หน้าหลัก ข่าวไซต์
คู่สกุลเงินในออปชั่นไบนารี (2025): แนวทางสำหรับมือใหม่
Updated: 06.05.2025

คู่สกุลเงินในออปชั่นไบนารี: สินทรัพย์หลักสำหรับการเทรดออปชั่นไบนารี (2025)

นักเทรดมือใหม่ทุกคนย่อมพบคำถามสำคัญข้อหนึ่งเสมอ: “ควรเทรดอะไร?” เพราะในปัจจุบันมีสินทรัพย์ให้เราเทรดมากมายจนเลือกไม่ถูก โดยทั่วไปแล้ว สินทรัพย์หลัก 4 ประเภทสำหรับการเทรดออปชั่นไบนารี ได้แก่:
  • คู่สกุลเงิน (ประกอบด้วยสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ)
  • หุ้น (ของบริษัทขนาดใหญ่หลากหลายแห่ง)
  • ดัชนี (รวมหลักทรัพย์ของหลายบริษัทที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน)
  • คริปโตเคอเรนซี (คู่สกุลเงินระหว่างสกุลเงินดิจิทัลและ/หรือสกุลเงินจริง)
จากรายการข้างต้น สิ่งที่คนทั่วไป (โดยเฉพาะมือใหม่) เข้าใจได้ง่ายที่สุดคือคู่สกุลเงิน เพราะในชีวิตประจำวันเรามักเกี่ยวข้องกับสกุลเงินจากหลายประเทศอยู่แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่นักเทรดมือใหม่ส่วนมากจะเลือกเทรดคู่สกุลเงินก่อน

อีกเหตุผลสำคัญในการเลือกคู่สกุลเงิน คือ หุ้นไม่ได้ซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการเทรดดัชนีต้องใช้ความรู้เพิ่มเติม ดังนั้น คู่สกุลเงินจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ซึ่งบทความนี้จะมาอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

คู่สกุลเงินในการเทรดออปชั่นไบนารี

คู่สกุลเงินทุกคู่ ไม่ว่าจะดูเข้าใจง่ายเพียงใด จะประกอบด้วยสกุลเงิน 2 สกุลเสมอ:
  • สกุลเงินตัวแรกในคู่ เรียกว่า Base
  • สกุลเงินตัวที่สอง เรียกว่า Quoted
ลำดับของคู่สกุลเงินจะถูกกำหนดแบบตายตัวตามมาตรฐานขององค์กร ISO (International Organization of Standardization) ดังนั้นจึงเป็น EUR/USD เสมอ ไม่ใช่ USD/EUR

วิธีการแสดงราคาของคู่สกุลเงินเป็นดังนี้:

โดยราคาของคู่สกุลเงินจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน:
  • ราคาซื้อ (Ask)
  • ราคาขาย (Bid)
แนวคิดนี้เข้าใจไม่ยาก เพราะในการซื้อขายต้องมีทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ยกตัวอย่างเช่น ป้ายอัตราแลกเปลี่ยนตามธนาคารต่าง ๆ ที่จะแสดงราคาเมื่อธนาคารซื้อสกุลเงินจากเรา และราคาที่ธนาคารขายสกุลเงินให้เรา

ราคาซื้อและราคาขายจะมีค่าไม่เท่ากัน ส่วนต่างของราคาทั้งสองเรียกว่า สเปรด (Spread):

แต่ทั้งหมดข้างต้นเป็นลักษณะของตลาด Forex ส่วนในออปชั่นไบนารี ราคาจะแสดงเป็นค่าเดียวบนกราฟ:

เนื่องจากในออปชั่นไบนารีจะใช้ราคาเฉลี่ยของสินทรัพย์ ซึ่งมาจากสูตร:

(Bid + Ask) / 2

เราควรรู้สูตรนี้เพื่อเข้าใจว่าโควตราคาในออปชั่นไบนารีได้มาอย่างไร และทำไมจึงต่างจากโควตราคาที่เห็นในตลาด Forex

