คู่สกุลเงินในออปชั่นไบนารี (2025): แนวทางสำหรับมือใหม่
Updated: 06.05.2025
คู่สกุลเงินในออปชั่นไบนารี: สินทรัพย์หลักสำหรับการเทรดออปชั่นไบนารี (2025)
นักเทรดมือใหม่ทุกคนย่อมพบคำถามสำคัญข้อหนึ่งเสมอ: “ควรเทรดอะไร?” เพราะในปัจจุบันมีสินทรัพย์ให้เราเทรดมากมายจนเลือกไม่ถูก โดยทั่วไปแล้ว สินทรัพย์หลัก 4 ประเภทสำหรับการเทรดออปชั่นไบนารี ได้แก่:
อีกเหตุผลสำคัญในการเลือกคู่สกุลเงิน คือ หุ้นไม่ได้ซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการเทรดดัชนีต้องใช้ความรู้เพิ่มเติม ดังนั้น คู่สกุลเงินจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ซึ่งบทความนี้จะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
วิธีการแสดงราคาของคู่สกุลเงินเป็นดังนี้:
ราคาซื้อและราคาขายจะมีค่าไม่เท่ากัน ส่วนต่างของราคาทั้งสองเรียกว่า สเปรด (Spread):
แต่ละคู่มีสกุลเงิน 2 สกุล โดยราคาของแต่ละสกุลเงินขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สถานะทางเศรษฐกิจของประเทศที่ใช้สกุลเงินนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น เศรษฐกิจของเยอรมนีและประเทศอื่น ๆ ในโซนยุโรปมีผลมากต่อค่าเงินยูโร (EUR) ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ก็ขึ้นกับเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเอง เช่นเดียวกับค่าเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ที่ขึ้นกับเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร
หากเศรษฐกิจของประเทศใดดีขึ้น สกุลเงินของประเทศนั้นก็จะแข็งขึ้น ราคาจะสูงขึ้น ไม่สำคัญว่าสกุลเงินนั้นจะอยู่ฝั่ง Base หรือ Quoted ตัวอย่างเช่น ถ้ามีข่าวดีสำหรับ USD ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า เมื่อค่าเงินดอลลาร์อยู่ในคู่ EUR/USD ราคาคู่นี้ก็จะปรับตัวลง (B) เพราะ 1 ยูโรจะแลกเป็นดอลลาร์ได้น้อยลงหลังจาก USD แข็งค่าขึ้น
คู่ครอสช่วยให้เราสามารถรู้ได้โดยตรงว่าหนึ่งยูโรมีค่าเท่าไหร่ในหน่วยของสกุลเงินอังกฤษ (EUR/GBP) ตัวอย่างของคู่ครอส เช่น:
คริปโตเคอเรนซีที่มักพบบ่อยในการเทรดออปชั่นไบนารี เช่น:
คุณสามารถหลีกเลี่ยงข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญได้โดยไม่เทรดในช่วงที่มีข่าว แต่บางครั้งอาจเหลือเวลาเทรดน้อย ดังนั้นจึงมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง:
ความผันผวนเป็นปัจจัยสำคัญทั้งในตลาด Forex และการเทรดออปชั่นไบนารี เพราะจะบ่งบอกว่านักเทรดควรใช้กลยุทธ์แบบใดในขณะนั้น
ในตลาด Forex ความเคลื่อนไหวของราคาที่ไกลจากจุดซื้อขาย (เช่น เทรนด์แข็งแรง) เป็นสิ่งที่นักเทรดมองหา แต่สำหรับออปชั่นไบนารีนั้น การเคลื่อนไหวของราคาจะถูกจำกัดด้วยเวลากำหนดหมดอายุ (Expiration Time) จึงไม่จำเป็นต้องการเทรนด์ที่ยาวมาก เทรนด์ (Trend) มักจะคาดการณ์ได้ค่อนข้างง่าย สิ่งที่ควรระวังคือจังหวะที่เทรนด์เริ่มชะลอหรือกลับทิศทาง สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่มีประสบการณ์แล้ว ก็มักจะเทรดตามเทรนด์ (Trend Following) เพราะจุดเข้ามักน่าเชื่อถือกว่า และการดูเทรนด์ปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายด้วยการมองกราฟ นอกจากนี้ ในการเทรดออปชั่นไบนารียังสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในกรอบ (Sideways) หรือ “Flat” และ “Price Consolidation” ได้เช่นกัน หลักการคือเข้าซื้อขายจากขอบเขตของกรอบราคาเพื่อทำกำไร
