หน้าหลัก ข่าวไซต์
Capital Bear – รีวิวไม่ลำเอียง & สัญญาณหลอกลวง 2025
Updated: 17.08.2025

Capital Bear: รีวิวจริง ความเห็นผู้เทรด และสัญญาณหลอกลวง (2025)

“คลิกเดียว ภายในห้าวินาที – กำไร 95 %!” ฟังดูดีเกินจริงหรือไม่? นั่นแหละคือวิธีที่ Capital Bear โฆษณาบริการของตน สัญญาเงินง่ายจากตลาดการเงิน บริษัทล่อมือใหม่ด้วยคำเคลมเชิงรุก ตั้งแต่โบนัสเงินฝาก +200 % ไปจนถึงนิทานเกี่ยวกับลูกค้าหลายล้าน แต่คำสัญญาเหล่านั้นจริงหรือ? ด้วยประสบการณ์เทรด 11 ปี ผมรู้ดีว่าเมื่อแพลตฟอร์มเสนอความร่ำรวยไร้ความเสี่ยง คุณควรตั้งการ์ดทันที

Capital Bear สร้างกระแสไม่น้อย: บางรีวิวชมว่าแพลตฟอร์มใช้ง่ายและฝากขั้นต่ำเพียง 10 USD ขณะเดียวกันเสียงเตือนบางส่วนเรียกโบรกเกอร์นี้ว่าเป็นกลโกง บทความนี้จึงตั้งใจเจาะลึก Capital Bear: เงื่อนไขการเทรด ใบอนุญาต ความเห็นผู้ใช้งาน และที่สำคัญที่สุด เงินของคุณปลอดภัยหรือไม่ เราจะตรวจใบกำกับ ความเห็นลูกค้า และข้อร้องเรียนยอดฮิต (เช่น ปัญหาการถอน) เปรียบเทียบกับโบรกเกอร์มีใบอนุญาตชื่อดังอย่าง IC Markets, Pepperstone, IG Markets, IQ Option แล้วสรุปข้อเท็จจริงแบบเป็นกลาง อ่านจนจบแล้วคุณจะตัดสินใจได้ว่าควรเชื่อใจโบรกเกอร์นี้หรือไม่



เว็บไซต์ทางการของ Capital Bear

การเทรดในตลาดฟอเร็กซ์และไบนารีออปชันมีความเสี่ยงสูง สถิติบ่งชี้ว่าประมาณ 70–90 % ของเทรดเดอร์สูญเสียเงินลงทุน การสร้างรายได้สม่ำเสมอต้องใช้ความรู้เฉพาะ ศึกษาวิธีการทำงานของเครื่องมือนี้และเตรียมพร้อมต่อความสูญเสียทางการเงินก่อนเริ่มเทรด อย่าเสี่ยงเงินที่การสูญเสียจะกระทบคุณภาพชีวิต

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ Capital Bear

Capital Bear คืออะไร? โบรกเกอร์ออนไลน์ที่โฆษณาตัวเองว่าเป็น “แพลตฟอร์มการลงทุนยุคใหม่” สำหรับเทรดตั้งแต่ฟอเร็กซ์ หุ้น ไปจนถึงคริปโตฯ และไบนารีออปชัน บริษัทอ้างว่ารองรับทั้งมือใหม่และเทรดเดอร์มากประสบการณ์ พร้อมอินเทอร์เฟซใช้ง่ายและตราสารหลากหลาย

  • ปีที่ก่อตั้ง: Capital Bear เริ่มดำเนินการราว 2020–2021 – จัดว่ายังใหม่ในอุตสาหกรรม
  • การจดทะเบียน & เขตอำนาจ: บริษัทจดทะเบียนนอกชายฝั่ง แจ้งที่อยู่ใน Saint Vincent & the Grenadines และระบุที่ตั้งทางกฎหมายใน Nevis (St. Kitts & Nevis) – Lighthouse Trust Nevis Ltd, Suite 1, A.L. Evelyn Bldg, Charlestown ลักษณะนี้เป็นสัญลักษณ์คลาสสิกของโบรกเกอร์นอกชายฝั่ง คุณจะไม่พบสำนักงานในศูนย์การเงินหลักหรือข้อมูลผู้ถือหุ้นที่โปร่งใส ใครอยู่เบื้องหลัง Capital Bear ยังไม่ชัดเจน ลดความเชื่อถือทันที
  • บริการ & ตลาด: โบรกเกอร์โฆษณาว่าเข้าถึงสินทรัพย์มากมาย: คู่ฟอเร็กซ์หลายสิบ หุ้นยอดนิยม (Tesla, Netflix, Microsoft ฯลฯ) สินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน ทองคำ เงิน) ดัชนีหุ้นและ ETF รวมถึงคริปโตฯ Capital Bear โปรโมตไบนารีออปชันความเสี่ยงสูง (Digital, Blitz) เป็นพิเศษ โดยสัญญาผลตอบแทนสูงสุด 90 % ต่อดีล ในความเป็นจริงแพลตฟอร์มดูจะมุ่งมือใหม่ที่ถูกดึงดูดด้วยกำไรเร็วๆ
  • กลุ่มเป้าหมาย: โฆษณาเน้นว่า “เหมาะกับมือใหม่” ด้วยอินเทอร์เฟซง่ายและสื่อการสอน แต่ก็เอ่ยถึงเลเวอเรจ 1:500 อินดิเคเตอร์เทคนิค และบทวิเคราะห์เพื่อดึงสายเก๋า ที่จริงแล้ว โบรกเกอร์นอกชายฝั่งเหล่านี้มักเจาะกลุ่มมือใหม่ที่แยกแยะกลโกงไม่ออก บริษัทอ้างว่ามีผู้ใช้ “97 ล้านคนใน 213 ประเทศ” บน Trustpilot หรือ 111 ล้านที่อื่น ตัวเลขดูเหลือเชื่อ: ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง eToro ยังมีราว 30 ล้าน แต่แพลตฟอร์มโนเนมนี้กลับใหญ่กว่า นี่คือระฆังเตือนแรกว่าการตลาดของ Capital Bear เกินจริง
  • ความโปร่งใสของข้อมูล: การไม่มีรายละเอียดผู้บริหารและเอกสารกำกับเผยแพร่ชัดเจนชวนวิตก เว็บไซต์ไม่มีประวัติบริษัท มีแต่ข้อความทั่วไป เอกสารกฎหมายถูกซ่อนในฟุตเตอร์ ตัวอักษรเล็ก ส่วนเงื่อนไขสำคัญ (ค่าธรรมเนียม วิธีถอน) ไม่เปิดเผยหรือหาอ่านยาก การขาดความโปร่งใสเป็นลักษณะประจำของบริษัทน่าสงสัย

สินทรัพย์ให้เลือกหลากหลายที่ Capital Bear

สรุป: Capital Bear เป็นโบรกเกอร์นอกชายฝั่งอายุน้อย ไร้ชื่อเสียงยาวนาน ใช้คำสัญญาสีสันสดเพื่อดึงลูกค้า แต่โครงสร้างคลุมเครือและการตลาดเกินจริงทำให้ต้องระแวง ต่อไปเราจะดูว่ากิจกรรมของ Capital Bear มีใบอนุญาตรองรับหรือไม่ หรือเป็นแค่โบรกเกอร์เงาอีกราย

