หน้าหลัก ข่าวไซต์
Plus500 หลอกลวงไหม? รีวิวโบรกเกอร์ CFD ตรงไปตรงมา (2025)
Updated: 26.09.2025

Plus500 (Forex/CFD) — หลอกลวงหรือไม่? เจาะลึกครบ: ใบอนุญาต เงื่อนไข รีวิวผู้เทรด (2025)

Plus500 เป็นหนึ่งในชื่อที่ผู้เทรดออนไลน์รู้จักกันดีสำหรับการเทรด CFD ในสกุลเงิน หุ้น คริปโตเคอร์เรนซี และสินทรัพย์อื่น ๆ บริษัทก่อตั้งเมื่อปี 2008 โดยศิษย์เก่า Technion ในอิสราเอล และปัจจุบันหุ้นจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) และเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี FTSE 250 สะท้อนถึงความโปร่งใสและการกำกับดูแลโดยหน่วยงานการเงินชั้นนำ แล้วเหตุใด Plus500 จึงถูกพูดถึงมาก? คำตอบคือแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย ผู้ใช้นับแสนทั่วโลก และคำถามยอดฮิต—“Plus500 หลอกลวงหรือเชื่อถือได้?” ในรีวิวนี้ ผู้เขียนที่มีประสบการณ์เทรด 11 ปีจะพาเจาะทุกมุมอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่กฎกำกับดูแล เงื่อนไขเทรด ไปจนถึงเสียงสะท้อนจากผู้ใช้งานจริง เพื่อเห็นข้อเด่น ข้อด้อย ใครเหมาะ และเมื่อใดควรมองหาทางเลือกอื่น



โบรกเกอร์ Plus500 เว็บไซต์ทางการ

การเทรดในตลาด Forex และแพลตฟอร์มไบนารีออปชันมีความเสี่ยงสูง ตามข้อมูลต่าง ๆ ประมาณ 70–90% ของผู้เทรดขาดทุนจากเงินลงทุน การทำกำไรอย่างสม่ำเสมอต้องอาศัยความรู้เฉพาะทาง ก่อนเริ่มต้นควรศึกษาให้เข้าใจกลไกของเครื่องมือเหล่านี้ และเตรียมพร้อมต่อความสูญเสียทางการเงิน อย่าเสี่ยงกับเงินที่การสูญเสียจะกระทบต่อคุณภาพชีวิต

Plus500 คือใคร?

Plus500 เป็นโบรกเกอร์ CFD และบริษัทฟินเทคระดับโลกที่ให้เข้าถึงหลากหลายตลาดการเงินผ่านแพลตฟอร์มเจ้าของ เริ่มต้นในปี 2008 ที่อิสราเอลโดยกลุ่มศิษย์เก่า Technion และเติบโตจนเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรม ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในลอนดอน มีสำนักงาน/นิติบุคคลครอบคลุมยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย และภูมิภาคอื่น ๆ ให้บริการลูกค้าหลายสิบประเทศ (เว็บไซต์รองรับกว่า 30 ภาษา) และระบุว่ามีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 30 ล้านราย ถือเป็นขนาดที่น่าสนใจ

สถานะและภาพลักษณ์: Plus500 เป็นบริษัทจดทะเบียน หุ้นซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์ PLUS ในตลาดหลักของ LSE ซึ่งกำหนดให้ต้องเปิดเผยข้อมูลและโปร่งใสด้านการเงิน นักลงทุนสามารถตรวจสอบรายงานประจำปีได้ เช่น รายได้ปี 2024 ของ Plus500 อยู่ที่ $768 ล้าน และกำไรสุทธิ $273 ล้าน ไม่มีหนี้สุทธิและทำกำไรได้สม่ำเสมอบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งทางการเงิน อีกทั้งยังถูกกำกับโดยหน่วยงานที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง (รายละเอียดด้านล่าง) เพิ่มชั้นการคุ้มครองลูกค้า

เหตุผลที่ผู้เทรดสนใจ Plus500? เหตุผลหลักคือความเรียบง่ายและใช้งานง่าย แพลตฟอร์มของ Plus500 ขึ้นชื่อว่ามีอินเทอร์เฟซเข้าใจง่าย: เปิดออเดอร์หรือกำหนดสต็อปลอสได้ตรงไปตรงมา ไม่รกเหมือนเทอร์มินัลบางตัวอย่าง MetaTrader มือใหม่เริ่มได้ด้วยเงินฝากขั้นต่ำเพียง $100 และฝึกบนบัญชีเดโมฟรี อีกทั้งมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกกว้าง ตั้งแต่คู่เงิน FX ไปจนถึงหุ้น Tesla และน้ำมันในบัญชีเดียว แบรนด์ยังทำการตลาดและสปอนเซอร์สโมสรกีฬา (โลโก้ Plus500 เคยอยู่บนเสื้อ Atlético Madrid; ปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์กับ Chicago Bulls และทีมอื่น ๆ) ความโดดเด่นของแบรนด์ยิ่งดึงความสนใจ

แน่นอนว่ายังมีความสงสัย คุณจะพบคำถาม “Plus500 หลอกลวงไหม?” โดยเฉพาะมือใหม่ที่เห็นแพลตฟอร์มเรียบง่ายและข้อความโฆษณา จากประสบการณ์ของผู้เขียน: Plus500 ไม่ใช่โบรกเกอร์ฉ้อโกง แต่ก็อย่าคาดหวัง “ปาฏิหาริย์”—การขาดความรู้และการไล่ตามกำไรเร็วอาจทำให้ขาดทุนตามสถิติที่กล่าวไว้ โบรกเกอร์มีเครื่องมือให้ ผลลัพธ์ขึ้นกับการใช้อย่างชาญฉลาด

ต่อไปจะพาเจาะจุดแข็ง/จุดอ่อนของแพลตฟอร์มอย่างละเอียด เพื่อช่วยตัดสินใจว่าควรฝากเงินกับที่นี่หรือไม่