สำหรับนักเทรดมือใหม่ บางคนกลับรู้สึกว่าเทรดในกรอบราคานั้นง่ายกว่าเทรนด์ ซึ่งก็แล้วแต่บุคคล ผมจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าแบบใดจะเหมาะกับคุณที่สุด
ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Trading Sessions” ได้แก่:
นอกจากนี้ แต่ละ Session ยังมีชื่อเรียกตามเมืองสำคัญที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายในเวลานั้น เช่น:
ข้อสรุปที่ชัดเจน คือ ไม่ควรเริ่มศึกษาทีเดียวพร้อมกันหลายสิบคู่ เพราะจะทำให้พลาดข้อมูลสำคัญและไม่ก้าวหน้ามากนัก ทางที่ดีคือเริ่มจาก 2-3 คู่ และค่อย ๆ ศึกษาอย่างลึกซึ้ง
ผมขอแนะนำให้คุณลองเริ่มที่คู่สกุลเงินที่มี GBP อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น หรืออาจสนใจคริปโตอย่าง BTC (Bitcoin) ซึ่งคาดการณ์ได้ง่ายและมีความเสถียร แต่ปัญหาคือยังมีบางแพลตฟอร์มออปชั่นไบนารีเท่านั้นที่รองรับคริปโต
หากคุณพบปัญหาในด้านจิตวิทยาการเทรด ให้ลองจำกัดตัวเองเทรดแค่เพียง 1 คู่ก็ได้ คุณจะยังพบโอกาสในการเปิดออเดอร์เพียงพอ ไม่ต้องกังวลว่าตลาดจะนิ่งเกินไป
สุดท้าย คุณควรกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องการเทรดคู่สกุลเงินใด และเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง ทั้งในภาคทฤษฎีและการทดลองเทรด เพราะการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ใด ๆ ย่อมขึ้นกับข่าวเศรษฐกิจของสกุลเงินนั้น ๆ ดังนั้นคุณจะต้องติดตามข่าวสารและจับตาดูรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาให้เป็นนิสัย
อาจดูเหมือนซับซ้อนในช่วงเริ่มต้น แต่เพียงแค่คุณลงมือเรียนรู้จริง ๆ ความรู้จะค่อย ๆ สะสมและประสบการณ์จะเพิ่มขึ้น โดยไม่มีวันสูญหายไปไหน
- คู่สกุลเงิน (ประกอบด้วยสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ)
- หุ้น (ของบริษัทขนาดใหญ่หลากหลายแห่ง)
- ดัชนี (รวมหลักทรัพย์ของหลายบริษัทที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน)
- คริปโตเคอเรนซี (คู่สกุลเงินระหว่างสกุลเงินดิจิทัลและ/หรือสกุลเงินจริง)
อีกเหตุผลสำคัญในการเลือกคู่สกุลเงิน คือ หุ้นไม่ได้ซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการเทรดดัชนีต้องใช้ความรู้เพิ่มเติม ดังนั้น คู่สกุลเงินจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ซึ่งบทความนี้จะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
เนื้อหา
- คู่สกุลเงินในการเทรดออปชั่นไบนารี
- การทำความเข้าใจคู่สกุลเงินในออปชั่นไบนารี
- ประเภทของคู่สกุลเงินที่โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีให้บริการ
- คู่สกุลเงินหลัก (Major Currency Pairs)
- คู่ครอส (Cross Pairs)
- คู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotic Currency Pairs)
- คริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrencies)
- คู่สกุลเงินโภคภัณฑ์ในออปชั่นไบนารี
- คู่สกุลเงินที่เหมาะกับนักเทรดออปชั่นไบนารีมือใหม่
- ความผันผวนของคู่สกุลเงินในการเทรดออปชั่นไบนารี
- ช่วงเวลาการเทรด (Trading Sessions) ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสำหรับออปชั่นไบนารี
คู่สกุลเงินในการเทรดออปชั่นไบนารี