การกำกับดูแล & ใบอนุญาต – ความน่าเชื่อถือที่น่าสงสัย

Capital Bear มีใบอนุญาตการเงินไหม? สั้น ๆ – ไม่มี โบรกเกอร์นี้ไม่อยู่ภายใต้หน่วยงานเข้มงวดใด เช่น FCA ของสหราชอาณาจักร ASIC ของออสเตรเลีย CySEC ของไซปรัส หรือ SEC ของสหรัฐฯ การตรวจสอบพบว่า Capital Bear ไม่มีใบอนุญาตใด ๆ ชื่อของบริษัทไม่ปรากฏในฐานข้อมูลหน่วยงานที่เชื่อถือได้

ตามเอกสาร Capital Bear จดทะเบียนในเขตอำนาจที่ไม่ออกใบอนุญาตฟอเร็กซ์ (Saint Vincent & the Grenadines) บริษัทเพียงจดทะเบียนธุรกิจ ไม่มีการกำกับดูแลด้านตลาด กล่าวคือ Capital Bear ดำเนินงานนอกกฎหมายของประเทศเข้มงวด ใครก็ไม่ตรวจสอบความซื่อสัตย์ของบริษัท โบรกเกอร์อาจอ้าง “ใบอนุญาตนอกชายฝั่ง” แต่เอกสารเช่นนี้แทบไม่มีค่า ตัวอย่าง WikiFX ระบุ Capital Bear “ไม่มีใบอนุญาต” และมีระดับความเสี่ยงสูงต่อผู้ใช้งาน

ทำไมไม่มีการกำกับจึงอันตรายต่อเทรดเดอร์? ใบอนุญาตระดับท็อปบังคับโบรกเกอร์ต้องทำตามกฎเข้ม:

  • แยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตต้องเก็บเงินเทรดเดอร์ในบัญชีธนาคารแยก ไม่ปนกับเงินบริษัท ปกป้องผู้ลงทุนจากการทุจริตหรือการล้มละลาย Capital Bear ไม่มีข้อบังคับนี้ เมื่อคุณฝากเงิน เงินของคุณอยู่ใต้การควบคุมของบริษัทเต็ม ๆ
  • กองทุนชดเชย ในเขตเข้มงวด โบรกเกอร์ต้องสมทบกองทุนคุ้มครองนักลงทุน เช่น กองทุน CySEC ครอบคลุมสูงสุด €20 000; FCA ของสหราชอาณาจักร £85 000 โบรกเกอร์นอกชายฝั่งไม่มีหลักประกัน: ถ้า Capital Bear หายตัวไป คุณแทบเอาเงินคืนไม่ได้
  • การกำกับดูแลการดำเนินงาน หน่วยงานตรวจให้โบรกเกอร์ส่งคำสั่งในราคาตลาด ปฏิบัติตามกฎโฆษณา เปิดเผยความเสี่ยง และรับเรื่องร้องเรียน ลูกค้า Capital Bear ไม่มีใครตรวจสอบภายในแพลตฟอร์ม บริษัทอาจปรับราคาเองหรือกำหนดเงื่อนไขยากเกินไป และลูกค้าไม่มีที่พึ่ง
  • ห้ามพฤติกรรมเป็นพิษ หน่วยงานจริงแบนไบนารีออปชันสำหรับรายย่อย (EU สหรัฐฯ ออสเตรเลีย) เพราะเสี่ยงสูง และจำกัดเลเวอเรจ (เช่น 1:30 ใน EU) ห้ามโบนัสเงินฝาก โบรกเกอร์นอกชายฝั่งอย่าง Capital Bear ทำทุกสิ่งที่โบรกเกอร์มีใบอนุญาตทำไม่ได้: เสนอเลเวอเรจ 1:500 โบนัส 200 % ผลักดันไบนารีออปชัน แสดงว่าบริษัทเลือกอยู่ในเงามืดเพื่อใช้ยุทธศาสตร์เสี่ยงเหล่านี้

Capital Bear ถูกขึ้นบัญชีเตือนโดยหน่วยงานแล้ว ใน 2022 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์มาเลเซีย (SC) เพิ่ม capitalbear.com ใน Investor Alert List ว่าให้บริการหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต พูดตรง ๆ: Capital Bear ไม่ได้รับอนุญาตให้ให้บริการทางการเงิน และการติดต่อด้วยไม่ปลอดภัย คำเตือนทางการมักออกเพราะมีเหตุผลหนักแน่น

โบรกเกอร์มีใบอนุญาต vs. นอกชายฝั่ง: ช่องว่างมหาศาล รายแรกยึดความคุ้มครองลูกค้าและชื่อเสียงเป็นหลัก รายหลังมีอิสระไร้ขอบที่มักนำไปสู่การเอาเปรียบ น่าสังเกตว่า Capital Bear ได้คะแนนความปลอดภัยเพียง 1.5/10 สาเหตุหลักคือไม่มีใบอนุญาต ไม่มีการป้องกันยอดติดลบ และอายุสั้น ผู้เชี่ยวชาญเตือนชัด การทำงานกับโบรกเกอร์ไม่มีใบอนุญาตมีความเสี่ยงสูงต่อการโกงและปัญหาการถอน

สรุป: Capital Bear ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานใดและดำเนินงานนอกกฎเข้ม—ธงแดงชัดเจน บางหน่วยงานออกคำเตือนแล้ว เมื่อไม่มีการกำกับ ลูกค้า Capital Bear ไม่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย หากเกิดข้อพิพาทหรือไม่จ่ายเงิน แทบไม่มีที่พึ่ง โปรดเข้าใจเรื่องนี้ก่อนเปิดบัญชี—ความเสี่ยงเสียเงินสูงกว่าการเทรดกับโบรกเกอร์มีใบอนุญาตอย่างมาก

ชื่อเสียงและรีวิวจากลูกค้า – เทรดเดอร์ว่าอย่างไร

ลูกค้าจริงค้นพบอะไรเกี่ยวกับ Capital Bear? ภาพลักษณ์ที่เห็นแตกต่างจากโฆษณาทางการอย่างสิ้นเชิง เว็บไซต์ทางการอ้างว่ามีนักลงทุนหลายล้านคนพอใจและเรตติ้ง Trustpilot เกือบ 4.5 / 5 แต่เมื่อมองลึกลงไปจะพบว่าภาพอันสดใสนั้นถูกจัดฉาก ขณะที่ความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาของเทรดเดอร์เผยคำเตือนเรื่องการหลอกลวงมากมาย

บน Trustpilot Capital Bear แสดงเรตประมาณ 4.4 / 5 อย่างไรก็ตาม โปรดสังเกต: บริษัทคอยตรวจตราหน้าโปรไฟล์ของตนเองอย่างใกล้ชิด โพสต์คำบรรยายชวนฝันและตอบกลับรีวิว คุณจะไม่เห็นเรตหนึ่งหรือสองดาวเลย (น่าสงสัย – แม้แต่โบรกเกอร์ชั้นนำก็ยังมีลูกค้าไม่พอใจ) ความคิดเห็นกว่า 60 รายการล้วนเป็นบวกหรือเป็นกลาง หลายข้อความดูเหมือนใช้เทมเพลต เห็นได้ชัดว่าส่วนใหญ่เขียนโดยบัญชีปลอมหรือจ้างมาเพื่อกลบคำวิจารณ์ด้านลบ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทหลอกลวงใช้กันแพร่หลาย