ข้อดีและข้อเสียของ Plus500

เช่นเดียวกับโบรกเกอร์อื่น ๆ Plus500 มีทั้งจุดเด่นและข้อจำกัด ตลอดหลายปีที่เทรด ผู้เขียนสรุปข้อได้เปรียบสำคัญและข้อที่ควรระวังไว้ดังนี้

จุดเด่นหลักของ Plus500:

  • แพลตฟอร์มใช้งานง่าย อินเทอร์เฟซ WebTrader เข้าใจไม่ยากและรองรับหลายภาษา มือใหม่เรียนรู้ได้เร็ว ไม่ต้องใช้เทอร์มินัลซับซ้อน—เทรดได้จากเบราว์เซอร์หรือแอปมือถือ
  • ไม่มีค่าคอมมิชชันต่อดีล โบรกเกอร์ไม่เก็บค่าธรรมเนียมเปิด/ปิดออเดอร์—รายได้อยู่ในสเปรด และไม่มีค่าฝาก/ถอนจากฝั่งโบรกเกอร์ (Plus500 ชำระต้นทุนโปรเซสเซอร์ให้) ลดต้นทุนโดยเฉพาะผู้เทรดถี่
  • ตราสารให้เลือกหลากหลาย มีมากกว่า 2,800 ตลาด: ฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ คริปโต ETF และออปชันแบบ CFD กระจายพอร์ตได้โดยไม่ต้องย้ายโบรกเกอร์
  • การกำกับดูแลและคุ้มครองเงินลูกค้าที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตชั้นนำ (สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย ฯลฯ) เงินลูกค้าแยกบัญชี และมีการคุ้มครองยอดติดลบ สถานะบริษัทจดทะเบียนช่วยเพิ่มความมั่นใจ
  • เริ่มต้นง่ายและมีเดโม เงินฝากขั้นต่ำเพียง $100 เปิดทางให้เริ่มด้วยทุนไม่มาก บัญชีเดโมฟรีแบบไม่จำกัดช่วยฝึกและปรับกลยุทธ์ได้ยาว ๆ
  • ถอนเงินค่อนข้างเร็วและเสถียร ความเห็นผู้ใช้งานระบุว่าถอนภายใน 1–3 วัน ทำรายการเข้าบัตรหรืออีวอลเล็ตโดยไม่มี “ค่าธรรมเนียมซ่อนเร้น” ผู้เขียนเคยทดสอบการถอน—เงินเข้าตรงเวลาด้วยจำนวนครบถ้วน

ข้อจำกัดสำคัญของ Plus500:

  • ไม่มี MetaTrader หรือที่ปรึกษาอัตโนมัติ ใช้แพลตฟอร์มเจ้าของเท่านั้น ไม่รองรับ MT4/MT5 หรือเทอร์มินัลภายนอก ไม่สามารถเชื่อมบอต/สคริปต์ภายนอก—เน้นเทรดแบบแมนนวล
  • ข้อจำกัดต่อสเกลป์และอัลโกเทรดดิ้ง Plus500 ไม่สนับสนุนการเทรดสั้นมาก ๆ ตามเงื่อนไข ออเดอร์ที่ถือไม่ถึง ~2 นาทีอาจถูกนับว่าเข้าข่ายผิดกฎ HFT และกลยุทธ์อาร์บิทราจความหน่วงไม่อนุญาต สำหรับสเกลเปอร์ถือเป็นข้อเสีย
  • ค่าธรรมเนียมไม่ใช้งาน หากไม่ล็อกอินเกิน 3 เดือน จะมีการเรียกเก็บ $10 ต่อเดือน แม้เลี่ยงได้ แต่เผลอลืมได้ง่าย
  • สื่อความรู้และงานวิจัยจำกัด มีบทความช่วยเหลือพื้นฐานและวิดีโอบางส่วน ยังขาดบทวิเคราะห์เชิงลึก (มุมมองรายวัน ไอเดียเทรด) เทรดเดอร์ระดับสูงอาจอยากได้เครื่องมือวิเคราะห์มากกว่านี้
  • ไม่มีฟีเจอร์โซเชียล/บริการลงทุน ไม่มีระบบคัดลอกการเทรด (copy trading), PAMM หรือเครือข่ายโซเชียลของเทรดเดอร์ ไม่สามารถคัดลอกกลยุทธ์อัตโนมัติเหมือน eToro และไม่สามารถซื้อหุ้นจริงถือยาว (ยกเว้นผ่าน Plus500 Invest ซึ่งยังไม่เปิดทุกประเทศ)
  • การปรับแต่งเทอร์มินัลจำกัด ไม่สามารถเพิ่มอินดิเคเตอร์แบบคัสตอม หรือปรับหน้าจอได้ละเอียดเท่าเทอร์มินัลมืออาชีพบางตัว แม้มีเครื่องมือวิเคราะห์หลัก ๆ ครบ แต่สายเทคนิคขั้นสูงอาจขาดเครื่องมือเฉพาะ

โดยรวม Plus500 เหมาะกับการเทรดแบบตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน สำหรับผู้เริ่มต้น ข้อดีกินขาด—ใช้งานง่ายและไม่มีค่าคอมฯ สำคัญที่สุด สายโปรหรืออัลโกอาจรู้สึกจำกัดในเชิงเทคนิคและงานวิจัย ต่อไปเราจะไล่ดูแต่ละส่วนอย่างละเอียด

ภาพรวมบริษัท Plus500

เริ่มจากภูมิหลังของโบรกเกอร์ Plus500 เปิดตัวในปี 2008 เป็นสตาร์ทอัปฟินเทคเล็ก ๆ ที่ไฮฟา (อิสราเอล) ผู้ก่อตั้งต้องการทำให้การเข้าถึงตลาดการเงินเป็นเรื่องง่าย จึงปล่อยเวอร์ชันเดสก์ท็อปของ Plus500 แนวคิด “เทรดง่าย” ได้รับการตอบรับ และบริษัทขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ประวัติและการเติบโต ในทศวรรษ 2010 Plus500 เร่งขยายฐานลูกค้าด้วยโฆษณาออนไลน์และโปรแกรมพาร์ทเนอร์ เปิดบริษัทย่อยในภูมิภาคต่าง ๆ: Plus500UK Ltd (ลอนดอน), Plus500AU Pty (ซิดนีย์), Plus500CY Ltd (ไซปรัส) เป็นต้น ปี 2013 บริษัทเข้าจดทะเบียนครั้งแรก—เริ่มซื้อขายในตลาด AIM ของ LSE มูลค่าราว $200 ล้าน ต่อมาในปี 2018 ย้ายสู่ตลาดหลักของ LSE และเข้าดัชนี FTSE 250 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ ก้าวสู่บริษัทการเงินระดับกลางที่มั่นคง