การทำความเข้าใจคู่สกุลเงินในออปชั่นไบนารี

สำหรับคู่สกุลเงินแต่ละคู่ เราสามารถตีความได้ว่าเป็น “ราคาที่ต้องจ่ายเป็นอีกสกุลเงินหนึ่ง” เช่น หากเราพิจารณาคู่ยอดนิยมอย่างยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ (EUR/USD) โดยสมมติว่าโควตอยู่ที่ 1.2880:
  • EUR/USD = 1.2880 หมายความว่าหนึ่งยูโรมีมูลค่า 1.2880 ดอลลาร์สหรัฐ
แล้วหากราคาของคู่สกุลเงินเปลี่ยนไปจะเกิดอะไรขึ้น? เรามาดูรายละเอียดเพิ่มเติม

แต่ละคู่มีสกุลเงิน 2 สกุล โดยราคาของแต่ละสกุลเงินขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สถานะทางเศรษฐกิจของประเทศที่ใช้สกุลเงินนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น เศรษฐกิจของเยอรมนีและประเทศอื่น ๆ ในโซนยุโรปมีผลมากต่อค่าเงินยูโร (EUR) ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ก็ขึ้นกับเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเอง เช่นเดียวกับค่าเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ที่ขึ้นกับเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร

หากเศรษฐกิจของประเทศใดดีขึ้น สกุลเงินของประเทศนั้นก็จะแข็งขึ้น ราคาจะสูงขึ้น ไม่สำคัญว่าสกุลเงินนั้นจะอยู่ฝั่ง Base หรือ Quoted ตัวอย่างเช่น ถ้ามีข่าวดีสำหรับ USD ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า เมื่อค่าเงินดอลลาร์อยู่ในคู่ EUR/USD ราคาคู่นี้ก็จะปรับตัวลง (B) เพราะ 1 ยูโรจะแลกเป็นดอลลาร์ได้น้อยลงหลังจาก USD แข็งค่าขึ้น

แต่ถ้ามีข่าวดีสำหรับ EUR มูลค่าของยูโรก็จะเพิ่มขึ้น จึงต้องใช้ดอลลาร์มากขึ้นเพื่อซื้อ 1 ยูโร บนกราฟจะเห็นราคาวิ่งขึ้น (A)

ประเภทของคู่สกุลเงินที่โบรกเกอร์ออปชั่นไบนารีให้บริการ

โดยทั่วไป เราพบว่าคู่สกุลเงินแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ในการเทรดกับผู้ให้บริการออปชั่นไบนารี:
  • คู่สกุลเงินหลัก (Major Currency Pairs) หรือ “เมเจอร์”
  • คู่ครอส (Cross Pairs)
  • คู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotic Currency Pairs)
  • คริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrencies)

คู่สกุลเงินหลัก

คู่สกุลเงินหลัก คือคู่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดและขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของประเทศที่มีความมั่งคั่งสูง ซึ่งประเทศเหล่านี้ได้แก่:
  • สหรัฐอเมริกา (USA)
  • สหราชอาณาจักร (Great Britain)
  • ญี่ปุ่น (Japan)
  • สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
  • แคนาดา (Canada)
ดังนั้น คู่สกุลเงินหลักจึงรวมถึงคู่ที่ประกอบด้วยสกุลเงินจากประเทศเหล่านี้ เช่น:
  • EUR/USD
  • USD/JPY
  • GBP/USD
  • AUD/USD
  • USD/CHF
  • NZD/USD
  • USD/CAD
คู่สกุลเงินเหล่านี้เป็นที่เทรดทั่วโลก นอกจากนี้ยังอาจมีความเสี่ยงสูง เพราะมีข่าวเศรษฐกิจสำคัญออกมาบ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาได้มาก