เมื่อเจาะลึกไปที่ฟอรัม โซเชียลมีเดีย และรีวิวอิสระ คุณจะพบภาพตรงกันข้าม: รีวิว Capital Bear ที่เป็นของจริงส่วนใหญ่เป็นลบ ลูกค้ารายงานปัญหาเดียวกันคือการถอนเงินแทบเป็นไปไม่ได้ ตัวอย่างคำบ่นที่น่าสนใจ:

  • ถอนไม่ได้ คำขอค้างเป็นสัปดาห์หรือถูกปฏิเสธทันที
  • รับโบนัสแล้วบัญชีโดนล็อก หลังยอมรับโบนัสเงินฝาก บัญชีถูกระงับข้อหา “ละเมิดเงื่อนไขโบนัส”
  • “ฝ่ายบริการลูกค้าหายไปหลังจากฝากครั้งที่สาม” เมื่อขอถอนก้อนใหญ่ ผู้จัดการก็ไม่ตอบอีกเลย
  • “พวกเขาไล่ราคาระหว่างตลาดผันผวน” ถูกสงสัยว่าดัดแปลงราคา ปิดออร์เดอร์ที่ราคาไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้กำไรกลายเป็นขาดทุน

ในฟอรัมการเงินและเว็บไซต์รีวิว (ForexPeaceArmy, Reddit ฯลฯ) มีเรื่องราวละเอียดขึ้น รูปแบบเหมือนกัน – ตัวแทนนำเสนอให้ฝากเงินก้อนใหญ่ บางครั้งโชว์ “กำไร” ระยะแรก แต่พอเทรดเดอร์พยายามถอน ปัญหาก็เริ่ม การถอนยืดเยื้อหลายเดือน สถานะบนแดชบอร์ดค้างอยู่ที่ “กำลังดำเนินการ” ฝ่ายบริการให้แต่คำสัญญาเปล่า บางกรณีถูกขอให้จ่าย “ภาษี” หรือค่าธรรมเนียมล่วงหน้า 10 – 20 % ของยอดถอน – พอจ่ายแล้วก็เงียบ หลายคนไม่ได้คืนทั้งกำไรและเงินต้น

ขณะเดียวกัน ความคิดเห็นเชิงบวกกลับฟังดูสวยหรูและกว้างเกินจริง เช่น โพสต์จากหลายประเทศในเวลาเดียวกันที่ชื่นชม “การดูแลเฉพาะบุคคล” และ “บริการสมบูรณ์แบบ” ข้อความตัวอย่าง: “ขอบคุณบริษัทนี้ฉันกำลังไต่สู่จุดสูงทางการเงิน ฉันชื่นชมฝ่ายสนับสนุนที่ทำงานใกล้ชิดกับฉันเพื่อบรรลุเป้าหมาย” – ฟังดูเหมือนข้อความการตลาด ไม่ใช่รีวิวผู้ใช้งานจริง

โดยสรุป ชื่อเสียงของ Capital Bear ถูกขัดเกลาอย่างตั้งใจโดยทีมงานของบริษัท ในขณะที่การประเมินอย่างเป็นกลางตราหน้าว่าเป็นกลโกง รีวิวหนึ่งให้อันดับความน่าเชื่อถือ 1.5 / 10 พร้อมป้าย “ระดับความปลอดภัยต่ำ” และสรุปว่า “ถ้าโบรกเกอร์หน่วงหรือบล็อกการถอน นั่นคือธงแดง” ซึ่งตรงกับสิ่งที่เราเห็น: รีวิวตรงไปตรงมาส่วนใหญ่บ่นเรื่องถอนเงินและกลอุบายไม่ซื่อสัตย์

สรุปรีวิว: แม้ดูเหมือนมีเรตสูงบนบางแพลตฟอร์ม แต่เทรดเดอร์จริงส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงลบอย่างยิ่ง ปัญหาหลักคือการถอนถูกบล็อก กับดักโบนัส และฝ่ายสนับสนุนหายเมื่อได้เงินฝาก ทุกสัญญาณชี้ว่า Capital Bear เป็นการดำเนินการฉ้อโกง (แม้ยังไม่ถูกตัดสินในศาล) การเชื่อโฆษณาแวววาวและรีวิวซื้อมาเป็นความเสี่ยง – ควรฟังคำเตือนจากผู้เสียหายจะปลอดภัยกว่า

ประเภทบัญชี Capital Bear – ข้อเสนอและกับดักแอบแฝง

Capital Bear ล่อใจลูกค้าด้วยเกณฑ์เริ่มต้นต่ำและหลายระดับบัญชี บริษัทโฆษณาว่าฝากขั้นต่ำเพียง $10 จากนั้นสามารถอัปเกรดเป็นบัญชีขั้นสูงพร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มเติม มาดูว่ามีบัญชีอะไรบ้างและจุดเสี่ยงอยู่ตรงไหน:

แบบฟอร์มสมัครบัญชีใหม่ Capital Bear

ประเภทบัญชีที่ประกาศอย่างเป็นทางการ:

  • Basic – บัญชีเริ่มต้น แหล่งข้อมูลสาธารณะแจ้งว่าฝากขั้นต่ำจริงสำหรับ Basic อยู่ราว $250 คุณจะเข้าถึงแพลตฟอร์มและสื่อการสอนเบื้องต้น – เป็นระดับ “มือใหม่” ไม่มีโบนัสพิเศษ (หมายเหตุ: เว็บไซต์อ้างว่าเริ่มที่ $10 ช่วยให้เทรดไมโครล็อตหรือไบนารีออปชันได้ แต่จากรีวิว บัญชี Basic เต็มรูปแบบมักต้องฝากสูงกว่านั้น – หลักสิบหรือหลักร้อยดอลลาร์)
  • Silver – ขั้นถัดไป ต้องเติมเงินมากขึ้น (ตัวเลขจริงไม่เปิดเผยแต่มักหลายพันดอลลาร์) โฆษณาสัญญาสเปรดแคบลงและผู้จัดการบัญชีส่วนตัว กล่าวคือเงื่อนไขเทรดดีขึ้นและมีตัวแทนดูแล
  • Gold – บัญชีพรีเมียมสำหรับเงินลงทุนมากขึ้น ผลประโยชน์ที่อ้างรวมโบนัสเงินฝาก (สูงสุด +100% หรือ +200%) ถอนเร็วขึ้น (คิวลัด) และเครื่องมือจัดการความเสี่ยงเพิ่มเติม ฟังดูน่าลอง: ฝากก้อนโตและได้บริการแบบ VIP
  • VIP / Platinum – หมวดสูงสุด สำหรับเงินฝากตั้งแต่หลายหมื่นดอลลาร์ขึ้นไป รวมกลยุทธ์เฉพาะตัว สัญญาณนักวิเคราะห์ โบนัสสูงสุด ถอนลำดับแรก และบริการเอ็กซ์คลูซีฟอื่นๆ กล่าวคือสวมถุงมือขาวต้อนรับ

ความเป็นจริงและเงื่อนไขแอบแฝง:

