อนาคตออปชั่นไบนารี: จะปิดตัวจริงหรือ?
Updated: 06.05.2025
อนาคตของออปชั่นไบนารี: ออปชั่นไบนารีจะปิดตัวเร็ว ๆ นี้หรือไม่?
มีเทรดเดอร์จำนวนมากที่สงสัยมานานว่า อนาคตของออปชั่นไบนารีจะเป็นอย่างไร หลายคนเชื่อว่าออปชั่นไบนารีอาจถูกปิดตัวลงทั้งหมด ไม่ใช่แค่ในรัสเซียแต่รวมถึงในประเทศอื่น ๆ ด้วย
ในความเป็นจริง การพัฒนาออปชั่นไบนารีเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด แม้แต่มองเผิน ๆ ก็รู้ได้ไม่ยาก บทความนี้จะบอกคุณว่าควรคาดหวังอะไรจากออปชั่นไบนารีในอนาคตอันใกล้
คุณคิดจริงหรือไม่ว่าที่โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีนิยมไปจดทะเบียนในไซปรัสหรือเซเชลส์ (เขต Offshore) เป็นเพราะบังเอิญ? แน่นอนว่าไม่ การจดทะเบียนในเขต Offshore ช่วยให้บริษัทลงทุนออปชั่นดิจิทัลเหล่านี้สามารถดำเนินกิจการได้โดยไม่แคร์กฎหมายของประเทศอื่นมากนัก แม้ในบางประเทศจะมีการห้ามโบรกเกอร์หรือออปชั่นไบนารี แต่นั่นเป็นการห้ามเพียงสำหรับประชาชนในประเทศนั้น ๆ ไม่ใช่ตัวบริษัทเสียเอง ตัวอย่างเช่น ในรัสเซียมีการห้ามคาสิโนออนไลน์มานานแล้ว แต่เราก็ยังเห็นโฆษณาคาสิโนออนไลน์บ่อยกว่าหน้าญาติพี่น้องเสียอีก หน่วยงานกำกับดูแลอาจจะพยายามบล็อก แต่เมื่อบล็อกไป ก็มีเว็บใหม่ ๆ โผล่ขึ้นมาแทนที่อยู่ดี
ยกตัวอย่างเว็บไซต์ทอร์เรนต์ที่ถูกบล็อก ซึ่งใคร ๆ ก็สามารถดาวน์โหลดเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ได้อย่างอิสระ ทั้ง ๆ ที่ผิดกฎหมาย หรืออย่างโซเชียลเน็ตเวิร์กบางแห่งที่เคยถูกบล็อก แต่ผู้ใช้ก็ยังคงใช้งานอยู่ดี เพราะมักมีทางเลี่ยงเสมอ
กลับมาที่โบรกเกอร์ของเรา เนื่องจากจดทะเบียน Offshore รัฐใด ๆ จึงไม่มีอำนาจมากพอที่จะ “สั่งปิด” บริษัท โดยตรงได้ ทำได้เพียงปกป้องพลเมืองของตนเองไม่ให้เข้าถึงได้ง่ายเท่านั้น ในอีกมุม ถ้าผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีใดมีหน่วยงานกำกับที่เคร่งครัด อย่าง CySEC ก็อาจถูกสั่งห้ามให้หยุดให้บริการในบางประเทศ เช่น กรณีของ IQ Option เคยถูกสั่งให้หยุดดำเนินงานในรัสเซียตามคำสั่ง CySEC ส่วน Olymp Trade นั้นออกไปด้วยเหตุผลอื่น แต่ก็อ้างหลักเกณฑ์คล้าย ๆ กัน
ในเรื่องผลกำไรของแพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีนั้นสูงมาก จึงไม่มีใครอยากปิด “ร้านค้า” ที่ทำเงินได้ง่าย ๆ หากเป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่แทบไม่มีคนเทรด อาจจะปิดตัวได้ แต่ไม่ใช่ทุกราย อย่างเช่น Intrade Bar ที่เคยมีลูกค้าน้อยมากนานถึง 2.5 ปี แต่ปัจจุบันก็เริ่มเติบโตและมีเทรดเดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มไปได้ดี ส่วนบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีลูกค้าหลายล้านคนต่อทั่วโลก ย่อมไม่มีเหตุผลให้หยุดทำธุรกิจ แถมยังต้องแย่งตลาด ขยายฐานลูกค้าอีก