การขยายตัวเชิงภูมิศาสตร์ ปัจจุบันบริการของ Plus500 เข้าถึงยุโรป สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และภูมิภาคอื่น ๆ โดยให้บริการผ่านนิติบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตท้องถิ่น เช่น ลูกค้ายุโรปดูแลโดย Plus500CY (พาสสปอร์ตทั่วสหภาพยุโรป) ลูกค้า UK โดย Plus500UK ลูกค้าออสเตรเลียโดย Plus500AU เป็นต้น ฐานลูกค้ากว้างกว่า 50 ประเทศ ที่น่ารู้คือ CFD สำหรับรายย่อยถูกแบนในสหรัฐฯ เดิม Plus500 จึงไม่รองรับที่นั่น ปี 2021 บริษัทเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ในมิติอื่น: ซื้อโบรกเกอร์ฟิวเจอร์สและเปิด Plus500 Futures สำหรับการเทรดฟิวเจอร์ส (ระดับโปร) จึงมีสถานะในสหรัฐฯ ผ่านกลุ่มธุรกิจอีกแขนหนึ่ง

ข้อจำกัดเชิงภูมิภาค: ด้วยมาตรการคว่ำบาตรและกฎท้องถิ่น Plus500 ไม่รองรับผู้พำนักบางประเทศ เช่น รัสเซีย หลังปี 2022 บริษัทหยุดให้บริการลูกค้ารัสเซีย เช่นเดียวกับโบรกตะวันตกอื่น ๆ สำหรับผู้เทรด CIS ประเทศอื่น (ยูเครน คาซัคสถาน ฯลฯ) เข้าถึงได้ผ่านบริษัทย่อยในยุโรป

สถานะบริษัทจดทะเบียนและฐานะการเงิน การจดทะเบียนทำให้ Plus500 ต้องเปิดเผยงบการเงิน ซึ่งแสดงเงินกองทุนที่แข็งแรงและไม่มีหนี้มีปัญหา ช่วงปี 2020 (โควิด) บริษัททำกำไรสูงเป็นประวัติการณ์จากปริมาณการเทรดที่พุ่ง และจ่ายเงินปันผลเป็นประจำ สำหรับลูกค้า นี่เป็นสัญญาณบวก: บริษัทที่แข็งแรงทางการเงินมีโอกาสน้อยที่จะจัดการเงินลูกค้าไม่เหมาะสม กฎกำกับยังบังคับให้แยกเงินลูกค้าและรักษาระดับเงินทุน—Plus500 ปฏิบัติตาม

สปอนเซอร์และภาพลักษณ์แบรนด์ Plus500 ลงทุนสนับสนุนทีมกีฬาชื่อดัง ตั้งแต่ปี 2015–2021 เป็นสปอนเซอร์หลักของ Atlético Madrid หลังจากนั้นขยายไปยังตลาดอื่น ปัจจุบันสนับสนุน Chicago Bulls (NBA), Atalanta BC (อิตาลี), Legia Warsaw (โปแลนด์) และ BSC Young Boys (สวิตเซอร์แลนด์) ในออสเตรเลียเคยสนับสนุนทีมรักบี้ Brumbies งบประมาณและกระบวนการตรวจสอบของลีก/สมาคมเหล่านี้เข้มงวด—โบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือแทบผ่านไม่ได้

สรุป: Plus500 เป็นผู้เล่นที่เติบโตเต็มวัยในตลาดเทรดออนไลน์ ด้วยอายุธุรกิจกว่า 15 ปี ลูกค้านับล้าน สถานะจดทะเบียน และใบอนุญาตหลายเขต จึงดูน่าไว้วางใจ แม้มีเหตุสะดุดบ้าง (กล่าวต่อไป) แต่โดยรวม นักรีวิวอิสระให้คะแนนความเชื่อถือในระดับสูง ต่อไปมาดูเรื่องกำกับดูแล



กฎกำกับดูแลและความน่าเชื่อถือ

ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์คือประเด็นหลัก ที่นี่ Plus500 แสดงหลักฐานด้วยชุดใบอนุญาตและมาตรการคุ้มครองลูกค้าที่แข็งแรง

หน่วยงานกำกับและใบอนุญาต แบรนด์ Plus500 ดำเนินงานผ่านนิติบุคคลหลายแห่ง โดยแต่ละแห่งถูกกำกับดูแลในประเทศตนเอง:

  • สหราชอาณาจักร: Plus500UK Ltd — ใบอนุญาต FCA (Financial Conduct Authority, เลขที่ 509909) FCA เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เข้มงวดที่สุด ลูกค้า UK (และบางส่วนของ EU ก่อน Brexit) อยู่ภายใต้ใบอนุญาตนี้
  • ไซปรัส (EU): Plus500CY Ltd — ใบอนุญาต CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission, เลขที่ 250/14) ใช้สิทธิ์พาสสปอร์ตทั่ว EU หลัง Brexit นิติบุคคลไซปรัสดูแลยุโรปภาคพื้นทวีป
  • ออสเตรเลีย: Plus500AU Pty Ltd — ใบอนุญาต ASIC (Australian Securities and Investments Commission, AFSL เลขที่ 417727) ครอบคลุมออสเตรเลีย และภายใต้กรอบความร่วมมือบางส่วนครอบคลุมนิวซีแลนด์ (FMA ท้องถิ่น)
  • สิงคโปร์: ใบอนุญาต MAS (Monetary Authority of Singapore) สำหรับ Plus500SG Pte. สะท้อนมาตรฐานสูงของศูนย์กลางการเงินเอเชีย
  • เซเชลส์: Plus500SEY Ltd — ใบอนุญาต FSA Seychelles (SD039) ใช้สำหรับลูกค้าบางประเทศที่ไม่ครอบคลุมด้านบน (เซ็กเมนต์ “offshore”) แม้เข้มงวดน้อยกว่า FCA/ASIC แต่เปิดทางให้ใช้เลเวอเรจสูงกว่า (ถึง 1:300) ในตลาดเสี่ยง
  • แอฟริกาใต้: ใบอนุญาต FSCA (Financial Sector Conduct Authority, เลขที่ 47546) สำหรับการดำเนินงานในประเทศ
  • สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์: ปี 2022 ได้รับอนุญาตจากผู้กำกับดูแล Abu Dhabi Global Market (ADGM) และเปิดสาขาใน UAE ขยายตลาดตะวันออกกลาง
  • เอสโตเนีย: ใบอนุญาต EFSA (เลขที่ 4.1-1/18) เพื่อให้บริการลูกค้าในบอลติก/ยุโรปตะวันออก
  • สหรัฐอเมริกา: ผ่าน Plus500US (Cunningham LLC) จดทะเบียนเป็น Futures Commission Merchant เป็นสมาชิก NFA และอยู่ภายใต้ CFTC (กำกับตลาดฟิวเจอร์สในสหรัฐฯ) ซึ่งเป็นฟิวเจอร์ส ไม่ใช่ CFD

สรุปคือ Plus500 ถูกกำกับใน 5 ทวีป รวมเขตชั้นนำ (UK ออสเตรเลีย สิงคโปร์ EU) ให้ผู้เทรดมีกรอบคุ้มครองและช่องทางร้องเรียน เช่น ลูกค้า UK ใช้ Financial Ombudsman และ FSCS; ลูกค้า EU ใช้ ICF ของไซปรัส; ลูกค้าออสเตรเลียใช้ AFCA เป็นต้น

การคุ้มครองเงินลูกค้า มีมาตรฐานทั่วไป: แยกบัญชีลูกค้า (เก็บต่างหากจากบัญชีบริษัทในธนาคารที่น่าเชื่อถือ) และคุ้มครองยอดคงเหลือติดลบสำหรับรายย่อย (ยอดเงินจะไม่ต่ำกว่าศูนย์—ระบบจะปิดสถานะก่อนเกิดหนี้) ใน EU และ UK เป็นข้อบังคับและ Plus500 ให้บริการ หากบริษัทล้มเหลว ลูกค้าใต้เขต UK อาจได้รับชดเชยสูงสุด £85,000 จาก FSCS และใต้เขตไซปรัสสูงสุด €20,000 ผ่าน ICF แม้โอกาสล้มเหลวของโบรกเกอร์ใหญ่จะต่ำ แต่ “ตาข่ายนิรภัย” นี้ช่วยให้สบายใจ

ชื่อเสียงและเหตุการณ์ ในระยะยาว Plus500 ไม่ถูกเชื่อมโยงกับการฉ้อโกงชัดเจน แต่มีเหตุด้านกำกับ 2 ครั้ง:

  • ปี 2015 FCA สหราชอาณาจักรสั่งระงับบัญชี Plus500UK จำนวนมากชั่วคราวและกำหนดให้ยืนยันตัวตนใหม่ บริษัททำ KYC ตอนถอนบ่อยกว่าตอนเปิดบัญชี ซึ่งขัดกับกฎ AML ทำให้ลูกค้าหลายรายเทรดไม่ได้ชั่วคราว ราคาหุ้นร่วง ผู้ใช้ไม่สามารถถอนได้หลายสัปดาห์ อย่างไรก็ดีเงินไม่ได้หายไป เป็นประเด็นคอมพลายแอนซ์ บริษัทรื้อระบบ KYC และต้นปี 2016 กลับมาดำเนินงานปกติ ตั้งแต่นั้นจึงเข้มงวด KYC ตั้งแต่เริ่มสมัคร
  • ปี 2018 มีคดีแบบกลุ่มในอิสราเอล ลูกค้าร้องเรียนการส่งคำสั่งช่วงประชามติ Brexit อ้างว่าบัญชีถูกระงับระหว่างความผันผวน ทำให้พลาดปิดกำไร ศาลเทลอาวีฟรับคำร้อง คดีแบบนี้มักยืดเยื้อ ที่สำคัญคือเกิดในเหตุการณ์ตลาดสุดขั้ว—โบรกเกอร์หลายรายจำกัดการเทรดในช่วงไม่แน่นอนสูง ไม่ได้ชี้ถึง “การโกง” เชิงระบบ แต่เป็นข้อพิพาทการดำเนินงาน

นอกเหนือจากนั้นไม่มีเรื่องอื้อฉาวใหญ่ หน่วยงานกำกับ (FCA, CySEC ฯลฯ) ไม่ได้กล่าวหา Plus500 เรื่องปั่นราคา/ยึดเงิน มีค่าปรับเล็กน้อยตามอุตสาหกรรม แต่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ในวงการ CFD โปรไฟล์ความน่าเชื่อถือของ Plus500 ค่อนข้างแข็งแรง

ไว้ใจได้ไหม? หลักฐานบ่งชี้ว่าได้ ถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ CFD ที่ถูกกำกับมากที่สุด—ถูกกฎหมายและรับผิดชอบ ผ่านทั้งกาลเวลา วิกฤติ และการตรวจสอบ มีการคุ้มครองเงินลูกค้าเสร็จสรรพ อย่างไรก็ดีควรกระจายเงินระหว่างธนาคาร/โบรกเกอร์ และอ่านสัญญาลูกค้าอย่างรอบคอบ เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ offshore ที่คลุมเครือ Plus500 ดูปลอดภัยกว่า คู่แข่งและรีวิวอิสระส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไว้ใจได้ หากคุณให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการกำกับ

โบรกเกอร์ Plus500 ความน่าเชื่อถือ

ประเภทบัญชีและเงื่อนไขการเทรด

ด้านล่างคือบัญชีและเงื่อนไขที่ Plus500 มีให้

ประเภทบัญชี เรียบง่าย: โดยหลักคือบัญชีจริง Standard สำหรับรายย่อย และหมวด Professional แยกต่างหาก ไม่มีหลายแพ็กเกจราคา—ลูกค้ารายย่อยใช้สเปรด ตราสาร และฟังก์ชันเดียวกัน สามารถยื่นขอสถานะ Professional (หากผ่านเกณฑ์ เช่น ขนาดพอร์ตและประสบการณ์การเทรด) ซึ่งยกเลิกข้อจำกัดบางอย่าง (เช่น เลเวอเรจสูงขึ้น) แต่การคุ้มครองรายย่อยจะลดลง ไม่มีบัญชี VIP อย่างเป็นทางการพร้อมผู้จัดการส่วนตัว/แคชแบ็ก ลูกค้าที่แอคทีฟมากอาจได้สิทธิพิเศษเป็นกรณี ๆ ไป แต่ไม่อยู่ในข้อเสนอสาธารณะ

บัญชีเดโม Plus500 มีเดโมฟรีสำหรับเรียนรู้และคุ้นมือ เปิดอัตโนมัติหลังสมัคร—สลับเป็นโหมด Demo เพื่อรับยอดเงินเสมือน (มัก ~$40,000 เติมใหม่ได้) ไม่มีจำกัดเวลา โควตเป็นแบบเรียลไทม์ ฟังก์ชันใกล้เคียงบัญชีจริง แนะนำให้มือใหม่เริ่มจากเดโม ทดสอบกลยุทธ์ก่อนเสี่ยงเงินจริง

สกุลเงินฐานของบัญชี เลือกได้หลายสกุลยอดนิยม เช่น USD, EUR, GBP, AUD, JPY, CHF และอื่น ๆ รวมแล้วราว 10–15 สกุล (ขึ้นกับภูมิภาค; ใน EU อาจเห็น EUR, GBP, PLN ฯลฯ) ไม่มี RUB ผู้ใช้งาน CIS ส่วนใหญ่เลือก USD หรือ EUR หากบัตร/วอลเล็ตคุณเป็นอีกสกุล เงินฝาก/ถอนจะถูกแปลง (โดยธนาคารหรือผู้ให้บริการ) ภายในแพลตฟอร์ม การคอนเวอร์ชัน P/L มักราว 0.7% เมื่อสกุลของตราสารต่างจากสกุลบัญชี เลือกสกุลฐานให้เหมาะเพื่อลดต้นทุน

เงินฝากขั้นต่ำ เริ่มได้ที่ $100 (หรือเทียบเท่า) ถือว่าต่ำเมื่อเทียบโบรกเกอร์ใหญ่บางรายที่ต้องการ $500+ บางวิธีฝากอาจต่ำกว่านี้—เช่น อีวอลเล็ตบางเจ้าเริ่ม $50 เพื่อความสบาย แนะนำ $200–300 มิฉะนั้นจะจำกัดขนาดออเดอร์มาก

เลเวอเรจ ให้ตามเพดานของหน่วยงานกำกับ สำหรับลูกค้า EU/UK (กฎ ESMA) สูงสุด 1:30 สำหรับคู่เงินหลัก, 1:20 สำหรับน้ำมัน ทอง และดัชนีหลัก, 1:10 สำหรับคอมโมดิตี้/คู่รอง, 1:5 สำหรับหุ้น/ETF และ 1:2 สำหรับคริปโต จุดประสงค์เพื่อปกป้องมือใหม่จากความเสี่ยงเกินตัว ตัวอย่าง 1:30 หมายถึงเงิน $100 คุมสถานะ $3,000 ได้—กำไร/ขาดทุนถูกขยายเป็นสัดส่วน

ลูกค้า Professional หรืออยู่ใต้หน่วยงาน offshore (เซเชลส์) อาจใช้เลเวอเรจสูงกว่า: ถึง 1:300 บน FX, 1:100 บนดัชนี, 1:20 บนหุ้น และ 1:20 หรือมากกว่าสำหรับดัชนีคริปโต เลเวอเรจสูงคือดาบสองคม—มีพลังเมื่อใช้เป็น แต่ขยายความผิดพลาด สำหรับคนส่วนใหญ่ เพดานรายย่อยมาตรฐานถือว่าเหมาะสม

โบรกเกอร์ Plus500 บัญชีมืออาชีพ

ตัวอย่างเลเวอเรจ: ที่เพดาน 1:30 การเปิด 0.01 ล็อต EUR/USD (มูลค่าโนชันนัล ~€1,000) ต้องใช้มาร์จิ้นราว €33 หากไม่มีเลเวอเรจต้องใช้ €1,000 ข้อกำหนดมาร์จิ้นของ Plus500 จึงไม่สูง—มีเงินไม่กี่ร้อยดอลลาร์ก็เทรดด้วยไมโครไซส์ได้

มาร์จิ้นคอลและ Stop Out แพลตฟอร์มติดตามส่วนต่างระหว่างอิควิตี้กับมาร์จิ้นที่ต้องการ หากเข้าใกล้จุดเสี่ยง ระบบจะขอเติมเงิน (margin call) หรือให้ลดสถานะ เกณฑ์บังคับปิด (Stop Out) คือ 50% ของมาร์จิ้นที่ต้องการสำหรับสถานะเปิด (ตามกฎ EU) เมื่ออิควิตี้เหลือครึ่งหนึ่งของมาร์จิ้น โบรกเกอร์จะเริ่มปิดคำสั่งเพื่อลดความเสี่ยงติดลบ ระบบแสดงเปอร์เซ็นต์มาร์จิ้นและเตือนเมื่อเข้าโซนเสี่ยง (เช่น 100% เริ่มน่ากังวล; 50% เสี่ยงถูกปิดบังคับ) อาจมีอีเมล/SMS แจ้งเตือน มือใหม่มักมองข้ามและไม่เติมเงินจนโดน Stop Out ควรเฝ้าดูมาร์จิ้นเสมอ