  • การปรับปรุงที่มีแต่ในจินตนาการ Capital Bear อาจสัญญาสเปรดบางเฉียบหรือไม่มีค่านายหน้าบน Gold แต่หากไม่มีใบอนุญาตและการกำกับภายนอก ไม่มีหลักประกันว่าเงื่อนไขเหล่านั้นจะถูกปฏิบัติจริง คุณเทรดบนแพลตฟอร์มปิดที่โบรกเกอร์ตั้งสเปรดเองได้ตามใจ – ยังคงได้กำไรจากโพซิชันของคุณเพราะจับคู่คำสั่งภายใน ไม่ได้ส่งไปตลาดจริง “สเปรดหนาใบมีดโกน” มักเป็นแค่คำโฆษณา
  • “ผู้จัดการส่วนตัว” คือเซลส์ ไม่ใช่เมนเทอร์ หลายรีวิวระบุว่าผู้จัดการโทรจูงใจให้ฝากเพิ่มซ้ำๆ ชวน “โอกาสพิเศษ” เติมเงินพร้อมโบนัสหรือเทรดปลอดความเสี่ยง แต่เมื่อคุณขอถอน – หรือยอดบัญชีเหลือศูนย์ – “ผู้จัดการ” ก็หายไป ภารกิจจริงคือรีดเงินฝากสูงสุด ไม่ใช่ช่วยคุณทำกำไร
  • โบนัสมีเงื่อนไขผูกมัด โบนัสเงินฝากบน Gold/VIP อันตรายเป็นพิเศษ ตัวอย่าง: โบนัส +200% – คุณฝาก $1 000 แพลตฟอร์มเพิ่ม “ของขวัญ” $2 000 มือใหม่ดีใจ ยอดคงเหลือเป็น $3 000! แต่ในสัญญา (ซึ่งแทบไม่มีใครอ่าน) บังคับให้ทำเทิร์นโอเวอร์หลายสิบหรือหลายร้อยเท่าก่อนถอนได้ จนกว่าจะ “ทำยอด” โบรกเกอร์อาจปฏิเสธถอนกำไร – หรือแม้แต่เงินต้น ในทางปฏิบัติโบนัสคือกับดัก: คุณต้องเทรดจนเงินหมด หรือพยายามถอนแล้วถูกบล็อกข้อหาไม่ทำตามเงื่อนไข นักต้มตุ๋นชอบโบนัสสูง: ทำให้ลูกค้าฝากเพิ่ม แล้วใช้เงื่อนไขโบนัสปฏิเสธจ่ายเงิน หลายรายยืนยันว่าหลังรับโบนัส Capital Bear ไม่คืนอะไรเลย
  • “ถอนลำดับแรก” และสิทธิ VIP อื่นเป็นภาพลวง โบรกเกอร์อ้างว่าลูกค้า VIP ได้รับเงินเร็ว แต่ถ้านโยบายบริษัทคือไม่จ่าย ไม่ว่าระดับใดก็ช่วยไม่ได้ มีพยานว่าผู้ลงทุนก้อนใหญ่ (ฝากหลายหมื่น) รอหลายเดือนหรือขู่ฟ้องก่อนจะได้เงิน – และบางคนไม่เคยได้คืน ดังนั้นเส้นแบ่งระหว่าง Basic กับ VIP หายไปเมื่อพูดถึงการปฏิบัติตามพันธะ เงินกับโบรกเกอร์นอกชายฝั่งไม่ถูกคุ้มครอง และสถานะ VIP ไม่การันตีอะไร

เหยื่อล่อฝาก $10: Capital Bear เน้นว่าคุณเปิดบัญชีจริงได้ด้วยเงินเพียง $10 นี่เป็นเกณฑ์ต่ำมาก เหมาะกับไบนารีออปชันซึ่งเดิมพันเริ่ม $1 มันไม่พอสำหรับเทรด Forex จริง แต่พอสำหรับเดิมพันตัวเลือก โบรกเกอร์ตั้งเกณฑ์ต่ำเพื่อดึงคนให้มากที่สุด (“แค่สิบเหรียญ – ลองดูก็ไม่เสียหาย”) แต่ด้วย $10 คุณแทบเทรดจริงจังไม่ได้ และเปิดประตูให้มิจฉาชีพโทรชวนเติมเงิน มือใหม่จำนวนมากหลงกลและโอนหลักร้อยหรือหลักพัน ดังนั้นตัวเลข $10 เป็นแค่เหยื่อล่อด้านจิตวิทยาเพื่อลดกำแพงแรกเข้า

บทสรุป: Capital Bear โฆษณาหลายประเภทบัญชี (Basic, Silver, Gold, VIP) ที่ต่างกันด้วยยอดฝากและสิทธิพิเศษ แต่ในทางปฏิบัติความต่างเป็นเครื่องสำอาง “บริการส่วนตัว” หรือ “เงื่อนไขพิเศษ” ไม่ช่วยหากโบรกเกอร์ตั้งธงเล่นงานลูกค้า โบนัสเป็นทุ่นระเบิดอีกลูกที่มักทำร้ายเทรดเดอร์ เกณฑ์เริ่ม $10 คือเบ็ดล่อมือใหม่ จงระวัง: กับโบรกเกอร์ฉ้อโกง คำสัญญาใดๆ เป็นเพียงเครื่องมือดูดเงิน ไม่ได้สร้างมูลค่าจริงให้ลูกค้า



ผลิตภัณฑ์และตราสารเทรดของ Capital Bear

หนึ่งจุดขายที่ Capital Bear ชูคือการมีตราสารเทรดหลากหลาย โบรกเกอร์วาดภาพตัวเองเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตการเงิน: สกุลเงิน หุ้น คริปโต สินค้าโภคภัณฑ์ ETF และอื่นๆ มาดูว่าจริงๆ แล้วมีอะไรให้เทรดและทำไมรายการยาวอาจไม่ใช่ข้อดี

เครื่องมือและสินทรัพย์ที่เทรดได้ที่ Capital Bear

กลุ่มสินทรัพย์ที่มีให้:

  • Forex – คู่เงินหลักและรอง เช่น EUR/USD, GBP/CAD, USD/JPY รวมถึงบางคู่แปลก
  • หุ้น – หุ้นบริษัทยักษ์ทั่วโลก เช่น Tesla, Netflix, Alibaba, Microsoft, Disney เป็นต้น รีวิวระบุว่ามีหุ้นราว 50 ตัว เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำที่มีนับพัน ถือว่าจำนวนจำกัดแต่ครอบคลุมแบรนด์คุ้นหู
  • สินค้าโภคภัณฑ์ – น้ำมัน (Brent, WTI), ทอง, เงิน ฯลฯ Capital Bear เรียกสินทรัพย์เหล่านี้ว่า “ร้อนแรงน่าเทรด”
  • ดัชนี & ETF – อ้างว่ามี ETF และดัชนีหุ้น เช่น S&P 500, Nasdaq, Dow Jones, DAX ฯลฯ รายละเอียดน้อยแต่คาดว่ามีไม่กี่ดัชนีหลัก
  • คริปโตเคอร์เรนซี – เหรียญยอดนิยมอย่าง Bitcoin, Ethereum และอื่นๆ เพิ่ม CFD คริปโตเป็นมาตรฐานยุคนี้
  • Blitz / Digital / Binary Options – ฟีเจอร์เด่นของ Capital Bear มีสัญญาผลตอบแทนคงที่สามประเภท: ไบนารีออปชันคลาสสิก ดิจิทัลออปชัน และ Blitz ออปชัน การตลาดอ้างผลตอบแทนสูงสุด 90 % ของเงินเดิมพัน มีสินทรัพย์อ้างอิง 54 ตัว ตั้งแต่สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ ถึงคริปโต

ทำไมแค็ตตาล็อกแบบนี้ดึงดูดมือใหม่? ความหลากหลายสร้างภาพแพลตฟอร์มใหญ่จริงระดับโลก คุณกระจายพอร์ต ทดสอบตลาดต่างๆ – ดูเหมือนมีพื้นที่ให้เทรดมากมาย ไบนารีออปชันยิ่งล่อใจ: ความง่าย (ทายขึ้นหรือลงในไม่กี่นาที) กำไรสูง (คืน 90 %) และเงินเริ่มต่ำ (เดิมพัน $1) หน้าโปรโมตตะโกนว่า “คลิกเดียว 5 วินาที กำไร 95 %” – ชัดว่าหมายถึง Blitz ออปชันหมดอายุสั้นยิ่งกว่า ใครไม่คุ้นการเงินอาจคิดเหมือนคาสิโน: แทงดอลลาร์เดียว รับเกือบสองในไม่กี่วินาที

ทำไมไบนารีออปชันเป็นธงแดง?

