PTrade ทำงานบนสมาร์ทคอนแทรคต์ของคริปโต Ether (Ethereum) ดังนั้นการเทรดทั้งหมดจะต้องใช้ Ether
  • ใช้โมเดล “Trader vs Trader” หรือที่โบรกเกอร์เรียกว่า “Peer to Peer”
  • ไม่มีระบบ “ลงทะเบียน” บัญชี เพราะแค่เชื่อมต่อวอลเล็ตก็เทรดได้เลย
  • ไม่ต้องทำ KYC หรือยืนยันตัวตนใด ๆ ทั้งสิ้น
  • โบรกเกอร์ดึงราคา (Quotes) จากผู้ให้บริการข้อมูลรายใหญ่หลายเจ้า สามารถตรวจสอบความถูกต้องภายนอกได้
  • กำไรของเทรดเดอร์ที่คาดการณ์ถูกอาจสูงถึง 10,000% ของเงินลงทุน (เช่น ในกรณีคาดการณ์สวนกับฝั่งคนส่วนใหญ่)
  • โบรกเกอร์จะคิดค่าคอมมิชชัน 8% ของเงินลงทุนรวมในแต่ละดีล
  • สมาร์ทคอนแทรคต์จะหักเงินจากวอลเล็ตของเทรดเดอร์ทั้งหมดก่อนดีลเริ่ม
  • พอดีลจบ สมาร์ทคอนแทรคต์จะหัก 8% เป็นค่าบริการโบรกเกอร์ และกระจายเงินที่เหลือกลับไปยังวอลเล็ตของเทรดเดอร์ที่ชนะ
ด้วยรูปแบบนี้ บริษัทลงทุนออปชั่นดิจิทัลไม่เคยต้องเก็บเงินลูกค้า — ไม่มีระบบ “ฝากเงิน” เลย ถือเป็นข้อดีอย่างมาก นอกจากนี้ ไม่ต้องลงทะเบียนหรือยืนยันตัวตน (Verification) อีกต่อไป เพียงเชื่อมวอลเล็ตเข้ากับแพลตฟอร์ม แล้วเทรดได้ทันที โบรกเกอร์เองก็ไม่มีสิทธิ์บล็อกลูกค้าอยู่ดี เพราะไม่มีบัญชีผู้ใช้ให้บล็อก

นายหน้าตัวเลือกไบนารี p2ptrade

สรุปให้ชัดเจน — สมาร์ทคอนแทรคต์ให้เรา:
  • ไม่ต้องมีบัญชีฝากเงิน — ทุนทั้งหมดเก็บไว้ในวอลเล็ตของเราเอง
  • ความโปร่งใส เพราะทุกธุรกรรมตรวจสอบได้
  • โบรกเกอร์ไม่สามารถบล็อกลูกค้าได้ (และไม่มีเหตุผลที่จะทำ)
  • โบรกเกอร์มีรายได้จากค่าคอมมิชชัน ไม่ใช่จากการ “กิน” เงินของเทรดเดอร์
  • สมาร์ทคอนแทรคต์จะหักเงินลงทุนจากวอลเล็ตของคุณ และคืนกำไรทันทีเมื่อดีลปิด
  • ไม่ต้องลงทะเบียนและไม่ต้องยืนยันตัวตน
ข้อเสียเดียวในตอนนี้คือยังสามารถเทรดผ่านสมาร์ทคอนแทรคต์ได้เฉพาะกับ Ether เท่านั้น แต่ก็นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญ เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้า น่าจะมีแพลตฟอร์มที่รองรับสกุลเงินหลัก ๆ อย่าง รูเบิล ดอลลาร์ หรือยูโร ผ่านสมาร์ทคอนแทรคต์

เปรียบเทียบบริษัทโบรกเกอร์สมาร์ทคอนแทรคต์กับโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีแบบดั้งเดิม

ข้อมูลค่อนข้างเยอะ อาจจะย่อยยากสักหน่อย ลองดูตารางเปรียบเทียบระหว่างโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีที่ทำงานบนสมาร์ทคอนแทรคต์ (มีเพียงเจ้าเดียวตอนนี้คือ P2PTrade) กับเว็บไซต์ซื้อขายออปชั่นไบนารีแบบทั่วไป (สมมติว่าเป็น Intrade Bar) เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมไฮไลต์สีเขียวให้เงื่อนไขที่ดีกว่า และสีแดงให้เงื่อนไขที่ด้อยกว่า

โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี

Intrade Bar P2P Trade
การเก็บรักษาเงินทุน เก็บไว้ในบัญชีของเว็บไซต์ซื้อขายออปชั่นไบนารี เก็บในวอลเล็ตของเทรดเดอร์เอง
การลงทุนในดีล หลังจากเติมเงินเข้าบัญชีซื้อขาย ผ่านสมาร์ทคอนแทรคต์
ผลกำไรจากการคาดการณ์ถูก จำกัดและทราบล่วงหน้าเสมอ สูงสุดประมาณ 94% ไม่จำกัด อาจมากกว่า 10000% ของเงินลงทุน
ผู้ให้บริการราคาสินทรัพย์ (Quote Providers) Thomson Reuters Binance.com, Bitfinex, Kraken
การถอนเงิน ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีหลังยื่นถอน (อาจนานถึง 3 วันทำการ ขึ้นอยู่กับวิธีถอน) ไม่ต้องถอน — เงินเข้าวอลเล็ตของเทรดเดอร์ทันทีที่ดีลปิด
การลงทะเบียนบัญชี ใช้เวลา 1-2 นาที ไม่มี
การยืนยันตัวตน (Verification) ไม่มีในขณะนี้ (แต่มีสิทธิ์ขอได้ตามข้อตกลงผู้ใช้) ไม่มี 100%
รูปแบบการเทรด “Trader vs Broker” “Trader vs Trader”
การบล็อกบัญชี เฉพาะเมื่อมีการละเมิดข้อตกลงผู้ใช้อย่างร้ายแรง หรือกรณีทุจริต แทบเป็นไปไม่ได้
รายได้ของโบรกเกอร์ จากการขาดทุนของเทรดเดอร์ ค่าคอมมิชชัน 8% ของทุกดีล
แพลตฟอร์มการเทรด TradingView — ใช้วิเคราะห์ทางเทคนิคได้ครบถ้วน แพลตฟอร์มของตนเอง — ใช้เปิดดีลได้เท่านั้น ไม่มีเครื่องมือวิเคราะห์
โบนัสสำหรับเทรดเดอร์ ไม่มี (เป็นนโยบายของบริษัท) แต่หากต้องการก็สามารถทำได้ ไม่มี — ยังไม่ชัดเจนว่าจะทำอย่างไรกับสมาร์ทคอนแทรคต์
ทัวร์นาเมนต์ของเทรดเดอร์ ไม่มีในขณะนี้ แต่มีศักยภาพจะทำได้ ไม่มี — ยากที่จะนำมาใช้กับระบบสมาร์ทคอนแทรคต์
สินทรัพย์ที่เทรดได้ คู่สกุลเงิน, สินค้าโภคภัณฑ์ ปัจจุบันเทรดได้เฉพาะคริปโต (มีแผนจะเพิ่มคู่เงินในอนาคต)
สกุลเงินของบัญชีเทรด RUB, USD Ethereum (Ether)
การกำกับดูแล (Regulation) ไม่มี ไม่มี และไม่จำเป็นต้องมี
ความน่าเชื่อถือ สูง แต่ทั้งหมดอยู่บน “คำมั่นสัญญา” ของโบรกเกอร์ ยอดเยี่ยม — โบรกเกอร์ไม่สามารถโกงได้
บัญชีเดโม มี มี

จะเห็นได้ว่าโบรกเกอร์สมาร์ทคอนแทรคต์มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง แม้แต่เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีที่ได้รับความเชื่อถือสูงอย่าง Intrade Bar สิ่งนี้ตอกย้ำว่า สมาร์ทคอนแทรคต์คือก้าวต่อไปที่น่าสนใจในตลาดออปชั่นไบนารี แม้ว่าจะไม่ส่งผลดีต่อแพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีเท่าไหร่ (เพราะได้ค่าคอมมิชชันคงที่ แทนที่จะได้จากการขาดทุนของลูกค้า) แต่สำหรับเทรดเดอร์นี่คือความมั่นใจที่มากขึ้น ทั้งในเรื่องความปลอดภัยและความโปร่งใส

ความก้าวหน้าไม่หยุดนิ่งแม้ในวงการออปชั่นไบนารี

ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสมาร์ทคอนแทรคต์มีมานานแล้ว เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ต่างทราบดีว่ามันมีข้อดีหลายอย่าง แต่เพิ่งถูกนำมาใช้จริงในตลาดออปชั่นไบนารีเมื่อปี 2019 และมีแค่โบรกเกอร์เดียวที่ทำได้ในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2014 ทุกคนก็เคยฝันอยากได้โบรกเกอร์ที่ปฏิบัติต่อผู้ใช้ตรงไปตรงมา และจ่ายเงินที่เราหาได้จริงโดยไม่บล็อกบัญชี สุดท้ายสิ่งนั้นก็เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน (แม้อาจไม่ใช่ทุกที่) และปัจจุบันผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีส่วนใหญ่ก็พร้อมจ่ายกำไรที่คุณทำได้

ตอนนี้ทุกคนก็เริ่มฝันถึงสมาร์ทคอนแทรคต์ในออปชั่นไบนารี — ซึ่งก็มีโบรกเกอร์แรกเปิดตัวแล้ว คือ P2PTrade แม้จะยังจำกัดเฉพาะ Ether แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งใหญ่ แน่นอนว่าหลายคน (รวมถึงผม) อยากให้รองรับการฝากด้วยสกุลเงินที่ใช้กันทั่วไป เช่น รูเบิล ดอลลาร์ หรือยูโร ผ่านสมาร์ทคอนแทรคต์ แต่เราก็เห็นทิศทางชัดเจนว่าโบรกเกอร์ทั้งหลายพยายามปรับตัวตามความต้องการของเทรดเดอร์ ดังนั้นการเทรดสมาร์ทคอนแทรคต์ด้วยสกุลเงินทั่วไปก็อาจจะไม่ไกลเกินเอื้อม!
Igor Lementov
Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com


บทความที่อาจช่วยคุณได้
บทวิจารณ์และความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด: 0
avatar