คู่ครอส

คู่ครอสเกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนระหว่างสองสกุลเงินโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง ตัวอย่างเช่น ถ้าไม่มีคู่ครอส EUR/GBP เราอาจต้องแลกเงินยูโรเป็นดอลลาร์สหรัฐก่อน แล้วจึงค่อยแลกดอลลาร์สหรัฐไปเป็นเงินปอนด์อังกฤษ

คู่ครอสช่วยให้เราสามารถรู้ได้โดยตรงว่าหนึ่งยูโรมีค่าเท่าไหร่ในหน่วยของสกุลเงินอังกฤษ (EUR/GBP) ตัวอย่างของคู่ครอส เช่น:
  • GBP/JPY
  • EUR/GBP
  • CAD/JPY
  • AUD/CAD
  • EUR/AUD
  • NZD/JPY
  • EUR/NZD

คู่สกุลเงินแปลกใหม่

คู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotic) มักจะเป็นคู่ที่ประกอบด้วยสกุลเงินของประเทศขนาดเล็กหรือเศรษฐกิจที่ไม่แข็งแกร่งนัก จึงไม่ค่อยมีการซื้อขายมากนัก แต่ก็ควรรู้จักเผื่อไว้ในบางสถานการณ์ ตัวอย่างเช่น:
  • EUR/TRY
  • USD/SEK
  • USD/NOK
  • USD/DKK
  • USD/ZAR
  • USD/HKD
  • USD/SGD

คริปโตเคอเรนซี

คริปโตเคอเรนซีถือกำเนิดขึ้นมาไม่นานนัก เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้จ่ายออนไลน์ได้ลักษณะเดียวกับสกุลเงินทั่วไป ในตลาดออปชั่นไบนารีก็มีการจับคู่คริปโตเคอเรนซีกับสกุลเงินปกติ (มักจะเป็น USD) เพื่อให้เทรดได้ บางครั้งชื่อคู่จะบอกชัดเจน แต่บางครั้งอาจจะไม่

คริปโตเคอเรนซีที่มักพบบ่อยในการเทรดออปชั่นไบนารี เช่น:
  • BTC/USD (Bitcoin และ USD)
  • LTC/USD (Litcoin และ USD)
  • Dash/USD (Dash และ USD)
  • ETH/BTC (Ethereum และ Bitcoin)
  • BTC/EUR (Bitcoin และยูโร)
  • BTC/JPY (Bitcoin และเงินเยนญี่ปุ่น)

คู่สกุลเงินโภคภัณฑ์ในออปชั่นไบนารี

คู่สกุลเงินโภคภัณฑ์ คือสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ ที่พึ่งพารายได้หลักจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น:
  • น้ำมัน
  • ทองคำ
  • แร่เงิน
  • ทองแดง
  • นิกเกิล
  • แพลตตินัม
  • น้ำตาล
นอกจากนี้ยังรวมถึงสกุลเงินของประเทศกำลังพัฒนาที่ขึ้นอยู่กับการส่งออกวัตถุดิบเป็นหลัก ตัวอย่างของสกุลเงินโภคภัณฑ์ เช่น:
  • CAD (ดอลลาร์แคนาดา)
  • AUD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย)
  • NZD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์)
  • BRL (เรียลบราซิล)
  • NOK (โครนนอร์เวย์)
  • CLP (เปโซชิลี)
ปัญหาหลักของประเทศที่มีสกุลเงินโภคภัณฑ์ คือค่าเงินจะขึ้นอยู่กับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตนส่งออก หากราคาตลาดของสินค้านั้น ๆ ลดลง ค่าเงินก็จะลดตาม โดยเฉพาะสินค้าสำคัญอย่างน้ำมันและทองคำ ซึ่งส่งผลให้เกิดความผันผวนของราคาสูง

คู่สกุลเงินที่เหมาะกับนักเทรดออปชั่นไบนารีมือใหม่

โดยส่วนใหญ่แล้ว คู่ EUR/USD นับเป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายสูงสุด จนทำให้นักเทรดมือใหม่มักจะเริ่มต้นเทรดด้วยคู่สกุลเงินนี้เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ความนิยมไม่ได้แปลว่าเทรดง่ายเสมอไป เพราะ EUR/USD ได้รับผลกระทบจากข่าวเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรปค่อนข้างบ่อย