ไบนารีออปชันเสี่ยงสูงมาก ใกล้เคียงการพนันมากกว่าการลงทุน หลายประเทศสั่งห้าม สถิติชัดเจน: 80 – 90 % ของลูกค้าขาดทุนต่อเนื่อง ในแต่ละดีลมูลค่าคาดหวังเป็นลบ – แม้โอกาสทายถูก 50/50 แต่จ่ายคืน 90 % ทำให้ขาดทุนทางสถิติ โบรกเกอร์ชนะเสมอ ประวัติเต็มไปด้วย “บักเก็ตช็อป” ดัดแปลงราคาและเวลาให้ลูกค้าแพ้ แพลตฟอร์มเทรดไบนารีออปชันแห่งนี้จึงเป็นสัญญาณอันตราย: บริษัทที่น่าเชื่อถือเลิก binaries ไปนานแล้ว ที่นี่กลับใช้เป็นจุดขาย แสดงว่ารูปแบบธุรกิจคือเทรดตรงข้ามลูกค้า ขาดทุนของคุณคือกำไรของพวกเขา

สเปรด ค่าธรรมเนียม และเงื่อนไขเทรด:

Capital Bear ขาดความโปร่งใสอย่างยิ่ง เว็บไซต์ไม่มีตารางสเปรดที่ชัดเจน ไม่มีข้อมูลสว็อปหรือค่าบริการอื่นๆ โบรกเกอร์ออนไลน์ที่ดีมักอวดสเปรดต่ำ ความไม่ชัดเจนนี้บ่งชี้ว่าสเปรดผันแปรและกว้าง ปรับได้ตามใจโบรกเกอร์ รีวิวกล่าวว่าค่าถอนสูงถึง 10 % ของยอด – สูงเกินไป (โบรกเกอร์มีใบอนุญาตไม่เก็บถึงสิบเปอร์เซ็นต์แค่โอนเงินคุณ) และมีค่าบริการไม่เคลื่อนไหว $10 ต่อเดือนหลังหยุดเทรด 90 วัน รายละเอียดเหล่านี้โผล่แต่ในรีวิว; โบรกเกอร์ไม่เปิดเผยเด่นชัด คุณจึงไม่รู้ต้นทุนล่วงหน้า ขัดหลักความโปร่งใสพื้นฐาน

เลเวอเรจ:

Capital Bear ให้เลเวอเรจสูงสุด 1:500 สำหรับมือใหม่อาจฟังดูดี: มี $100 ควบคุม $50 000 แต่มืออาชีพรู้ว่าเลเวอเรจสูงเกินพอดีคือทางลัดสู่หายนะในความเคลื่อนไหวตรงข้ามเพียงเล็กน้อย หน่วยงานกำกับยุโรปและออสเตรเลียจำกัดเลเวอเรจรีเทล (ทั่วไป 1:30) เพื่อคุ้มครองลูกค้า โบรกเกอร์นอกอาณัติมักยื่น 1:500 หรือ 1:1000 ล่อคนชอบเสี่ยง – ส่วนใหญ่พอร์ตแตกเร็ว ซึ่งทำกำไรให้โบรกเกอร์ที่ทำหน้าที่เหมือนเจ้ามือ ดังนั้น 1:500 ที่ Capital Bear เป็นดาบสองคม: ดูเหมือนอิสระแต่รัดคอเทรดเดอร์มือใหม่

บทสรุป: Capital Bear มีตลาดเยอะจริง – Forex, หุ้น, คริปโต, สินค้าโภคภัณฑ์, สัญญาออปชัน แต่ความอุดมคือเหยื่อล่อ จุดเน้นแรงสุดคือไบนารีออปชันที่ถูกแบนในประเทศกำกับเพราะโกงและเสี่ยงสูง การขาดข้อมูลสเปรดและค่าธรรมเนียมชี้ว่าการเทรดเป็นไปตามกติกาที่โบรกเกอร์ควบคุมทั้งหมด (คุณรู้ภายหลังเมื่อสาย) เลเวอเรจ 1:500 และฝากขั้นต่ำต่ำคือแม่เหล็กดึงนักเสี่ยงแต่ไม่คุ้มครอง ในมือบริษัทที่ไม่น่าเชื่อถือ เครื่องมือเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มรายได้จากลูกค้า ไม่ใช่ให้บริการยุติธรรม จงใช้วิจารณญาณ: เทรดสินทรัพย์จำกัดแต่น่าเชื่อถือกับแพลตฟอร์มการเทรดที่มีใบอนุญาต ปลอดภัยกว่าคาสิโนสินทรัพย์ครบวงจรกับ โบรกเกอร์ไบนารีออปชัน นอกชายฝั่ง

แพลตฟอร์มการเทรดและเทคโนโลยี

คุณสามารถซื้อขายอะไรบน Capital Bear ได้บ้าง? โบรกเกอร์รายนี้ไม่พึ่งพาแพลตฟอร์มยอดนิยมของบุคคลที่สามอย่าง MetaTrader 4/5 หรือ cTrader แต่เลือกใช้ชุดซอฟต์แวร์ของตนเอง ได้แก่ เทอร์มินัลเวอร์ชันเว็บ (เข้าผ่านเบราว์เซอร์), โปรแกรมสำหรับเดสก์ท็อป และ CapitalBear โมบายแอปบนสมาร์ตโฟน แอปทั้งหมดพัฒนาโดยบริษัทในเครือ Digital Smart LLC / CY Ltd (เราเห็นชื่อนี้ใน Google Play พร้อมที่อยู่จดทะเบียนในไซปรัส)

แพลตฟอร์มเทรดของ Capital Bear

คุณสมบัติเด่นของแพลตฟอร์มเฉพาะ Capital Bear:

  • อินเทอร์เฟซสะอาดตา: สื่อการตลาดชู UI ที่เป็นมิตร ปรับเลย์เอาต์และกราฟได้ ผู้เริ่มต้นจึงไม่รู้สึกหวาดกลัวกับเทอร์มินัลซับซ้อน—ทุกอย่างดูเข้าใจง่าย “เกือบเหมือนเล่นเกม”
  • สภาพแวดล้อมแบบเครื่องมือครบวงจร: มีตัวชี้วัดทางเทคนิค ออสซิลเลเตอร์ ฟีดข่าว และวิดีโอสอน รวมไว้ในที่เดียว คุณจึงวิเคราะห์ตลาด ส่งคำสั่ง และเรียนรู้ได้ภายในแอปเดียว—เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มการเทรดครบจบ
  • โมบายแอป: มีให้ดาวน์โหลดใน Google Play และมียอดติดตั้งกว่า 1 ล้านครั้ง (ตามข้อมูลในสโตร์) การเทรดผ่านมือถือสะดวก และแอปที่อยู่ใน Google Play มักสร้างความเชื่อถือ (“ถ้าอยู่ใน Play Store คงปลอดภัย”) แน่นอน นั่นเป็นความปลอดภัยจอมปลอม: Google ไม่ตรวจสอบใบอนุญาตการเงิน และสโตร์เต็มไปด้วยแอปโบรกเกอร์เถื่อน
  • ไม่รองรับ MetaTrader: Capital Bear ไม่กล่าวถึง MT4 หรือ MT5 เลย—แม้จะเป็นเทอร์มินัลอุตสาหกรรมที่ใช้กันทั่วไป บางรีวิวอ้างว่าบริษัท “ประกาศรองรับ MT5” แต่ในทางปฏิบัติลูกค้าถูกบังคับให้ใช้แพลตฟอร์มภายใน จุดนี้สำคัญ: MetaTrader เป็นผลิตภัณฑ์อิสระที่สามารถตรวจสอบราคากับการดำเนินคำสั่งได้บางส่วน—มีปลั๊กอินบันทึกข้อมูล เป็นต้น แต่แพลตฟอร์มปิดของโบรกเกอร์เป็นกล่องดำ ลูกค้าต้องเชื่อว่าราคาและการส่งคำสั่งยุติธรรม
  • ช่องว่างให้ปรับราคาภายในระบบปิด: เทรดเดอร์มากประสบการณ์มักระวังแพลตฟอร์มเฉพาะจากโบรกเกอร์โนเนม เพราะบริษัทควบคุมกระบวนการซื้อขายทั้งหมด โบรกเกอร์อาจวาดแท่งเทียนใดก็ได้ เลื่อนราคาไปชน stop‑loss หรือไม่ให้ take‑profit ทำงาน ยากจะพิสูจน์เพราะไม่มีมาตรฐานภายนอก ในข้อพิพาทคุณไม่สามารถยื่นล็อกจาก MetaTrader หรือสแนปช็อต Bloomberg—คุณเห็นแค่สิ่งที่โบรกเกอร์แสดง บางคนสงสัยว่า Capital Bear ใช้ลูกเล่นนี้ (“ราคากระชากช่วงความผันผวน”) เป็นไปได้สูง เพราะไม่มีหน่วยงานกำกับและไม่มีสภาพคล่องภายนอก
  • ไม่รองรับการเทรดเชิงอัลกอริทึม: เทอร์มินัลที่สร้างเองมักไม่มีการเชื่อมต่อกับ expert advisor, อัลกอริทึม หรืออินดิเคเตอร์ที่ผู้ใช้ MT4/MT5 คุ้นเคย สำหรับเทรดเดอร์ขั้นสูงถือเป็นข้อเสีย: บอทและสคริปต์อัตโนมัติใช้ไม่ได้ Capital Bear อาจไม่แคร์เพราะกลุ่มเป้าหมายหลักคือมือใหม่ สำหรับบริษัทแล้ว การไม่มี API เป็นข้อดี: ไม่มีใครมอนิเตอร์จากภายนอก
  • อ้างว่ามีความปลอดภัย: เว็บไซต์โปรโมทสัญญาว่าแยกเงินลูกค้า, มี negative‑balance protection, และการรักษาความปลอดภัยข้อมูลขั้นสูง แต่ไร้การควบคุมจากภายนอกจึงยากพิสูจน์ว่าเงินแยกบัญชีจริงหรือไม่ คำพูดสวยหรูเท่านั้น (หมายเหตุ: ถ้อยคำนี้คัดลอกจากแหล่งภาษาอังกฤษ—ดูเหมือน Capital Bear ยืมถ้อยคำโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตแม้ตนจะไม่มี)

ตัวอย่างการเทรดบนแพลตฟอร์ม Capital Bear

แอปมือถือ CapitalBear:

แอปนี้ควรกล่าวถึงเป็นพิเศษ Google Play แสดง Digital Smart LLC (CY) ซึ่งเป็นบริษัทไซปรัสเป็นผู้พัฒนา อย่าเข้าใจผิด: นี่ไม่เท่ากับใบอนุญาต CySEC บริษัทอาจจดทะเบียนเพียงในฐานะ IT เพื่อเผยแพร่ซอฟต์แวร์และไม่ได้รับอนุญาตบริการด้านการเงิน แอปเต็มไปด้วยคำเคลมแรง ๆ เช่น “มากกว่า 500 สินทรัพย์,” “บริการลูกค้า 24/7 หลายภาษา,” “วิดีโอสอน, ข่าว,” “ถอนกำไรทันที” ฯลฯ รีวิวในสโตร์ดูดีเกินจริง—น่าจะจ้างเขียน ลูกค้าที่ใช้จริงบ่นว่าเมื่อยอดบัญชีโตหรือมีกำไร แอปจะค้างหรือเด้ง และฝ่ายซัพพอร์ตไม่ช่วยเหลือ

ขาดทางเลือกอื่น ๆ:

โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือมักให้เลือกเทอร์มินัลอย่างน้อยหนึ่งหรือสองแพลตฟอร์มยอดนิยมควบคู่แพลตฟอร์มในบ้าน ที่นี่คุณถูกขังอยู่ในอีโคซิสเต็ม Capital Bear โดยตั้งใจ: ทำให้เปรียบเทียบราคากับแหล่งอื่นหรือย้ายบัญชีลำบาก กล่าวโดยย่อ มันคือสภาพแวดล้อมปิด

สรุป: ในเชิงเทคโนโลยี Capital Bear มีเทอร์มินัลสมัยใหม่แต่ควบคุมโดยโบรกเกอร์ ใช้ง่ายและสะดวกสำหรับมือใหม่ แต่สำหรับเทรดเดอร์เก๋าจะรู้สึก “พลาสติก” และจำกัด ปัญหาหลักยังคงเป็นความไว้วางใจ: ไม่มีหลักประกันว่าการส่งคำสั่งยุติธรรม การไม่เชื่อมต่อกับ MetaTrader ทำให้ลูกค้าขาดเครื่องมือยืนยันอิสระ แอปมือถือและเว็บอินเทอร์เฟซสวยงามไม่ใช่หลักฐานความน่าเชื่อถือ—มิจฉาชีพก็สร้างแอปสวยได้ สุดท้าย เทคโนโลยีของ Capital Bear รับใช้บริษัท—not เทรดเดอร์ จำไว้: แม้แต่แพลตฟอร์มดีที่สุดก็กลายเป็นอาวุธโกงได้ในมือที่ไม่ซื่อสัตย์



การฝากและถอนเงิน

การเติมเงินเข้าบัญชีกับ Capital Bear มักรวดเร็วและง่าย—มิจฉาชีพย่อมทำกระบวนการ “ฝากเข้า” ให้ลื่นไหลที่สุด มีหลายวิธีให้เลือก: บัตร Visa/MasterCard, อีวอลเล็ต (PerfectMoney, GlobePay, VLoad ฯลฯ), คริปโทเคอร์เรนซี (BTC, ETH, USDT เป็นต้น) และโอนผ่านธนาคาร ขั้นต่ำฝากเริ่มที่ $10 โดยทั่วไปไม่มีค่าฝาก (Capital Bear โปรโมทว่า “ฝากฟรี”) เงินเข้าพอร์ตทันทีหรือเกือบทันที (โดยเฉพาะบัตรหรือคริปโท) ทุกอย่างออกแบบให้ลูกค้าเห็นยอดในบัญชีเร็วที่สุดและเริ่มเทรดทันที