สรุปเรื่องบัญชี: เริ่มกับ Plus500 ทำได้ง่าย—สมัครและฝากขั้นต่ำไม่สูง ประเภทบัญชีไม่ซับซ้อน เงื่อนไขสม่ำเสมอ เดโมช่วย onboarding แบบไร้ความเสี่ยง เลเวอเรจอยู่ในเกณฑ์ “มาตรฐาน” สำหรับรายย่อย เน้นความเรียบง่ายและชัดเจน หากต้องการเงื่อนไขเฉพาะ (เช่น สเปรดดิบพร้อมค่าคอมฯ ต่อล็อตและสภาพคล่องอินเตอร์แบงก์โดยตรง) Plus500 ไม่ใช่สายนั้น—เป็นโบรกเกอร์แบบ market‑maker ซึ่งเพียงพอสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่

ค่าธรรมเนียมและสเปรด

ต้นทุนเทรดกับ Plus500 เป็นอย่างไร? โบรกเกอร์วางตำแหน่งว่า “ไม่มีค่าคอมมิชชัน” ซึ่งโดยรวมเป็นจริง: ไม่มีค่าธรรมเนียมต่อดีล—ต้นทุนอยู่ในสเปรด (ส่วนต่าง bid‑ask)

โบรกเกอร์ Plus500 เงื่อนไขการเทรด

สเปรด Plus500 เสนอ “สเปรดลอยตัว” ปรับตามสภาวะตลาด ช่วงเงียบจะแคบ ช่วงผันผวนจะกว้าง บริษัทเผยสเปรดโดยทั่วไปของตราสารสำคัญ ตัวอย่างสเปรดเฉลี่ยบนแพลตฟอร์ม:

  • EUR/USD: ราว 1.2 pip—แข่งขันได้ในตลาดรายย่อย
  • GBP/USD: ประมาณ 1.8 pip
  • EUR/GBP: ราว 1.5 pip
  • AUD/USD: ~1.1 pip
  • USD/JPY: ~2.0 pip

สำหรับคู่เงินหลัก สเปรดมักอยู่ช่วง 1–2 pip ถือว่าเหมาะสม (market‑maker หลายเจ้าคล้ายกัน) ช่วงตลาดนิ่งเคยเห็น EUR/USD ต่ำสุดแถว 0.6 pip

สินทรัพย์อื่น ๆ อ้างสเปรดตามหน่วยราคา:

  • หุ้น: ไม่กี่เซ็นต์หรือเศษเปอร์เซ็นต์ สำหรับ CFD หุ้น Apple เคยเห็นราว $0.3 (ที่ราคาประมาณ $150 ≈0.2%) หุ้นสภาพคล่องต่ำอาจ 0.5–1%
  • ดัชนี: S&P 500 (USA 500) ทั่วไปราว 0.6 จุด; Nasdaq 100 ~1.5; FTSE 100 ~1; DAX (Germany 40) ~2 จุด
  • สินค้าโภคภัณฑ์: ทองคำ (XAU/USD) สเปรด ~ $0.5 (~0.02%) น้ำมัน (Brent/Crude) ~ $0.04–0.05 เงิน (Silver) ~ $0.03
  • คริปโต: กว้างกว่าในเชิงสัดส่วน Bitcoin CFD ราว 0.75% ของราคา; Ethereum ~1–2% สูงกว่าเอ็กซ์เชนจ์สปอตแต่ปกติสำหรับ CFD ที่มีเลเวอเรจ และไม่มีค่าคอมฯ เพิ่มเติม

โดยรวม สเปรดของ Plus500 อยู่ระดับกลาง ไม่ได้ต่ำสุดแบบ “อินเตอร์แบงก์ 0.1 pip” แต่ก็ไม่แพงเกินไป สำหรับเทรดเดอร์รายวันขนาดเล็กถือว่ารับได้ เมื่อเทียบ eToro หรือ Capital.com ระดับใกล้เคียงกัน หุ้นบางตัวอาจกว้างกว่าโบรกเกอร์ที่เชื่อมตลาดหลักทรัพย์โดยตรง แต่ Plus500 ไม่เก็บค่าธรรมเนียมต่อคำสั่ง สเปรดแสดงในหน้าข้อมูลตราสาร (กด “i”) เพื่อให้คำนวณต้นทุนก่อนเทรด

ค่าคอมมิชชันต่อดีล: $0 อย่างที่กล่าว Plus500 ไม่เก็บค่าคอมฯ ต่อออเดอร์ หากซื้อ CFD หุ้น Apple $1,000 คุณจ่ายเฉพาะสเปรด (อาจ $2–3 ระหว่าง bid/ask) โบรกเกอร์บางเจ้าจะคิด 0.1% ของมูลค่า ซึ่งใน Plus500 เท่ากับ $0

ค่าข้ามคืน (สว็อป) หากถือข้ามคืนจะมีค่าข้ามคืน (อาจลบ หรือบางกรณีบวกขึ้นกับอัตราดอกเบี้ย) ในสภาวะปัจจุบันโดยมากเป็นต้นทุน สำหรับ FX สว็อปสะท้อนส่วนต่างดอกเบี้ย สำหรับคริปโตมักสูง—บ่อยครั้ง 0.1–0.3% ต่อวัน โบรกเกอร์ไม่ได้แสดงอัตราทั้งหมดบนเว็บ แต่มีในแพลตฟอร์มเป็นรายตราสาร (เปอร์เซ็นต์รายวันฝั่ง long/short) CFD ไม่เหมาะถือยาว—สว็อปอาจกัดกำไรหากถือเป็นสัปดาห์/เดือน ตัวอย่าง long BTC อาจเจอ −0.20%/วัน ~6% ต่อเดือน ~70% ต่อปี คริปโต‑CFD จึงเหมาะเก็งกำไรระยะสั้น

ค่าธรรมเนียมไม่ใช้งาน เป็นประเด็นที่ถกเถียง หากไม่ล็อกอิน 3 เดือน จะมี $10/เดือน จนกว่าจะล็อกอินอีกครั้งหรือยอดเป็นศูนย์ เลี่ยงได้ง่าย—แค่เข้าระบบเป็นระยะ หากพักยาว ปิดสถานะและถอนเงิน—ยอดเหลือศูนย์ก็ไม่เสีย หรือตั้งเตือนรายเดือนให้ล็อกอิน