คู่สกุลเงินทุกคู่ ไม่ว่าจะดูเข้าใจง่ายเพียงใด จะประกอบด้วยสกุลเงิน 2 สกุลเสมอ:- สกุลเงินตัวแรกในคู่ เรียกว่า Base
- สกุลเงินตัวที่สอง เรียกว่า Quoted
วิธีการแสดงราคาของคู่สกุลเงินเป็นดังนี้:
- ราคาซื้อ (Ask)
- ราคาขาย (Bid)
ราคาซื้อและราคาขายจะมีค่าไม่เท่ากัน ส่วนต่างของราคาทั้งสองเรียกว่า สเปรด (Spread):
(Bid + Ask) / 2
เราควรรู้สูตรนี้เพื่อเข้าใจว่าโควตราคาในออปชั่นไบนารีได้มาอย่างไร และทำไมจึงต่างจากโควตราคาที่เห็นในตลาด Forexการทำความเข้าใจคู่สกุลเงินในออปชั่นไบนารี
สำหรับคู่สกุลเงินแต่ละคู่ เราสามารถตีความได้ว่าเป็น “ราคาที่ต้องจ่ายเป็นอีกสกุลเงินหนึ่ง” เช่น หากเราพิจารณาคู่ยอดนิยมอย่างยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) โดยสมมติว่าโควตอยู่ที่ 1.2880:- EUR/USD = 1.2880 หมายความว่าหนึ่งยูโรมีมูลค่า 1.2880 ดอลลาร์สหรัฐ
แต่ละคู่มีสกุลเงิน 2 สกุล โดยราคาของแต่ละสกุลเงินขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สถานะทางเศรษฐกิจของประเทศที่ใช้สกุลเงินนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น เศรษฐกิจของเยอรมนีและประเทศอื่น ๆ ในโซนยุโรปมีผลมากต่อค่าเงินยูโร (EUR) ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ก็ขึ้นกับเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเอง เช่นเดียวกับค่าเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ที่ขึ้นกับเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร
หากเศรษฐกิจของประเทศใดดีขึ้น สกุลเงินของประเทศนั้นก็จะแข็งขึ้น ราคาจะสูงขึ้น ไม่สำคัญว่าสกุลเงินนั้นจะอยู่ฝั่ง Base หรือ Quoted ตัวอย่างเช่น ถ้ามีข่าวดีสำหรับ USD ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า เมื่อค่าเงินดอลลาร์อยู่ในคู่ EUR/USD ราคาคู่นี้ก็จะปรับตัวลง (B) เพราะ 1 ยูโรจะแลกเป็นดอลลาร์ได้น้อยลงหลังจาก USD แข็งค่าขึ้น
ประเภทของคู่สกุลเงินที่โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีให้บริการ
โดยทั่วไป เราพบว่าคู่สกุลเงินแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ในการเทรดกับผู้ให้บริการออปชั่นไบนารี:- คู่สกุลเงินหลัก (Major Currency Pairs) หรือ “เมเจอร์”
- คู่ครอส (Cross Pairs)
- คู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotic Currency Pairs)
- คริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrencies)
คู่สกุลเงินหลัก
คู่สกุลเงินหลัก คือคู่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดและขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของประเทศที่มีความมั่งคั่งสูง ซึ่งประเทศเหล่านี้ได้แก่:- สหรัฐอเมริกา (USA)
- สหราชอาณาจักร (Great Britain)
- ญี่ปุ่น (Japan)
- สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
- แคนาดา (Canada)
- EUR/USD
- USD/JPY
- GBP/USD
- AUD/USD
- USD/CHF
- NZD/USD
- USD/CAD
คู่ครอส
คู่ครอสเกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนระหว่างสองสกุลเงินโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง ตัวอย่างเช่น ถ้าไม่มีคู่ครอส EUR/GBP เราอาจต้องแลกเงินยูโรเป็นดอลลาร์สหรัฐก่อน แล้วจึงค่อยแลกดอลลาร์สหรัฐไปเป็นเงินปอนด์อังกฤษคู่ครอสช่วยให้เราสามารถรู้ได้โดยตรงว่าหนึ่งยูโรมีค่าเท่าไหร่ในหน่วยของสกุลเงินอังกฤษ (EUR/GBP) ตัวอย่างของคู่ครอส เช่น:
- GBP/JPY
- EUR/GBP
- CAD/JPY
- AUD/CAD
- EUR/AUD
- NZD/JPY
- EUR/NZD
คู่สกุลเงินแปลกใหม่
คู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotic) มักจะเป็นคู่ที่ประกอบด้วยสกุลเงินของประเทศขนาดเล็กหรือเศรษฐกิจที่ไม่แข็งแกร่งนัก จึงไม่ค่อยมีการซื้อขายมากนัก แต่ก็ควรรู้จักเผื่อไว้ในบางสถานการณ์ ตัวอย่างเช่น:- EUR/TRY
- USD/SEK
- USD/NOK
- USD/DKK
- USD/ZAR
- USD/HKD
- USD/SGD
คริปโตเคอเรนซี
คริปโตเคอเรนซีถือกำเนิดขึ้นมาไม่นานนัก เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้จ่ายออนไลน์ได้ลักษณะเดียวกับสกุลเงินทั่วไป ในตลาดออปชั่นไบนารีก็มีการจับคู่คริปโตเคอเรนซีกับสกุลเงินปกติ (มักจะเป็น USD) เพื่อให้เทรดได้ บางครั้งชื่อคู่จะบอกชัดเจน แต่บางครั้งอาจจะไม่คริปโตเคอเรนซีที่มักพบบ่อยในการเทรดออปชั่นไบนารี เช่น:
- BTC/USD (Bitcoin และ USD)
- LTC/USD (Litcoin และ USD)
- Dash/USD (Dash และ USD)
- ETH/BTC (Ethereum และ Bitcoin)
- BTC/EUR (Bitcoin และยูโร)
- BTC/JPY (Bitcoin และเงินเยนญี่ปุ่น)
คู่สกุลเงินโภคภัณฑ์ในออปชั่นไบนารี
คู่สกุลเงินโภคภัณฑ์ คือสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ ที่พึ่งพารายได้หลักจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น:- น้ำมัน
- ทองคำ
- แร่เงิน
- ทองแดง
- นิกเกิล
- แพลตตินัม
- น้ำตาล
- CAD (ดอลลาร์แคนาดา)
- AUD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย)
- NZD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์)
- BRL (เรียลบราซิล)
- NOK (โครนนอร์เวย์)
- CLP (เปโซชิลี)
คู่สกุลเงินที่เหมาะกับนักเทรดออปชั่นไบนารีมือใหม่
โดยส่วนใหญ่แล้ว คู่ EUR/USD นับเป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายสูงสุด จนทำให้นักเทรดมือใหม่มักจะเริ่มต้นเทรดด้วยคู่สกุลเงินนี้เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ความนิยมไม่ได้แปลว่าเทรดง่ายเสมอไป เพราะ EUR/USD ได้รับผลกระทบจากข่าวเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรปค่อนข้างบ่อยคุณสามารถหลีกเลี่ยงข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญได้โดยไม่เทรดในช่วงที่มีข่าว แต่บางครั้งอาจเหลือเวลาเทรดน้อย ดังนั้นจึงมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง:
- เรียนรู้ที่จะเทรดคู่สกุลเงินที่ค่อนข้างซับซ้อน
- หรือมองหาคู่สกุลเงินที่เทรดได้ง่ายกว่า
ความผันผวนของคู่สกุลเงินในการเทรดออปชั่นไบนารี
ความผันผวน (Volatility) ของสินทรัพย์ใด ๆ คือจำนวนของการเคลื่อนไหวของราคาแบบรวดเร็วในช่วงสั้น ๆ หากราคาแกว่งขึ้นลงแรง ๆ หรือมีเทรนด์ที่เข้มข้น ก็ถือว่ามีความผันผวนสูง แต่ถ้าเคลื่อนไหวช้า ๆ ในกรอบแคบ ๆ ถือว่ามีความผันผวนต่ำความผันผวนเป็นปัจจัยสำคัญทั้งในตลาด Forex และการเทรดออปชั่นไบนารี เพราะจะบ่งบอกว่านักเทรดควรใช้กลยุทธ์แบบใดในขณะนั้น