วิธีเติมเงินเข้าบัญชี Capital Bear

ปัญหาเริ่มต้นตอนถอน หากการฝากคือประตูเปิดกว้าง การถอนคือช่องหน้าต่างแคบมีลูกกรง ตามเอกสาร Capital Bear ประกาศว่าใช้เวลา 1–5 วันทำการและถอนผ่านวิธีเดิม (บัตร, โอน, อีวอลเล็ต) แต่ประสบการณ์จริงต่างไป นี่คืออุปสรรคที่เทรดเดอร์มักเจอเมื่อพยายามถอน:

  • ความล่าช้าเป็นระบบ: คุณยื่นคำขอถอนแล้วสถานะ “กำลังดำเนินการ” ไม่จบเป็นสัปดาห์หรือเดือน ซัพพอร์ตตอบซ้ำ ๆ ว่า “กำลังตรวจสอบ โปรดรอ” บางคนรอ 2–3 เดือนก็ยังไม่ได้ ภายใต้สภาวะปกติแม้โอนระหว่างประเทศก็ไม่ช้านานขนาดนี้—นี่คือการถ่วงเวลาโดยเจตนา
  • คำขอถูกปฏิเสธหรือยกเลิก: บางครั้งคำขอถูกปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผลหรืออ้างเหตุผลขึ้นมา เช่น “ยังยืนยันตัวตนไม่ครบ” (ทั้งที่ส่งเอกสารแล้ว) “บัญชีมีโบนัสค้าง—ถอนไม่ได้” (ดูกับดักโบนัสด้านล่าง) “ธุรกรรมต้องสงสัย—ระงับถอนชั่วคราว” เป็นต้น มีรายงานว่าเมื่อขอถอนเงินก้อนใหญ่ โบรกเกอร์จะเครดิตโบนัสโดยไม่ขออนุญาตแล้วบอกว่าถอนเงินไม่ได้จนกว่าเทิร์นโอเวอร์ครบ เห็นกลเม็ดไหม?
  • เรียกเก็บเงินเพิ่ม: สถานการณ์แย่สุดคือโบรกเกอร์ยอมโอนแต่บอกว่า “ต้องจ่ายค่าคอมมิชชัน X % หรือภาษีก่อน” เช่นจะถอน $5,000 ถูกขอให้โอนไป $500 (10 %) เป็นค่าธรรมเนียม—นี่คือกลโกงชัดเจน โบรกเกอร์ซื่อสัตย์จะหักค่าธรรมเนียมจากยอดจ่าย ไม่ให้คุณจ่ายล่วงหน้า ผู้ที่หลงเชื่อจะเสียทั้ง “ค่าคอม” และยอดถอน ท่าทีนี้พบใน Capital Bear เช่นกัน
  • จำกัดช่องทางถอน: สังเกตว่า Capital Bear รับฝากผ่านบัตรอย่างยินดี แต่พอถอนกลับบัตรมักมีปัญหา ลูกค้าถูกผลักให้ถอนผ่านแพลตฟอร์มคลุมเครือ (PerfectMoney หรือคริปโท) ทำไม? เพราะการรีฟันด์บัตรเปิดทางให้ทำ chargeback แต่คริปโททำไม่ได้ ดังนั้นคุณอาจได้ยินว่า “บัตรมีปัญหาทางเทคนิค ใช้ Bitcoin แทน” ทั้งที่รู้ว่าคุณย้อนกลับธุรกรรมไม่ได้นั่นเอง
  • ค่าธรรมเนียมและขั้นต่ำแฝง: เว็บไซต์ไม่มีตารางค่าถอนชัดเจน แต่รีวิวเผยว่าโบรกเกอร์หักสูงถึง 10 % ขอถอน $1,000 อาจโดน $100 เป็น “ค่าบริษัท” ซึ่งสูงมาก (ปกติ 0–2 %) อาจมีขั้นต่ำถอน $50 หรือ $100 คอมมิชชันและลิมิตไม่ใช่อาชญากรรมในตัวเอง แต่การปกปิดคือเจตนากักลูกค้า: ถึงเวลาถอนคุณไม่มีทางเลือกนอกจากจ่าย

ทำไมโบรกเกอร์ทำแบบนี้? ง่าย ๆ: มันคือพีระมิดการเงิน ลูกค้าเติมเงินและเทรด—โดยเฉพาะเสียในแพลตฟอร์มรูปแบบไบนารี—โบรกเกอร์ยิ้ม พอต้องจ่ายออกกลับขาดทุน โบรกเกอร์ไร้ใบอนุญาตไม่ลังเลจะผิดคำสัญญา เป้าคือกักเงินคุณให้นานหรือไม่จ่ายเลย

ตัวอย่างจริงจากรีวิวอิสระ: ผู้เชี่ยวชาญเปิดบัญชีกับ Capital Bear ฝากเงิน เทรดเล็กน้อย แล้วขอถอน โบรกเกอร์ปฏิเสธโดยไม่แจ้งเหตุผล ผู้เชี่ยวชาญสรุปว่าโบรกเกอร์ไม่น่าเชื่อถือและเตือนว่ามีความเสี่ยงสูงมากที่จะไม่จ่าย ลูกค้าทั่วไปที่ไม่มีเสียงสาธารณะถูกปฏิเสธทุกวันเท่าไรไม่มีใครรู้

คำเตือน: ฝากเงินเข้า Capital Bear ง่ายมาก; การเอาออกแทบเป็นไปไม่ได้ หากยังอยากเสี่ยง อย่าลงทุนเกินกว่าที่คุณยอมเสียได้ และเตรียมใจว่าเงินอาจติดอยู่ตลอดไป

คำแนะนำสำหรับเหยื่อ:

  1. หยุดเติมเงินเพิ่ม ไม่ว่ากรณีใด ๆ อย่าส่งเพิ่ม “เพื่อปลดล็อกบางอย่าง”—นั่นคือกับดัก
  2. บันทึกแชตและสกรีนชอตทุกอย่าง เก็บหลักฐานการคุย สถานะคำขอ ข้อตกลง ฯลฯ คุณจะต้องใช้เมื่อร้องเรียน
  3. ติดต่อธนาคาร (ถ้าฝากด้วยบัตร) ขอทำ chargeback โดยอ้างว่าถูกฉ้อโกง อธิบายสถานการณ์ แนบหลักฐาน ทำให้เร็วที่สุดเพราะกรอบเวลาโดยทั่วไป 120 วัน
  4. แจ้งโบรกเกอร์ว่าคุณจะร้องเรียนหน่วยงานกำกับ ถึงจะจดทะเบียนนอกประเทศแต่บางทีพวกเขากลัวหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานการเงินหรือตำรวจ
  5. เตรียมใจยอมขาดทุน น่าเศร้าแต่สถิติระบุว่าส่วนใหญ่ไม่ได้เงินคืน อย่างไรก็ตามลองดู—อย่างน้อยผ่านธนาคาร และอย่าใช้ “บริษัทกู้เงิน” ที่เรียกเก็บเงินล่วงหน้า—มักเป็นมิจฉาชีพซ้ำซ้อน

สรุป: นโยบายการถอนของ Capital Bear คือธงแดงหลัก โบรกเกอร์ที่ซื่อสัตย์จ่ายเร็วไร้กังวลเพราะชื่อเสียงคือชีวิต ที่นี่มีคำร้องเรียนไม่จ่ายมากมาย ข้อจำกัดเจ้าเล่ห์ และค่าธรรมเนียมโหด นี่คือสัญญาณชัดของการหลอกลวง จำกฎทอง: ถ้าโบรกเกอร์ไม่ให้เงินคุณ มันไม่ใช่โบรกเกอร์—มันคือสแกมเมอร์