คุณสามารถหลีกเลี่ยงข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญได้โดยไม่เทรดในช่วงที่มีข่าว แต่บางครั้งอาจเหลือเวลาเทรดน้อย ดังนั้นจึงมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง:
  • เรียนรู้ที่จะเทรดคู่สกุลเงินที่ค่อนข้างซับซ้อน
  • หรือมองหาคู่สกุลเงินที่เทรดได้ง่ายกว่า
นักเทรดที่มีประสบการณ์หลายคนแนะนำให้เริ่มจากคู่ที่มีเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) เช่น GBP/USD เพราะ GBP มีความเคลื่อนไหวของราคาที่ค่อนข้างเสถียร คาดการณ์ได้ง่าย และมีความผันผวนน้อยกว่าสกุลเงินอื่นบางสกุล

GBPUSD บนกราฟ

แน่นอนว่าคู่สกุลเงิน GBP นั้นน่าสนใจและเหมาะกับนักเทรดมือใหม่ แต่สำหรับผมแล้ว ผมให้ความสำคัญกับ วินัยในการเทรด ซึ่งช่วยให้ผมใช้กลยุทธ์ได้อย่างมั่นใจ รวมไปถึง การบริหารความเสี่ยง และ การบริหารเงินทุน (กฎการจัดการเงินทุนของตัวเอง) เพราะสำหรับผม สินทรัพย์ในการเทรดเป็นเรื่องรองลงมา

ความผันผวนของคู่สกุลเงินในการเทรดออปชั่นไบนารี

ความผันผวน (Volatility) ของสินทรัพย์ใด ๆ คือจำนวนของการเคลื่อนไหวของราคาแบบรวดเร็วในช่วงสั้น ๆ หากราคาแกว่งขึ้นลงแรง ๆ หรือมีเทรนด์ที่เข้มข้น ก็ถือว่ามีความผันผวนสูง แต่ถ้าเคลื่อนไหวช้า ๆ ในกรอบแคบ ๆ ถือว่ามีความผันผวนต่ำ

ความผันผวนเป็นปัจจัยสำคัญทั้งในตลาด Forex และการเทรดออปชั่นไบนารี เพราะจะบ่งบอกว่านักเทรดควรใช้กลยุทธ์แบบใดในขณะนั้น

ในตลาด Forex ความเคลื่อนไหวของราคาที่ไกลจากจุดซื้อขาย (เช่น เทรนด์แข็งแรง) เป็นสิ่งที่นักเทรดมองหา แต่สำหรับออปชั่นไบนารีนั้น การเคลื่อนไหวของราคาจะถูกจำกัดด้วยเวลากำหนดหมดอายุ (Expiration Time) จึงไม่จำเป็นต้องการเทรนด์ที่ยาวมาก

แนวโน้มขาลงบนกราฟราคา

เทรนด์ (Trend) มักจะคาดการณ์ได้ค่อนข้างง่าย สิ่งที่ควรระวังคือจังหวะที่เทรนด์เริ่มชะลอหรือกลับทิศทาง สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่มีประสบการณ์แล้ว ก็มักจะเทรดตามเทรนด์ (Trend Following) เพราะจุดเข้ามักน่าเชื่อถือกว่า และการดูเทรนด์ปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายด้วยการมองกราฟ

การรวมราคา

นอกจากนี้ ในการเทรดออปชั่นไบนารียังสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในกรอบ (Sideways) หรือ “Flat” และ “Price Consolidation” ได้เช่นกัน หลักการคือเข้าซื้อขายจากขอบเขตของกรอบราคาเพื่อทำกำไร

สำหรับนักเทรดมือใหม่ บางคนกลับรู้สึกว่าเทรดในกรอบราคานั้นง่ายกว่าเทรนด์ ซึ่งก็แล้วแต่บุคคล ผมจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าแบบใดจะเหมาะกับคุณที่สุด