ค่าฝาก/ถอน: ไม่มีจากฝั่งโบรกเกอร์ ฝาก $1,000 ถอน $1,000—Plus500 โอนเต็ม (ตามผลการเทรด) ธนาคาร/ผู้ให้บริการของคุณอาจคิดค่าธรรมเนียม เช่น โอน SWIFT ระหว่างประเทศอาจโดน $20–30 จากธนาคารตัวกลาง Plus500 ระบุว่า “ในบางกรณีอาจมีค่าบริการจากธนาคาร ไม่ใช่จากเรา” ปกติ ~90% ของธุรกรรมไม่มีค่าธรรมเนียม

เกณฑ์ขั้นต่ำ เพื่อคงความ “ฟรี” จะมีเกณฑ์ขั้นต่ำ ถอนขั้นต่ำมัก $50 (อีวอลเล็ต) หรือ $100 (บัตร/ธนาคาร) การถอนต่ำกว่านี้อาจมีค่าธรรมเนียม ~$10 หากเหลือ $20 อาจไม่คุ้มถอน—อาจเติมเพิ่มแล้วเทรด หรือปล่อยไว้ หากถอนเกิน 5 ครั้งต่อเดือน รายการถัดไปอาจมีค่าธรรมเนียม (น้อยคนจะถอนถี่ขนาดนั้น) นโยบายอาจเปลี่ยนได้ แต่ภาพรวมประมาณนี้

Guaranteed Stop (GSLO) หากใช้ GSLO Plus500 จะคิด “เบี้ยประกัน” ผ่านสเปรดที่กว้างขึ้น สต็อปลอสจะถูกการันตีที่ราคาที่ตั้งไว้แม้เกิดช่องว่างราคา ส่วนเพิ่มนี้จะแสดงในช่องคำสั่งเมื่อเลือก “Guaranteed Stop” แม้ราคาไม่ชนสต็อป คุณยังจ่ายสเปรดที่กว้าง—เปรียบเสมือนค่าประกัน คู่แข่งจำนวนมากไม่มี GSLO ให้เลย จึงเป็นตัวเลือกที่มีประโยชน์ ใช้หรือไม่ขึ้นกับกลยุทธ์และการยอมรับความเสี่ยง

สรุปค่าธรรมเนียม: Plus500 โปร่งใสเรื่องต้นทุน คุณจ่ายผ่านสเปรดและค่าข้ามคืน ไม่มีค่าคอมฯ ต่อออเดอร์ สเปรดอยู่ระดับกลาง ค่าธรรมเนียมไม่ใช้งานเลี่ยงได้ด้วยการล็อกอินเป็นระยะ สำหรับผู้เทรดส่วนใหญ่ ต้นทุนรวมถือว่า “บาง” ไม่มีค่าฝาก/ถอนและไม่มีค่าตั๋ว—เน้นดูสเปรดเป็นหลัก เหมาะกับผู้เทรดที่แอคทีฟขนาดไม่ใหญ่มาก เลี่ยงค่าคงที่ช่วยประหยัดได้มาก

หากคุณต้องการสเปรดดิบสุดบางและยอมจ่ายค่าคอมฯ ต่อล็อต (สไตล์สเกลเปอร์/โปร) โบรกเกอร์แบบ ECN อาจเหมาะกว่า แต่จะซับซ้อนกว่าและมักต้องใช้เงินเริ่มต้นสูงกว่า Plus500 เหมาะกับการเทรดรายย่อยที่ต้องการความเรียบง่าย—ราคา “รวมทุกอย่าง” และไม่มีบวกเพิ่มซ่อนเร้น



การฝากและถอนเงิน

Plus500 รองรับวิธีชำระเงินหลากหลาย ทำให้โอนย้ายเงินได้สะดวกทั่วโลก รายละเอียดหลัก ๆ มีดังนี้

วิธีฝากเงิน:

  • บัตรธนาคาร Visa/Mastercard เส้นทางยอดนิยม—เข้าบัญชีทันที รองรับทั้งเดบิตและเครดิต มักต้องมี 3D‑Secure (รหัส SMS) ฝากขั้นต่ำทั่วไป $100 ฝั่งโบรกเกอร์ไม่คิดค่าธรรมเนียม แต่บางธนาคารอาจมองเป็นธุรกรรมกึ่งเงินสด—ควรตรวจเงื่อนไขบัตร โดยส่วนใหญ่จะเร็วและไม่มีค่าใช้จ่าย
  • อีวอลเล็ต: PayPal, Skrill, Neteller รวมทั้งวอลเล็ตท้องถิ่นในบางภูมิภาค (เช่น BPay ในออสเตรเลีย; Qiwi/WebMoney เคยรองรับในบางประเทศแต่ปัจจุบันไม่รองรับรัสเซีย) PayPal/Skrill สะดวก—เครดิตทันที ไม่มีค่าธรรมเนียมฝั่งโบรกเกอร์ ขั้นต่ำมัก $100 (หรือบางภูมิภาค $50) ผู้ใช้จำนวนมากชอบ PayPal เพราะฝาก/ถอนได้เร็ว
  • โอนผ่านธนาคาร (wire) เส้นทางดั้งเดิม ข้อดี: วงเงินสูง เหมาะกับยอดใหญ่ ข้อเสีย: ช้ากว่า—1–3 วันทำการ (สูงสุด 5 วันหากระหว่างประเทศ) ไม่มีค่าธรรมเนียมจาก Plus500 แต่ธนาคารผู้ส่ง/ตัวกลางอาจคิด $20–50 ขั้นต่ำ ~ $100 เหมาะเมื่อวงเงินบัตรจำกัด
  • วิธีท้องถิ่นอื่น ๆ ในยุโรป: Sofort (Klarna), Trustly, GiroPay, iDEAL (เนเธอร์แลนด์), Przelewy24 (โปแลนด์), MyBank และ Multibanco (โปรตุเกส) ฯลฯ ใน LATAM บางประเทศมี Boleto วิธีเหล่านี้เชื่อมในแพลตฟอร์ม—เลือกธนาคารและยืนยันผ่านหน้าที่คุ้นเคย มักจะรวดเร็วและสะดวก
  • การจ่ายผ่านมือถือ บางภูมิภาคมี Apple Pay/Google Pay (เชื่อมบัตรในท้ายที่สุด) อดีตอาจรองรับคริปโตใน offshore แต่ปัจจุบันโดยทั่วไป Plus500 รับเฉพาะเงิน fiat