โบนัสและโปรโมชั่น—กับดักที่หวานชื่น

หนึ่งในไม้ตายของ Capital Bear ในการดึงลูกค้าคือโบนัสก้อนโต โฆษณาระบุโบนัสฝากสูงสุด +200 %—เช่น ฝาก $500 ได้รับเพิ่ม $1,000 โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตไม่เสนอสิ่งนี้ (หน่วยงานกำกับสั่งห้ามเพื่อป้องกันการเอาเปรียบ) บริษัทนอกออฟชอร์ใช้โบนัสเป็นเหยื่อ มาดูกันว่าทำไมโบนัส Capital Bear ไม่ใช่ของขวัญแต่เกือบเป็นโทษประหารเงินคุณ

โบนัสที่โบรกเกอร์เสนอ:

  • โบนัสฝากครั้งแรก: ดังที่สุด—200 % ในการฝากครั้งแรก เปิดตัวปลาย 2023 สามเท่าบัญชีคุณด้วยเงินบริษัท โบนัสเล็กลง (100 %, 50 %) ก็มี—อาจขึ้นกับยอดฝากหรือโปรโมชันปัจจุบัน ไม่ว่ากรณีใด นี่คือเงินเครดิตที่เพิ่มทุนเทรดแต่ยังไม่ใช่ของคุณทันที
  • โบนัสไม่ต้องฝาก: ไม่ยืนยันว่า Capital Bear ให้หรือไม่ มิจฉาชีพบางรายเสนอ $50 แค่ลงทะเบียนให้ “ลองเทรด” แน่นอน คุณถอนไม่ได้จนกว่าจะฝากเงินตัวเองและทำเทิร์นโอเวอร์
  • รีโหลดโบนัส / โปรแกรม “ความภักดี”: โปรฯ เช่น “ฝากเพิ่ม $1,000 รับ +50 %” เป็นไปได้ สำหรับลูกค้าเดิมผู้จัดการอาจจัดโบนัสเฉพาะบุคคลเพื่อกระตุ้นฝากเพิ่ม
  • การแข่งขัน โปรโมชั่น: อาจมีโค้ดโปรโมชันให้โบนัสหรือเงื่อนไขดีกว่า การแข่งเทรดไม่ถูกบันทึกสาธารณะ แต่โบรกเกอร์คงใช้ทุกกลยุทธ์การตลาด

เบื้องหลังเงื่อนไขโบนัส: ไม่มีโบรกเกอร์ให้เงินเปล่า ต้องมีเทิร์นโอเวอร์—เทรดปริมาณเท่ากับ โบนัส × N ล็อต (N สูง: 30, 40, 50) ตัวอย่าง: รับโบนัส $1,000 ต้องเทรด 50 ล็อตมาตรฐาน หรือ $5 ล้าน USD แทบเป็นไปไม่ได้สำหรับรายย่อย จนแทบไม่มีใครทำได้ ก่อนครบเงื่อนไขโบรกเกอร์จะบล็อกการถอน—ไม่ใช่แค่โบนัส แต่รวมเงินฝากคุณ โดยอ้างกฎ

กฎทั่วไป: “หากลูกค้าพยายามถอนก่อนทำเงื่อนไขโบนัส จะยกเลิกโบนัสและกำไรที่ได้จากโบนัส” ฟังดู “ยุติธรรม” แต่จริง ๆ คือคุณถอนไม่ได้เลยเพราะกำไรถือว่าทำจากโบนัส คุณจึงต้องเทรดต่อ (และมักขาดทุน) หรือสละโบนัสพร้อมกำไร—แย่ทั้งคู่

มิจฉาชีพใช้โบนัสอย่างไร: พวกเขาเข้าใจจิตวิทยา มือใหม่เห็น 200 % คิดว่า “ว้าว ทุนโตสามเท่า!” จึงเทรดเสี่ยงขึ้น (รู้สึกเหมือนเงินมาก) และเสีย—โบรกเกอร์ได้ ถ้าบังเอิญชนะ พวกเขาบอกว่า “อย่าดีใจ—ยังถอนไม่ได้…” เขาจึงเล่นต่อหรือยอมรับเงื่อนไขใหม่และสุดท้ายเสียอยู่ดี ถ้ายังมีกำไรและขอถอน โบรกเกอร์ก็หาเหตุผล—“กิจกรรมต่ำ,” “กลยุทธ์ต้องห้าม” เพราะไม่มีหน่วยงานคุ้มครอง

เสียงสะท้อนเกี่ยวกับโบนัส Capital Bear: มีเคสจริงที่โบนัสทำให้บัญชีโดนบล็อก ดังที่กล่าว บางคนบ่นว่าโบนัสถูกเครดิตโดยไม่ยินยอม (หรือยินยอม) แล้วถูกปฏิเสธถอนยอดคงเหลือทั้งหมดเพราะ “ยังไม่ทำเงื่อนไข” หรืออ้างว่าผิดข้อกำหนด โบนัสคือจุดกดดัน: ขณะอยู่ในบัญชี โบรกเกอร์ “จับ” เงินคุณด้วย และการยกเลิกไม่ง่าย—กฎอาจระบุว่ายกเลิกโบนัสจะลบกำไรทั้งหมด

ตัวอย่าง: “ผมได้โบนัส 100 % ทำกำไรสองเท่า แต่เมื่อขอถอนกลับถูกปฏิเสธ—บอกว่าต้องเทรด 25 ล็อตก่อน เป็นไปไม่ได้กับยอดผม สรุปเงินติด” เรื่องทำนองนี้พบทั่วไปในโบรกเกอร์นอกออฟชอร์; Capital Bear ไม่ต่างกัน

เฝ้าระวัง: หากมีใครเสนอโบนัสเกิน 30–50 % มักเป็นกับดัก โบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตไม่แจกเปอร์เซ็นต์สูงฟรี—มันไม่คุ้มค่า ผู้ที่ไม่ตั้งใจจ่ายจริงเท่านั้นที่กล้าให้ 200 % ทั้งวัน Capital Bear ดูทำแบบนั้น—เอื้อเฟื้อด้วยเงินคนอื่น

บทสรุป: โบนัสของ Capital Bear คือเหยื่ออันตราย มันทำให้ยอดบัญชี “พอง” บนหน้าจอแล้วใช้เป็นเหตุผลบล็อกการถอน เงื่อนไขเทิร์นโอเวอร์ถูกออกแบบให้ทำไม่ได้หรือเสียเปรียบ คำแนะนำจากประสบการณ์เทรดเดอร์: อย่ารับโบนัสจากโบรกเกอร์น่าสงสัย ดีกว่ามีเสรีภาพถอนเต็มที่มากกว่าดูยอดบวมชั่วคราวแล้วกลายเป็นศูนย์ สำหรับ Capital Bear โบนัส 200 % คือสัญญาณชัดว่าบริษัทเล่นสกปรก (โบรกเกอร์ชื่อดังเลิกแจกโบนัสหลังเกิดเรื่องฉาว) อย่าให้โบนัสล่อจนคุณยกเงินจริงให้มิจฉาชีพ

Igor Lementov
Igor Lementov - ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ที่ Best-Binary.com


บทความที่อาจช่วยคุณได้
บทวิจารณ์และความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั้งหมด: 0
avatar