ส่วนประเด็นเกี่ยวกับหน่วยงานกำกับดูแล (Regulator) ของโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี ก็เป็นเรื่องตลกดี เพราะในขณะที่พยายามวางกฎเกณฑ์ควบคุม ผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีก็ออกผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ที่ “เลี่ยง” กฎเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ Regulators มักจะตามไม่ทัน
อย่างกรณี CFD ที่ไม่ใช่ออปชั่นไบนารีแบบเดิม แต่ใช้หลักการเทรดและการคำนวณกำไรต่างกัน จึงไม่เข้าเกณฑ์ “Up/Down” ของออปชั่นไบนารี จึงไม่โดนกฎหมายแบบเดียวกัน
เราจะเห็นได้ว่าในยุคนั้น มีโบรกเกอร์ “One-day” เกิดขึ้นมาเพื่อรวบรวมเงินฝากของเทรดเดอร์แล้วปิดหนีในไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนเท่านั้น ส่วนผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีที่ซื่อสัตย์จริง ๆ นับนิ้วมือยังพอนับได้
พอเข้าปี 2016 เทรดเดอร์เริ่มระมัดระวังมากขึ้นก่อนจะเลือกโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี จึงส่งผลให้โบรกเกอร์ที่หลอกลวงถูกกรองออกไป เพราะขาดความเชื่อมั่นจนไม่มีใครอยากเปิดบัญชีด้วย และเมื่อไม่มีลูกค้า ก็ไม่มีรายได้
สุดท้าย เวลาช่วยคัดกรองผู้ให้บริการที่จริงใจกับผู้ให้บริการที่ฉ้อโกง เหลือแค่กลุ่มที่ยังคงได้รับความนิยมและมีลูกค้าจำนวนหนึ่ง โบรกเกอร์ที่อยู่รอดเข้าใจตรงกันว่า ผู้ที่ “รักษาฐานลูกค้าให้อยู่ได้ยาวนานและขยายจำนวนได้” จะเป็นผู้ชนะและได้รับผลกำไรสูง สิ่งที่ตามมาคือ:
โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี Quotex:
อีกเจ้าหนึ่งที่โดดเด่นคือ Pocket Option:
สำหรับเราในฐานะเทรดเดอร์ สิ่งที่ได้รับคือการที่แพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารี “ไม่อยาก” เสี่ยงจะไม่จ่ายเงินเรา เพราะถ้าทำก็จะเสียชื่อเสียงและสูญเสียผู้ใช้งานไป นอกจากนี้ ผู้ให้บริการก็พยายามพัฒนาคุณสมบัติใหม่ ๆ มาตอบสนองความต้องการเรามากขึ้น แน่นอนว่าการแข่งขันยังคงเข้มข้น เราอาจจะได้เห็นอะไรใหม่ ๆ ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นในอนาคต
ไม่นานมานี้มีบริษัทลงทุนออปชั่นดิจิทัลบางแห่งเปิดตัวรูปแบบการเทรดแบบ Trader vs. Trader ซึ่งแตกต่างจากคอนเซ็ปต์เดิมที่เป็น Trader vs. Broker อย่างมาก เพราะคอนเซ็ปต์เดิมคือ เทรดเดอร์เทรด “ชน” กับโบรกเกอร์ โดยผลกำไรจะมาจากการแพ้ชนะระหว่างเราและโบรกเกอร์ แต่ในโมเดล “Trader vs Trader” โบรกเกอร์จะเป็นแค่ตัวกลางจัดการแพลตฟอร์ม และหักค่าคอมมิชชันจากทุกดีลที่เทรดเดอร์เปิด กล่าวคือ:
“สมาร์ทคอนแทรคต์” คืออัลกอริทึมที่อนุญาตให้เทรดเดอร์เก็บเงินไว้ในวอลเล็ตของตัวเองโดยไม่ต้องโอนเข้าบัญชีโบรกเกอร์ เมื่อทำการเปิดออเดอร์:
กลับมาที่โบรกเกอร์ P2PTrade กันสักหน่อย ว่าคืออะไร และสมาร์ทคอนแทรคต์ทำงานอย่างไรบ้าง:
จะเห็นได้ว่าโบรกเกอร์สมาร์ทคอนแทรคต์มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง แม้แต่เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีที่ได้รับความเชื่อถือสูงอย่าง Intrade Bar สิ่งนี้ตอกย้ำว่า สมาร์ทคอนแทรคต์คือก้าวต่อไปที่น่าสนใจในตลาดออปชั่นไบนารี แม้ว่าจะไม่ส่งผลดีต่อแพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีเท่าไหร่ (เพราะได้ค่าคอมมิชชันคงที่ แทนที่จะได้จากการขาดทุนของลูกค้า) แต่สำหรับเทรดเดอร์นี่คือความมั่นใจที่มากขึ้น ทั้งในเรื่องความปลอดภัยและความโปร่งใส
ตอนนี้ทุกคนก็เริ่มฝันถึงสมาร์ทคอนแทรคต์ในออปชั่นไบนารี — ซึ่งก็มีโบรกเกอร์แรกเปิดตัวแล้ว คือ P2PTrade แม้จะยังจำกัดเฉพาะ Ether แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งใหญ่ แน่นอนว่าหลายคน (รวมถึงผม) อยากให้รองรับการฝากด้วยสกุลเงินที่ใช้กันทั่วไป เช่น รูเบิล ดอลลาร์ หรือยูโร ผ่านสมาร์ทคอนแทรคต์ แต่เราก็เห็นทิศทางชัดเจนว่าโบรกเกอร์ทั้งหลายพยายามปรับตัวตามความต้องการของเทรดเดอร์ ดังนั้นการเทรดสมาร์ทคอนแทรคต์ด้วยสกุลเงินทั่วไปก็อาจจะไม่ไกลเกินเอื้อม!
ในความเป็นจริง การพัฒนาออปชั่นไบนารีเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด แม้แต่มองเผิน ๆ ก็รู้ได้ไม่ยาก บทความนี้จะบอกคุณว่าควรคาดหวังอะไรจากออปชั่นไบนารีในอนาคตอันใกล้
เนื้อหา
ออปชั่นไบนารีจะปิดหรือไม่?
ไม่ ออปชั่นไบนารีจะไม่ปิดตัวลง ด้วยเหตุผลหลายประการ:- โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีจดทะเบียนในเขต Offshore
- ธุรกิจนี้สร้างรายได้มหาศาล
- การพัฒนาออปชั่นไบนารีก้าวเร็วกว่าอัตราการออกกฎหมายควบคุม
คุณคิดจริงหรือไม่ว่าที่โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีนิยมไปจดทะเบียนในไซปรัสหรือเซเชลส์ (เขต Offshore) เป็นเพราะบังเอิญ? แน่นอนว่าไม่ การจดทะเบียนในเขต Offshore ช่วยให้บริษัทลงทุนออปชั่นดิจิทัลเหล่านี้สามารถดำเนินกิจการได้โดยไม่แคร์กฎหมายของประเทศอื่นมากนัก แม้ในบางประเทศจะมีการห้ามโบรกเกอร์หรือออปชั่นไบนารี แต่นั่นเป็นการห้ามเพียงสำหรับประชาชนในประเทศนั้น ๆ ไม่ใช่ตัวบริษัทเสียเอง ตัวอย่างเช่น ในรัสเซียมีการห้ามคาสิโนออนไลน์มานานแล้ว แต่เราก็ยังเห็นโฆษณาคาสิโนออนไลน์บ่อยกว่าหน้าญาติพี่น้องเสียอีก หน่วยงานกำกับดูแลอาจจะพยายามบล็อก แต่เมื่อบล็อกไป ก็มีเว็บใหม่ ๆ โผล่ขึ้นมาแทนที่อยู่ดี
ยกตัวอย่างเว็บไซต์ทอร์เรนต์ที่ถูกบล็อก ซึ่งใคร ๆ ก็สามารถดาวน์โหลดเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ได้อย่างอิสระ ทั้ง ๆ ที่ผิดกฎหมาย หรืออย่างโซเชียลเน็ตเวิร์กบางแห่งที่เคยถูกบล็อก แต่ผู้ใช้ก็ยังคงใช้งานอยู่ดี เพราะมักมีทางเลี่ยงเสมอ
กลับมาที่โบรกเกอร์ของเรา เนื่องจากจดทะเบียน Offshore รัฐใด ๆ จึงไม่มีอำนาจมากพอที่จะ “สั่งปิด” บริษัท โดยตรงได้ ทำได้เพียงปกป้องพลเมืองของตนเองไม่ให้เข้าถึงได้ง่ายเท่านั้น ในอีกมุม ถ้าผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีใดมีหน่วยงานกำกับที่เคร่งครัด อย่าง CySEC ก็อาจถูกสั่งห้ามให้หยุดให้บริการในบางประเทศ เช่น กรณีของ IQ Option เคยถูกสั่งให้หยุดดำเนินงานในรัสเซียตามคำสั่ง CySEC ส่วน Olymp Trade นั้นออกไปด้วยเหตุผลอื่น แต่ก็อ้างหลักเกณฑ์คล้าย ๆ กัน