สกุลเงินฝาก แนะนำให้ฝากเป็นสกุลเงินฐานของบัญชีเพื่อลดการแปลง หากฐานเป็น USD ก็ควรฝากเป็นดอลลาร์ สกุลอื่นจะถูกแปลงตามเรตธนาคาร/แพลตฟอร์ม โดยส่วนต่างคอนเวอร์ชันอาจราว ~0.7%

การถอนเงิน ในฐานะโบรกเกอร์ที่ถูกกำกับ Plus500 จะส่งเงินกลับผ่านช่องทางเดียวกับที่ฝาก (“Return To Source”) ตามกฎ AML ดังนั้นควรวางแผนตั้งแต่ตอนฝากว่าจะอยากถอนผ่านช่องทางใด

  • คืนเข้าบัตร: เงินถูกส่งกลับไปยัง Visa/Mastercard มักคืนยอดฝากเดิมก่อน (reversal) และกำไรจ่ายแยก คุณจะได้รับเต็มจำนวน แต่อาจมาสองก้อน ใช้เวลา 3–7 วัน
  • เข้าอีวอลเล็ต: PayPal/Skrill มักเร็วที่สุด หลังผ่านการประมวลผลภายใน เงินจะเข้าใน 1–3 วัน (บ่อยครั้งวันเดียวกัน) ขั้นต่ำมัก $50
  • โอนธนาคาร: สำหรับยอดใหญ่หรือเมื่อกำไรเกินวงเงินคืนเข้าบัตร ส่วนที่เหลือจะโอนผ่านธนาคาร (ชื่อผู้รับต้องตรงกับชื่อบัญชีเทรด) ใช้เวลา 5–7 วัน ธนาคารผู้รับอาจคิด $10–30
  • การยืนยันวิธีชำระเงิน: Plus500 อาจขอเอกสารยืนยัน เช่น รูปบัตรที่บังเลขส่วนใหญ่ หรือสกรีนช็อตวอลเล็ตที่แสดงชื่อ นี่เป็นมาตรการมาตรฐานเพื่อความปลอดภัย

ความเร็วในการประมวลผล โบรกเกอร์ระบุ 1–3 วันทำการในการพิจารณาคำขอถอน ในทางปฏิบัติมักไวกว่า—PayPal ของผู้เขียนเข้าวันถัดไป หากต้องตรวจสอบเพิ่มเติมอาจ 2–3 วัน สำคัญ: การถอนครั้งแรกต้องผ่าน KYC หากเอกสารยังไม่อนุมัติ ระบบจะขออัปโหลดก่อน ทำให้ล่าช้า

การยืนยันตัวตน (KYC) โดยทั่วไปจะขอหนังสือเดินทาง/บัตรประชาชน และหลักฐานที่อยู่ (บิลค่าสาธารณูปโภคหรือสเตทเมนต์ธนาคาร) จะอธิบายขั้นตอนในหัวข้อต่อไป แต่โดยสรุป: ถ้าไม่ยืนยันตัวตนจะถอนไม่ได้ ทำ KYC ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะราบรื่นกว่า

ขีดจำกัดและค่าธรรมเนียมการถอน ดังที่กล่าว ขั้นต่ำอยู่ที่ $50/$100 หากอยู่ในเกณฑ์ (ไม่เกิน 5 ครั้ง/เดือน และเกินขั้นต่ำ) จะไม่มีค่าธรรมเนียม การถอนเล็กมากหรือถี่มากอาจมี ~$10 ผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่เจอกรณีนี้

ประสบการณ์ผู้ใช้ โดยรวมฟีดแบ็กชี้ว่า Plus500 จ่ายเงินได้ตามปกติ จะไม่พบคำร้องเรียน “ยึดเงิน” เป็นวงกว้าง (ต่างจากร้านค้าที่ไม่น่าเชื่อถือ) ความล่าช้ามักเกิดจาก KYC ไม่เสร็จ หรือเปลี่ยนวิธีชำระเงิน—คอมพลายอาจขอข้อมูลเพิ่ม หากเอกสารครบ การจ่ายมักใช้เวลาไม่กี่วัน ตัวอย่างผู้ใช้ Trustpilot รายหนึ่งระบุว่า “แพลตฟอร์มดี ใช้งานง่าย… ไม่มีโฆษณาหรือแบบสำรวจมากวน แค่สมัครแล้วเรียนรู้ ยังไม่ได้ลองฝาก แต่ตอนนี้ทุกอย่างโอเค”—ไม่มีปัญหาเรื่องการโอน สำหรับการทดสอบถอน $100 ผ่าน PayPal ใช้เวลา 2 วัน ไม่มีค่าธรรมเนียม ได้เต็มจำนวน

ทิป: วางแผนล่วงหน้า หากต้องใช้เงินตามกำหนด ควรส่งคำขออย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ก่อน และอย่าลืมล็อกอินเป็นระยะเพื่อไม่ให้เจอค่าธรรมเนียมไม่ใช้งานระหว่างรอ

โดยสรุป การทำธุรกรรมกับ Plus500 ค่อนข้างสะดวก: วิธีฝากหลายแบบ ไม่มีค่าธรรมเนียมฝั่งโบรกเกอร์ และการถอนค่อนข้างเร็ว สำหรับผู้ใช้ CIS การใช้บัตรหรือ Skrill/Neteller มักเหมาะ (บางประเทศไม่รองรับรับเงินผ่าน PayPal) หากต้องการความเร็ว เลือกอีวอลเล็ต; หากยอดใหญ่ ยอมรับความช้าของการโอนธนาคาร

Igor Lementov
Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com


บทความที่อาจช่วยคุณได้
บทวิจารณ์และความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด: 0
avatar