ในตลาด Forex ความเคลื่อนไหวของราคาที่ไกลจากจุดซื้อขาย (เช่น เทรนด์แข็งแรง) เป็นสิ่งที่นักเทรดมองหา แต่สำหรับออปชั่นไบนารีนั้น การเคลื่อนไหวของราคาจะถูกจำกัดด้วยเวลากำหนดหมดอายุ (Expiration Time) จึงไม่จำเป็นต้องการเทรนด์ที่ยาวมาก เทรนด์ (Trend) มักจะคาดการณ์ได้ค่อนข้างง่าย สิ่งที่ควรระวังคือจังหวะที่เทรนด์เริ่มชะลอหรือกลับทิศทาง สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่มีประสบการณ์แล้ว ก็มักจะเทรดตามเทรนด์ (Trend Following) เพราะจุดเข้ามักน่าเชื่อถือกว่า และการดูเทรนด์ปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายด้วยการมองกราฟ นอกจากนี้ ในการเทรดออปชั่นไบนารียังสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในกรอบ (Sideways) หรือ “Flat” และ “Price Consolidation” ได้เช่นกัน หลักการคือเข้าซื้อขายจากขอบเขตของกรอบราคาเพื่อทำกำไร
สำหรับนักเทรดมือใหม่ บางคนกลับรู้สึกว่าเทรดในกรอบราคานั้นง่ายกว่าเทรนด์ ซึ่งก็แล้วแต่บุคคล ผมจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าแบบใดจะเหมาะกับคุณที่สุด
ช่วงเวลาการเทรด (Trading Sessions) ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสำหรับออปชั่นไบนารี
ตลาด Forex เปิดทำการ 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ (ปิดวันเสาร์-อาทิตย์) แน่นอนว่าโลกทั้งใบไม่สามารถเทรดต่อเนื่องได้จริง ๆ เพราะยังมีเรื่องเวลาเข้างานและการพักผ่อน ดังนั้น วันทำการทั้ง 5 วันจึงถูกแบ่งเป็นช่วงเวลาหลัก ๆ ที่แต่ละภูมิภาคเริ่มทำการซื้อขายตามเวลาทำงานของประเทศนั้น ๆทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Trading Sessions” ได้แก่:
- เอเชีย (Asian)
- ยุโรป (European)
- อเมริกา (American)
- ออสเตรเลีย (Australian)
นอกจากนี้ แต่ละ Session ยังมีชื่อเรียกตามเมืองสำคัญที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายในเวลานั้น เช่น:
- Asian (Tokyo)
- European (London)
- American (New York)
- Australian (Sydney)
ควรใช้คู่สกุลเงินใดในการเทรดออปชั่นไบนารี
ส่วนใหญ่แล้ว นักเทรดที่มีประสบการณ์จะเลือกใช้คู่สกุลเงินที่ตนเคยศึกษาหรือเข้าใจโครงสร้างราคาได้ดี ดังนั้นทั้งหมดขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความถนัดของคุณเองข้อสรุปที่ชัดเจน คือ ไม่ควรเริ่มศึกษาทีเดียวพร้อมกันหลายสิบคู่ เพราะจะทำให้พลาดข้อมูลสำคัญและไม่ก้าวหน้ามากนัก ทางที่ดีคือเริ่มจาก 2-3 คู่ และค่อย ๆ ศึกษาอย่างลึกซึ้ง
ผมขอแนะนำให้คุณลองเริ่มที่คู่สกุลเงินที่มี GBP อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น หรืออาจสนใจคริปโตอย่าง BTC (Bitcoin) ซึ่งคาดการณ์ได้ง่ายและมีความเสถียร แต่ปัญหาคือยังมีบางแพลตฟอร์มออปชั่นไบนารีเท่านั้นที่รองรับคริปโต
หากคุณพบปัญหาในด้านจิตวิทยาการเทรด ให้ลองจำกัดตัวเองเทรดแค่เพียง 1 คู่ก็ได้ คุณจะยังพบโอกาสในการเปิดออเดอร์เพียงพอ ไม่ต้องกังวลว่าตลาดจะนิ่งเกินไป
สุดท้าย คุณควรกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องการเทรดคู่สกุลเงินใด และเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง ทั้งในภาคทฤษฎีและการทดลองเทรด เพราะการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ใด ๆ ย่อมขึ้นกับข่าวเศรษฐกิจของสกุลเงินนั้น ๆ ดังนั้นคุณจะต้องติดตามข่าวสารและจับตาดูรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาให้เป็นนิสัย
อาจดูเหมือนซับซ้อนในช่วงเริ่มต้น แต่เพียงแค่คุณลงมือเรียนรู้จริง ๆ ความรู้จะค่อย ๆ สะสมและประสบการณ์จะเพิ่มขึ้น โดยไม่มีวันสูญหายไปไหน
บทวิจารณ์และความคิดเห็น