ในเรื่องผลกำไรของแพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีนั้นสูงมาก จึงไม่มีใครอยากปิด “ร้านค้า” ที่ทำเงินได้ง่าย ๆ หากเป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่แทบไม่มีคนเทรด อาจจะปิดตัวได้ แต่ไม่ใช่ทุกราย อย่างเช่น Intrade Bar ที่เคยมีลูกค้าน้อยมากนานถึง 2.5 ปี แต่ปัจจุบันก็เริ่มเติบโตและมีเทรดเดอร์เข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มไปได้ดี ส่วนบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีลูกค้าหลายล้านคนต่อทั่วโลก ย่อมไม่มีเหตุผลให้หยุดทำธุรกิจ แถมยังต้องแย่งตลาด ขยายฐานลูกค้าอีก
ส่วนประเด็นเกี่ยวกับหน่วยงานกำกับดูแล (Regulator) ของโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี ก็เป็นเรื่องตลกดี เพราะในขณะที่พยายามวางกฎเกณฑ์ควบคุม ผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีก็ออกผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ที่ “เลี่ยง” กฎเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ Regulators มักจะตามไม่ทัน
อย่างกรณี CFD ที่ไม่ใช่ออปชั่นไบนารีแบบเดิม แต่ใช้หลักการเทรดและการคำนวณกำไรต่างกัน จึงไม่เข้าเกณฑ์ “Up/Down” ของออปชั่นไบนารี จึงไม่โดนกฎหมายแบบเดียวกัน
การแข่งขันของโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีเพื่อความนิยม
ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา มีเทรนด์ชัดเจนว่าผู้ใดก็ตามที่สามารถรักษาและขยายฐานผู้ใช้งานได้มากที่สุดจะอยู่รอดในตลาด ช่วงปี 2014 มีแพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีมากกว่า 800 เจ้า ปัจจุบัน 90% ของพวกเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง เพราะช่วงนั้นตลาดออปชั่นไบนารีอยู่ในจุดพีค ทุกคนต่างพยายามเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งกำไร ทำให้เกิดโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีจำนวนมาก บ้างก็หลอกลวงหรือไม่ซื่อสัตย์เราจะเห็นได้ว่าในยุคนั้น มีโบรกเกอร์ “One-day” เกิดขึ้นมาเพื่อรวบรวมเงินฝากของเทรดเดอร์แล้วปิดหนีในไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนเท่านั้น ส่วนผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีที่ซื่อสัตย์จริง ๆ นับนิ้วมือยังพอนับได้
พอเข้าปี 2016 เทรดเดอร์เริ่มระมัดระวังมากขึ้นก่อนจะเลือกโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี จึงส่งผลให้โบรกเกอร์ที่หลอกลวงถูกกรองออกไป เพราะขาดความเชื่อมั่นจนไม่มีใครอยากเปิดบัญชีด้วย และเมื่อไม่มีลูกค้า ก็ไม่มีรายได้
สุดท้าย เวลาช่วยคัดกรองผู้ให้บริการที่จริงใจกับผู้ให้บริการที่ฉ้อโกง เหลือแค่กลุ่มที่ยังคงได้รับความนิยมและมีลูกค้าจำนวนหนึ่ง โบรกเกอร์ที่อยู่รอดเข้าใจตรงกันว่า ผู้ที่ “รักษาฐานลูกค้าให้อยู่ได้ยาวนานและขยายจำนวนได้” จะเป็นผู้ชนะและได้รับผลกำไรสูง สิ่งที่ตามมาคือ:
- หลายบริษัทลงทุนออปชั่นดิจิทัลเริ่มหันมาปฏิบัติต่อผู้ใช้งานอย่างโปร่งใสยิ่งขึ้น
- อัตราการบล็อกบัญชีลูกค้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- การถอนเงินเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ
- มีประเภทออปชั่นหลากหลายมากขึ้น พร้อมอัตราผลตอบแทนที่ต่างกัน
- แพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีได้รับการปรับปรุงให้มีเครื่องมือวิเคราะห์กราฟมากขึ้น (จากเดิมที่มีแค่กราฟเส้นและปุ่มกด 2 ปุ่ม)
- ในบางกรณี เพิ่มอัตราผลตอบแทนของออปชั่นมาตรฐานเมื่อคาดการณ์ถูก
- เริ่มมีการเพิ่มคริปโตเคอเรนซีให้เทรดได้
- ยกเลิกการยืนยันตัวตน (Verification) ทั้งหมด
- ไม่มีโบนัสเงินฝากหรือโบนัสรูปแบบใด ๆ ทั้งสิ้น
- ให้บริการถอนเงิน “ทันที” (ภายใน 10 นาทีหลังยื่นคำขอถอน)
- ใช้กราฟของ TradingView เป็นแพลตฟอร์มเทรด (TradingView เป็นกราฟภายนอกที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งเทรดเดอร์ออปชั่นไบนารีและฟอเร็กซ์)
- อัปเดตและพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตามคำขอของเทรดเดอร์บ่อยครั้ง
โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี Quotex:
- ปรับปรุงแพลตฟอร์มการเทรด
- เพิ่มเครื่องมือวิเคราะห์กราฟลงในแพลตฟอร์ม ทำให้วิเคราะห์ทางเทคนิคได้ทันที
- มีอินดิเคเตอร์จำนวนมากสำหรับวิเคราะห์ทางเทคนิค
- มีการอัปเดตกลยุทธ์เทรดใหม่ ๆ ให้ใช้งานได้ตรงบนแพลตฟอร์ม (บางกลยุทธ์อาจไม่ดีมาก แต่ก็มีส่วนที่น่าสนใจและได้ผลดี)
- จ่ายเงินให้เทรดเดอร์ตรงเวลาและไม่ต้องยืนยันตัวตนสำหรับยอดถอนที่ไม่สูงมาก
- จัดทัวร์นาเมนต์บนบัญชีเดโมเป็นประจำ
อีกเจ้าหนึ่งที่โดดเด่นคือ Pocket Option:
- ช่วงแรกมีจำนวนสินทรัพย์ให้เทรดมหาศาล โดยมีอัตราผลตอบแทนสูงถึง 96% เมื่อคาดการณ์ถูก (ปัจจุบันอาจมีการปรับลดบ้างบางส่วน)
- มีฟังก์ชันคัดลอกการเทรด (Copy Trades) ของเทรดเดอร์คนอื่น
- ระบบโบนัสค่อนข้างโดดเด่นและให้ผลตอบแทนดีมาก มีโบนัสสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม และสามารถแลกเป็น โบนัสเงินฝาก, สิทธิ์เทรดแบบไร้ความเสี่ยง, เพิ่มอัตราผลตอบแทน เป็นต้น
- สามารถทดลองเทรดด้วยโบนัสแบบไม่ต้องฝากเงิน
- มีสินทรัพย์ให้เลือกเทรดมากมาย รวมถึงคริปโตเคอเรนซี
สำหรับเราในฐานะเทรดเดอร์ สิ่งที่ได้รับคือการที่แพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารี “ไม่อยาก” เสี่ยงจะไม่จ่ายเงินเรา เพราะถ้าทำก็จะเสียชื่อเสียงและสูญเสียผู้ใช้งานไป นอกจากนี้ ผู้ให้บริการก็พยายามพัฒนาคุณสมบัติใหม่ ๆ มาตอบสนองความต้องการเรามากขึ้น แน่นอนว่าการแข่งขันยังคงเข้มข้น เราอาจจะได้เห็นอะไรใหม่ ๆ ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นในอนาคต
สมาร์ทคอนแทรคต์ในการเทรดออปชั่นไบนารี