ช่วงเวลาการเทรด (Trading Sessions) ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราสำหรับออปชั่นไบนารี

ตลาด Forex เปิดทำการ 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ (ปิดวันเสาร์-อาทิตย์) แน่นอนว่าโลกทั้งใบไม่สามารถเทรดต่อเนื่องได้จริง ๆ เพราะยังมีเรื่องเวลาเข้างานและการพักผ่อน ดังนั้น วันทำการทั้ง 5 วันจึงถูกแบ่งเป็นช่วงเวลาหลัก ๆ ที่แต่ละภูมิภาคเริ่มทำการซื้อขายตามเวลาทำงานของประเทศนั้น ๆ

ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Trading Sessions” ได้แก่:
  • เอเชีย (Asian)
  • ยุโรป (European)
  • อเมริกา (American)
  • ออสเตรเลีย (Australian)
โดยช่วงที่ตลาดทับซ้อนกัน ราคาคู่สกุลเงินบางคู่จะผันผวนแรงขึ้น เช่น คู่ EUR/USD มักเคลื่อนไหวมากในช่วงที่ตลาดยุโรปกับตลาดอเมริกาเปิดพร้อมกัน

นอกจากนี้ แต่ละ Session ยังมีชื่อเรียกตามเมืองสำคัญที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายในเวลานั้น เช่น:
  • Asian (Tokyo)
  • European (London)
  • American (New York)
  • Australian (Sydney)

ควรใช้คู่สกุลเงินใดในการเทรดออปชั่นไบนารี

ส่วนใหญ่แล้ว นักเทรดที่มีประสบการณ์จะเลือกใช้คู่สกุลเงินที่ตนเคยศึกษาหรือเข้าใจโครงสร้างราคาได้ดี ดังนั้นทั้งหมดขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความถนัดของคุณเอง

ข้อสรุปที่ชัดเจน คือ ไม่ควรเริ่มศึกษาทีเดียวพร้อมกันหลายสิบคู่ เพราะจะทำให้พลาดข้อมูลสำคัญและไม่ก้าวหน้ามากนัก ทางที่ดีคือเริ่มจาก 2-3 คู่ และค่อย ๆ ศึกษาอย่างลึกซึ้ง

ผมขอแนะนำให้คุณลองเริ่มที่คู่สกุลเงินที่มี GBP อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น หรืออาจสนใจคริปโตอย่าง BTC (Bitcoin) ซึ่งคาดการณ์ได้ง่ายและมีความเสถียร แต่ปัญหาคือยังมีบางแพลตฟอร์มออปชั่นไบนารีเท่านั้นที่รองรับคริปโต

หากคุณพบปัญหาในด้านจิตวิทยาการเทรด ให้ลองจำกัดตัวเองเทรดแค่เพียง 1 คู่ก็ได้ คุณจะยังพบโอกาสในการเปิดออเดอร์เพียงพอ ไม่ต้องกังวลว่าตลาดจะนิ่งเกินไป

สุดท้าย คุณควรกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องการเทรดคู่สกุลเงินใด และเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง ทั้งในภาคทฤษฎีและการทดลองเทรด เพราะการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ใด ๆ ย่อมขึ้นกับข่าวเศรษฐกิจของสกุลเงินนั้น ๆ ดังนั้นคุณจะต้องติดตามข่าวสารและจับตาดูรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาให้เป็นนิสัย

อาจดูเหมือนซับซ้อนในช่วงเริ่มต้น แต่เพียงแค่คุณลงมือเรียนรู้จริง ๆ ความรู้จะค่อย ๆ สะสมและประสบการณ์จะเพิ่มขึ้น โดยไม่มีวันสูญหายไปไหน
Igor Lementov
Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com


บทความที่อาจช่วยคุณได้
บทวิจารณ์และความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด: 0
avatar