การแข่งกันของโบรกเกอร์ตอนนี้รุนแรงมาก จนบางครั้งถ้าใครคิดอะไรใหม่ ๆ ที่แตกต่างและโดดเด่นจากตลาดได้ก่อน จะสร้างความน่าสนใจได้ทันที และยังเพิ่มความเชื่อถือได้หากโซลูชันนั้นมีความปลอดภัยและโปร่งใส ซึ่งอาจไม่ใช่ทุกเจ้าที่จะทำได้ไม่นานมานี้มีบริษัทลงทุนออปชั่นดิจิทัลบางแห่งเปิดตัวรูปแบบการเทรดแบบ Trader vs. Trader ซึ่งแตกต่างจากคอนเซ็ปต์เดิมที่เป็น Trader vs. Broker อย่างมาก เพราะคอนเซ็ปต์เดิมคือ เทรดเดอร์เทรด “ชน” กับโบรกเกอร์ โดยผลกำไรจะมาจากการแพ้ชนะระหว่างเราและโบรกเกอร์ แต่ในโมเดล “Trader vs Trader” โบรกเกอร์จะเป็นแค่ตัวกลางจัดการแพลตฟอร์ม และหักค่าคอมมิชชันจากทุกดีลที่เทรดเดอร์เปิด กล่าวคือ:
- เทรดเดอร์ที่ขาดทุน (เทรดผิดทาง) จะเสียเงินให้เทรดเดอร์ที่เทรดถูกทาง
- แพลตฟอร์มคิดค่าคอมมิชชันตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด โดยไม่สนใจว่าใครจะแพ้หรือชนะ
- ผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีประเภทนี้จึงไม่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกับเทรดเดอร์ เพราะไม่ได้กำไรจาก “การขาดทุน” ของลูกค้า
“สมาร์ทคอนแทรคต์” คืออัลกอริทึมที่อนุญาตให้เทรดเดอร์เก็บเงินไว้ในวอลเล็ตของตัวเองโดยไม่ต้องโอนเข้าบัญชีโบรกเกอร์ เมื่อทำการเปิดออเดอร์:
- เทรดเดอร์คาดการณ์ทิศทางราคาและลงเงินเดิมพัน
- สมาร์ทคอนแทรคต์จะส่งคำสั่งไปยังวอลเล็ตของเทรดเดอร์เพื่อหักจำนวนเงินลงทุน
- ถ้าดีลนั้นชนะ เงินจะถูกโอนกลับเข้าวอลเล็ตของเทรดเดอร์พร้อมกำไรทันที
- ถ้าดีลนั้นแพ้ เงินจะถูกโอนให้ผู้ที่คาดการณ์ถูกหรือแพลตฟอร์ม (ขึ้นอยู่กับกติกา)
- เงินของเราปลอดภัย 100% เพราะเก็บไว้ในวอลเล็ตส่วนตัว ยกเว้นเฉพาะเงินที่ใช้เปิดดีลปัจจุบัน
- ความโปร่งใสสูง ทุกธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้จากระบบบล็อกเชนภายนอก
- เพิ่มความเชื่อมั่นให้เทรดเดอร์ เพราะตัวแพลตฟอร์มไม่ได้ถือเงินลูกค้า
กลับมาที่โบรกเกอร์ P2PTrade กันสักหน่อย ว่าคืออะไร และสมาร์ทคอนแทรคต์ทำงานอย่างไรบ้าง:
- P2PTrade ทำงานบนสมาร์ทคอนแทรคต์ของคริปโต Ether (Ethereum) ดังนั้นการเทรดทั้งหมดจะต้องใช้ Ether
- ใช้โมเดล “Trader vs Trader” หรือที่โบรกเกอร์เรียกว่า “Peer to Peer”
- ไม่มีระบบ “ลงทะเบียน” บัญชี เพราะแค่เชื่อมต่อวอลเล็ตก็เทรดได้เลย
- ไม่ต้องทำ KYC หรือยืนยันตัวตนใด ๆ ทั้งสิ้น
- โบรกเกอร์ดึงราคา (Quotes) จากผู้ให้บริการข้อมูลรายใหญ่หลายเจ้า สามารถตรวจสอบความถูกต้องภายนอกได้
- กำไรของเทรดเดอร์ที่คาดการณ์ถูกอาจสูงถึง 10,000% ของเงินลงทุน (เช่น ในกรณีคาดการณ์สวนกับฝั่งคนส่วนใหญ่)
- โบรกเกอร์จะคิดค่าคอมมิชชัน 8% ของเงินลงทุนรวมในแต่ละดีล
- สมาร์ทคอนแทรคต์จะหักเงินจากวอลเล็ตของเทรดเดอร์ทั้งหมดก่อนดีลเริ่ม
- พอดีลจบ สมาร์ทคอนแทรคต์จะหัก 8% เป็นค่าบริการโบรกเกอร์ และกระจายเงินที่เหลือกลับไปยังวอลเล็ตของเทรดเดอร์ที่ชนะ
- ไม่ต้องมีบัญชีฝากเงิน — ทุนทั้งหมดเก็บไว้ในวอลเล็ตของเราเอง
- ความโปร่งใส เพราะทุกธุรกรรมตรวจสอบได้
- โบรกเกอร์ไม่สามารถบล็อกลูกค้าได้ (และไม่มีเหตุผลที่จะทำ)
- โบรกเกอร์มีรายได้จากค่าคอมมิชชัน ไม่ใช่จากการ “กิน” เงินของเทรดเดอร์
- สมาร์ทคอนแทรคต์จะหักเงินลงทุนจากวอลเล็ตของคุณ และคืนกำไรทันทีเมื่อดีลปิด
- ไม่ต้องลงทะเบียนและไม่ต้องยืนยันตัวตน
เปรียบเทียบบริษัทโบรกเกอร์สมาร์ทคอนแทรคต์กับโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีแบบดั้งเดิม
ข้อมูลค่อนข้างเยอะ อาจจะย่อยยากสักหน่อย ลองดูตารางเปรียบเทียบระหว่างโบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีที่ทำงานบนสมาร์ทคอนแทรคต์ (มีเพียงเจ้าเดียวตอนนี้คือ P2PTrade) กับเว็บไซต์ซื้อขายออปชั่นไบนารีแบบทั่วไป (สมมติว่าเป็น Intrade Bar) เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมไฮไลต์สีเขียวให้เงื่อนไขที่ดีกว่า และสีแดงให้เงื่อนไขที่ด้อยกว่า
โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารี |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
จะเห็นได้ว่าโบรกเกอร์สมาร์ทคอนแทรคต์มีข้อได้เปรียบหลายอย่าง แม้แต่เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีที่ได้รับความเชื่อถือสูงอย่าง Intrade Bar สิ่งนี้ตอกย้ำว่า สมาร์ทคอนแทรคต์คือก้าวต่อไปที่น่าสนใจในตลาดออปชั่นไบนารี แม้ว่าจะไม่ส่งผลดีต่อแพลตฟอร์มเทรดออปชั่นไบนารีเท่าไหร่ (เพราะได้ค่าคอมมิชชันคงที่ แทนที่จะได้จากการขาดทุนของลูกค้า) แต่สำหรับเทรดเดอร์นี่คือความมั่นใจที่มากขึ้น ทั้งในเรื่องความปลอดภัยและความโปร่งใส
ความก้าวหน้าไม่หยุดนิ่งแม้ในวงการออปชั่นไบนารี
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสมาร์ทคอนแทรคต์มีมานานแล้ว เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ต่างทราบดีว่ามันมีข้อดีหลายอย่าง แต่เพิ่งถูกนำมาใช้จริงในตลาดออปชั่นไบนารีเมื่อปี 2019 และมีแค่โบรกเกอร์เดียวที่ทำได้ในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2014 ทุกคนก็เคยฝันอยากได้โบรกเกอร์ที่ปฏิบัติต่อผู้ใช้ตรงไปตรงมา และจ่ายเงินที่เราหาได้จริงโดยไม่บล็อกบัญชี สุดท้ายสิ่งนั้นก็เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน (แม้อาจไม่ใช่ทุกที่) และปัจจุบันผู้ให้บริการเทรดออปชั่นไบนารีส่วนใหญ่ก็พร้อมจ่ายกำไรที่คุณทำได้ตอนนี้ทุกคนก็เริ่มฝันถึงสมาร์ทคอนแทรคต์ในออปชั่นไบนารี — ซึ่งก็มีโบรกเกอร์แรกเปิดตัวแล้ว คือ P2PTrade แม้จะยังจำกัดเฉพาะ Ether แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งใหญ่ แน่นอนว่าหลายคน (รวมถึงผม) อยากให้รองรับการฝากด้วยสกุลเงินที่ใช้กันทั่วไป เช่น รูเบิล ดอลลาร์ หรือยูโร ผ่านสมาร์ทคอนแทรคต์ แต่เราก็เห็นทิศทางชัดเจนว่าโบรกเกอร์ทั้งหลายพยายามปรับตัวตามความต้องการของเทรดเดอร์ ดังนั้นการเทรดสมาร์ทคอนแทรคต์ด้วยสกุลเงินทั่วไปก็อาจจะไม่ไกลเกินเอื้อม!
บทวิจารณ์และความคิดเห็น